ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 997 พักฟื้น
ตอนที่ 997 พักฟื้น
……………………………………………………………………..
ดั่งคำกล่าวที่ว่ามังกรที่แข็งแกร่งก็ยังแพ้ให้กับงูเจ้าถิ่น ซึ่งไม่ว่าองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าในปัจจุบันจะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ก็เป็นแค่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่สามารถเผชิญหน้ากับประเทศทั้งประเทศได้ หากประเทศสหรัฐอเมริกาจะกวาดล้างเขี้ยวหมาป่าล่ะก็ไม่ต้องพูดถึงเลยเพราะในฐานะประเทศมหาอำนาจแล้วเขี้ยวหมาป่าจะมีที่หลบซ่อนได้อย่างไร?
CIA ของประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นองค์กรที่สำคัญอย่างมากของประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้นหากมีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา พวกเขาจะไม่ยอมเพิกเฉยไปอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจะไม่อ่อนแอในทวีปตะวันออกกลางก็ตามแต่ประเทศสหรัฐอเมริกาก็สามารถรวมประเทศสหภาพสัมพันธมิตรเพื่อโจมตีทวีปตะวันออกกลางได้ ในกรณีของสงครามแบบนี้ประเทศในทวีปตะวันออกกลางจะสามารถปกป้ององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าได้จริงหรือ? มันเป็นไปไม่ได้แน่นอน
ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะกล้าหาญและมั่นใจในตัวเองแค่ไหนก็ตามแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะบ้าบิ่นเข้าไปเหยียบประเทศสหรัฐอเมริกาโดยไม่มีรากฐานก่อนเพราะถ้าหากก้าวเข้าไปง่ายๆ เขาอาจจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นพวกมาเฟียในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ไม่ธรรมดาและพวกนั้นอยู่รวมกันเป็นหมู่ เมื่อรู้สึกว่าพื้นที่ของตนถูกคุกคามพวกเขาก็จะรวมใจกันจัดการกับเขี้ยวหมาป่าและนั่นจะทำให้เขี้ยวหมาป่าไม่สามารถตอบโต้ได้เลย ซึ่งสิ่งต่างๆ ต้องได้รับการวางแผนระยะยาวและดำเนินอย่างช้าๆ เท่านั้น
อย่างไรก็ตามหลังจากเหตุการณ์นี้ก็สันนิษฐานได้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกาจะไม่กล้าดำเนินการใดๆ ในประเทศจีนไปอีกสักระยะเพราะการสูญเสียครั้งนี้ไม่ใช่น้อยๆ เพราะบุคลากรทั้งหมดที่พวกเขาได้ทำงานวิจัยและทดลองมาอย่างหนักได้ตายไปจนหมดซึ่งทำให้พวกเขาสูญเสียอย่างมหาศาลและถึงแม้ว่าพวกเขาจะต้องการความช่วยเหลือจากด็อกเตอร์หลี่ฉีก็ตามแต่พวกเขาก็ต้องระวังและยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาก็รู้ดีว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ประเทศจีนจะระมัดระวังมากขึ้นอย่างแน่นอนและยากที่จะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีก
ไม่นานหลังจากนั้นหม่าเต๋อหงและหยานตงก็เดินเข้ามา แน่นอนว่าเมื่อทหารระดับนายพลถึงสองคนปรากฏตัวขึ้นที่โรงพยาบาลก็เป็นเรื่องปกติที่จะมีการป้องกันและคุ้มกันที่แน่นหนาแต่ที่ร้ายแรงกว่านั้นคือหม่าเต๋อหงระดมกำลังพลโดยตรงจากเขตทหารปักกิ่งด้วยหน่วยรบพิเศษและทำการปิดล้อมโรงพยาบาลซีจิงอย่างแน่นหนา
เมื่อเรื่องใหญ่แบบนี้เกิดขึ้นกับหลานชายบุญธรรมของเขาแน่นอนว่าหม่าเต๋อหงจะรู้สึกสบายใจได้อย่างไร เมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องผู้ป่วยของเย่เชียนแล้วหม่าเต๋อหงก็จ้องมองไปที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนแล้วพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “หวงฟู่!..แกคิดอะไรอยู่ถึงได้เอาภารกิจไร้สาระมาให้หลานชายของฉันทำ!..คนในสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของแกไร้ฝีมือกันขนาดนั้นเลยเหรอ? ..ประเทศจีนให้งบประมาณกับองค์กรของแกไปตั้งมากมายแล้วทำไมสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติถึงได้ไร้ประโยชน์แบบนี้”
หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ถึงกับเหงื่อตกแต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหุบปากเพราะหลังจากรู้จักกับหม่าเต๋อหงมานานหลายปีเขาก็รู้ดีถึงอารมณ์ร้อนของเพื่อนคนนี้ ซึ่งเขาก็เข้าใจดีในเรื่องนี้ว่าหม่าเต๋อหงเองก็เป็นเหมือนครอบครัวของตระกูลเย่และยิ่งไปกว่านั้นเขาก็เคยเสียเย่เจิ้งหรานที่เป็นลูกบุญธรรมของเขาไป
ส่วนหยานตงก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นก็เดินไปที่เตียงและเหลือบมองไปที่เย่เชียนแล้วถามว่า “ไอ้หนูเอ็งเป็นยังไงบ้าง?”
