ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 965 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ตอนที่ 965 ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
คนสวมหน้ากากดำได้รับคำสั่งจากเย่เชียนให้ลอบสังหารฮาเซงาวะเซตะและถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าทำไมเย่เชียนถึงต้องการทำเช่นนี้แต่นี่เป็นกฎของลับขององค์กรชาโด้ซากุระและสมาชิกทุกคนจะต้องปฏิบัติตามกฎนี้อย่างเคร่งครัด ดังนั้นไม่ต้องพูดถึงการที่เย่เชียนสั่งให้เธอไปลอบสังหารฮาเซงาวะเซตะเลยเพราะต่อให้เธอต้องตายเธอก็จะไม่เสียใจเลย
ทักษะและฝีมือของนากาซาวะเคโกะนั้นไม่ธรรมดาเพราะในฐานะผู้นำขององค์กรชาโด้ซากุระแล้วนินจาบอดี้การ์ดทั้งสี่คนนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรเธอได้เลย แต่เธอต้องการจัดการสิ่งต่างๆให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้
ฮาเซงาวะเซตะก็เห็นได้ชัดอย่างเจนว่าสถานการณ์เริ่มไม่ดีเพราะบอดี้การ์ดทั้งสี่คนของเขาไม่สามารถตอบโต้ได้เลยแม้แต่น้อยและแม้แต่ในสถานการณ์สี่ต่อหนึ่งพวกเขายังเสียเปรียบอย่างมาก “นาโอกิอิชิอิให้ประโยชน์อะไรกับแก?..บอกมาสิเดี๋ยวฉันจะให้แกเป็นสองเท่า!” ฮาเซงาวะเซตะพูดและถึงแม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าสำหรับนินจาแล้วผลประโยชน์ต่างๆจะไร้ค่าที่จะต่อรองได้เพราะพวกเขาจะซื่อสัตย์ต่อผู้ว่าจ้างและจงรักภักดีต่อองค์กรของตนเอง แต่ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เขาจะอยู่รอดได้ดีแต่อย่างไรก็ตามสถานการณ์ตรงหน้าทำให้ฮาเซงาวะเซตะประหม่า ดังนั้นเขาจึงต้องหาทางที่พอจะทำได้เพราะเขาไม่ต้องการที่จะตายที่นี่ในตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นอีกไม่นานเขาก็จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคตของประเทศญี่ปุ่นที่มีอำนาจอันยิ่งใหญ่และวันที่สวยงามนับไม่ถ้วนกำลังรอเขาอยู่
อย่างไรก็ตามนากาซาวะเคโกะดูเหมือนจะไม่ได้ยินคำพูดของฮาเซงาวะเซตะและเพิกเฉยต่อเขาโดยสิ้นเชิงและมีดในมือของเธอยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่องและหลังจากนั้นครู่หนึ่งบอดี้การ์ดทั้งสี่ก็ล้มลงกับพื้นและนากาซาวะเคโกะก็หันหลังกลับทันทีโดยไม่หยุดยั้งและพุ่งเข้าหาฮาเซงาวะเซตะโดยตรง
ถึงแม้ว่าฮาเซงาวะเซตะจะรู้สึกประหม่าแต่เขาก็เคยเป็นชายชาติทหารอดีตทหารรับจ้างและถึงแม้ว่าในทุกวันนี้เขาจะสะดวกสบายและไม่ได้ฝึกซ้อมเลยก็ตามแต่เขาก็ยังพอมีฝีมืออยู่บ้าง ดังนั้นเมื่อเห็นนากาซาวะเคโกะวิ่งเข้าหาตัวเองเขาก็รีบหลบและคว้าเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆเขาแล้วฟาดไปอย่างรุนแรง
