ยอดสตรีฉางอิ๋ง ภาคที่ 2-3 - ตอนที่ 150-2 เรื่องราวค่อยๆ กระจ่าง (3)
เว่ยฉางอิ๋งฟังแล้ว ผ่านไปครึ่งค่อนชั่วยามก็ยังพูดสิ่งใดไม่ออก อีกนานจึงว่า “ก่อนนี้เคยเห็นท่านย่ากลั่นแกล้งกดขี่ท่านอารองต่างๆ นานา แม้ข้าจะรู้ว่าท่านยาทำเพื่อพวกเราบ้านใหญ่ แต่บางคราก็รู้สึกอยู่ลึกๆ ในใจว่าบ้านท่านอารองก็ออกจะน่าสงสาร วันนี้เพิ่งจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วข้าไร้เดียงสาเกินไปจริง!”
นางหวงยิ้มอ่อนๆ พลางว่า “แม้ฮูหยินผู้เฒ่าจะดีต่อเลือดเนื้อแท้ๆ ของตนมากกว่าบุตรธิดาจากอนุมากนัก ทว่าหากเป็นคนที่สงบเสงี่ยมเรียบร้อยแล้ว อย่างเช่นนายท่านสาม หรือนายท่านสี่ที่ยกให้คนไปเป็นบุตรบุญธรรม และยังมีฮูหยินสาม ฮูหยินสี่ ฮูหยินผู้เฒ่าก็ไม่ได้จงใจทำไม่ดีด้วยแต่อย่างใด หากแต่ทำตามธรรมเนียมปฏิบัติทั้งหมดเท่านั้น อย่างไรก็ดีด้วยสายตาและฐานะของฮูหยินผู้เฒ่าแล้ว หาใช่เรื่องที่บรรดาคนรุ่นหลังจะไปกะเกณฑ์เอง ฮูหยินผู้เฒ่าคอยดูแลเป็นห่วงเนื้อเชื้อไขแท้ๆ ของตนก็ยังไม่ทันแล้ว แล้วจะมีแก่ใจใดไปคอยกลั่นแกล้งผู้อื่นเล่าเจ้าคะ?”
“ท่านอาหญิงทั้งสามท่านของฮูหยินน้อย มีเพียงท่านอาหญิงรองที่เป็นบุตรสาวแท้ๆ ของฮูหยินผู้เฒ่า ทว่านายหญิงใหญ่และนายหญิงสามเป็นคนอ่อนโยนนอบน้อม ครั้งนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าก็อบรมเลี้ยงดูพวกนางจนมิใช่ว่าทั่วทั้งเมืองหลวงต่างพากันยกย่องว่าเป็นกุลสตรีดีงามเพียบพร้อม พอถึงวัยอันควรก็มิใช่ว่ามีคนพากันมาขอจนธรณีประตูแทบหักเล่าเจ้าคะ? การที่นายหญิงใหญ่สำนึกในบุญคุณของฮูหยินผู้เฒ่ามาก็ตราบเท่าทุกวันนี้ก็มิใช่ว่าไม่มีสาเหตุนะเจ้าคะ …อย่ามองแต่ว่าครานี้นายหญิงใหญ่ถูกคนในตระกูลบีบบังคับ เพราะนั่นล้วนเป็นเพราะนางไม่มีบุตรชาย ซึ่งเรื่องนี้ผู้ใดจะสามารถควบคุมได้เล่า? นายท่านเขยของนายหญิงใหญ่ก็เป็นฮูหยินผู้เฒ่าเลือกสรรมาจากบุตรหลานตระกูลต่างๆ ตั้งมากมาย ประหนึ่งเลือกเม็ดทรายจากเกลียวคลื่นเชียว ท่านดูสิเจ้าคะ แม้นายหญิงใหญ่จะมีบุตรสาวเพียงสองคน แต่ตลอดหลายปีมานี้ก็มิใช่ยังอยู่กับสามีอย่างปรองดองเป็นสุข เมื่อเทียบกับคุณหนูใหญ่เว่ยฉางหว่านแล้วก็ไม่รู้ว่าดีกว่าตั้งเท่าใด! หากมิใช่เพราะสายตาของฮูหยินผู้เฒ่า แล้วนายหญิงใหญ่จะมีวันคืนที่ดีเช่นยามนี้ที่ใดเจ้าคะ?”
เมื่อสนทนากันถึงตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว นายบ่าวจึงหยุดพูดคุยแล้วเรียกคนเข้ามาดูแลอาบน้ำแปรงผม เตรียมตัวเข้านอน
เรื่องเหล่านี้ล้วนมีพวกสาวใช้เป็นคนทำ นางหวงจึงขอลากลับไปที่ห้องของตน
ทว่านางเพิ่งจะถอดเสื้อตัวนอกออก ฉินเกอที่เป็นคนมาดูแลเว่ยฉางอิ๋งในคืนนี้ก็วิ่งมาอย่างลนลาน แล้วตบประตูดังปังๆ “ท่านอา ท่านอาท่านรีบออกมาเจ้าคะ! ฮูหยินน้อยไม่ดีแล้วเจ้าค่ะ!”
