ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 944 ผลประโยชน์
ตอนที่ 944 ผลประโยชน์
สำหรับฮัตโตริชิฮิโระนั้นเย่เชียนไม่เคยตำหนิเขาดังนั้นเย่เชียนจึงช่วยเขาจากเหล่าตระกูลนินจาที่ฆ่าล้างกันเอง แต่ครั้งนี้ฮัตโตริชิฮิโระได้เข้าร่วมในการกวาดล้างเขี้ยวหมาป่าซึ่งทำให้เย่เชียนไม่สามารถอดทนได้ ไม่ว่าในกรณีใดฮัตโตริชิฮิโระก็ละเมิดคำสัญญาของเขาในฐานะลูกผู้ชายและผู้นำที่รักษาสัญญาของตัวเองเอาไว้ไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงไม่คู่ควรแก่การเคารพเลย
แก๊งยามากูจิ,แก๊งอินาดะและแก๊งโยชิคาว่าภายใต้สมาคมมังกรดำและยังมีองค์กรชาโด้ซากุระอีกซึ่งมีกำลังมหาศาลและมีสมาชิกจำนวนไม่น้อยกว่าสองสามแสนคนอย่างแน่นอน เย่เชียนรู้ดีว่าเขาไม่มีโอกาสล้างแค้นและทำลายทั้งหมดได้ อย่างไรก็ตามจุดประสงค์ของการมาประเทศญี่ปุ่นในครั้งนี้คือการล้างแค้นให้กับพี่น้องเขี้ยวหมาป่าดังนั้นอย่างน้อยๆก็เพื่อให้ศัตรูได้รู้ว่าการมาคุกคามเขี้ยวหมาป่านั้นผลที่ตามมาจะร้ายแรงมากแค่ไหนและแน่นอนว่าวิธีการทำลายองค์กรเหล่านี้ยังคงเป็นกระบวนการที่ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน
เมื่อเห็นชิงเฟิงแล้วหลี่เหว่ยก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “นายกล้ามาที่ญี่ปุ่นอีกได้ยังไง..นายไม่กลัวบ้างเหรอ..ฉันละอายใจกับนายจริงๆ”
ชิงเฟิงกลอกตาไปมาและครั้งนี้เขาไม่ได้โต้เถียงกับหลี่เหว่ยเหมือนก่อนเพราะครั้งนี้เขาล้มเหลวในหน้าที่จริงๆและเขาก็ล้มเหลวอย่างน่าสังเวชอีกด้วย ดังนั้นไม่ว่าหลี่เหว่ยจะพูดอะไรเขาก็ทำได้เพียงแค่อดทนเท่านั้น “เอาหน่าฉันล้อเล่นเพราะงั้นอย่าเสียใจไปเลย..เรามาที่นี่เพื่อล้างแค้นให้นายนะ..เดี๋ยวฉันจะแก้แค้นให้พวกนั้นให้นายเอง” หลี่เหว่ยพูดอย่างแน่วแน่
“ขอบใจนายมาก” ชิงเฟิงกลอกตาไปมาและพูด
หลี่เหว่ยนั้นไม่สนใจว่าน้ำเสียงของชิงเฟิงจะมีความขุ่นเคืองหรือไม่ก็ตามแต่เขาก็เอื้อมมือไปกอดชิงเฟิงแล้วหลี่เหว่ยก็พูดว่า “คำว่าขอบคุณไม่ได้มีเอาไว้สำหรับพี่น้องอย่างเรา..เรื่องของนายก็เป็นเรื่องของฉันด้วย..เพราะงั้นนายไม่ต้องกังวลไปเพราะฉันกับพี่น้องจะช่วยนายเอง”
เฟิงหลานก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับน้องชายสองคนนี้แต่เขาก็รู้ดีเช่นกันว่าหลี่เหว่ยไม่ได้ตั้งใจที่จะล้อเลียนชิงเฟิงเพราะสองคนนี้แค่หยอกล้อกันตามปกติ ยิ่งไปกว่านั้นหลี่เหว่ยกับชิงเฟิงก็เป็นเพื่อนสนิทกันเพราะงั้นหลี่เหว่ยจะไม่หัวเราะเยาะความล้มเหลวของชิงเฟิงอย่างแน่นอนแต่สิ่งที่เขาพูดนั้นก็แค่อยากให้ชิงเฟิงผ่อนคลายและการพูดว่าเขาจะช่วยล้างแค้นให้ชิงเฟิงนั้นหลี่เหว่ยไม่ได้เสแสร้งพูดแต่อย่างใด
เมื่อเข้าไปในห้องเขาก็นั่งลงตรงข้ามกับเย่เชียนและเย่เชียนก็ยื่นบุหรี่ให้แต่ละคนและถามว่า “เป็นยังไงบ้าง?”
