ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1503 เปิดเผย
ตอนที่ 1503 เปิดเผย
…………….
เกล็ดนั้นลอยวนไปรอบๆ ร่างของซั่งกวนจิ้ง เหมือนกับกำลังตรวจสอบอันใดบางอย่าง
ซั่งกวนจิ้งสัมผัสได้ถึงพลังที่ละเอียดอ่อนพัดผ่านร่างกายของเขา แต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงราบเรียบเหมือนดั่งเช่นปกติ
เขาไพล่มือไปด้านหลัง เชิดคางขึ้นเล็กน้อย ท่าทางดูสงบและราบเรียบ
ตอนนี้โครงกระดูกนั้นไม่ได้อยู่ที่เขาจริงๆ ดังนั้นไม่สามารถตรวจสอบอันใดออกมาได้อย่างแน่นอน
โหมวเหยามองดูปฏิกิริยาของเกล็ดแผ่นนั้น แล้วค่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้น
หรือว่าจะ…ไม่มีจริงๆ?
เพราะว่าโครงกระดูกนั้น ทำให้ซั่งกวนจิ้งต้องแตกแยกกับพวกเขา
แล้วเขาจะปล่อยวางไปได้ง่ายๆ ได้อย่างใด?
ในที่สุดเกล็ดนั้นก็วนรอบซั่งกวนจิ้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังไม่พบอันใดเลย
ซั่งกวนจิ้งหัวเราะออกมาหนึ่งเสียง
“เป็นอย่างใดเล่า ตอนนี้เจ้าเชื่อข้าหรือยัง?”
โหมวเหยาขมวดคิ้วแน่นขึ้น ใบหน้าปกคลุมด้วยน้ำค้างแข็งบางๆ หนึ่งชั้น ความหนาวเย็นจับไปถึงกระดูก
“ใครจะรู้เล่าว่าเจ้าจะใช้กลวิธีการซ่อนมันก็ได้!”
ซั่งกวนจิ้งผู้นี้ปิดบังพวกเขาได้แม้กระทั่งความเป็นความตาย การที่จะซ่อนโครงกระดูกนั้นถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยอย่างมาก!
รอยยิ้มบนใบหน้าของซั่งกวนจิ้งจางหายไป
“ความจริงแล้วเรื่องในปีนั้น ข้าเป็นคนผิด และข้าก็ขอโทษพวกเจ้าอย่างจริงใจไปแล้ว มีแต่พวกเจ้าที่ไม่ยอมเลิกรา จะเอาชีวิตของข้าอย่างเดียว ข้าเองก็ถูกบีบบังคับไม่มีทางเลือก จึงทำได้เพียงแค่หนีเท่านั้น”
“ส่วนที่ข้าแกล้งตายเพื่อหลอกพวกเจ้านั้น… ข้าขอถามหน่อยว่า ใครไม่อยากจะมีชีวิตที่ดี? ข้าถามตนเองว่าความผิดของข้านั้นมันหนักหนาจนสมควรตายหรือไม่ แน่นอนว่าข้าไม่สามารถปล่อยให้พวกเจ้ารังแกข้าจนตายได้! ยิ่งไปกว่านั้นเวลาพันปีที่ผ่านมา ข้าหลับลึกมาโดยตลอด ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่ต่างจากการตายไปแล้ว! ต่อให้เป็นการอภัยโทษ ก็นับว่าเพียงพอแล้ว!”
“วันนี้เจ้าจะมาฆ่าข้าถึงที่นี่โดยไม่แยกแยะถูกผิด ข้าต้องอดทนยินยอมให้เจ้าค้นตัว! นี่ยังไม่สามารถแสดงความจริงใจของข้าให้เจ้าเห็นอีกหรือ? พวกเจ้าคิดจะทำอย่างใดอีก?”
ก่อนหน้านี้เขามีท่าทางดีมาก แต่ในตอนนี้กลับแข็งกร้าวขึ้นมาอย่างกะทันหัน เหมือนกับเปลี่ยนไปอีกคน
ภายในม่านพลังมีผู้อาวุโสยืนอยู่หลายคน เมื่อได้ยินดังนั้นพวกเขาก็รู้สึกตกใจแล้วหวาดกลัวอย่างยิ่ง
ตอนนี้เขาก็อยู่ด้านนอกของม่านพลัง ยืนอยู่ห่างจากโหมวเหยาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น!
