ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 969 เลือกแล้ว
ตอนที่ 969 เลือกแล้ว
เมื่อได้รับเอกสารแผนการแล้วเย่เชียนก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่อีกต่อไปจากนั้นเขาก็เปิดดูและหลังจากยืนยันว่ามันเป็นของจริงแล้วเย่เชียนกับอู๋หวนเฟิงก็เดินออกไปจากห้องแต่เมื่อเขาไปถึงประตูจู่ๆ เย่เชียนก็หยุดจนอู๋หวนเฟิงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจ
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เราไม่สามารถพลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ไปได้เพราะถึงยังไงพวกเราก็ต้องใช้เงินเพื่อซื้อข้าวกินอยู่ดี” เย่เชียนหันกลับมาและเดินไปที่ตู้เซฟนิรภัยแล้วหยิบเงินทั้งหมดในตู้เซฟออกมา ถึงแม้ว่ามันจะไม่มากแต่อย่างน้อยๆ ก็หนึ่งแสนเยนญี่ปุ่นจากนั้นพวกเขาก็พยักหน้าให้อู๋หวนเฟิงและทั้งสองก็กระโดดออกจากบ้านไปอย่างเงียบๆ
“ได้ของมาแล้วทุกคนถอนกำลังได้” เย่เชียนพูดกับวิทยุแล้วรีบไปยังจุดที่นัดหมายกันเอาไว้
ไม่นานนักเฟิงหลาน,หลี่เหว่ยและคนอื่นๆ ก็มาถึงโดยหลี่เหว่ยกับชิงเฟิงทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไม่ร้ายแรงและมีเพียงบาดแผลตามผิวหนังบางส่วนเท่านั้น เมื่อเห็นเย่เชียนแล้วหลี่เหว่ยก็อดไม่ได้ที่จะพึมพำและพูดว่า “ไอพวกนินจานี่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ..การโจมตีเป็นกลุ่มของพวกมันค่อนข้างยากที่จะรับมือจนผมเกือบจะตายไปแล้ว”
“บอสแล้วเอกสารแผนการอยู่ที่ไหน?” เฟิงหลานถาม
เย่เชียนก็เขย่าแฟ้มเอกสารในมือของเขาและพูดว่า “คุยที่นี่ไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไหร่เพราะงั้นเรารีบไปจากที่นี่กันเถอะ” ทุกคนขึ้นรถและหายตัวไปในความมืดอย่างรวดเร็ว
เมื่อกลับมาที่โรงแรมเย่เชียนก็เปิดแฟ้มเอกสารและดูอย่างระมัดระวังแล้วพูดว่า “นาโอกิอิชิอินี่ชั่วร้ายจริงๆ ..แผนการนี้มีรายละเอียดเยอะมาก..ถ้าไม่ใช่เพราะเราเป็นศัตรูกันฉันก็อยากจะร่วมมือกับเขาจริงๆ ..ฉันเองก็ไม่ค่อยชอบพวกอเมริกันเหมือนกัน”
อันที่จริงความประทับใจของเย่เชียนเกี่ยวกับประเทศสหรัฐอเมริกานั้นก็ไม่ค่อยดีนัก บางทีอาจเป็นเพราะเขาอาศัยอยู่ในทวีปตะวันออกกลางมาหลายปีเขาจึงได้เห็นกับตาของเขาเองถึงการกดขี่ข่มเหงและการแทรกแซงของประเทศสหรัฐอเมริกา ยิ่งไปกว่านั้นเย่เชียนก็เคยได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมอย่างมากจาก CIA ของหสรัฐอเมริกาดังนั้นเขาจึงมีความประทับใจที่ไม่ดีต่อประเทศสหรัฐอเมริกาตั้งแต่นั้นมา หากไม่ใช่เพราะพวกเขาเป็นศัตรูกันล่ะก็เย่เชียนก็เต็มใจที่จะช่วยนาโอกิอิชิอิทำตามแผนและถึงแม้ว่าแผนของนาโอกิอิชิอิอาจไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม
ว่ากันว่าชาวญี่ปุ่นเป็นเหมือนสุนัขที่ไม่เชื่องและคำพูดเหล่านี้ก็เป็นความจริงเพราะประเทศสหรัฐอเมริกาได้ให้ความช่วยเหลือประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมากและถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่ความต้องการของประเทศญี่ปุ่นก็ตามแต่หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นรุ่งเรืองขึ้นภายใต้การสนับสนุนและการแทรกแซงของประเทศสหรัฐอเมริกาก็ตามแต่ประเทศญี่ปุ่นก็ดูเหมือนว่าจะไม่พอใจประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างมาก ซึ่งไม่ว่ามันจะเป็นประเทศญี่ปุ่นหรือประเทศสหรัฐอเมริกาก็ตามแต่สำหรับเย่เชียนแล้วทั้งสองประเทศล้วนเป็นศัตรูของเขาและเขาก็หวังว่าจะได้เห็นสุนัขทั้งสองกัดกัน อย่างไรก็ตามในสถานการณ์ปัจจุบันเย่เชียนก็ต้องช่วยฮาเซงาวะเซตะจัดการกับนาโอกิอิชิอิซึ่งอยู่ในกระบวนการที่ไม่สามารถถอยหลังกลับได้แล้ว
หลังจากอ่านไปสักพักเย่เชียนก็มอบเอกสารให้กับอู๋หวนเฟิงแล้วพูดว่า “พรุ่งนี้เช้านายเอาเอกสารเหล่านี้ไปมอบให้ฮาเซงาวะเซตะทีและบอกเขาถึงแผนการเดิมของเรา..จากนั้นฉันจะแจ้งไอซอลเดแฮมป์ตันและให้เขาเริ่มโดยเร็วที่สุด”
อู๋หวนเฟิงก็พยักหน้าเล็กน้อยและยื่นมือรับเอกสาร
“บอส..ทำไมบอสถึงไม่ฆ่านาโอกิอิชิอิซะตอนนี้ไปเลยล่ะ..สิ่งต่างๆ มันคงจะง่ายกว่ามาก” หลี่เหว่ยพึมพำ
ม่อหลงก็จ้องหลี่เหว่ยแล้วพูดว่า “จะไปมีประโยชน์อะไรถ้าฆ่านาโอกิอิชิอิ? ..ถึงยังไงพวกนั้นก็สามารถหาคนอื่นมาแทนที่นาโอกิอิชิอิได้อยู่ดี..ซึ่งถ้ารัฐบาลสงสัยเกี่ยวกับการตายของนาโอกิอิชิอิล่ะก็มันจะเป็นอันตรายต่อเรามาก!”
“อย่าไปสนใจสิ่งที่ไอหมอนี่พูดเลย” ชิงเฟิงพูด
“ม่อหลงพูดถูก..การฆ่านาโอกิอิชิอิจะไม่ช่วยอะไรเราเลยและมันจะเป็นผลเสียต่อเราด้วย” เย่เชียนพูด “นอกจากนี้หากเราฆ่านาโอกิอิชิอิไปฮาเซงาวะเซตะก็จะดูถูกเรา..เพราะงั้นการทำลายนาโอกิอิชิอิตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่นั้นจึงเป็นสิ่งที่ดีกว่าการฆ่าเขาให้ตายไป”
หลังจากหยุดไปสักพักเย่เชียนก็พูดต่อ “สถานการณ์นี้มันเกิดขึ้นในย่านชานเมืองเพราะงั้นถ้าไม่มีอุบัติเหตุร้ายแรงก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรและรัฐบาลก็จะไม่สนใจ..เพราะงั้นชิงเฟิงฉันจะปล่อยให้นายดูแลจัดการหน่วยเงาหมาป่าและอย่าทำอะไรประมาทอีก..ส่วนนายก็ฝึกซ้อมให้บ่อยๆ เพราะเมื่อกี้นี้นายโดนพวกนินจาโจมตีพร้อมกันจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดและเราก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งแบบไหนอีก..เพราะงั้นเราต้องพัฒนาและเตรียมพร้อมสำหรับศึกในอนาคตด้วย”
เมื่อนึกถึงการประลองที่จะเกิดขึ้นกับหมาป่าผีไป๋ฮวยแล้วเย่เชียนก็ถอนหายใจและพูดว่า “ถ้าฉันตายไปฉันก็หวังว่าทุกคนจะพัฒนาเขี้ยวหมาป่าต่อไปได้และถ้ามีอะไรก็หารือกับแจ็คเกี่ยวกับทุกๆ เรื่อง”
“บอส!..เกิดอะไรขึ้น?” คิ้วของเฟิงหลานขมวดเข้าหากันแน่นและรู้สึกไม่สบายใจกับคำพูดของเย่เชียนอย่างมาก