ที่ด้านนอกเย่เชียนก็เห็นฉากนี้อย่างชัดเจนและอดไม่ได้ที่จะฉีกยิ้มที่มุมปากของเขาเพราะเขาพึงพอใจกับการกระทำของนากาซาวะเคโกะอย่างมาก ในตอนนี้เขาเห็นแล้วว่านากาซาวะเคโกะไม่ได้แสดงความเมตตาหรือความลังเลใดๆเลยและดูเหมือนว่าเธอต้องการฆ่าฮาเซงาวะเซตะจริงๆ แต่แน่นอนว่าเย่เชียนก็ไม่ได้คิดว่าฮาเซงาวะเซตะจะตายง่ายๆแบบนี้เพราะท้ายที่สุดแล้วหากฮาเซงาวะเซตะไร้ฝีมือและทักษะจนตายง่ายขนาดนั้นเขาก็ไม่คู่ควรที่จะร่วมมือกับตัวเอง หากเย่เชียนต้องการจะร่วมมือกับใครแล้วเขาก็ต้องการที่จะเห็นก่อนว่าอีกฝ่ายมีความสามารถมากแค่ไหน ซึ่งเหตุผลที่เขาทำเช่นนี้ก็เพื่อทดสอบนากาซาวะเคโกะไปในตัวเพราะเย่เชียนไม่เชื่อในกฎลับขององค์กรชาโด้ซากุระที่ไม่ได้ระบุเอาไว้ ด้วยวิธีนี้เย่เชียนจะรู้สึกสบายใจในการไว้วางใจเธอ อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เย่เชียนเชื่อใจนากาซาวะเคโกะได้เพราะเธอต้องพิสูจน์อีกหลายๆอย่างเย่เชียนถึงจะไว้ใจเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อเห็นว่าฮาเซงาวะเซตะกำลังจะถูกนากาซาวะเคโกะฆ่าแล้วเย่เชียนก็ไม่ลังเลอีกต่อไปและรีบกระโดดเข้ามาจากหน้าต่างพร้อมด้วยเสียงตะโกนดังๆและตบนากาซาวะเคโกะด้วยฝ่ามือแล้วนากาซาวะเคโกะก็รีบหมุนตัวกลับมาแต่เมื่อเห็นว่าเป็นเย่เชียนเธอก็หยุดการโจมตีของเธอในทันที
แน่นอนว่านากาซาวะเคโกะเห็นฉากนี้ได้อย่างชัดเจนในดวงตาของเธอและก็พยักหน้าจากนั้นเธอก็เก็บมีดเข้าไปในเสื้อของเธอจากนั้นเย่เชียนก็ยื่นมือออกไปปลดผ้าปิดหน้าสีดำของนากาซาวะเคโกะออก
เมื่อเห็นเย่เชียนเข้ามาฮาเซงาวะเซตะก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกและพูดว่า “ขอบคุณมากครับคุณเย่สำหรับความช่วยเหลือของคุณ..ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเย่ฉันคงจะตายไปแล้ว” จากนั้นดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่นากาซาวะเคโกะและเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทาและพูดด้วยความตกตะลึง “นากาซาวะเคโกะทำไมเธอถึง….” แน่นอนว่าฮาเซงาวะเซตะไม่อยากจะเชื่อเลยเพราะผู้นำองค์กรชาโด้ซากุระที่เขาไว้วางใจที่สุดเกือบจะฆ่าเขาในวันนี้จนเขาตกตะลึงอย่างมาก
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “โชคดีที่ผมมาทันเวลาพอดี..คุณฮาเซงาวะไม่เป็นไรอะไรใช่มั้ยครับ?”
“เกิดบ้าอะไรขึ้น..นากาซาวะเคโกะทำไมเธอถึงทำแบบนี้?” ฮาเซงาวะเซตะถามด้วยความประหลาดใจ
นากาซาวะเคโกะก็งุนงงกับการกระทำของเย่เชียนและเธอก็ไม่รู้จะตอบคำถามของฮาเซงาวะเซตะว่าอย่างไร จากนั้นเย่เชียนก็ขยิบตาให้เธอและเมื่อเห็นเช่นนั้นนากาซาวะเคโกะก็ก็ปิดปากไปอย่างเชื่อฟังและไม่ตอบอะไรใดๆ ส่วนเย่เชียนก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “คุณฮาเซงาวะคงรู้อยู่แล้วว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้นในร้านอาหารใช่มั้ย?”
