ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 846 ชายชาติทหารและความรักชาติ
ตอนที่ 846 ชายชาติทหารและความรักชาติ
ถึงแม้ว่าซือจื้อจะไม่เคยพบเจอหม่าเต๋อหงก็ตามแต่เมื่อมองดูสถานการณ์ตรงหน้าแล้วเธอก็รู้ว่าเขาจะต้องเป็นคนใหญ่คนโตที่มีอิทธิพลอย่างมาก แต่เนื่องจากหม่าเต๋อหงสวมชุดปกปิดเอาไว้จึงทำให้ซือจื้อไม่สามารถบอกได้ว่าตัวตนของเขาคืออะไรแต่โดยธรรมชาติแล้วเขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาที่จะสามารถเรียกทหารอาวุธครบมือจำนวนมากท่ามกลางเมืองหลวงแห่งนี้ได้ ยิ่งไปกว่านั้นชางกวนหยานยู่ยังไม่สามารถที่จะเผชิญหน้ากับเขาได้เลยแม้แต่น้อยซึ่งเพียงพอที่จะพิสูจน์ทุกสิ่งแล้ว
เห็นได้ชัดว่าเย่เชียนไม่ใช่คนธรรมดาเช่นกันที่จะมีความสัมพันธ์แบบนี้กับบุคคลระดับนี้ แต่การที่เย่เชียนเป็นแค่ผู้จัดการสาขาในเมืองปักกิ่งนั้นสถานะของเขาก็ดูน้อยไปหน่อยไม่เหมาะสมกับสิ่งเหล่านี้ ซึ่งมันทำให้ซือจื้อสนใจเย่เชียนมากขึ้นเรื่อยๆและรู้สึกว่านั้นลึกลับเกินไปจนน่าค้นหา
หม่าห่าวยู่ก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “พี่ชาย..พี่เหมาะสมที่จะเป็นพี่ชายของผมจริงๆ”
เย่เชียนยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และไม่ได้ตอบ ซึ่งพ่อของเขาเป็นลูกบุญธรรมของหม่าเต๋อหงและในแง่ของลำดับครอบครัวแล้วเขามีศักดิ์เป็นพี่ชายของหม่าห่าวยู่จริงๆ
หม่าเต๋อหงก็ก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวแล้วมองเย่เชียนจากหัวจรดเท้าแล้วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและพูดว่า “ตามที่คาดเอาไว้ไม่มีผิดลูกชายของเจิ้งหรานช่างเหมือนพ่อจริงๆ..ฉันต้องขอโทษเกี่ยวกับเรื่องก่อนหน้านี้ด้วย..มากับฉันหน่อยเรากลับไปนั่งคุยกันดีๆเถอะ”
แม้ว่าเย่เชียนจะไม่แสดงความเคารพต่อหม่าเต๋อหงมากนักเนื่องจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เย่เชียนจึงไม่สบอารมณ์อย่างมาก “รอสักครู่เดี๋ยวผมขอจัดการเรื่องส่วนตัวก่อน” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็ดึงมือซือจื้อเดินออกไปและยิ้มอย่างขอโทษแล้วพูดว่า “ผมขอโทษจริงๆ..ดูเหมือนว่าวันนี้โชคชะตาจะทำให้ผมไม่ได้ดื่มกับคุณ”
“ฉันไม่หนีไปไหนหรอก” ซือจื้อยิ้มอย่างมีเสน่ห์และพูด
มุมปากของเย่เชียนก็กระตุกเล็กน้อยและพูดว่า “ไม่มีอะไรที่ผมอยากได้แล้วไม่ได้..คุณไม่สามารถหนีไปจากผมได้หรอก..แล้วเจอกัน” หลังจากพูดเย่เชียนก็ก้าวไปข้างหน้าสองก้าวและสวมกอดซือจื้อพร้อมกับหอมแก้มเธอเบาๆ ซึ่งซือจื้อไม่ได้ขัดขืนเลยและดูเหมือนว่าเธอจะชอบเขาแล้วด้วยจนเย่เชียนอดหัวเราะในใจไม่ได้และคิดว่าเขาทำสำเร็จแล้ว
เขาไม่สนใจว่าซือจื้อจะรู้สึกอย่างไรกับเขาเพราะเขาไม่ได้มีความรู้สึกใดๆต่อซือจื้อเลยแม้แต่น้อยและผู้หญิงประเภทนี้ก็ไม่อาจดึงดูดความสนใจจากเย่เชียนได้ ซึ่งซือจื้อเป็นเพียงกุญแจสำคัญสำหรับการกำจัดชางกวนเจ้อเท่านั้นเพราะถ้าหากต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับชางกวนเจ้อนั้นก็ต้องใช้เธอ