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่มีอะไรหรอกผมก็แค่หวังว่าทุกคนจะสามารถยืนหยัดได้ถึงแม้ว่าจะไม่มีผม..เขี้ยวหมาป่าจะต้องยืนหยัดในโลกนี้ตลอดไป”
“บอสคือจิตวิญญาณของเขี้ยวหมาป่าของเราและถ้าหาไม่มีบอสล่ะก็เขี้ยวหมาป่าจะไม่มีวันสมบูรณ์แบบ” อู๋หวนเฟิงพูด “ถ้าบอสกังวลอะไรก็แค่บอกพวกเราพี่น้องและมาช่วยกันหาทางแก้ไขกัน..ผมเชื่อว่ามันไม่มีอะไรที่พวกเราแก้ไขไม่ได้หรอก”
“จะไปมีอะไรล่ะก็น่าจะเป็นพวกพี่สะใภ้ที่ไม่พอใจที่ไม่มีเวลาให้กับพวเธอยังไงล่ะ” หลี่เหว่ยพูดด้วยรอยยิ้ม “บอสพวกผู้หญิงน่ะบางครั้งก็ต้องการเวลาจากเรา..แต่พวกเธอคงไม่รู้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่แต่หลังจากเรื่องของที่นี่จบลงแล้วบอสก็ควรจะให้เวลากับพวกพี่สะใภ้บ้าง”
เย่เชียนกลอกตาไปมาและขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับคนงี่เง่าคนนี้
สิ่งต่อไปไม่มีอะไรมากเพราะมีแต่ต้องรอคอยเวลาเท่านั้น ส่วนเรื่องของม่อหนานก็ยังไม่มีข่าวคราวใดๆ และที่เหลือฮาเซงาวะเซตะก็จะเป็นคนออกโรงเอง แน่นอนว่าเย่เชียนเชื่อว่าฮาเซงาวะเซตะนั้นมีความสามารถมากพอเพราะภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ถ้าฮาเซงสวะเซตะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบเพื่อกำจัดนาโอกิอิชิอิได้ล่ะก็ฮาเซงาวะเซตะก็คงจะเป็นคนงี่เง่าไร้ประโยชน์อย่างมาก
คืนถัดมาสมาชิกขององค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่ที่นำโดยไอซอลเดแฮมป์ตันก็ได้เปิดฉากโจมตีฐานประจำการของกองทัพสหรัฐอเมริกาในประเทศญี่ปุ่นและครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อสร้างสถานการณ์เท่านั้นไม่ใช่เพื่อทำลายล้าง นอกจากนี้ไอซอลเดแฮมป์ตันก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้จริงๆ เพราะมันเป็นเรื่องโง่เขลามากที่ทหารรับจ้างจะต่อสู้กับกองทัพของสหรัฐอเมริกาทั้งหมดได้ ดังนั้นจุดประสงค์ของพวกเขาก็คือการทำให้สิ่งต่างๆ ปั่นป่วนและทำให้ประเทศสหรัฐอเมริกาให้ความสนใจกับการเลือกตั้งของประเทศญี่ปุ่น
หลังจากนั้นสื่อและหนังสือพิมพ์ทั้งหมดภายใต้พรรคฝ่ายค้านก็ได้เปิดเผยแผนการลับของนาโอกิอิชิอิและในช่วงเวลาหนึ่งความคิดเห็นของสาธารณชนในประเทศที่เป็นญี่ปุ่นก็จะเกิดความโกลาหลและรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกาก็จะยิ่งโกรธเกรี้ยวมากขึ้นไปอีก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ฐานประจำการของกองทัพสหรัฐอเมริกาในประเทศญี่ปุ่นในคืนนั้นทุกคนก็รู้ว่าแผนการทั้งหมดนี้เป็นฝีมือของนาโอกิอิชิอิ
ประเทศต่างๆ ในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกาก็ได้เปิดฉากการโจมตีและตำหนิอย่างรุนแรงต่อการกระทำของนาโอกิอิชิอิและขู่ว่าหากประเทศญี่ปุ่นไม่สามารถให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลได้ล่ะก็ประเทศสัมพันธมิตรทั้งหมดก็จะใช้มาตรการขั้นรุนแรงกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในตอนนี้นาโอกิอิชิอิก็พูดอะไรไม่ออกแล้วและสิ่งดีๆ ที่เขาทำมาทั้งหมดก็พังทลายลงในทันที โดยธรรมชาติแล้วฮาเซงาวะเซตะก็จะไม่พลาดโอกาสสำคัญดังกล่าวและเริ่มโจมตีนาโอกิอิชิอิอย่างรุนแรงและในช่วงเวลาสั้นๆ ความนิยมด้านการเมืองของฮาเซงาวะเซตะก็พุ่งสูงขึ้น