เมื่อเผชิญหน้ากับบุคคลระดับนายพลทั้งสองแบบนี้อย่างกะทันหันหลี่เหว่ยและคนอื่นๆ ก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปครู่หนึ่งเพราะไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรใดๆ ก็ตามถึงยังไงสองคนนี้ก็สามารถเขย่าแผ่นดินจีนได้อย่างง่ายดาย
“ไม่เป็นอะไรแล้วครับ” เย่เชียนพูด
“ไอ้พวกอเมริกันมันกล้าทำร้ายหลานชายของฉันถึงขนาดนี้เลยงั้นเหรอ? ..พวกมันยังอยู่ในประเทศจีนอยู่หรือเปล่า? ..ฉันจะจับพวกมันมาลอกหนังของพวกมันออกด้วยมือของฉันเอง!” หม่าเต๋อหงพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
“โถ่คุณปู่ผมยังไม่ตาย..ส่วนไอพวกนั้นไปพบเทพแห่งความตายแล้ว” เย่เชียนพูดและหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นจนเย่เชียนรู้สึกได้ว่าถึงแม้ว่าหม่าเต๋อหงจะไม่ใช่ปู่แท้ๆ ของตัวเองแต่เขากังวลและเป็นห่วงตัวเองมากกว่าเย่เจียอู๋ซึ่งทำให้เย่เชียนพอใจมาก
“ฉันก็คิดเอาไว้แล้วว่าลูกชายของเย่เจิ้งหรานจะต้องไร้เทียมทาน..พวกCIAงั้นเหรอแล้วไงวะมันก็แค่เศษขยะเมื่ออยู่ต่อหน้าหลานชายของฉัน” หม่าเต๋อหงพูดอย่างภาคภูมิใจราวกับว่าเย่เชียนเป็นหลานชายแท้ๆ ของเขา จากนั้นเขาก็ตบไหล่เย่เชียนอย่างแรง
แรงอันมหาศาลส่งผลกระทบกับบาดแผลของเย่เชียนจนเย่เชียนอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา “เอ่อฉันขอโทษที..ฉันลืมตัวน่ะฮ่าๆ” เมื่อเห็นแบบนั้นหม่าเต๋อหงก็รู้ตัวว่าเขาเผลอทำเย่เชียนเจ็บโดยไม่รู้ตัวและรีบพูด
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไรครับ”
ในเวลานี้จู่ๆ หลี่ซือ,ฟู่เซิง,หยุนโอ่วเทียนและเยว่เหอตูก็รีบเดินเข้ามาและเมื่อเห็นว่าในห้องนั้นเต็มไปด้วยบุคคลระดับสูงที่มีอำนาจระดับประเทศแล้วทั้งสี่คนก็ตกตะลึงอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเห็นหม่าเต๋อหงและหยานตงที่สวมเครื่องแบบทหารพร้อมดาวบนบ่าที่ระบุถึงตำแหน่งอันทรงเกียรติแล้วพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงและรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องทันที
แน่นอนว่าหลี่ซือนั้นไม่ได้คิดอะไรมากมายเพราะเธอมีเพียงความเป็นห่วงเย่เชียนในหัวใจของเธอและเธอก็ไม่สนใจคนอื่นๆ เพราะเธอรีบไปที่ด้านข้างของเย่เชียนและมองเย่เชียนที่นอนอยู่บนเตียงและเธอก็ร้องไห้โดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อเห็นแบบนั้นเย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ยัยโง่ร้องไห้ทำไม? ..ดูสิฉันยังสบายดี”
เมื่อเห็นแบบนั้นม่อหลง,ชิงเฟิงและหลี่เหว่ยก็อดไม่ได้ที่จะมองหน้ากันและยิ้มอย่างขมขื่นเพราะบางครั้งพวกเขาก็ต้องชื่นชมความสามารถของเย่เชียนเพราะดูเหมือนว่าผู้หญิงทุกคนที่เห็นเขาจะกลายเป็นเหมือนแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟโดยไม่คำนึงถึงสิ่งต่างๆ ในชีวิตอีกต่อไป
ในเวลานี้เพื่อนร่วมห้องอย่างฟู่เซิง,หยุนโอ่วเทียนและเยว่เหอตูก็เห็นแล้วว่าเย่เชียนนั้นไม่ธรรมดาเพราะบุคคลระดับผู้บังคับบัญชาสูงสุดถึงกับมาเยี่ยมเย่เชียนเป็นการส่วนตัว ซึ่งเมื่อเห็นบุคคลระดับนี้ใกล้ๆ แล้วพวกเขาก็รู้สึกหนาวในใจลึกลงไปถึงกระดูกโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นพวกเขาจึงแอบสงสัยว่าเย่เชียนจะเป็นบุคคลระดับไหนกันแน่?
