ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 945 ปฏิบัติการยามวิกาล
ตอนที่ 945 ปฏิบัติการยามวิกาล
ฮัตโตริชิฮิโระยังคงมีความหวาดระแวงและเต็มไปด้วยความกลัวเพราะตั้งแต่ที่เขาร่วมมือกับองค์กรอื่นๆเพื่อจัดการกับองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่านั้นฮัตโตริชิฮิโระก็รู้ดีว่าไม่ช้าก็เร็วเขี้ยวหมาป่าจะมาตอบโต้เขาอย่างแน่นอน แต่เขาไม่รู้ว่าเมื่อไร ดังนั้นเขาจึงระมัดระวังตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาและเขาก็ตกอยู่ในความหวาดกลัวอย่างสมบูรณ์แบบ
บางครั้งคนเรายิ่งอยู่สูงมาเท่าไรก็ยิ่งกลัวความตายมากขึ้นเท่านั้น แต่ก่อนฮัตโตริชิฮิโระอาจเสี่ยงชีวิตต่อสู้เพื่อความรุ่งโรจน์และกล้าหาญมากก็ตามแต่ตอนนี้เมื่อเขามีทุกอย่างแล้วเขาก็กลัวความตายอย่างมาก
ทุกครั้งที่เขาออกไปข้างนอกหรืออยู่ที่บ้านก็ตามฮัตโตริชิฮิโระก็จัดคนจำนวนมากเพื่อคุ้มกันตัวเอง อย่างไรก็ตามฮัตโตริชิฮิโระก็ชัดเจนเช่นกันว่านี่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาแต่มันเป็นวิธีป้องกันเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษเป็นเวลาสองชั่วโมงในทุกๆคืนและจงใจจัดคนมาคุ้มกันเขาเพียงแค่ 5 ถึง 6 คนเท่านั้นและจุดประสงค์ก็เหมือนที่เย่เชียนพูดเพราะนี่เป็นการล่อให้เขี้ยวหมาป่ารู้สึกว่านี่คือโอกาสในการกำจัดเขา จากนั้นเขาก็ใช้โอกาสนี้เพื่อกำจัดเย่เชียนแทนด้วยวิธีนี้เขาก็จะสามารถปลดหินในใจของเขาได้
ด้านนอกนั้นเย่เชียน,เฟิงหลาน,หลี่เหว่ย,ชิงเฟิงก็มาอยู่ที่รอบๆแล้วและเมื่อเห็นฮัตโตริชิฮิโระเดินเข้ามาเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ที่นี่อันตราย..เพราะเมื่อดูผิวเผินแล้วการป้องกันมันหละหลวมมาก..ดูเหมือนว่าฉันจะเดาไม่ผิดสินะ..ตาแก่นี่จงใจล่อให้เราเป็นเหยื่อจริงๆ”
“ในที่สุดผมก็ได้แก้แค้นสักที..ผมต้องฆ่ามันให้ได้ในวันนี้” ชิงเฟิงพูดอย่างโกรธเกรี้ยว
“อย่ากังวลไปเลย” เย่เชียนพูด “ก่อนอื่นเราต้องถามม่อหลงว่าเขาพร้อมแล้วหรือยัง..ฉันเชื่อว่าครั้งนี้มันไม่ง่ายเหมือนที่คิดอย่างแน่นอน..อีกอย่างเราก็ไม่รู้ว่าพวกของฮัตโตริชิฮิโระซ่อนอยู่กี่คน..พวกงั้นการเข้าไปอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าคือการเดินเข้าไปหาความตายอย่างไม่ต้องสงสัย..พวกนินจาอิงะฝีมือไม่ธรรมดาเพราะงั้นอย่าประมาทพวกมัน”
หลังจากพูดจบเย่เชียนก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและโทรหาม่อหลงเพื่อสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเขา เย่เชียนนั้นไม่ได้คาดหวังว่าจะมีสาวกของสำนักม่อจื๊อมากกว่า 20 คนอยู่ในเมืองโตเกียวแห่งนี้และพวกเขาก็ดำเนินการต่างๆเหมือนคนทั่วไปและไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าจริงๆแล้วพวกเขาเป็นสาวกของสำนักม่อจื๊อเลย
