ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 493 การมาเยือนของม่อหลง
ตอนที่ 493 การมาเยือนของม่อหลง
หลังจากออกมาจากห้องอาบน้ำเย่เชียนก็หยิบเช็คเงินสดออกมาและแบ่งให้หลินเฟิงเท่าๆ กันและถึงแม้ว่าทั้งเย่เชียนและหลินเฟิงจะดูเหมือนคนหน้าเงินแต่จริงๆ แล้วพวกเขาไม่มีความคิดเรื่องเงินมากนัก เพราะตอนนี้แค่รายได้จากเครือน่านฟ้ากรุ๊ปเพียงอย่างเดียวก็ทำให้เย่เชียนไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเครื่องดื่มและที่อยู่อาศัยไปตลอดชีวิต
เช้าวันรุ่งขึ้นลูกน้องของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็มาเคาะประตูและเมื่อเห็นท่าทางขี้เกียจและความไม่สบอารมณ์ของเย่เชียนแล้วมาเฟียคนนี้ก็ตัวสั่นเล็กน้อยและรีบพูดว่า “เอ่อมิสเตอร์เย่..คนชื่อม่อหลงกำลังรอคุณอยู่ข้างนอก” อย่างไรก็ตามเขาก็พูดเป็นภาษารัสเซีย
เย่เชียนก็มองเขาอย่างเหม่อลอยเพราะไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดถึงอะไรดังนั้นเย่เชียนจึงหันกลับไปและตะโกนว่า “พี่หลินมาช่วยผมแปลที..ผมไม่เข้าใจที่เขาพูด ”
“ไอ้บ้านี่รบกวนฉันแต่เช้าเลย..เขาบอกว่าคนที่ชื่อม่อหลงรอนายอยู่ข้างนอก!” หลินเฟิงตอบอย่างหดหู่หันกลับไปแล้วงีบหลับต่อ ถึงแม้ว่าหลินเฟิงจะคุ้นเคยกับการตื่นเช้าแต่ก็ไม่เช้าเช่นนี้ใช่ไหม? เพราะมันยังคงมืดอยู่และเขาก็ถูกปลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ม่อหลง? ” เย่เชียนก็ถึงกับตกตะลึงไปชั่วขณะและรู้สึกประหลาดใจอย่างมากเพราะม่อหลงนั้นกำลังยุ่งอยู่กับการตามหาสาวกม่อจื๊อไม่ใช่หรือ? แล้วเขาจะมาที่ประเทศรัสเซียโดยไม่มีเหตุผลเช่นนี้ได้อย่างไร เย่เชียนก็พยักหน้าแล้วกำลังจะพูดแต่เขาก็ตระหนักได้ว่ามาเฟียตรงหน้าเขานั้นไม่เข้าใจภาษาจีนเขาจึงส่ายหัวแล้วเดินออกไป
อุปสรรคด้านภาษานั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เย่เชียนนั้นก็คิดว่าเขาอาจจะต้องมีล่ามและนักแปลอยู่เคียงข้างเขาในอนาคตแล้วค่อยพูดอย่างสบายใจเมื่อภาษาจีนกลายเป็นภาษาสากลของโลกเช่นนั้น
เมื่อเย่เชียนเดินไปที่ห้องโถงชั้นล่างเขาก็เห็นม่อหลงนั่งอยู่ที่นั่นและเมื่อเห็นเย่เชียนเดินลงมาม่อหลงก็รีบลุกขึ้นยืนและตะโกนว่า “บอส!” พร้อมคำทักทายแบบทหาร
เย่เชียนก็พยักหน้าเล็กน้อยโบกมือให้คนของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ให้พวกเขาถอยออกไป จากนั้นเขาก็นั่งลงฝั่งตรงข้ามกับม่อหลงและทำสัญญาณมือให้เขานั่งลงแล้วพูดว่า “พี่ไม่ได้ยุ่งอยู่กับการตามหาสาวกม่อจื๊อหรอ..ทำไมพี่ถึงมาประเทศรัสเซียล่ะ? ..หรือว่าที่ประเทศจีนเกิดอะไรขึ้น?”