ฮาเซงาวะเซตะก็ตกตะลึงอยู่พักหนึ่งและไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆเย่เชียนถึงได้ถามคำถามนี้แต่เขาก็ยังคงตอบกลับไปว่า “ฉันรู้แล้ว..บางเรื่องยังไม่ชัดเจนนักแต่ว่ากันว่าเป็นคนของสมาคมมังกรดำ..และมันเป็นอิชิดะอิจิโร่กับชิบะชิเงโอะที่ขัดแย้งกันจนฆ่ากันตายในร้านอาหารและทั้งคู่ก็เสียชีวิตในการต่อสู้ในร้านอาหาร”
เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงไปครู่หนึ่งและรู้ประหลาดใจอย่างมากแต่ทว่าเขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจเพราะดูเหมือนว่าชิบะชิเงโอะจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของม่อหนานจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นม่อหนานคนนี้ยังเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและไม่ได้ให้โอกาสชิบะชิเงโอะได้ตอบโต้เลยแม้แต่น้อย หากเป็นในกรณีนี้เย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าม่อหนานนั้นต้องการกำจัดอิชิดะอิจิโร่และชิบะชิเงโอะมาตั้งแต่แรกแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องปรากฏตัวก่อนที่อิชิดะอิจิโร่จะตายอย่างแน่นอน ดูเหมือนว่าเขายังประเมินม่อหนานต่ำเกินไป
“คุณเย่เป็นคนทำหรือเปล่า?” ฮาเซงาวะเซตะพูดด้วยความประหลาดใจ
“เรื่องมันเป็นแบบนี้” เย่เชียนพูด “หลังจากที่ผมรู้ว่าอิชิดะอิจิโร่กับชิบะชิเงโอะกำลังนัดพบกันที่ไหนผมก็เลยตามไป..ผมแค่อยากจะไปสืบข่าวแต่ใครจะรู้ว่าพวกเขากลับขัดแย้งกันที่นั่น..เพราะงั้นผมเลยเติมน้ำมันลงไปในกองไฟให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเขา..เดิมทีผมวางแผนที่จะใช้ชิบะชิเงโอะเพื่อที่เราจะได้ลงมือทำสิ่งต่างๆได้ง่ายขึ้นในอนาคตเพราะงั้นผมจึงปล่อยเขาไปหลังจากที่อิชิดะอิจิโร่ตายและเราก็แยกย้ายกัน..แต่เขากลับถูกฆ่าไปซะก่อนและทั้งหมดนี้ควรจะเป็นฝีมือของม่อหนาน..ยิ่งไปกว่านั้นคุณนากาซาวะเคโกะยังถูกม่อหนานบังคับให้มาลอบสังหารคุณอีกด้วย..โชคดีที่ผมมาได้ทันเวลาไม่งั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคงจะเลวร้ายมาก”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นนากาซาวะเคโกะก็มองไปที่เย่เชียนด้วยสีหน้าที่ดูตกตะลึงเพราะเธอไม่คิดว่าเย่เชียนจะพูดแบบนี้ ในความคิดของเธอนั้นเธอคิดว่าเย่เชียนต้องการที่จะกำจัดเธอหรือเปล่า? จนเธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียใจแต่เธอก็เต็มใจที่จะยอมรับชะตากรรมนี้เพราะกฎขององค์กรชาโด้ซากุระและเธอต้องจริงใจต่อเย่เชียนและไม่ว่าจะสั่งให้เธอทำอะไรเธอก็ต้องทำถึงแม้ว่าเธอจะต้องตายเธอก็พร้อมที่จะตายเพื่อเขาโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น
สีหน้าของฮาเซงาวะเซตะก็ดูตกตะลึงอย่างมากและเขาก็มองไปที่นากาซาวะเคโกะด้วยเจตนาฆ่าและพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “นากาซาวะเคโกะฉันคิดว่าฉันปฏิบัติต่อเธออย่างดีมาโดยตลอดแต่เธอกลับหันไปหาศัตรูและต้องการฆ่าฉันเนี่ยนะ?..ทำไมเธอถึงทำแบบนี้..พวกนั้นให้อะไรเธองั้นเหรอ?”