สาวกฝ่ายธรรมะของม่อจื๊อนั้นล้วนเป็นปรมาจารย์ยอดฝีมือกันทั้งนั้นแต่ในสงครามครั้งก่อนพวกเขาแค่ไม่ต้องการต่อสู้กับสาวกฝ่ายอธรรมเท่านั้นไม่เช่นนั้นสาวกฝ่ายอธรรมจะไม่สามารถชนะได้อย่างง่ายดายเช่นนั้นเลย อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังคงมีความรู้สึกผิดอยู่ในใจเพราะการที่พวกเขาหลีกเลี่ยงการต่อสู้จึงทำให้ครอบครัวตระกูลม่อที่เป็นผู้นำเสียชีวิตในการต่อสู้ครั้งนั้นกันหมดแต่ในฐานะสาวกแล้วพวกเขากลับไม่ได้แก้แค้น ถึงแม้ว่าม่อเฟิงปู่ของม่อหลงจะพูดเอาไว้อย่างชัดเจนว่าไม่ให้ล้างแค้นก็ตามแต่ในฐานะสาวกแล้วในใจของพวกเขาก็ยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดอยู่ดี
หลังจากถามถึงสถานการณ์แล้วเย่เชียนก็วางสายและหันไปมองที่ห้องโถงบรรพบุรุษ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการเคลื่อนไหวภายในและทุกอย่างดูเงียบงันและบรรยากาศก็แปลกประหลาดอย่างมาก เย่เชียนยกมือขึ้นและมองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือของเขาแล้วพูดว่า “ฝั่งของม่อหลงพร้อมแล้วเพราะงั้นเรามาเริ่มกันเลย..จากที่เห็นมีคนอยู่ข้างนอกห้าคนเพราะงั้นทุกคนรับหน้าที่จัดการคนละคน..ส่วนอีกสองคนเดี๋ยวฉันจัดการเอง!”
ขณะที่เสียงของเย่เชียนจบลงภายใต้ความมืดมิดในยามค่ำคืนพวกเขาทั้งสี่ก็พุ่งออกไปเมื่อพวกเขากำลังจะเข้าใกล้ศัตรู ทั้งสี่ก็ย่องเบาอย่างไม่มีเสียงใดๆทั้งสิ้น จากนั้นทั้งสี่พุ่งเข้าหาอีกฝ่ายจนอีกฝ่ายไม่มีเวลาตอบสนองใดๆแม้แต่น้อย พวกเขาทุกคนใช้มีดแทงเข้าไปที่หัวใจของอีกฝ่ายโดยตรงซึ่งการกระทำทั้งหมดรวดเร็วและแม่นยำอย่างมาก ถึงแม้ว่าองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจะไม่ใช่องค์กรนักฆ่าอย่างองค์กรเซเว่นคิลก็ตามแต่พวกเขาก็เรียนรู้และฝึกฝนวิธีการลอบสังหารนี้เมื่อฝึกปฏิบัติภารกิจเด็ดหัวอย่างสมบูรณ์แบบเช่นกัน
ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นการลอบสังหารที่สมบูรณ์แบบและอีกฝ่ายก็ไม่สามารถส่งเสียงได้เลยแม้แต่น้อย หลังจากที่ฆ่านินจาคนหนึ่งไปแล้วเขาก็กำลังจะพุ่งเข้าไปจัดการอีกคนที่เหลือแต่จู่ๆมีดบินจากระยะไกลก็พุ่งเข้ามาแทงเข้าไปในลำคอของนินจาคนนั้นและเป็นเวลาเดียวกันกับที่มีดของเย่เชียนกำลังจะออกจากหัวใจของอีกฝ่าย เมื่อเห็นมีดที่ปักอยู่ในลำคอของนินจาคนนั้นเย่เชียนก็แสยะยิ้มเพราะไม่จำเป็นต้องพูดอะไร ซึ่งนี่จะต้องเป็นฝีมือของอู๋หวนเฟิงอย่างแน่นอน
ในตอนนี้หลี่เหว่ยและชิงเฟิงก็ลากร่างของทั้งห้าคนไปไว้ด้านข้างและซ่อนเอาไว้ ถึงแม้ว่าฮัตโตริชิฮิโระอาจจะวางกับดักเอาไว้และมีอีกหลายคนซ่อนตัวอยู่ในความมืดที่กำลังรอพวกเขาอยู่ แต่ถ้าหากฮัตโตริชิฮิโระไม่ส่งสัญญาณให้พวกเขาออกมาล่ะก็พวกเขาก็จะไม่ออกมาไม่เช่นนั้นแผนทั้งหมดก็จะล้มเหลวไม่เป็นท่าใช่มั้ย?