“เราสืบหามาแล้วว่าหลังจากฮัตโตริชิฮิโระเข้าควบคุมสำนักนินจาอิงะแล้วพวกมันก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและตอนนี้การป้องกันภายในสำนักก็เข้มงวดมาก..หลี่เหว่ยกับฉันตรวจสอบแล้วว่าพวกมันมีสมาชิกอย่างน้อยๆห้าสิบคนคอยป้องกันและเฝ้าระวังรอบๆสำนัก” เฟิงหลานพูด
“คงจะเป็นว่าเด็กคนนี้รู้ว่าฟันหมาป่าของเราจะแก้แค้นเขา ดังนั้นเขาจึงกลัวเล็กน้อย” หลี่เว่ยกล่าว
เย่เฉียนขมวดคิ้ว เคาะนิ้วแล้วพูดว่า “ไปเถอะ”
“ฉันกับหลี่เหว่ยคิดว่าฮัตโตริชิฮิโระต้องรู้ว่าเขี้ยวหมาป่าของเราจะมาหาเขาเพื่อแก้แค้นอย่างแน่นอนดังนั้นการป้องกันที่สำนักอิงะถึงได้เข้มงวดอย่างมาก..ทุกๆครั้งที่เขาออกไปข้างนอกก็มีลูกน้องติดตามมากมายและเขาก็เพราะงั้นต้องมีส่วนร่วมในการกวาดล้างครั้งก่อนอย่างแน่นอนเพราะในบรรดาองค์กรทั้งหมดในญี่ปุ่นฮัตโตริชิฮิโระในฐานะสำนักนินจาอิงะได้ติดต่อกับเรามากที่สุด..เพราะงั้นเขาต้องกลัวผลกระทบเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดดังนั้นเขาจึงสั่งคนมาคุ้มกันอย่างแน่นหนา” เฟงหลานพูด
“ไม่มีทางเข้าใกล้เขาเลยงั้นเหรอ?” เย่เชียนถาม
“ใช่!..ทุกๆคืนฮัตโตริชิฮิโระจะไปอยู่ในห้องโถงที่มีคนคุ้มกันทุกด้านประมาณสองชั่วโมง..จากการสืบค้นของเรามันเป็นหนึ่งในสถานที่ของตระกูลฮัตโตริเอาไว้บูชาวิญญาณของบรรพบุรุษ” เฟิงหลานพูดต่อ “ถ้าเราต้องการทำอะไรล่ะก็เวลานี้จะเป็นเวลาที่ดีที่สุด”
คิ้วของเย่เชียนก็ขมวดเข้าหากันแน่นราวกับว่ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาคิดไม่ออก ซึ่งหลังจากเงียบไปครู่หนึ่งเย่เชียนก็ถามว่า “เมื่อไหร่ที่ฮัตโตริชิฮิโระเริ่มมีพฤติกรรมแปลกๆแบบนี้..เขาไปทำอะไรในห้องโถงบรรพบุรุษกันแน่?”
“การป้องกันของห้องโถงบรรพบุรุษนั้นค่อนข้างเข้มงวดและแน่นหน้า..เมื่อคืนพวกเราเองยังไม่กล้าเข้าใกล้เลย..เราทำได้แค่มองจากระยะไกล..แต่จากข้อมูลที่ได้มาหลังจากที่พวกสมาคมมังกรดำเริ่มกวาดล้างพวกเราในญี่ปุ่นแล้วฮัตโตริชิฮิโระก็ทำแบบนี้ตั้งแต่นั้นมา..ฉันได้ยินมาว่าเขาไปที่ห้องโถงบรรพบุรุษทุกคืนเพื่อไปหาลูกชายของเขาเพราะในระหว่างการสู้รบครั้งสุดท้ายในสำนักนินจาอิงะลูกชายของเขาเสียชีวิตในครั้งนั้นและเขารู้สึกเสียใจเขาจึงไปหาลูกชายของเขาทุกๆคืน” เฟิงหลานพูด
“ฉันคิดว่านั่นคงจะไม่ใช่ความจริง” เย่เชียนพูดอย่างช้าๆ “จากเหตุการณ์ที่แล้วฮัตโตริชิฮิโระนั้นเป็นคนทะเยอทะยานมากและยิ่งไปกว่านั้นเหตุการณ์ที่แล้วก็ไม่ใช่ความผิดของเขาเพราะงั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดที่ลูกชายของเขาเสียชีวิตเลย..สำหรับตระกูลนินจาแล้วผมรู้มาว่าการตายในสงครามเป็นสิ่งที่มีเกียรติที่สุดเพราะงั้นผมจึงไม่คิดว่าฮัตโตริชิฮิโระจะเข้าไปในห้องโถงบรรพบุรุษเพื่อแสดงความเสียใจต่อลูกชายของเขาอย่างแน่นอน”
เฟิงหลานและหลี่เหว่ยก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่ว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไรแต่ตอนนี้ที่เราพบตัวเขาแล้วเพราะงั้นเวลาดังกล่าวเป็นเวลาที่ดีที่สุดเพราะงั้นคืนนี้เราเริ่มลงมือกันเถอะ” หลี่เหว่ยพูด
เย่เชียนก็จ้องไปที่หลี่เหว่ยและไม่พูดอะไร “บอสพูดถูกแล้ว..ฉันเองก็ศึกษาวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นมาเหมือนกันโดยเฉพาะพวกนินจา..ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ฮัตโตริชิฮิโระจะทำอย่างนั้น” ชิงเฟิงเห็นด้วย “เพราะงั้นเราควรจะสืบหาว่าจุดประสงค์ที่ฮัตโตริชิฮิโระทำแบบนั้นคืออะไรแล้วทำไมเขาถึงไปที่ห้องบรรพบุรุษเพื่อสักการะทุกคืน?”
“มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือฮัตโตริชิฮิโระกำลังแสดงละครอยู่..แต่ฉันไม่รู้ว่าเขาพยายามหลอกล่อเราโดยเจตนาหรืออย่างอื่นกันแน่” เย่เชียนพูด “ถ้าการเดาของเฟิงหลานเป็นจริงฮัตโตริชิฮิโระก็กลัวการแก้แค้นของเขี้ยวหมาป่าของเราจริงๆ..แต่พฤติกรรมของฮัตโตริชิฮิโระในครั้งนี้นั้นคือการหลอกล่อพวกเราให้กลายเป็นเหยื่อหรือเปล่านั้นเราต้องรู้ให้ได้ก่อน”
“ถ้างั้นเราก็ต้องมาสวมบทนักสืบกันสินะ?” หลี่เหว่ยพูดด้วยความประหลาดใจ
“ใช่!..นายเองก็พูดว่าฮัตโตริชิฮิโระทำตัวแบบนี้ตั้งแต่พันธมิตรญี่ปุ่นเริ่มกวาดล้างพวกเราใช่มั้ย?..เพราะงั้นถ้าเขารู้สึกผิดกับลูกชายของเขาจริงๆเขาก็ควรจะอยู่เฉยๆและไม่เคลื่อนไหวหรือร่วมมือกับฝ่ายไหนสิ..แต่หลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบสิ้นสุดลงเขากลับทำแบบนี้เพราะงั้นมันเป็นไปได้สูงมากที่เขาจะกำลังซ่อนความลับอื่นๆเอาไว้หรือพยายามหลอกล่อเราให้ตกเป็นเหยื่อนั่นเอง” เย่เชียนพูด
“แก่ขนาดนี้ยังมีเล่ห์เหลี่ยมอยู่อีก..ดูเหมือนว่าตาแก่นั่นตั้งใจที่จะต่อสู้กับเราจริงๆ..แล้วเราควรทำยังไงดีครัลบอส?” หลี่เหว่ยถาม
“เราต้องวางแผน” เย่เชียนพูด “ตอนนี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะเคลื่อนไหวเพราะพวกนั้นเพิ่งจะกวาดล้างหน่วยกรงเล็บหมาป่าไปเพราะงั้นพวกมันคงไม่คิดว่าเราจะเคลื่อนไหวเร็วๆนี้อย่างแน่นอน..ดังนั้นการป้องกันของพวกมันไม่เข้มงวดและมีช่องโหว่อย่างแน่นอน..แต่เราจะประมาทไม่ได้เด็ดขาดเรายังต้องระวังให้ดี!”
