ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1504 บีบให้ตอบคำถาม
ตอนที่ 1504 บีบให้ตอบคำถาม
…………….
ฉู่หลิวเยว่ถอยหลังหลบไปในทันทีโดยไม่ต้องคิด
อย่างใดก็ตามเกล็ดนั้นก็ไล่ตามเหมือนเงา ทั้งยังขยับเข้ามาใกล้อย่างต่อเนื่อง!
ความเร็วของมันนั้นสูงมาก แทบจะมองไม่เห็นร่องรอยของมันเลย ได้ยินเพียงแค่เสียงแหวกอากาศที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง กลางอากาศมีรอยแยกสีดำของมิติที่ปรากฏขึ้น!
ซึ่งแสดงให้เห็นพลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก!
ฉู่หลิวเยว่ก้าวพลาดไปหนึ่งครั้ง ก่อนจะถอยหลังลงไปอีก!
ในขณะเดียวกันลำแสงสีทองภายในร่างกายของนางก็พวยพุ่งขึ้น เกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงโอบร่างของนางเอาไว้อย่างรวดเร็ว!
รูปร่างของนางโดดเด่น งดงาม และเพรียวบาง
แม้ว่าตอนนี้นางจะยังสวมชุดเสื้อผ้าของผู้ชาย แต่หลังจากที่ฐานะถูกเปิดเผยแล้ว นางก็ไม่ตั้งใจปกปิดรูปร่างของตนเองอีกต่อไป
ก่อนหน้านี้นางอาจจะมีความเยาว์วัยแฝงอยู่หลายส่วน
แต่ในตอนนี้เหมือนว่านางได้โตเต็มวัยแล้ว ทุกท่าทาง ทุกกริยาได้เขย่าหัวใจผู้คน นางทั้งสง่างามและน่าจับตามอง
พรึ่บ!
เกล็ดแผ่นนั้นบินตรงมาหานาง ฉู่หลิวเยว่เอนตัวไปด้านหลัง ตัวของนางอ่อนมากอย่างไม่น่าเชื่อ
ฟิ้ว!
เกล็ดแผ่นนั้นอยู่เหนือร่างกายของนางหนึ่งนิ้ว ก่อนจะผ่านไปอย่างหวุดหวิด!
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกได้ว่ามีลมปราณที่น่าหวาดกลัวพัดผ่านใบหน้าไปจนทำให้เกิดความเจ็บปวดจากรอยกรีด!
ในตอนที่นางยืดตัวกลับมา นางก็หันกลับไปมองแล้วยกมือขึ้น
เปลวเพลิงสีทองแซมชาดพวยพุ่งออกจากกลางฝ่ามือของนาง! เกิดเป็นกำแพงไฟล้อมรอบตัวของนางเอาไว้!
เปลวเพลิงลุกโชนร้อนแรง ทำให้อุณหภูมิรอบข้างสูงขึ้นในทันที!
เหมือนว่าแม้กระทั่งอากาศก็จะถูกเผาไหม้ไปด้วย!
ในขณะเดียวกันนั้น เสียงกรีดร้องสายหนึ่งก็ดังกังวานสั่นสะเทือนฟ้าดิน!
พรึ่บ!
ร่างที่ห่อหุ้มด้วยแสงสีทองและชาดขนาดใหญ่นั้นปรากฏขึ้นตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่!
มันคือถวนจื่อนั่นเอง!
เหมือนกับว่ามันจะมาจากห้วงเวลาที่แสนไกล จนเกือบจะทำให้มิติพังทลายลงมา!
การปรากฏตัวของถวนจื่อ ทำให้เกล็ดแผ่นนั้นหยุดเคลื่อนไหวได้ในที่สุด แต่มันก็ยังลอยอยู่กลางอากาศอย่างนิ่งเงียบ ไม่ยอมถอยหลังเลยแม้แต่ก้าวเดียว
เหมือนกับมันพยายามจะเผชิญหน้ากับถวนจื่อ
เมื่อเห็นฉากนี้เข้า ทุกคนที่อยู่ในสำนักก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
“นั่น นั่นมันหงส์ทองคำ…อสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาลในตำนานไม่ใช่หรือ?”
“คาดไม่ถึงว่าตำนานเหล่านั้นจะเป็นความจริง…ซั่งกวนเยว่ได้ทำพันธสัญญากับหงส์ทองคำแล้วจริงๆ ทั้งชีวิตนี้ของคนบางคนอาจจะไม่มีโอกาสได้เห็นหงส์ทองคำด้วยตาตนเองสักครั้ง แต่คาดไม่ถึงว่าซั่งกวนเยว่จะได้ทำพันธสัญญาด้วย…กระทั่งจะอิจฉาก็ยังไม่มีแรง…”
“เหมือนว่าหงส์ทองคำตัวนั้น ก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นกษายะหางวายุไม่ใช่หรือ? โชคชะตาเช่นนี้ ไม่มีใครสามารถทำได้
จริงๆ! หลิ่วอินถงก็มีกษายะหางวายุตัวหนึ่งไม่ใช่หรือ? แต่ก็ไม่สามารถเทียบกับซั่งกวนเยว่ผู้นี้ได้เลย”
“แล้วเกล็ดนั้นมันคืออันใดกันแน่? มันปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหันแล้วยังท่าทางดุร้ายอีกด้วย!”
