ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 1246 ความช่วยเหลือ
ตอนที่ 1246 ความช่วยเหลือ
ซั่งอวี้เซินนึกว่าตัวเองหูฝาดไป
“เจ้าว่าอย่างใดนะ?”
เขากัดฟันพูดออกมาทีละคำ
ทุกคำพูดที่หลุดลอดออกมาจากไรฟันนั้นเต็มไปด้วยความอดทนอดกลั้น ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอย่างไม่สบอารมณ์
ฉู่หลิวเยว่หดคองอตัวลงทันตา
บัดซบจริงเชียว ขโมยของคนอื่นเช่นนี้ช่างน่าอดสูนัก!
แต่เรื่องนี้นางเองก็ทำอันใดไม่ได้จริงๆ!
ใครจะรู้ว่าเขากำลังหลอมอาวุธอยู่ที่นี่กัน?
นอกจากนี้ หลังจากเข้ามาด้านใน ตัวนางเองยังไม่ทันได้ทำอันใดเลยด้วยซ้ำ เป็นกระบี่ชื่อเซียวนั่นต่างหากที่บินออกไปเอง จะโทษนางคนเดียวได้อย่างใด!
แต่นางก็ไม่กล้ายื่นอุทธรณ์ให้ตัวเอง
เพราะดูท่าแล้วถึงจะแก้ตัวอย่างใดก็ไม่มีประโยชน์
นางก้มศีรษะลงเล็กน้อย
“ศิษย์ยอมรับผิดขอรับ”
คำสารภาพอย่างจริงใจนี้ ทำให้ไฟโทสะในใจของซั่งอวี้เซินมิอาจปะทุออกมาได้แล้ว
“เหอะ! เจ้ามันรู้หลบเป็นหลีก! แถมยังกล้า… “ขอยืม” ทัณฑ์สวรรค์ของข้าอีก!”
ซั่งอวี้เซินสะบัดแขนเสื้อ พลันหันไปมองยอดเขา
ก่อนจะมองเห็นร่างเงาของกระบี่เล่มยาว ที่ลอยอยู่ท่ามกลางเหล่าวิถีแห่งสวรรค์ที่กำลังห้ำหั่นลงมาอย่างต่อเนื่อง
“นั่นคือกระบี่ชื่อเซียวหรือ?”
เขาหรี่ตาลงแล้วถามนาง
ฉู่หลิวเยว่แอบตกใจที่เขารู้จักมัน แต่พอคิดทบทวนดูแล้ว ในเมื่อเขาเป็นผู้อาวุโสของสำนัก ย่อมไม่แปลกที่เขาจะรู้เรื่องของมัน
อย่างใดเสียกระบี่เล่มนี้ก็เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้อาวุโสของสำนักรุ่นก่อนหล่อหลอมขึ้นมา และบันทึกเล่มนั้นก็ถูกทางสำนักวิชาเก็บรักษาอย่างดีมาโดยตลอด
“ขอรับ”
“โชคดีของเจ้าแล้วไอ้หนู”
ซั่งอวี้เซินสบถเสียงต่ำ
เขาเฝ้าตามหามันมานานหลายปี แต่สุดท้ายก็ไม่เคยเจอเลยสักครั้ง
แต่ใครจะคิดว่าแค่เขาล้มเลิกแผนการตามหาไปได้ประเดี๋ยวเดียว กลับต้องพลาดท่าให้คนอื่นเช่นนี้!
และที่สำคัญก็คือ กระบี่เล่มนี้ยังเลือกนายของมันแล้วด้วย!
การทำให้อาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อยอมรับนั้น…ไม่ง่ายอย่างที่คิด และเขาเองก็ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ใช้วิธีการใดถึงได้มันมาครอบครอง
ฉู่หลิวเยว่ก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม
“แต่ศิษย์มีความผิด”
นางแอบสัมผัสได้ว่าทัศนคติที่มีต่อกระบี่ชื่อเซียวของผู้อาวุโสท่านนี้ ดูแตกต่างไปจากผู้อาวุโสท่านอื่นเล็กน้อย
ทั้งผู้อาวุโสปั๋วเยี่ยน หรือแม้แต่คณะของผู้อาวุโสชูเฟิงที่พากันไปชิงกระบี่ชื่อเซียวกลับมาด้วยตัวเองในครานั้น ก็ยังเหมือนจะไม่ค่อยรู้เรื่องของกระบี่ชื่อเซียวมากนัก
“นั่นมันกำลังหลอมวิญญาณใช่หรือไม่?”