“ลูกพี่เป็นอะไรหรือเปล่า?” ทั้งสามก้าวไปข้างหน้าและถามด้วยความเป็นห่วง
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มและส่ายหัวจากนั้นเขาก็เหลือบมองหวงฟู่ชิงเตี๋ยนและคนอื่นๆ แล้วพูดว่า “พวกปู่ก็กลับกันได้แล้วผมสบายดี..ผมไม่เป็นอะไรแล้วเพราะงั้นกลับไปกันเถอะ..ขอบคุณที่มาเยี่ยมครับ”
ทั้งสามคนก็ไม่ใช่คนขวางโลกเพราะเขารู้ดีว่าคนหนุ่มสาวมักจะมีอะไรพูดคุยกันเสมอเมื่ออยู่ด้วยกัน ดังนั้นพวกเขาจะมายืนเป็นต้นไม้แก่ๆ ตายซากได้อย่างไร? เมื่อได้ยินแบบนั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ต้องกังวลไป..พวกเราจะจัดการส่วนที่เหลือเอง..เอ็งทำหน้าที่ได้ดีมากเพราะงั้นฉันจะรายงานเรื่องของเอ็งกับรองนายกรัฐมนตรีหูวเอง”
เย่เชียนก็พยักหน้าและไม่พูดอะไรต่อ ส่วนหม่าเต๋อหงก็จ้องไปที่หวงฟู่ชิงเตี๋ยนด้วยความโกรธและทั้งสามก็เดินออกจากห้องไป
“มาเดี๋ยวฉันจะแนะนำทั้งสามคนนี้ให้..พวกเขาเป็นพี่น้องร่วมเป็นร่วมตายของฉัน..หลี่เหว่ย,ชิงเฟิงและม่อหลง” เย่เชียนพูดและแนะนำต่อ “ส่วนทั้งสามคนนี้เป็นเพื่อนร่วมห้องของฉัน..ฟู่เซิง,หยุนโอ่วเทียนและเยว่เหอตู..รู้จักกันเข้าไว้ล่ะ”
หลี่เหว่ยก็พยักหน้าให้ทั้งสามคนและถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะแข็งแกร่งในระดับนึงแล้วแต่เขาก็ไม่ดูถูกเหยียดหยามฟู่เซิงและคนอื่นๆ แต่อย่างใด “พวกนายโชคดีมากที่ได้รู้จักบอส” ชิงเฟิงพูดต่อ “ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ทำไมนายไม่แนะนำฉันให้พวกเขาบ้างล่ะ?” หลี่ซือขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจและพูด
เย่เชียนหัวเราะอย่างขมขื่นและพูดว่า “พวกเขาทุกคนรู้จักเธอแล้ว”
“สวัสดีพี่สะใภ้” ทั้งสามคนทักทายหลี่ซือพร้อมกันจนใบหน้าของหลี่ซือแดงก่ำและเธอก็ก้มหน้าลงด้วยความเขินอาย “บอสเป็นคนใจดี..พวกเราอิจฉาบอสมากที่ได้มีแฟนสวยๆ อย่างเธอ” หลี่เหว่ยพูดแล้วหัวเราะ
เมื่อได้ยินแบบนั้นเย่เชียนก็มองหลี่เหว่ยด้วยหางตาเพราะหลี่เหว่ยนั้นเลิกพูดเรื่องไร้สาระไม่ได้จริงๆ และแน่นอนว่าใบหน้าของหลี่ซือก็เขินอายยิ่งกว่าเดิม จากนั้นเย่เชียนก็พูดว่า “หลี่ซือเธอต้องรู้ความจริงว่าจุดประสงค์ของฉันที่มาเมืองซีจิงและเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยซีจริงครั้งนี้ก็เพื่อคอยปกป้องเธอ..จริงๆ แล้วตามกฎของเราฉันห้ามมีความสัมพันธ์กับเธอ..แต่บางครั้งความรู้สึกมันก็ควบคุมยากจริงๆ และสุดท้ายฉันก็ตกหลุมรักเธอ..ซึ่งอันที่จริงฉันมีแฟนแล้วและมีมากกว่าหนึ่งคนด้วย..ที่สำคัญฉันมีลูกแล้วด้วย..ถ้าเธอรับเรื่องนี้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร..ถึงยังไงฉันก็ขออวยพรให้เธอมีความสุขและเจอรักแท้ในอนาคต”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “ส่วนพวกนายทุกคนเป็นเหมือนเพื่อนและน้องชายของฉันเพราะงั้นฉันจะบอกตัวตนที่แท้จริงของฉันให้ทุกคนฟัง..อันที่จริงพวกนายก็น่าจะแอบสงสัยอยู่ว่าฉันไม่เหมือนนักศึกษา..ซึ่งนั่นก็ถูกแล้วเพราะนี่เป็นแค่ฉากบังหน้าและแท้ที่จริงแล้วฉันคือผู้นำขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า..ฉายาคือราชาหมาป่าเย่เชียน”
