ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 546 เก็บอาการไม่อยู่
ตอนที่ 546 เก็บอาการไม่อยู่
คำพูดของชิงเฟิงนั้นไร้ยางอายอย่างมากแต่เย่เชียนก็ดูเหมือนหมูที่ตายแล้วที่ไม่กลัวน้ำเดือดดังนั้นเขาจึงไม่สนใจ แต่หูวเค่อไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและตอนนี้ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงและเมื่อเห็นรูปลักษณ์ของเธอเย่เชียนก็ยิ้มอย่างมีชัย ซึ่งเย่เชียนนั้นต้องยอมรับเลยว่าหูวเค่อมีเสน่ห์เป็นพิเศษในเวลานี้ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เย่เชียนถึงกับต้องตะลึง
“กลับมาเข้าเรื่องกันเถอะ” เย่เชียนไม่ต้องการให้บรรยากาศที่น่าอับอายนี้ดำเนินต่อไปเขาจึงขัดจังหวะ “คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในศิลปะการต่อสู้โบราณเพราะงั้นคุณก็ต้องรู้สิว่าคัมภีร์นี้เป็นของจริงหรือปลอมใช่ไหม? ”
“ใช่” หูวเค่อพยักหน้าและพูด
“ถ้างั้นคุณก็ช่วยผมดูหน่อย” เย่เชียนพูด “เดี๋ยวผมจะสแกนส่งไปให้คุณ”
หูวเค่อเหลือบมองไปที่เย่เชียนและพูดว่า “เมื่อกี้นี้คุณไม่เชื่อฉันหรอ..หรือคุณจงใจทดสอบฉันใช่มั้ยเพราะดูจากสายตาของคุณแล้ว”
เย่เชียนตกตะลึงเล็กน้อยและพูดว่า “ผมไม่ได้มีความคิดแบบนั้นเลยจริงๆ ..นอกจากนี้ผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นของจริงหรือของปลอมแล้วผมจะไปทดสอบคุณได้ยังไง..เค่อเอ๋อของผมคุณมาสงสัยผมแบบนี้ได้ยังไงมันไม่ดีเลยนะ”
“ไร้ยางอายใครเป็นของคุณ! ” หูวเค่อตะคอกเย่เชียน อย่างไรก็ตามมันกลับมีบางอย่างที่หอมหวานในใจของเธอชนิดที่ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมาก ซึ่งความรักเป็นสิ่งที่ลึกลับมากและไม่จำกัดเวลาไม่และจำกัดพื้นที่หรือสถานการณ์จริงๆ มันไม่มีเหตุผลและไม่มีช่องว่างระหว่างชนชั้นเลย ความคิดของคนที่ต้องมีบ้านมีรถมีฐานะก่อนแต่งงานที่ปรากฏในสังคมตอนนี้นั้นมันไม่ใช่ความรักแต่เป็นเพียงการปกป้องหน้าตาทางสังคมของตนเองและเสแสร้งอำพรางอยู่เบื้องหน้า
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างมีความสุขและไม่ได้พูดอะไรอีกและมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบรายละเอียดจากคัมภีร์ศิลปะการต่อสู้โบราณที่อันซือมอบให้ ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่ได้ชื่อว่าเป็นนักบุญแห่งความรักเหมือนกับหลี่เหว่ยแต่เขาก็อยู่กับเหล่าผู้หญิงมามากและถ้าเขาไม่เข้าใจผู้หญิงคนมันก็คงจะเป็นเรื่องงี่เง่า ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่ไม่ฉลาดมากนักก็รับรู้ได้ว่ามันมีความรักอันลึกซึ้งที่มาจากคำพูดของหูวเค่อเมื่อครู่นี้
“ผมส่งให้แล้ว” เย่เชียนสแกนข้อมูลของคัมภีร์ศิลปะการต่อสู้โบราณและพูด
“รอสักครู่นะ” หูวเค่อตอบและอ่านมันอย่างตั้งใจ ซึ่งเย่เชียนก็รู้สึกเบื่อหน่ายโดยใช้มือทั้งสองข้างค้ำคางและจ้องไปที่หูวเค่อโดยไม่กะพริบตาเพราะไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงแล้วเมื่อพวกเขามุ่งความสนใจไปที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งพวกเขาก็จะขับเสน่ห์ที่พิเศษออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งตอนนี้เย่เชียนกำลังเฝ้าดูหูวเค่ออย่างตั้งใจในขณะที่เธอสแกนข้อมูลต่างๆ โดยใช้สมาธินั้นทำให้เย่เชียนหลงใหลเธอไปชั่วขณะ