จากนั้นเย่เชียนก็ยกข้อมือขึ้นและมองดูเวลาบนนาฬิกาแล้วพูดว่า “ตอนนี้ก็เกือบหกโมงเย็นแล้วเพราะงั้นทุกคนไปเตรียมตัวให้พร้อม..เราจะลงมือกันคืนนี้เลย..พี่ม่อหลงพี่ทำหน้าที่สนับสนุนจากระยะไกล..ส่วนพี่เฟิงหลาน,หลี่เหว่ย,ชิงเฟิงและผมจะแทรกซึมเข้าไป..ส่วนหวนเฟิงนายคอยเฝ้าระวังรอบนอกเอาไว้..ซึ่งถ้ามันเป็นไปตามที่ผมคาดเอาไว้จริงๆล่ะก็ฮัตโตริชิฮิโระจะมีหมากตัวสำคัญที่จะแสดงให้พวกเราเห็นอย่างแน่นอน”
ทุกคนตอบรับและแยกย้ายกันไปเพื่อเตรียมตัวไป ซึ่งคืนนี้มันจะเป็นการเคลื่อนไหวครั้งแรกและมันจะเป็นการปลุกระดมของทุกๆองค์กรในญี่ปุ่นอย่างแน่นอน
คราวนี้องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าไม่ค่อยมีสมาชิกมากนักเพราะเย่เชียนกลัวว่าถ้ามีคนมากเกินไปจะทำให้เกิดปัญหาโดยไม่จำเป็นและถ้าเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มใหญ่เกินไปก็จะถูกเปิดเผยและตรวจจับได้ง่าย ดังนั้นคราวนี้สิ่งสำคัญคือต้องพึ่งพากองกำลังอื่นอย่างกองกำลังของคลูลอฟส์อังเดรและไอซอลเดแฮมป์ตันที่กำลังทยอยแทรกซึมเข้ามายังประเทศญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามเย่เชียนไม่ได้มอบหมายพวกเขาเข้ามายังเมืองหลวงโตเกียวแต่ให้แทรกซึมเข้าไปในเมืองอื่นๆทั่วประเทศญี่ปุ่นเพื่อทำลายทุกๆองค์กรอย่างทั่วถึง ส่วนที่เมืองหลวงนั้นจะเป็นหน้าที่ของสาวกสำนักม่อจื๊อของม่อหลงนั่นเองเพราะพวกเขาล้วนแต่เป็นกลุ่มปรมาจารย์ที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่นมาช้านานและทุกคนล้วนเป็นยอดฝีมือกันทั้งนั้น เนื่องจากพวกเขาทั้งหมดต่างรับทราบถึงตัวตนของม่อหลงแล้วจึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดถ้าให้ม่อหลงเป็นคนสั่งการพวกเขาแทนในส่วนนั้น
ค่ำคืนแห่งความมืดมิดท่ามกลางฤดูหนาวกำลังจะเริ่มต้นในไม่ช้า
ด้านนอกของเขตบ้านตระกูลฮัตโตริ 10 กิโลเมตรมีห้องโถงบรรพบุรุษและที่นี่เป็นที่ที่ตระกูลฮัตโตริมาสักการะบรรพบุรุษของพวกเขา ซึ่งในค่ำคืนอันเงียบสงบนี้ดูมืดมนเป็นพิเศษโดยฮัตโตริชิฮิโระมาที่นี่พร้อมกับลูกน้องของเขามากมายและเมื่อมาถึงด้านนอกห้องโถงบรรพบุรุษฮัตโตริชิฮิโระก็เดินเข้ามาเพียงคนเดียว ซึ่งประตูก็ถูกปิดอย่างแน่นหนาและลูกน้องยอดฝีมือก็เฝ้าประตูด้วยท่าทางเคร่งขรึมและระมัดระวังอย่างมาก
จิตใจของฮัตโตริชิฮิโระนั้นไม่ค่อยสงบมากนักเพราะครั้งสุดท้ายที่สำนักนินจาอิงะเปิดศึกล้างบ้างกันเขาก็ได้เห็นความสามารถของเย่เชียนด้วยตาของเขาเองแล้ว หากไม่ได้ถูกบังคับเขาก็ไม่คิดที่จะเลือกเป็นศัตรูขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามสำนักนินจาอิงะเป็นเพียงองค์กรที่ให้การสนับสนุนเท่านั้นและเนื่องจากผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดได้ออกคำสั่งมาแล้วเขาก็ทำได้เพียงเชื่อฟังเท่านั้นและยิ่งไปกว่านั้นพลังของสำนักนินจาอิงะในตอนนี้ก็ลดลงอย่างมากและไม่มีทางที่จะต่อสู้กับพันธมิตรขององค์กรทั้งหมดได้เลยดังนั้นเพื่ออนาคตของสำนักนินจาอิงะเขาจึงต้องจำใจเข้าร่วมการกวาดล้างหน่วยกรงเล็บเขี้ยวหมาป่าอย่างหมดหนทาง
อย่างไรก็ตามในใจของฮัตโตริชิฮิโระก็ยังคงเต็มไปด้วยความไม่สบายใจและความหวาดระแวงเพราะเขารู้ดีว่าไม่ช้าก็เร็วองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจะมาล้างแค้นเขาอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงต้องระมัดระวังทุกวันทุกเวลาเมื่อเขาออกไปข้างนอกเพราะฮัตโตริชิฮิโระก็ชัดเจนว่าสถานการณ์ที่สงบเช่นนี้เป็นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น แน่นอนว่าการทำเช่นนี้มันจะทำให้สำนักนินจาอิงะวุ่นวายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และอาจจะเกิดการขัดแย้งภายในได้ทุกเมื่อ ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ผลลัพธ์สุดท้ายก็เหมือนกันและนั่นคือสำนักนินจาอิงะและตระกูลนินจาจะอ่อนแอลงและในที่สุดก็ถูกกำจัดโดยองค์กรอื่นๆ ซึ่งฮัตโตริชิฮิโระไม่ต้องการเห็นผลลัพธ์เช่นนั้นเลย
.
.