นางหวงตื่นตะลึง ไม่ทันมาคลุมเสื้อตัวนอก รีบสวมเสื้อตัวในออกไปเปิดประตู ร้องเสียงเครียดว่า “เกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่? ห้ามลุกลี้ลุกลนเช่นนี้!” เพราะเป็นกลางดึกทุกคนล้วนสงบเงียบ ห้องข้างเคียงล้วนถูกเสียงตบประตูและเสียงของฉินเกอทำให้ตกใจตื่นกันหมด พากันเปิดประตูหน้าต่างออกมาดู
นางเฮ่อยิ่งสวมเพียงเสื้อตัวในปิดอกแล้วเอาเสื้อตัวนอกรีบร้อนคลุมตัว โผล่หัวออกมาถามว่า “ฮูหยินน้อยเป็นอันใด? เป็นอันใด?”
ฉินเกอพยายามตั้งสติ กล่าวว่า “เมื่อครู่นี้ ฮูหยินน้อยบอกว่ารู้สึกกระหาย อยากทานวุ้นผลไม้ ข้าน้อยจึงให้จูหลานไปหยิบมาจากหีบน้ำแข็งหนึ่งชาม ปรากฏว่า ฮูหยินน้อยทานไปไม่ทันสองคำก็ร้องออกมาว่าปวดท้องเจ้าค่ะ!”
“คงมิใช่ลำไล้อักเสบหรอกนะ?” นางเฮ่อโพล่งออกไป พลันถูกนางหวงถลึงตาแรงใส่หนึ่งหน และตำหนิฉินเกอว่า “แม้ระยะนี้อาการยังร้อนอยู่ แต่ตอนกลางคืนก็อย่าให้ต้องความเย็นมากนัก ทั้งในห้องนอนของฮูหยินน้อยก็ยังวางน้ำแข็งเอาไว้ แล้วกลางดึกกลางดื่นจะยังกินวุ้นผลไม้อีก? ฮูหยินน้อยห่วงกิน แล้วพวกเจ้าไม่รู้จักเตือนสักหน่อยรึ? หากเตือนไม่ฟังก็ไม่รู้จักมาเรียกพวกเราหรือไร?!”
แล้วต่อว่านางเฮ่อว่า “คงเพราะทานของเย็นเกินไปจึงได้ปวดท้อง เพียงแค่นวดคลึงสักหน่อยก็คงจะหายแล้วกระมัง? เจ้าพูดจาส่งเดชอันใด!”
ลำไส้อักเสบเป็นโรคที่ร้ายแรงถึงชีวิตในยุคสมัยนี้ …แม้นางหวงจะมีวิชาแพทย์ไม่เลว และเบื้องหลังนางก็ยังมีจี้ชวี่ปิ้งที่สามารถช่วยเหลือได้ ทว่าเรื่องในโลกยากหยั่งถึง ต่อให้เป็นหมอที่ล้ำเลิศเพียงใดก็ไม่ใช่เทวดา อย่างเช่นเว่ยเจิ้งหง จี้ชวี่ปิ้งก็มิใช่ว่าไม่อาจรักษาจนหายขาดได้หรอกหรือ? ฉะนั้นไม่ให้เว่ยฉางอิ๋งล้มป่วยด้วยโรคร้ายแรงได้เป็นดีที่สุด
นางเฮ่อดาดเดาว่าเป็นลำไส้อักเสบด้วยความร้อนใจ ภายหลังก็สำนึกเสียใจนัก ด้วยรู้สึกว่าพูดเป็นลางเช่นนี้ไม่ดีเอาเสียเลย เมื่อถูกนางหวงตำหนินางก็ไม่ได้โกรธเคือง แต่กลับเป็นกังวลและกล่าวว่า “เช่นนั้นพี่ก็รีบไปดูเถิด?”
ท่านอาทั้งสองรีบรอนสวมเสื้อผ้า และเร่งไปตรงหน้าตั่งนอนของเว่ยฉางอิ๋ง กลับเห็นว่าเว่ยฉางอิ๋งที่ก่อนหน้านี้ยังปกติดี เวลานี้กลับใบหน้าซีดเผือด เหงื่อท่วมเหมือนฝนตก คนนั่งพิงอยู่กับหมอนอิง แม้จะขบริมฝีปากเอาไว้ก็ยังกลั้นเสียงร้องครางออกมาไม่ได้ เมื่อเห็นนางหวงและนางเฮ่อเข้ามา เว่ยฉางอิ๋งก็มองไปทางพวกนางอย่างโรยแรงหนหนึ่ง เวลาเพียงสั้นๆ นี้แต่กลับเจ็บปวดเสียจนแม้แต่เรี่ยวแรงจะพูดก็ยังไม่มีเลย พวกฉินเกอสาวใช้สองสามคนที่อยู่ข้างๆ พากันทำอะไรไม่ถูก ล้วนมีสีหน้าลนลานไปหมด
เมื่อนางเฮ่อเห็นดังนั้นก็ควบคุมสติไม่อยู่ ถามนางหวงในทันใดว่า “นี่มันเรื่องใดกัน? เรื่องใดกัน?”