ถ้าพวกเขาต้องการลงมือ ซั่งกวนจิ้งก็ไม่สามารถหลบหนีได้อย่างราบรื่น!
คำพูดเหล่านี้แหลมคมอย่างยิ่ง และรู้สึกเสียดหู ผู้อาวุโสหลายคนที่ได้ยินดังนั้นต่างมีเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมา
โหมวเหยาหน้าเปลี่ยนสีไปทันที ก่อนจะจ้องมองเขาสักครู่หนึ่ง
“เจ้าไม่รู้จริงๆ หรือ?”
ซั่งกวนจิ้งหัวเราะขึ้นมา
“พวกเจ้าอยากจะเชื่อก็เชื่อ สิ่งที่ข้าต้องการจะพูดข้าก็พูดไปหมดแล้ว”
หลังจากพูดจบแล้ว คาดไม่ถึงว่าเขาจะหมุนตัวเดินกลับเข้ามา
“เอ๋ เจ้า…”
คนหนุ่มที่ติดตามมาด้านหลังเมื่อเห็นดังนั้นก็รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย และในตอนที่เขากำลังจะพูด ก็ถูกโหมวเหยายกมือห้ามเอาไว้
เมื่ออยู่ในถิ่นของสำนักหลิงเซียวจำเป็นต้องไว้หน้าเขาสักหลายส่วน
หากจะให้ฆ่าคนโดยตรง เกรงว่าจะไม่เหมาะสม
ที่เขาพูดก่อนหน้านี้ เป็นเรื่องที่เขาตั้งใจ เพราะเขาต้องการหยั่งเชิงซั่งกวนจิ้ง
การจะฆ่าอีกฝ่ายนั้นจะทำเมื่อไรก็ได้ เรื่องเอาโครงกระดูกคืนมานั้นสำคัญกว่า
ถ้าโครงกระดูกนั้นไม่ได้อยู่กับเขา เป็นไปได้หรือไม่ว่าระหว่างนั้นอาจจะมีคนเอาไปโดยบังเอิญจริงๆ?
เขาขมวดคิ้วขึ้น การคาดเดาจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในสมอง
เมื่อคิดได้ดังนั้น เกล็ดนั้นก็ลอยกลับมาหาเขา
แต่อย่างใดก็ตามตอนที่เกล็ดนั้นกำลังจะตกลงที่กลางฝ่ามือ คาดไม่ถึงว่ามันจะเปลี่ยนทิศทางอย่างกะทันหัน แล้วบินไปทางสำนักหลิงเซียวอย่างทันที!
พรึ่บ!
เสียงดังแหวกอากาศ!
เกล็ดนั้นวาดเป็นเส้นตรงสีม่วงทองอยู่กลางอากาศ!
ซั่งกวนจิ้งเดินก้าวเข้ามาในม่านพลังแล้วหนึ่งก้าว
เมื่อได้ยินเสียงเคลื่อนไหวดังนี้ กล้ามเนื้อทั่วทั้งร่างก็ตึงเกร็งขึ้นมา!
เขาสามารถรับรู้ได้ถึงอันตรายที่ร้ายแรง!
เขาเดินเข้ามาด้านในอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องคิด!
“รีบปิดม่านพลังซะ!”
เขาตะโกนขึ้นเสียงดัง!
ผู้อาวุโสสองท่านที่ดูแลรับผิดชอบการเปิดปิดม่านพลังได้ยินดังนั้นก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก แล้วรีบลงมือในทันที!
แม้ว่าพวกเขาจะเร็วแล้ว แต่เกล็ดนั้นกลับเร็วยิ่งกว่า!
เพียงแค่ชั่วพริบเดียวมันก็พุ่งตัวเข้ามาด้านในแล้ว!
ซั่งกวนจิ้งรีบหันกลับไปมอง ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่าแสงสีม่วงทองพุ่งผ่านไปต่อหน้าต่อตา!
ในตอนนั้นเองของสิ่งนั้นก็เฉียดแก้มเขาเข้าไป แล้วบินตรงไปสักแห่งหนึ่งในสำนักหลิงเซียว!