จากนั้นเย่เชียนก็หันกลับเกินไปหาหม่าเต๋อหงแล้วพูดว่า “ไปกันเถอะ”
หม่าห่าวยู่ก็ดึงเย่เชียนขึ้นรถไปโดยไม่รอให้หม่าเต๋อหงพูดและในไม่นานนักรถและเหล่าทหารติดอาวุธก็หายไปจากทางเข้าผับบาร์ เมื่อมองรถหลายคันที่จากไปซือจื้อก็ค่อยๆยิ้มออกมาและแน่นอนว่าตามสถานการณ์ปัจจุบันนั้นเธอคิดว่าเย่เชียนแข็งแกร่งกว่าชางกวนเจ้อมากและเสน่ห์ของเย่เชียนก็มากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยจนซือจื้อเริ่มสนใจเขามากขึ้นเรื่อยๆ
“เสี่ยวเชียน..ให้ฉันเรียกเอ็งแบบนั้นได้มั้ย” หม่าเต๋อหงนั่งอยู่ตรงหน้าของเย่เชียนในห้องนั่งเล่นของบ้านตระกูลหม่าและพูดว่า “อย่าโกรธกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เลย..ฉันแค่ไม่รู้ว่าเอ็งเป็นลูกของเจิ้งหราน..นอกจากนี้ในเมื่อเอ็งรู้ว่าฉันเป็นพ่อบุญธรรมแล้วทำไมเอ็งถึงไม่บอกฉันล่ะ?”
“อย่าพูดถึงความสัมพันธ์ของเราเลย..ผมขอถามอะไรคุณอย่างหนึ่งสิ” เย่เชียนพูด
“ถามมา” หม่าเต๋อหงพูด
“ในสายตาของคุณแล้วทหารรับจ้างคืออะไร” เย่เชียนถาม
“ปฏิเสธไม่ได้ว่าประสิทธิภาพการต่อสู้ขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าของเอ็งนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ..นอกจากนี้สิ่งนี้ก็ถูกบันทึกเอาไว้เป็นประวัติศาสตร์สงครามและเหตุการณ์สำคัญของโลก..ตัวอย่างเช่นในสงครามระหว่างสหภาพยุโรปกับโซเวียตนั้นมีการใช้ทหารรับจ้างจำนวนมากและประสิทธิภาพการต่อสู้ของพวกเขาแข็งแกร่งมาก..แน่นอนว่าทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าที่ถูกขนานนามว่าราชาแห่งโลกทหารรับจ้างนั้นไม่ได้มีแค่ชื่ออย่างแน่นอน” หม่าเต๋อหงพูด “ยังไงก็เถอะทหารรับจ้างมักจะเป็นเพียงองค์กรที่ทำสิ่งต่างๆเพื่อเงินโดยไม่มีความรักชาติและไม่คู่ควรกับการเรียกว่าทหารจริงๆ”
“ผมจะไม่พูดถึงองค์กรทหารรับจ้างอื่นๆแต่ผมมั่นใจว่าสมาชิกของเขี้ยวหมาป่าทุกคนเป็นชายชาติทหารที่แท้จริง” เย่เชียนพูด “แน่นอนเราไปทำสงครามเพื่อเงินแต่นี่มันก็เป็นการหาเลี้ยงชีพด้วยเพราะไม่มีใครเลี้ยงเราเพราะงั้นเราจึงต้องเลี้ยงตัวเอง..ยังไงก็เถอะเราไม่ได้ทำเพื่อเงินอย่างเดียวแต่เราทำด้วยศรัทธา..ดูองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าของผมเป็นตัวอย่างเพราะหลายปีมานี้เขี้ยวหมาป่าปฏิบัติการประจำที่ทวีปตะวันออกกลางและในสายตาคุณมันอาจเป็นภารกิจของคนสิ้นหวังแต่ในสายตาของประชาชนและรัฐบาลของตะวันออกกลางล่ะ?..นั่นคือกอบกู้..ดังนั้นในโลกนี้จึงไม่มีอะไรแน่นอนและในประวัติศาสตร์ก็มีสงครามมากมายและมันก็ขึ้นอยู่กับผลงานที่จะตัดสินผลลัพธ์และคุณก็ปฏิเสธสิ่งนี้ไม่ได้ใช่มั้ย?..