ฟู่เซิงและทั้งสามคนก็อดไม่ได้ที่จะผงะไปชั่วขณะหนึ่งและการแสดงออกของหลี่ซือก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังคิดตามคำพูดของเย่เชียนและตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน “เย่เชียนฉันไม่สนใจหรอกว่านายจะเป็นอะไรหรือนายจะมีผู้หญิงอยู่กี่คน..ฉันอยากจะอยู่กับนายและไปทั่วทุกที่ที่นายไป” หลี่ซือพูดทั้งน้ำตา
“บ้าจริงทำไมฉันไม่เจอผู้หญิงแบบนี้บ้าง!” หลี่เหว่ยพึมพำ เขาเป็นที่รู้จักในฐานะคนเจ้าชู้แต่ทำไมเขายังไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้เลยสักครั้ง? เมื่อนึกถึงซือจื้อแล้วหลี่เหว่ยก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้าน
“ใช่ลูกพี่..พวกเราจะตามไปด้วย!” ฟู่เซิงพูด “มหาวิทยาลัยมันไม่มีอะไรเลย..การเป็นนักศึกษามันมีแต่เรื่องไร้สาระ..ถ้าพวกเราเรียนจบก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะหางานดีๆ ทำได้เพราะงั้นเราจะตามลูกพี่ไปเพื่อเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริง” ส่วนหยุนโอ่วเทียนและเยว่เหอตูพยักหน้าเห็นด้วย
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “พวกนายยังเด็กอยู่และถนนสายนี้ไม่ได้เดินง่ายๆ อย่างที่พวกนายคิด..ถ้าพวกนายตามฉันมาพวกนายจะตายเมื่อไรก็ได้โดยไม่รู้ตัว..ยิ่งไปกว่านั้นพวกนายไม่มีทักษะในการป้องกันตัวเลยแม้แต่น้อยเพราะงั้นพวกนายไม่ต้องตามฉันมาหรอกพวกนายแค่ทำงานและตั้งใจเรียนให้ดี..แต่ถ้าหากมีปัญหาอะไรก็โทรหาฉันได้เลยและฉันจะบอกพ่อของหลี่ซือให้เขาคอยสนับสนุนพวกนาย..พวกนายเป็นน้องชายของฉันเพราะงั้นฉันก็หวังว่าทุกคนจะประสบความสำเร็จในอนาคต” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “เหอตู..นายกับฉันมีอดีตที่ขมขื่นเหมือนกันเพราะงั้นฉันหวังว่าสิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นแรงผลักดันให้นายสู้ต่อไป..ฉันเชื่อว่านายจะต้องทำได้ดีอย่างแน่นอน”
เยว่เหอตูก็พยักหน้าอย่างหนักหน่วงเพราะคำพูดของเย่เชียนครั้งนี้ทำให้หลายปีต่อมาเยว่เหอตูกลายเป็นผู้มีอิทธิพลของภาคตะวันตกเฉียงเหนืออย่างยิ่งใหญ่
ในเวลานี้โทรศัพท์มือถือของเย่เชียนก็ดังขึ้นจากนั้นเย่เชียนก็หยิบมันขึ้นมาและมองดูแล้วคิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากัน ซึ่งเขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติและเจตนาฆ่าที่รุนแรงก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของเย่เชียน
เมื่อเห็นการแสดงออกของเย่เชียนเปลี่ยนไปทุกคนก็รู้ได้เช่นกันว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น
.
.
.
.