ข้อมูลทั้งหมดที่องค์กรชาโด้ซากุระรวบรวมเอาไว้ก่อนหน้านี้มีประโยชน์อย่างมากและนั่นก็ทำให้สมาชิกสภาก็เข้าข้างฮาเซงาวะเซตะ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าม่อหนานไม่ได้ตระหนักถึงการพัฒนาของเรื่องนี้และเขาก็โกรธมากและโทษนาโอกิอิชิอิที่กล้าทำอะไรโดยไม่ปรึกษาเขาและไม่เห็นหัวเขาแบบนั้นดังนั้นเขาจึงบุกไปสังหารนาโอกิอิชิอิภายในบ้านอย่างน่าสยดสยอง
เหตุการณ์ทั้งหมดทำให้ฮาเซงาวะเซตะได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่นและหลังจากการจัดระเบียบรัฐสภาใหม่แล้วคำสั่งในวันแรกคือการกวาดล้างองค์กรใต้ดินทั้งหมดของประเทศญี่ปุ่น จนในเวลานี้แก๊งยามากุจิ,แก๊งอินาดะและแก๊งโยชิคาว่าล้วนตกอยู่ในอันตรายและหัวหน้าแก๊งทั้งหมดก็ถูกนำตัวเข้าคุก แน่นอนว่ากองกำลังที่เข้าร่วมในการกวาดล้างที่จัดเตรียมเอาไว้ล่วงหน้าของเย่เชียนในประเทศญี่ปุ่นได้แก่ สมาชิกองค์กรทหารรับจ้างนีโอมิลิทารี่ของไอซอลเดแฮมป์,มาเฟียของคลูลอฟส์อังเดรและผู้คนจากโลกศิลปะการต่อสู้จีนโบราณ ฯลฯ ทั้งหมดได้เคลื่อนไหวพร้อมๆ กันทั่วประเทศญี่ปุ่นเพื่อกวาดล้างองค์กรใต้ดินทั้งหมดจนประเทศญี่ปุ่นทั้งประเทศตกอยู่ในความตึงเครียด อย่างไรก็ตามทัศนคติของฮาเซงาวะเซตะนั้นก็มั่นคงมากในการดำเนินการกวาดล้างองค์กรใต้ดินทั้งหมดตามคำขอของเย่เชียน
เย่เชียนก็ไม่ลดละเช่นกันและสั่งให้แจ็คจัดคนจำนวนมากมาเพื่อใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ ในทางกลับกันเย่เชียนก็ไม่ยอมแพ้ที่จะส่งคนไปสืบเกี่ยวกับข้อมูลที่อยู่ของม่อหนาน ซึ่งคนของนากาซาวะเคโกะก็ถูกส่งออกไปทั้งหมดและมีการค้นหาแบบครอบคลุมในเมืองปักกิ่งและเชื่อว่าไม่นานที่อยู่ของม่อหนานก็จะถูกพบอย่างแน่นอน
ซึ่งความพยายามก็ได้ผลในที่สุดเพราะคนของนากาซาวะเคโกะได้นำข่าวดีมาซึ่งพบว่าม่อหนานอยู่ในบ้านพักตากอากาศแถวเขตชานเมืองปักกิ่งและเมื่อทราบข่าวเช่นนั้นเย่เชียนก็ไม่กล้าที่จะล่าช้าใดๆ และตรงไปที่นั่นพร้อมกับม่อหลงและคนอื่นๆ ทันที
จากระยะไกลเย่เชียนและคนอื่นๆ ก็เงยหน้าขึ้นและมองเข้าไปข้างในโดยไม่ส่งเสียงใดๆ แต่พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงครู่หนึ่งและเย่เชียนก็พูดว่า “เป็นไปได้หรือเปล่าที่ม่อหนานจะไหวตัวทันและหนีไปแล้ว?” จากนั้นเย่เชียนก็หันกลับมาและเหลือบมองเฟิงหลานและคนอื่นๆ แล้วพูดว่า “ผมกับพี่ม่อหลงจะเข้าไปส่วนทุกคนรออยู่ข้างนอกก่อน..ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันจะเรียกทุกคนเอง”
หลังจากพูดจบเย่เชียนก็พยักหน้าให้ม่อหลงและทั้งสองก็เดินเข้าไปข้างใน
.
.