ยิ่งไปกว่านั้นเหล่าทหารรับจ้างมีความสามารถในการต่อสู้ที่เหนียวแน่เป็นทีมและครอบครัวมากเพราะพวกเขามีเป้าหมายเดียวกันคือสู้เพื่อความอยู่รอด..ซึ่งถ้าคุณต้องการที่จะอยู่รอดคุณก็ต้องชนะเท่านั้น”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “บางทีคุณอาจคิดว่าผมไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้รับยศจอมพลแต่สำหรับผมแล้วสิ่งนี้ไม่สำคัญเลยเพราะผมขอเพียงแค่ได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรม..อย่าเป็นศัตรูกับผมเพราะตัวตนที่แท้จริงของผม..หลายปีที่ผ่านมาทำไมองค์กรทหารรับจ้างทั่วโลกถึงไม่กล้ามาทำภารกิจที่ประเทศจีนกัน?..คุณคิดว่าเป็นเพราะกองทัพแห่งชาติขัดขวางพวกเขาเอาไว้งั้นเหรอ..มันไม่ใช่ทั้งหมดเป็นเพราะองค์กรเขี้ยวหมาป่าของผม..แน่นอนว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องนี้..ดังนั้นเขาจึงเข้าใจว่าถ้าองค์กรเขี้ยวหมาป่าของเราถูกทำลายมันจะไม่เป็นผลดีสำหรับประเทศจีนและตราบใดที่ยังมีเขี้ยวหมาป่าอยู่องค์กรทหารรับจ้างทั่วทั้งโลกก็จะไม่กล้ารุกรานประเทศจีน..แบบนี้ยังมันยังไม่ดีไปกว่าพวกทหารที่พูดเรื่องความรักชาติอยู่ทั้งวันอีกเหรอ”
เขาหยิบบุหรี่ออกจากเสื้อแล้วจุดไฟจากนั้นเย่เชียนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “ผมเชื่อว่าคุณควรรู้เรื่องเหตุการณ์บนเกาะไต้หวันดี..พวกคุณเป็นทหารจริงๆแต่มัวทำอะไร?..ผมไม่รู้ว่าเหตุผลของคุณจะคืออะไรแต่ในฐานะทหารแล้วหน้าที่สูงสุดของพวกคุณคือปกป้องประชาชนและประเทศชาติแต่พวกคุณกลับเลือกที่จะทำเป็นมองไม่เห็น..ผมบอกได้เลยว่าเรื่องของ ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นฝีมือของเราและถึงแม้ว่าเราจะมาจากประเทศต่างๆทั่วโลกแต่พวกเขาทุกคนรักประเทศจีนมากและพวกเขาก็ยินดีที่จะหลั่งเลือดหยดสุดท้ายเพื่อปกป้องประเทศจีน..แบบนี้คุณกล้าว่าพวกเขาไม่ใช่ทหารเหรอ”
“ผมขอโทษ..ผมค่อนข้างจริงจังในเรื่องนี้” เย่เชียนคีบบุหรี่เข้าปากและสูบมันจากนั้นก็ปล่อยออกมาแล้วพูด
หม่าเต๋อหงก็ถึงกับตกตะลึงและตกใจอย่างสมบูรณ์แบบเพราะเย่เชียนทำให้เขาประหลาดใจมากเกินไปจริงๆ เขาไม่รู้จริงๆว่าเหตุการณ์ในประเทศญี่ปุ่นทั้งหมดนั้นเกิดจากองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่า ซึ่งหากเป็นเช่นนี้จริงๆเขาก็ต้องยอมรับเลยว่าคนกลุ่มนี้ล้วนแต่เป็นชายชาติทหารสมเกียรติอย่างแท้จริงและสมควรได้รับการชื่นชมในฐานะทหารอย่างยิ่ง
“ขอโทษที..ฉันเข้าใจเอ็งผิดไป” หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง หม่าเต๋อหงก็พูดว่า “อย่างที่คาดหวังเอาไว้ลูกชายของเจิ้งหรานไม่ทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ”
“พวกเราพี่น้องเขี้ยวหมาป่ามารวมตัวกันเพราะความเชื่อเดียวกันไม่ใช่เพราะเงินอย่างแน่นอน..ผมเชื่อว่าคุณควรรู้ว่าผู้ก่อตั้งองค์กรทหารรับจ้างก็เป็นสมาชิกที่เกษียณแล้วของกองกำลังหน่วยรบพิเศษเขี้ยวหมาป่าใช่มั้ย?” เย่เชียนพูด “เอาเถอะถึงยังไงคุณก็คือพ่อบุญธรรมของผมและผมก็ไม่ควรจะพูดแบบนี้..ผมต้องขอโทษด้วย”