จากนั้นเย่เชียนก็เดินเข้าไปในห้องโถงบรรพบุรุษและเปิดประตูอย่างรวดเร็วและเมื่อฮัตโตริชิฮิโระได้ยินเสียงเขาก็รีบหันกลับมาแล้วเห็นสมาชิกเขี้ยวหมาป่าแต่เขารู้จักแค่ชิงเฟิงเท่านั้น “เขี้ยวหมาป่างั้นเหรอ..ฉันรอพวกแกมานานแล้ว” ฮัตโตริชิฮิโระพูด
“ฉันรู้ว่าแกกำลังรอฉันอยู่..เพราะงั้นฉันก็เลยมาหาแก” เย่เชียนพูด
“อย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ..พวกหมาป่ามันตายยาก..แต่การที่พวกแกเคลื่อนไหวในเวลานี้มันเป็นสิ่งที่ฉันคาดไม่ถึงจริงๆ..แต่น่าเสียดายเพราะครั้งนี้พวกตัดสินใจพลาดแล้ว..ฉันรอคอยวันนี้มานานแล้ว!” ฮัตโตริชิฮิโระพูด “ช่างน่าเสียดายจริงๆที่วันนี้ฉันไม่ได้ฆ่าราชาหมาป่าเย่เชียนด้วยตัวเอง..มันคงขี้ขลาดไม่กล้ามาด้วยตัวเองสินะ”
เย่เชียนก็แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้นำตระกูลฮัตโตริผู้สูงศักดิ์แต่ความจำสั้นไปหน่อยนะ..ราชาหมาป่าผู้นั้นก็ยืนอยู่ตรงหน้าแกนี่ไงทำไมแกถึงไม่จำบ้างล่ะ”
ฮัตโตริชิฮิโระก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและมองไปที่เย่เชียนด้วยความประหลาดใจ อันที่จริงสีหน้าของเย่เชียนในตอนนี้ก็มีความคล้ายคลึงอยู่บ้างสำหรับฮัตโตริชิฮิโระ ดังนั้นหลังจากมึนงงอยู่ครู่หนึ่งฮัตโตริชิฮิโระก็หัวเราะและพูดว่า “ฮ่าๆ..อย่างที่คิดจริงๆราชาหมาป่าช่างมีเล่ห์เหลี่ยมเหมือนพวกหมาป่าจริงๆ..ดีเลยแบบนี้เพราะฉันจะได้ฆ่าแกด้วยตัวเอง”
“ผู้อาวุโสฮัตโตริดูมั่นใจมากเลยนะ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ “ในสายตาของปรมาจารย์ฮัตโตริแล้วเห็นฉันเป็นคนโง่อย่างนั้นเหรอ?..ฉันคงไม่โง่มาให้แกฆ่าง่ายๆหรอกเพราะตั้งแต่ฉันกล้ามาที่นี่ฉันก็เตรียมตัวมาอย่างดี..ฉันเหมือนคนโง่ที่วิ่งเข้ามาในศึกที่ไม่มีวันชนะงั้นเหรอ?”
ฮัตโตริชิฮิโระตัวสั่นโดยไม่ตั้งใจและถอยกลับไปอย่างช้าๆ บนแท่นบูชานั้นมีเครื่องส่งสัญญาณอยู่และตราบใดที่เขากดปุ่มคนข้างนอกก็จะรู้ว่าข้างในมีอันตราย แน่นอนว่าเย่เชียนสังเกตเห็นการกระทำนี้ได้โดยธรรมชาติแต่เขาไม่ได้หยุดมันแต่กลับยิ้มอย่างชั่วร้ายเพราะเขากำลังรอช่วงเวลานี้อยู่ ซึ่งตราบใดที่ฮัตโตริชิฮิโระกดปุ่มแล้วคนที่ซ่อนอยู่ในความมืดก็จะออกมาแน่นอนจากนั้นสาวกของม่อหลงที่รออยู่ข้างนอกก็จะสามารถตรวจพบคนเหล่านั้นได้ในที่สุด
ด้วยเสียง “บี๊บ” ฮัตโตริชิฮิโระกดปุ่มและในทันใดนั้นนินจาแปดคนก็ออกจากมุมมืดๆของห้องโถงบรรพบุรุษและมายืนอยู่ข้างหน้าฮัตโตริชิฮิโระ ซึ่งข้างนอกก็มีเสียงวิ่งหลายเสียงและคาดว่าพวกที่ซ่อนตัวอยู่นอกห้องโถงบรรพบุรุษกำลังมาที่นี่และในไม่ช้าเย่เชียนก็ได้ยินเสียงการต่อสู้และเสียงกรีดร้องจากภายนอก ซึ่งเขาเชื่อว่าม่อหลงและสาวกของเขาได้จัดการกับศัตรูอยู่
เมื่อได้ยินเสียงดังกล่าวฮัตโตริชิฮิโระก็ยิ่งประหม่ามากขึ้นและเห็นได้ชัดว่าการแสดงออกของเขาดูหวาดกลัวอย่างมาก เมื่อเห็นเช่นนั้นเย่เชียนก็แสยะยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้อาวุโสฮัตโตริ..แกมีอะไรอยากจะพูดอีกมั้ย?”