ความเร็วที่น่าหวาดกลัว สีหน้าของซั่งกวนจิ้งหวาดหวั่นมากอย่างยิ่ง!
เขามองตามทิศทางของของสิ่งนั้น หัวใจก็เต้นระส่ำขึ้น!
คาดไม่ถึงว่ามันจะพุ่งตัวไปที่เขาหมื่นเมรัย!
“ผู้อาวุโสซั่งกวน นี่มัน…”
ผู้อาวุโสตันชิงหยุดชะงักไปเล็กน้อย
ขณะที่ซั่งกวนจิ้งพูด เงาร่างของเขาก็หายไปจากที่เดิมแล้ว! และไล่ตามเกล็ดนั้นไป!
ด้านนอกม่านพลัง ตอนนั้นเองโหมวเหยาก็มีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นแล้ว เขากัดฟันกรอด
“อยู่ด้านในจริงๆ ด้วย! ซั่งกวนจิ้ง… รอก่อนเถอะ!”
…
เขาหมื่นเมรัย
เมื่อเผชิญหน้ากับคำถามของผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยน มือที่อยู่ในแขนเสื้อของฉู่หลิวเยว่ก็กำแน่นขึ้นเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้เหล่าผู้อาวุโสไม่เคยสงสัยในตัวของนางมาก่อน และยังเคยเรียกนางมาที่เขาหมื่นเมรัยเพื่อสอบถามอย่างละเอียด
แต่นางก็ปฏิเสธมาโดยตลอด
เนื่องจากไม่มีหลักฐาน อีกทั้งมันยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่อันใด สุดท้ายเรื่องนี้ก็จบลงโดยไม่ได้ทำอันใดเลย
แต่ในครั้งนี้นั้นไม่เหมือนกัน
แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าในตาน้ำนั้นมีความลับอันใดซ่อนอยู่กันแน่ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ นางก็สามารถคาดเดาได้ ครั้งนี้มันคงไม่ง่ายดายอย่างแน่นอน
“แม้ว่ากษายะหางวายุจะเป็นสายเลือดของหงส์ทองคำ หากต้องการจะทะลวงด่านเลื่อนขั้น ความเป็นไปได้มีเพียงหนึ่งหมื่น แต่สำหรับสัตว์อสูรพันธสัญญาของเจ้า หลังจากที่เจ้าเข้ามาในสำนักเพียงไม่กี่เดือน ก็สามารถกลายร่างได้อย่างสมบูรณ์ ข้างในนี้… มันอาจจะใช้พลังทัณฑ์สวรรค์ภายในตาน้ำแห่งนี้หรือไม่?”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนถามอย่างตรงไปตรงมา
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นสะท้าน
“ข้า…”
พรึ่บ!
ในตอนที่นางกำลังจะพูดขึ้น ด้านหลังของนางก็มีพายุเย็นๆ พัดผ่าน!
อันตราย!
ในใจของนางรู้สึกสั่นสะท้าน และรีบหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว!
ในตอนนั้นเองหรงซิวก็ลงมือแล้ว!
ม่านพลังสีทองสายหนึ่งปรากฏขึ้นรอบกายของฉู่หลิวเยว่อย่างรวดเร็ว!
แต่อย่างใดก็ตามในเวลาต่อมาบนม่านพลังนั้นก็มีรอยร้าวเกิดขึ้น!
ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมองด้วยความตกใจ ก่อนจะมองไปยังเกล็ดสีม่วงทองโปร่งแสง มันแหลมคมอย่างมากจนสามารถแทงทะลุม่านพลังของหรงซิวได้!
แผ่นนั้นมีขนาดเท่ากับครึ่งฝ่ามือผู้ใหญ่ รอบข้างบางและแหลมคมอย่างมาก!
ด้านบนมีลมปราณแผ่กระจายออกมาอย่างปั่นป่วน!
ลมปราณนั้นฉู่หลิวเยว่คุ้นเคยเป็นอย่างมาก
เกล็ดของไท่ซวีเฟิ่งหลง!
แกร๊ก!
ม่านพลังแตกออก!
เกล็ดแผ่นนั้นพุ่งตรงเข้ามาในตันเถียนของฉู่หลิวเยว่!
…………….