นากาซาวะเคโกะก็ก้มหน้าลงและไม่พูดอะไร
“คุณฮาเซงาวะครับ..ผมมีเรื่องที่จะอยากจะขอคุณหนึ่งอย่าง” เย่เชียนพูด
“ถ้าคุณเย่อยากจะขออะไรก็พูดออกมาตรงๆได้เลย..คุณเย่ช่วยชีวิตของฉันเอาไว้เพราะงั้นตราบใดที่ฉันทำได้ฉันก็จะทำให้” ฮาเซงาวะเซตะพูด
การกระทำของเย่เชียนนั้นเหมือนกับการยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัวและไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาประสบความสำเร็จและได้รับผลประโยชน์อย่างมาก ตอนแรกเขาแค่ต้องการทดสอบนากาซาวะเคโกะเพื่อดูว่าเธอจริงใจหรือไม่เพื่อที่จะสามารถใช้เธอได้ในอนาคตและอย่างที่การที่เขาได้ช่วยชีวิตฮาเซงาวะเซตะนั้นแน่นอนว่าฮาเซงาวะเซตะจะต้องช่วยสนับสนุนตัวเองในอนาคตอย่างเต็มใจ
“ผมอยากให้คุณมอบนากาซาวะเคโกะให้ผม!” เย่เชียนพูด
ฮาเซงาวะเซตะก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดด้วยความประหลาดใจว่า “เดี๋ยวสิคุณเย่!..นากาซาวะเคโกะเป็นคนทรยศเพราะงั้นเราต้องฆ่าเธอซะ!”
เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เนื่องจากนากาซาวะเคโกะได้รับคำสั่งจากม่อหนานเพราะงั้นผมคิดว่าเธอต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวกับม่อหนานไม่มากก็น้อยเพราะงั้นผมต้องเค้นข้อมูลออกจากปากเธอให้ได้”
“คุณเย่ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าทำไมนากาซาวะเคโกะถึงได้ทรยศฉันแต่เธอก็เป็นถึงผู้นำองค์กรนักฆ่าที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างเข้มงวดและมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเค้นเอาข้อมูลออกจากปากของเธอ” ฮาเซงาวะเซตะพูด “สำหรับฉันแล้วฉันคิดซะว่าเราควรจะฆ่าเธอดีกว่าเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต!”
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ในจีนมีกฎอยู่ว่าใครดีใครได้..ผมที่ช่วยคุณเอาไว้เพราะงั้นก็คุณควรมอบเธอให้กับผม..การที่คุณปฏิเสธผมแบบนี้นั่นหมายความว่าคุณไม่ไว้ใจผมอย่างงั้นเหรอ?..หรือคุณกลัวว่าผมจะเค้นข้อมูลอะไรที่เกี่ยวกับคุณจากปากเธอ?”
ฮาเซงาวะเซตะก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วยิ้มอย่างเชื่องช้าจากนั้นก็พูดว่า “อย่าเข้าใจฉันผิดฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น..ในเมื่อคุณเย่ต้องการแบบนั้นฉันก็จะยกเธอให้คุณเย่จัดการก็แล้วกัน..เราจะไม่ให้เรื่องของคนทรยศมาทำลายพันธมิตรของเราเด็ดขาด” อันที่จริงฮาเซงาวะเซตะยังคงกังวลอยู่เพราะนากาซาวะเคโกะทำงานให้เขามาหลายปีแล้วและเธอก็รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำ ดังนั้นหากเย่เชียนรู้เรื่องของเขาล่ะก็ในอนาคตมันจะไม่มีผลดีกับเขาอย่างแน่นอน
“ถ้างั้นผมก็ขอบคุณ” เย่เชียนพูด “อ้อ..มีอีกอย่าง..ครั้งนี้ผมเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเพราะงั้นผมหวังว่าคุณฮาเซงาวะจะไม่โทษองค์กรชาโด้ซากุระเพราะบางทีคนอื่นอาจจะไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องที่นากาซาวะเคโกะทรยศหักหลังเพราะงั้นถ้าคุณเริ่มกวาดล้างพวกเขาล่ะก็ผมกลัวว่าพวกเขาจะต่อต้านและมันจะไม่เป็นผลดีกับคุณและคุณจะสูญเสียมากกว่าสิ่งที่ได้รับ!”
ฮาเซงาวะเซตะก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ฉันต้องขอบคุณสำหรับคำเตือนและสำหรับการช่วยเหลือของคุณเย่ในวันนี้..ฉันยังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำอีกหลายอย่างเพราะงั้นตอนนี้เราควรจะแยกย้ายกันก่อน..เอาไว้คราวหน้าฉันจะเลี้ยงมื้อเย็นขอบคุณทีหลัง”
.
.
.
.