ทันใดนั้นหูวเค่อก็ขมวดคิ้วจากนั้นก็คลายออกอย่างเห็นได้ชัดเพราะเธอมองอย่างใจจดใจจ่อและในทันใดนั้นเย่เชียนก็รู้สึกได้ว่าท่าทางการขมวดคิ้วของหูวเค่อนั้นน่ารักมากและผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะแสดงออกถึงอารมณ์ที่พิเศษราวกับนางฟ้าที่บริสุทธิ์เหมือนดอกบัวที่งดงาม
หลังจากนั้นไม่นานหูวเค่อก็ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นและผงะเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นท่าทางที่น่าหลงใหลของเย่เชียน อย่างไรก็ตามเธอก็ยังคงมองเย่เชียนด้วยสายตาที่ดุร้ายและพูดว่า “มองพอแล้วหรือยัง..เมื่อฉันเห็นท่าทางที่ดูน่าสังเวชของคุณทีไรฉันต้องคิดถึงบางสิ่งที่เลวร้ายอีกครั้งจริงๆ ”
“มันยังไม่พอ” เย่เชียนพูด
“คุณยังจะกล้าพูดแบบนั้นได้อยู่อีก!” หูวเค่อรู้สึกทนไม่ได้เล็กน้อยเพราะคำพูดของเย่เชียนนั้นชัดเจนและตรงไปตรงมาเกินไป
“มันก็ไม่มีอะไรที่น่ารังเกียจหนิ..มันเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรอที่จะจ้องมองภรรยาของตัวเอง” เย่เชียนพูด “อันที่จริงผมคิดว่าสิ่งที่ชิงเฟิงพูดเมื่อกี้ก็ดูสมเหตุสมผลนะว่าคุณเป็นพี่สะใภ้ของเขา”
แก้มของหูวเค่อก็เริ่มแดงระเรื่อทันทีและถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่ได้อธิบายในสิ่งที่เขาพูดแต่หูวเค่อก็เดาได้ว่าเย่เชียนหมายถึงอะไร ซึ่งเธอก็อยากจะตอบโต้แต่เธอก็ขี้อายเกินไปเพราะถ้าเธอทำแบบนั้นไปอาจจะเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่หูวเค่อเคยทำมาใช่ไหม? “พอได้แล้ว! ” หูวเค่อเขินและพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลง
เมื่อเห็นหูวเค่ออยู่ตรงหน้าเขาได้ยินคำพูดของเขาแล้วการแสดงออกของเธอเป็นเช่นนี้เย่เชียนก็เริ่มสนใจเพราะเห็นได้ชัดว่าสิ่งที่หูวเค่อพูดในตอนนี้ไม่ใช่การปฏิเสธและมันเป็นเพียงการสงวนท่าทีและคุณค่าของผู้หญิงคนหนึ่งเอาไว้ “เข้าเรื่องกันเถอะ! ..แต่อย่าลืมว่าคุณเป็นแฟนของผมแล้วเพราะงั้นเรื่องนี้เอาไว้คุยกันทีหลัง” เย่เชียนพูด
“คุณไม่ได้มีความละอายใจเลยหรอ..ก็นะหลังจากที่คุณมาที่ไต้หวันแล้วคุณสามารถทำอะไรก็ได้ที่คุณต้องการแต่คุณจะทำมันได้หรือเปล่า? ” หูวเค่อพูด
หากเป็นในอดีตหูวเค่อก็ไม่สามารถพูดเช่นนี้ได้ซึ่งบางทีวันนี้บรรยากาศอาจจะเป็นใจ “ได้สิเค่อเอ๋อที่รัก” เย่เชียนก็ไม่สนใจคำพูดของเธอและยังคงพูดด้วยใบหน้าทะเล้น
“หยุดล้อเล่นได้แล้ว! ” หูวเค่อพูด “มาเข้าเรื่องกันสักที! ”
“ก็ได้ๆ มาเข้าเรื่องกันเถอะ” เย่เชียนหยุดแกล้งเธอแล้วพูดต่อ “แล้วเป็นไงบ้างข้อมูลจากคัมภีร์ศิลปะการต่อสู้โบราณเป็นของจริงหรือเปล่า? ”