ประโยคที่ซั่งอวี้เซินกล่าวออกมานั้น ทำเอาฉู่หลิวเยว่ตกใจจนพูดไม่ออกไปแวบหนึ่ง
แต่ครั้นไตร่ตรองดูดีๆ อีกฝ่ายก็เป็นถึงช่างหลอมอาวุธ และดูๆ แล้วจะเป็นช่างหลอมอาวุธระดับสูงด้วย ไม่แปลกที่เขาจะมองออกในทันทีเช่นนั้น
“ผู้อาวุโสเก่งกาจและปราดเปรื่อง ศิษย์ขอคารวะขอรับ”
“ฮึ่ม เจ้าไม่ต้องมาประจบประแจงข้า! พูดตามตรง ข้ารู้จักกระบี่ชื่อเซียวมากกว่าเจ้าเสียอีก!”
แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีวาสนาได้ครอบครอง!
แต่ในเมื่ออาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อนี้ได้เลือกนายคนใหม่แล้ว เช่นนั้นก็พิสูจน์ได้แล้วว่า ในกระบี่ไม่มีจิตวิญญาณของกระบี่สิงสถิตอยู่แล้ว
เมื่อนึกถึงข้อมูลต่างๆ ที่ปั๋วเยี่ยนเคยพูดกับเขาก่อนหน้านี้ เขาก็เริ่มเดาสถานการณ์ได้บางส่วน
จิตวิญญาณของกระบี่ย้ายไปอยู่ในอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อที่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ และถูกบังคับให้จดจำผู้เป็นนายของมัน…
เป็นสถานการณ์ที่ยากจะเกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้นแล้วจริง!
สิ่งนี้ย่อมทำให้ผู้คนอิจฉาตาร้อนกันถ้วนหน้า
“แล้วเจ้าจะยืนอยู่ตรงนี้ไปถึงเมื่อไร ยังไม่ขึ้นมาอีก?”
ซั่งอวี้เซินมองฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตาค่อนแคะ
“อย่าบอกนะว่าเรื่องแค่นี้ก็ทำไม่ได้?”
ฉู่หลิวเยว่ผงะไปชั่วครู่ ก่อนจะคิดได้ว่าเขากำลังกระตุ้นนาง…
นี้เขา…
ก่อนหน้านี้เขายังโกรธจนอยากลงโทษนางอยู่เลย ทว่ายามนี้จู่ๆ เขากลับสนับสนุนนางเสียอย่างนั้น?
“…ท่านผู้อาวุโส นี่ท่าน…ไม่โกรธแล้วหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ถามอย่างลังเล
“มารดาเจ้าเอ้ย ไยจักถามมากมายเพียงนี้! ต่อให้ข้าเอ็ดเจ้า เจ้าก็ชิงทัณฑ์สวรรค์ของข้าไปแล้วมิใช่หรือ!?”
ซั่งอวี้เซินอยากจะหยุมหัวอีกฝ่ายสักที
เด็กนี่ดูเป็นคนฉลาดหลักแหลม แต่ในยามวิกฤติเช่นนี้ ไยถึงโง่เขลายิ่งนัก?
อาวุธโบราณที่เขาต้องการหล่อหลอมนั้น ได้รับความเสียหายเกินกว่าจะซ่อมแซมได้ และน่าเสียดายที่มันใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้ว
ยามนี้เป็นกระบี่ชื่อเซียวสำคัญกว่าเป็นไหนไหน!
“หากเกิดปัญหาขึ้นระหว่างหลอมวิญญาณศาสตรา ทุกอย่างที่ทำมาอาจล้มเหลว! มัวแต่เอ้อระเหยเช่นนี้ เจ้าอยากเห็นสมบัติล้ำค่าของตัวเองถูกทำลายต่อหน้าต่อตาหรือไร?”
ในที่สุดซั่งอวี้เซินก็ทนไม่ไหวอีก เขาคว้าไหล่ของฉู่หลิวเยว่ไว้แล้วออกแรงผลัก
“รีบไปจัดการมันให้ข้าได้แล้ว!”
ฉู่หลิวเยว่ไม่ลังเลอีกต่อไป
“ขอบคุณขอรับ ท่านผู้อาวุโส!”
หลังจากพูดจบ นางก็จรดปลายเท้าพลันกระโจนขึ้นไปบนยอดเขาอย่างรวดเร็ว!
ซั่งอวี้เซินเงยหน้าขึ้นมอง
ทัณฑ์สวรรค์บนท้องฟ้าลดจำนวนลงแล้ว
ก่อนหน้านั้นเขาเรียกพวกมันออกมาเพื่อหลอมอาวุธ แต่เพราะถูกขัดจังหวะ ทัณฑ์สวรรค์กลุ่มนี้จึงมิได้ปรากฏออกมา
และกลุ่มที่เขาเรียกออกมาเมื่อครู่ก่อนก็ถูกใช้ไปแล้ว ตอนนี้เหลือทัณฑ์สววรค์เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น
แต่จนถึงตอนนี้ กระบี่ชื่อเซียวก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด
บ่งบอกว่าหนทางในการหลอมวิญญาณศาสตรานั้น ยังอีกยาวไกลนัก
ซั่งอวี้เซินมองดูภาพตรงหน้าสักพัก ก่อนจะแค่นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
“สุดท้ายก็ต้องให้ข้าออกโรง! วุ่นวายจริงๆ!”