“ฉันสิที่ควรจะขอโทษ..ฉันคิดว่าเอ็งจงใจเข้าหาห่าวยู่เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง..พูดตามตรงฉันมักจะรู้สึกแย่กับพวกทหารรับจ้างและนั่นเป็นเหตุผลที่เอ็งโกรธเคือง” หม่าเต๋อหงพูด “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปไม่ว่าเอ็งต้องการทำอะไรฉันจะสนับสนุนเอ็งในฐานะปู่เอง..ฉันเชื่อว่าเอ็งจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง”
“อันที่จริงผมไม่ได้อยากทำอะไรเลยเพราะที่ผมทำงานหนักมาหลายปีเพื่อจุดประสงค์เดียวและนั่นคือเพื่อไม่ให้คนอื่นมาควบคุมชะตากรรมของตัวผมเอง” เย่เชียนพูด “ผมกำลังกดดันตัวเองเพื่ออนาคตของเหล่าพี่น้องเขี้ยวหมาป่าและสำหรับพวกเขาแล้วผมก็ไม่หวังอะไรจากใครเลย..ผมพูดจริงๆ”
“ฉันเข้าใจ..ฉันเข้าใจ” หม่าเต๋อหงพูด “เอ็งพลัดพรากจากบ้านตั้งแต่ยังเด็กเอ็งต้องทนทุกข์ทรมานจากโลกภายนอกมาหลายปีและวันนี้เอ็งสามารถยืนหยัดได้อย่างสมบูรณ์เพราะงั้นฉันเข้าใจอารมณ์ของเอ็งดี” หลังจากหยุดไปชั่วขณะหม่าเต๋อหงก็พูดว่า “ว่าแต่เสี่ยวเชียนเอ็งมีแผนการอะไรในปักกิ่งอย่างงั้นเหรอ”
“ไม่มี” เย่เชียนพูด “ผมไม่ได้วางแผนจะมาที่ปักกิ่งเลยแต่ปู่เขาบอกให้ผมไปส่งจดหมายที่สำนักหยุนหยานเหมินเพราะงั้นผมจึงต้องมาที่นี่และบริษัทก็มีปัญหาบางอย่างผมเลยต้องอยู่อีกสักพักเพื่อจัดการบริษัท”
“หากเอ็งจะทำอะไรก็ขอให้บอกกับฉันเดี๋ยวฉันจะสนับสนุนเอ็งอย่างไม่มีเงื่อนไขใดๆ” หม่าเต๋อหงพูด “ถึงแม้ว่าฉันจะทำอะไรไม่ได้ก็ตามแต่ด้วยสถานะของฉันแล้วฉันสามารถทำอะไรกับกองทัพก็ได้..แน่นอนว่าเมืองปักกิ่งนั้นเต็มไปด้วยคนใหญ่คนโตเพราะงั้นฉันสามารถช่วยเอ็งในเรื่องนี้ได้แต่จะไม่ช่วยในเรื่องที่ไม่เอื้ออำนวยต่อประเทศเด็ดขาด..แต่ฉันก็ไม่คิดว่าเอ็งจะทำเรื่องแบบนั้นหรอก”
“ขอบคุณครับ” เย่เชียนรู้ว่าเหตุผลหลักที่หม่าเต๋อหงดีต่อเขามากคือความสัมพันธ์ของเขากับเย่เจิ้งหรานพ่อของเขา อย่างไรก็ตามตอนนี้เย่เชียนรู้สึกตื่นเต้นที่จะพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับประเทศที่ญี่ปุ่นและหม่าเต๋อหงก็ต้องมีการแสดงออกที่เปลี่ยนไปอย่างแน่นอน เย่เชียนนั้นไม่เคยคิดที่จะทำอะไรกับประเทศจีนเพราะทั้งหมดก็เพียงเพื่อประโยชน์ของวันข้างหน้า
“ว่าแต่ที่หน้าผับบาร์เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้นกับเอ็ง..พ่อหนุ่มคนนั้นจากตระกูลชางกวนทำอะไร?..เอ็งต้องการให้ฉันไปตักเตือนตระกูลชางกวนให้อยู่ห่างจากเอ็งมั้ย?”
“ไม่จำเป็นหรอกครับ” เย่เชียนพูด “จากสถานการณ์ปัจจุบันความขัดแย้งระหว่างผมกับตระกูลชางกวนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และไม่ว่าจะยังไงมันก็ต้องเกิดขึ้นอยู่ดี”
.
.
.