“มันน่าจะเป็นของจริง..แต่การฝึกฝนของมันแตกต่างไปจากวิธีการฝึกศิลปะการต่อสู้แบบโบราณทั่วไปเล็กน้อยเพราะทิศทางการไหลเวียนของปราณมันตรงข้ามกับต้นตำรับอย่างสิ้นเชิง..วิธีการฝึกแบบพิเศษน่ะฉันก็เคยเห็นมาก่อนแต่พูดตามตรงฉันไม่เคยเห็นแบบนี้..แต่ฉันคิดว่ามันมีความเป็นไปได้และถึงแม้ว่าวิธีการฝึกนี้จะเร็วกว่าวิธีการปกติก็ตามแต่มันก็ค่อนข้างอันตรายดังนั้นหากคุณต้องการฝึกฝนฉันคิดว่าคุณต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ถี่ถ้วนนะ” หูวเค่อหายใจเข้าลึกๆ และขับไล่ความคิดที่ยุ่งเหยิงในใจออกไปและพูดอย่างช้าๆ ว่า “อันที่จริงในเมื่อคุณได้สัมผัสกับศิลปะการต่อสู้โบราณแล้วถ้างั้นฉันก็สามารถสอนให้คุณได้เพราะมันจะไม่ละเมิดกฎอีกต่อไปและฉันก็สามารถช่วยคุณได้หากคุณต้องการ”
“ไม่ผิดกฎได้ยังไงเพราะครั้งล่าสุดที่เราอยู่ในสวนสาธารณะคุณก็สอนผมไปแล้วหนิ” เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้ม
หูวเค่อเหลือบมองไปที่เย่เชียนและไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยวกับคำถามนี้อีกต่อไปจากนั้นเธอก็พูดว่า “ครั้งที่แล้วฉันรู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติในร่างกายของคุณและฉันก็คิดว่าถ้าคุณสามารถควบคุมมันได้ล่ะก็ความเร็วในการฝึกฝนและบ่มเพาะของคุณจะเร็วกว่าคนธรรมดาหลายเท่า..ดังนั้นคุณก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการฝึกฝนที่อันตรายแบบนี้และนอกจากนี้ถึงแม้ว่าศิลปะการต่อสู้โบราณจะแข็งแกร่งกว่าการต่อสู้ธรรมดาแต่ก็ยังไม่มีอะไรแน่นอนเพราะนักสู้ธรรมดาๆ ก็ยังสามารถเอาชนะผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้โบราณได้อยู่ดีและฉันก็คิดว่าคุณมีความเข้าใจถึงหลักการของการต่อสู้ดีกว่าฉันอีก..เพราะงั้นเกณฑ์ในการพิจารณาคุณภาพของทักษะการต่อสู้ของผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้โบราณจึงไม่จำเป็นต้องเป็นความแข็งแกร่งของการฝึกฝนเพียงแต่ต้องควบคุมพลังลมปราณให้ได้แค่นั้น”
“ผมมีความสุขมาก! ” เย่เชียนยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูด “ถึงคุณจะไม่ได้อยู่กับผมมานานแต่มันก็ไม่ใช่แค่เวลาสั้นๆ เพราะงั้นผมก็คิดว่าคุณน่าจะเข้าใจอารมณ์และนิสัยของผมสินะ..ผมคิดว่าการแนะนำของคุณมันจะสามารถย่นระยะเวลาได้มากแต่ก่อนหน้านี้คุณไม่เคยสอนวิธีการฝึกเหล่านั้นให้ผมเลยคุณจึงไม่มีทางช่วยผมได้..อย่างแรกคุณต้องเชื่อในตัวผมก่อนเพราะในโลกนี้สำหรับคุณแล้วมันไม่มีอะไรที่หายากเท่ากับสามีอย่างผมแล้วใช่ไหมล่ะ?”
“อืม..ฉันรู้แล้ว” หูวเค่อไม่รู้ถึงกับดักที่เย่เชียนซ่อนเอาไว้ในคำพูดของเขาดังนั้นเธอจึงตอบกลับโดยไม่ลังเลใดๆ
เย่เชียนก็หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “จำสิ่งที่คุณพูดในวันนี้เอาไว้ล่ะว่าคุณยอมรับในที่สาธารณะแล้วว่าผมเป็นสามีของคุณอย่ากลับคำล่ะไม่งั้นผมจะใช้กฎของตระกูลเย่เพื่อทำโทษคุณในอนาคต”
“คนโง่..ถ้าฉันไม่ได้คิดว่าคุณเป็นสามีแล้วทำไมฉันถึงต้องทำตัวแบบนั้นด้วยล่ะ..ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมแต่ฉันรู้แค่ว่าฉันรักคุณและรักคุณโดยไม่มีเหตุผลเลย..ฉันรักความมั่นใจของคุณ..ฉันรักความเย่อหยิ่งของคุณ..รักทุกอย่างที่เกี่ยวกับตัวคุณ!” หูวเค่อพูดอย่างหนักแน่น
.
.
.
.
.
.
.