เขาตวาดพลางกระทืบพื้นดินใต้ฝ่าเท้า แล้วพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า!
…
ฉู่หลิวเยว่เหาะเหินขึ้นไปบนยอดเขาซึ่งมีกระบี่ชื่อเซียวลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ
ลายเส้นสีทองปรากฏขึ้นบนคมฝักเกือบสองในสาม
ทว่าลมปราณที่หมุนวนอยู่รอบตัวกระบี่นั้น กลับผสมปนเปกันอย่างยุ่งเหยิงและวุ่นวาย
“นังหนู จับกระบี่ด้ามนี้ไว้ให้มั่น! หากคุมมันไม่ได้ เช่นนั้นเจ้าจะไม่สามารถควบคุมจิตวิญญาณของกระบี่ได้อีกต่อไป และจะทำให้กระบวนการทั้งหมดล้มเหลว!”
แม้เสียงขององค์ไท่จู่จะฟังดูอ่อนแรง แต่กลับเต็มไปด้วยความแน่วแน่
ถึงมันจะไม่ใช่การหลอมอาวุธขึ้นมาใหม่ แต่การหลอมวิญญาณของอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อนั้น ถือเป็นเรื่องยากมาก
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
“รับทราบ”
นางกลั้นหายใจและก้าวไปข้างหน้า ผ่านแสงพร่างพราวของทัณฑ์สวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วน และคว้ากระบี่ชื่อเซียวไว้อีกครั้ง!
พลันถ่ายเทพลังปราณของนางลงในกระบี่อย่างไม่หยุดยั้ง!
เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นทันที
ไม่นาน ลมปราณอันรุนแรงรอบๆ ตัวกระบี่ชื่อเซียว ก็กลับมาสงบดังเดิม
ความรู้สึกเชื่อมโยงที่คุ้นเคยและลึกซึ้งนั้นค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้น!
ทันใดนั้น ถวนจื่อก็วิ่งออกมาจากร่างของนาง แล้วกระโจนลงไปในตาน้ำเบื้องล่าง!
จ๋อม!
ฉู่หลิวเยว่ก้มหน้ามองแวบหนึ่ง
ระลอกคลื่นปรากฏบนผิวน้ำอันสงบนิ่ง แต่ก็ยังสามารถมองเห็นทัณฑ์สวรรค์จำนวนมากที่รวมตัวกัน และแหวกว่ายอยู่ในนั้นได้ชัดเจน
…
เปรี้ยง!
เสียงกัมปนาทดังขึ้นอีกครา!
ฉู่หลิวเยว่ตกใจพลันรีบเงยหน้าขึ้นมอง!
ก่อนจะเห็นว่าทัณฑ์สวรรค์ที่แต่เดิมเหลือน้อยลง พลันปรากฏออกมาอีกเป็นโขยง!
เกิดลมพายุหมุนวนและเสียงกัมปนาทไปทั่วทุกพื้นที่
พร้อมกับร่างเงาของใครบางคนยืนอยู่บนอากาศ เขาคือซั่งอวี้เซิน!
ชายชุดคลุมตัวยาวพริ้วไหวไปตามแรงลม เขาโบกสะบัดแขนเสื้อ ลมปราณรอบตัวเขาพลันพุ่งพล่านอย่างดุเดือด พร้อมแรงกดดันอันทรงพลังที่แผ่กระจายออกมา!
เมื่อเขาทำเช่นนั้น วิถีแห่งสวรรค์ก็เริ่มปรากฏออกมามากขึ้นเรื่อยๆ!
ฉู่หลิวเยว่ทราบในทันทีว่าเขากำลังช่วยเรียกทัณฑ์สวรรค์ให้นาง!
ฉู่หลิวเยว่ซาบซึ้งใจอย่างมาก
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสขอรับ!”
ซั่งอวี้เซินมิได้หันไปมอง แต่ตะโกนเสียงกลับไปว่า
“ขอบคุณอันใด! ตั้งใจหลอมกระบี่ให้ข้าเสีย! หากเจ้าล้มเหลว ก็รอรับบทลงโทษจากข้าได้เลย!”
เขาอุตส่าห์ลงแรงช่วยเหลือขนาดนี้แล้ว จะไม่ยอมปล่อยให้มันล้มเหลวเด็ดขาด!
ฉู่หลิวเยว่อดยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ หากมิได้โต้ตอบแต่อย่างใด นางดึงสายตากลับมา แล้วมุ่งความสนใจไปที่กระบี่ชื่อเซียว!
และในที่สุด ก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบนฝัก!
ฉู่หลิวเยว่ใจเต้นรัว พลันกระชับด้ามกระบี่ในมือไว้แน่น!