ลำพังแค่ดูสีหน้าและอาการของเว่ยฉางอิ๋งในเวลานี้ก็เหมือนกับอาการของลำไส้อักเสบจริงๆ นางหวงเป็นกังวลขึ้นมา เกรงว่าจะถูกนางเฮ่อพูดถูกเข้าจริงๆ นางไม่ทันมาห่วงนางเฮ่อ กลับไปเรียกฉินเกอ “เจ้าไปเปลี่ยนเสื้อออกไปข้างนอก” ทุกคนล้วนฟังออกในทันทีว่าเมื่อมีเรื่องผิดปกติขึ้นก็ต้องหาไปจี้ชวี่ปิ้ง จึงยิ่งรู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่ที่ท่าจะไม่ดีแล้ว
นางหวงตั้งสติ สั่งให้พวกของนางเฮ่อหลีกทาง แล้วเข้าไปอยู่ข้างตั่งนอน ดึงมือของเว่ยฉางอิ๋งออกมาตรวจชีพจร ทุกคนพากันจับจ้องไปที่สีหน้าของนางไม่วางตา แล้วเห็นว่าระหว่างที่นางหวงกำลังสงบนิ่งอยู่นั้น จู่ๆ ก็ตกตะลึงขึ้นมา!
นางเฮ่อรู้สึกแต่ว่าขวัญกระเจิงไปบนฟ้าแล้ว อยากจะถามแต่ก็ถามไม่ออก …แล้วเห็นว่าจู่ๆ สีหน้าของนางหวงก็เคร่งเครียดขึ้นมา! และยังคงอยู่เช่นนั้นเนิ่นนานจึงค่อยคลายมือออก จากนั้นนางหวงก็สั่งเจวี๋ยเกอว่า “ไปเทน้ำร้อนมาถ้วยหนึ่ง จำไว้ว่าต้องร้อนสักหน่อยนะ” แล้วสั่งคนต่อว่า “เอาขวดน้ำร้อนออกมาให้ฮูหยินน้อยประคบ!”
“พี่หวง ฮูหยินน้อยเป็นอันใดกันแน่นี่?” นางเฮ่อออกจะลนลานแล้ว หากเว่ยฉางอิ๋งไม่เป็นอะไรมาก แล้วเหตุใดสีหน้าของนางหวงต้องไม่น่าดูเพียงนี้ แต่หากไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แล้วเหตุใดไม่ให้ฉินเกอไปเชิญจี้ชวี่ปิ้งมาเล่า?
ทุกคนพากันมองไปที่นางหวง …นางหวงผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ ค่อยๆ พูดออกมาทีละคำว่า “ฮูหยินน้อย… ตั้งครรภ์แล้ว!”
“หา?!” ทุกคนตกตะลึง จากนั้นก็ตื่นเต้นยินดีขึ้นมา กล่าวว่า “ท่านอาพูดจริงหรือนี่?”
หลังจากนางเฮ่อยินดีไปแล้วกลับมีสีหน้าเปลี่ยนไป เอ่ยอย่างหวั่นใจว่า “แล้วเวลานี้ฮูหยินน้อย?” แม้นางจะไม่เข้าใจเรื่องการแพทย์ ทว่าตนเองก็เคยตั้งครรภ์มาก่อน เมื่อตั้งครรภ์แต่กลับปวดท้องจนเป็นเช่นนี้ …ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่ารอบเดือนในสองเดือนนี้ของเว่ยฉางอิ๋งจะไม่ปกติ ทว่าก็ยังมาอยู่ เมื่อคิดดูแล้วอาการเช่นนี้ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องดี! อย่าได้กลายเป็นว่าเพิ่งจะมีข่าวดีแล้วกลับกลายเป็นว่า…
ปรากฏว่านางหวงมีสีหน้าเคร่งเครียด เอ่ยเสียงสั่นน้อยๆ ว่า “เหน็ดเหนื่อยต่อเนื่องกันมานานเกินไป เมื่อครู่ยิ่งทานของเย็นอีก เวลานี้อาการไม่ดีอย่างยิ่ง …แต่หวังว่าสวรรค์จะคุ้มครอง!”
นางเฮ่อทรุดนั่งลงในทันใด!
___________________________