“ฉันไม่มีอะไรจะพูด” ฮัตโตริชิฮิโระพูดต่อ “ฉันเข้าใจว่าจะสื่อถึงอะไร..ถ้าแกอยากถามฉันเรื่องนั้นล่ะก็แกไม่จำเป็นต้องถามเพราะคราวที่แล้วที่แกช่วยฉันจัดการเรื่องภายในของตระกูลนินจานั่นก็เพราะว่าแกหวังผลประโยชน์..แกคงจะรู้อยู่แก่ใจ”
“ถูกต้อง” เย่เชียนพยักหน้าและพูดว่า “ฉันไม่ได้ช่วยแกฟรีๆหรอก..แต่ในฐานะผู้ชายและผู้นำอันทรงเกียรติแล้วคำสัญญาถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด..เพราะงั้นครั้งนี้ฉันไม่ได้มาเพื่อถามแกเพราะถึงยังไงแกก็ต้องชดใช้ในสิ่งที่พวกแกทำลงไป..เลือดต้องชำระด้วยเลือดเท่านั้น”
“ฉันเองก็ถูกบังคับเหมือนกัน..ฉันเป็นชาวญี่ปุ่นและไม่สามารถทรยศต่อประเทศชาติของฉันได้” ฮัตโตริชิฮิโระพูด “ถ้าฉันไม่ตกลงร่วมมือล่ะก็สำนักนินจาอิงะจะต้องตกเป็นเป้าขององค์กรใหญ่ๆอย่างแน่นอน..ฉันจะตั้งหลักในประเทศเกาะในอนาคตได้อย่างไร”
“เพราะงั้นฉันถึงไม่โทษแกไง..ทุกคนล้วนมีทางเลือกเป็นของตัวเองและมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน” เย่เชียนพูด “แต่ในเมื่อแกฆ่าพี่น้องของฉันเพราะงั้นแกก็ต้องชดใช้..แกจะต้องตายในวันนี้!”
“ใช่!..มันจะต้องมีแค่ฝ่ายเดียวเท่านั้นที่จะเดินออกไปอย่างมีชีวิตได้..แต่คนที่จะมีชีวิตอยู่ต้องเป็นฉันเท่านั้น..อย่าลืมว่าที่นี่คือประเทศญี่ปุ่นและมันไม่ใช่อาณาเขตของแก” ฮัตโตริชิฮิโระพูดอย่างโกรธเกรี้ยวและโบกมือขึ้นพร้อมกับพูดว่า “ฆ่าพวกมันให้หมด..เดี๋ยวฉันจะให้รางวัลพวกแกอย่างงาม!”
ด้วยคำสั่งของฮัตโตริชิฮิโระนั้นนินจาทั้งแปดคนก็พุ่งเข้าหาเย่เชียนจากนั้นคนอื่นๆเริ่มต่อสู้กับเหล่านินจา แต่ในสถานการณ์แบบสองต่อหนึ่งนั้นฮัตโตริชิฮิโระก็คิดว่าเขากำลังได้เปรียบอยู่มาก
ชิงเฟิงนั้นเต็มไปด้วยความโกรธมานานแล้วเพราะเหตุการณ์สุดท้ายทำให้เขาเสียหน้าและเสียใจต่อพี่น้องหน่วยกรงเล็บหมาป่าอย่างมาก ดังนั้นในใจของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธเคืองและตอนนี้ในที่สุดเขาก็มีโอกาสได้แก้แค้นแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่คิดที่จะหย่อนหยานเลยแม้แต่น้อยและตัดสินใจพุ่งออกไปก่อน เห็นได้ชัดว่าการโจมตีของชิงเฟิงนั้นไม่เป็นรูปแบบใดๆแต่เป็นการโจมตีที่บ้าคลั่งอย่างสมบูรณ์ราวกับว่าเขาต้องการระบายความโกรธที่กักขังอยู่ในใจของเขา
“พวกนินจาหายไปจากโลกนี้ซะ!” หลี่เหว่ยตะโกนแล้วใช้มีดในมือแทงเข้าไปที่หน้าอกของศัตรูอย่างแม่นยำ