…
ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์นี้ก็เริ่มกระซิบกระซาบกันขึ้นมา
แต่ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนและคนอื่นๆ ที่อยู่กลางท้องฟ้า ก็มีสีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ หลังจากผ่านไปสักพักก็ยังไม่ได้สติกลับคืนมา
เกล็ดนั้นปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน และมันไม่ใช่ของธรรมดาอย่างแน่นอน!
แล้วเมื่อครู่นี้ก็ยังสามารถทำลายม่านพลังของหรงซิวได้อย่างง่ายดาย!
“สีเกล็ดแบบนี้…หรือว่าจะเป็น…”
ทันใดนั้นผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนก็นึกอันใดบางอย่างขึ้นมาได้ เขาก็สูดลมหายใจเย็นๆ เข้าปอด!
ดวงตาของฉู่หลิวเยว่จ้องไปยังเกล็ดที่อยู่ตรงหน้าตาเขม็ง
หงส์ทองคำกับไท่ซวีเฟิ่งหลงของสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งสองเผ่านี้เป็นอริกันมาโดยตลอด อีกทั้งระหว่างพวกมันก็มีการต่อสู้ที่ดุเดือดเป็นอย่างมาก
แม้ว่าเผ่าอื่นๆ ต้องการจะเข้าร่วมการต่อสู้ก็ยังไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ
ดังนั้นหลังจากถวนจื่อปรากฏตัวขึ้นแล้ว ในที่สุดความเย่อหยิ่งของเกล็ดไท่ซวีเฟิ่งหลงก็สงบลงมาได้
มันค่อนข้างหวาดกลัวถวนจื่อ
แต่ทว่าถวนจื่อ…
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตามองเล็กน้อย
แม้ว่านางจะยืนอยู่ด้านหลังของถวนจื่อ และมองไม่เห็นสีหน้าของมันในตอนนี้ แต่จิตของนางและมันเชื่อมโยงอยู่ด้วยกัน ไม่ต้องพูดให้มากความนางก็สามารถเข้าใจอารมณ์ของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี
…นางแทบไม่เคยเห็นท่าทีระมัดระวังของถวนจื่อขนาดนี้เลย
มันมีนิสัยรักอิสระ หลังจากที่มันกลายเป็นหงส์ทองคำแล้ว มันก็รักอิสระมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
สายเลือดอันสูงส่งของมันแทบจะทำให้มันบดขยี้สัตว์อสูรตัวอื่นได้อย่างง่ายดาย ยกเว้นแต่ว่า… ไท่ซวีเฟิ่งหลง
“เยว่เออร์!”
เมื่อเห็นว่าสถานการณ์กำลังเข้าสู่ทางตัน ซั่งกวนจิ้งก็กลับมาแล้ว
เมื่อเขากวาดสายตามองก็เห็นว่าเกล็ดนั้นอยู่ตรงหน้าของฉู่หลิวเยว่แล้ว หัวใจของเขาก็ดำดิ่งลงไปในทันที!
ของชิ้นนี้อ่อนไหวเป็นอย่างมาก คาดไม่ถึงว่าจะสามารถหาโครงกระดูกมังกรพบ ซึ่งตอนนี้มันอยู่กับฉู่หลิวเยว่!
และเกรงว่าเรื่องในครั้งนี้จะอธิบายได้ยากแล้ว…
โฮก!
ตอนที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เสียงมังกรคำรามที่แสบแก้วหูจากเหนือศีรษะก็ดังขึ้นอย่างกะทันหัน!
ทุกคนล้วนตกใจเป็นอย่างมาก จึงรีบเงยหน้าขึ้นไปมอง
ในตำแหน่งที่ไม่ไกลกลางอากาศนั้น มีเงาร่างหลายสายลอยอยู่เหนืออากาศ
มันอยู่ด้านนอกม่านพลังของสำนัก พวกเขาไม่สามารถเข้ามาด้านในได้ แต่ทุกคนที่อยู่ในสำนักก็มองเห็นสถานการณ์นี้ได้อย่างชัดเจน!
“วันนี้ใครรับผิดชอบดูแลม่านพลัง? คาดไม่ถึงว่าจะปล่อยให้พวกเขาอยู่ด้านบน!”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนตำหนิด้วยความเกรี้ยวกราด
ด้านนอกสำนักหลิงเซียวมีม่านพลังขนาดใหญ่ปกคลุมอยู่
หากเป็นในสถานการณ์ปกติ ทุกคนจำเป็นจะต้องเข้าทางประตูใหญ่ด้านข้าง
และในตำแหน่งบนสุดของม่านพลังก็เป็นส่วนที่มีความอ่อนไหวอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้ใครก็ตามเข้าใกล้ได้ตามอำเภอใจ
พลังการป้องกันของที่แห่งนี้ เดิมทีแล้วจะเป็นจุดที่แข็งแกร่งที่สุด
แต่ว่าตอนนี้…
หัวใจของผู้อาวุโสฮวาเฟิงเต้นระส่ำอย่างกะทันหัน
“ปั๋วเหยี่ยน ข้าว่าไม่ใช่พวกเราที่ผิดพลาดต่อการปฏิบัติหน้าที่ แต่ทว่า…เป็นพวกเขาที่แข็งแกร่งมากเกินไป! ชายคนนั้นน่าจะเป็น…ไท่ซวีเฟิ่งหลง”
เดิมทีผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนก็ยังไม่รู้ แต่เมื่อเขากล่าวเตือน เขาจึงรีบจ้องมองไปที่อีกฝ่ายในทันที
เมื่อมองไปหัวใจของเขาก็ดำดิ่ง
เกล็ดสีม่วงทองแผ่นนั้น…เสียงมังกรคำราม…
ถ้าไม่ใช่ไท่ซวีเฟิ่งหลง…แล้วจะเป็นใครได้?
ถ้าเช่นนั้น…
เขารีบหันกลับไปมอง
เกล็ดแผ่นนั้นก็น่าจะเป็นของไท่ซวีเฟิ่งหลงใช่หรือไม่?
แต่พวกมันถึงพุ่งเป้ามาที่ซั่งกวนเยว่เล่า?
ในตอนนั้นเองผู้อาวุโสตันชิงก็เดินทางกลับมาแล้ว
ใบหน้าของเขาซีดขาว
“ปั๋วเหยี่ยน พวกเราไม่สามารถขวางเขาเอาไว้ได้! เผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงแข็งแกร่งมากจริงๆ! โดยเฉพาะท่านผู้นั้น เขาคือโหมวเหยาที่มีชื่อเสียงในปีนั้น!”
ความจริงแล้วชื่อนี้คนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก
ท้ายที่สุดแล้วมันก็เป็นเรื่องของหนึ่งพันปีก่อน ไม่ใช่เรื่องที่จะทำความเข้าใจได้ คนทั่วไปไม่ค่อยรู้เรื่องราวเหล่านี้มากนัก
แต่คำว่า “ไท่ซวีเฟิ่งหลง” พวกเขาล้วนเข้าใจเป็นอย่างดี!
ในตอนนั้นทุกคนที่อยู่ในจัตุรัสชิงหมิงล้วนตกใจจนเงียบเสียง
ไท่ซวีเฟิ่งหลง…
เป็นเวลานานมากแล้วไม่ใช่หรือที่เผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงไม่ได้มาปรากฏตัวบนโลกมนุษย์?
แต่เหตุใดวันนี้ถึงมาปรากฏตัวอย่างกะทันหันล่ะ?
อีกทั้งทันทีที่ปรากฏตัวออกมา ก็ยังมุ่งหน้ามาที่สำนักหลิงเซียวแห่งนี้!
เมื่อนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ ก็สามารถเดาได้ไม่ยาก ครั้งนี้ไท่ซวีเฟิ่งหลงมีเป้าหมาย และเป้าหมายนั้นคือซั่งกวนเยว่และซั่งกวนจิ้ง!
เมื่อครู่นี้ไม่ใช่ว่าเขาเพิ่งแก้ปัญหาตระกูลต่างๆ ที่อยู่ในเมืองฝางโจวหรอกหรือ ยังไม่ทันผ่านหนึ่งวันไปเลย เหตุใดถึงไปยั่วโมโหไท่ซวีเฟิ่งหลงได้!
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว แล้วขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม
เผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลง…ปรากฏตัวผิดเวลาอย่างมาก!
ร่างกายของเขาวูบไหว แล้วพุ่งตัวไปด้านหน้าโหมวเหยาและคนอื่นๆ ประสานมือคำนับด้วยความเกรงใจ
“ที่แท้ก็เป็นผู้อาวุโสโหมวเหยาที่เดินทางมาไกล ข้าเสียมารยาทมากที่ไม่ได้ทำการต้อนรับ หวังว่าท่านจะให้อภัย”
โหมวเหยามองเขาด้วยสายตาราบเรียบ จากนั้นก็หันไปมองทางฉู่หลิวเยว่
มุมปากของเขามีรอยยิ้มเย็นชาประดับขึ้น
“ของสิ่งนั้น อยู่กับเจ้าหรือ?”
…………….