“สถานการณ์ที่จีนตอนนี้ดีมาก” ม่อหลงพูดต่อ “ฉันพบข่าวเกี่ยวกับม่อจื๊อที่นี่เพราะงั้นฉันจึงมาที่ประเทศรัสเซีย”
“สาวกม่อจื๊ออยู่ในมูร์มันสค์หรอ?” เย่เชียนถึงกับผงะอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก..แต่ตามข่าวกรองนั้นมีสาวกม่อจื๊ออยู่ในเมืองมูร์มันสค์..ซึ่งเขามาจากรุ่นปู่ของฉันจริงๆ” ม่อหลงพูด
เย่เชียนพยักหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “เขาชื่ออะไร..อยากให้ผมไปหาให้ไหม”
“เขาชื่อเฉินยี่” ม่อหลงพูดต่อ “ฉันรู้แค่ว่าเขาอยู่ในเมืองมูร์มันสค์ประเทศรัสเซีย..แต่ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเขาอยู่ที่ไหน..คราวนี้ฉันก็เลยมาหาบอสเพื่อขอให้บอสไปบอกให้คนของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ช่วยส่งคนไปตรวจสอบให้หน่อย..เพราะพวกเขาเป็นเจ้าถิ่นของที่นี่เพราะงั้นพวกเขาก็น่าจะตรวจสอบได้ง่ายและเร็วกว่าพวกเรา.
“ไม่มีปัญหา..ในเมื่อพี่มาอยู่ที่นี่แล้วพี่ก็ต้องพบข่าวเกี่ยวกับเฉินยี่แน่นอน..ถ้างั้นผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนแล้วผมจะรีบลงมาหาพี่” เย่เชียนพูดขณะที่เขายืนขึ้นและเดินขึ้นไปที่ชั้นบน
ม่อหลงตอบและลุกขึ้นยืนอย่างเร่งรีบและนี่ก็เป็นปฏิกิริยาโดยสัญชาตญาณในเขี้ยวหมาป่าของเขาอยู่แล้วซึ่งแตกต่างจากหลี่เหว่ยและชิงเฟิงเพราะถ้าพวกเขาอยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้พวกเขาก็จะไม่ยืนขึ้นอย่างแน่นอนและทำตัวสบายใจเฉิบและพวกเขาก็เอนกายลงบนโซฟาอย่างเกียจคร้าน
หลังจากนั้นเย่เชียนก็แนะนำม่อลองให้กับอัสลานฮอร์ดมิลฟ์และเย่เชียนก็พูดแค่ว่าม่อหลงเป็นพี่ชายเขี้ยวหมาป่าของเขาเท่านั้น ซึ่งถึงแม้ว่าคำพูดจะดูเรียบง่ายก็ตามแต่ทว่าอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ชัดเจนเมื่อได้ยินว่าม่อหลงเป็นสมาชิกเขี้ยวหมาป่าเช่นนั้นเขาจึงเคารพอย่างมาก
สำหรับหลินเฟิงนั้นหลังจากที่เขามองดูม่อหลงอย่างใกล้ชิดเขาก็เพียงแค่กินข้าวของตัวเองโดยไม่พูดอะไรใดๆ เพราะจากประสบการณ์ของเขาในฐานะที่เป็นนักฆ่ามานานหลายปีจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จะเห็นว่าท่อหลงนั้นไม่ใช่คนที่มีตัวตนธรรมดาเลยเพราะออร่าบนร่างกายของเขาก็เทียบไม่ได้กับคนธรรมดาอย่างสิ้นเชิงจนหลินเฟิงนั้นมั่นใจอย่างมากและไม่แปลกใจเลยว่าการที่เขี้ยวหมาป่าได้เป็นถึงราชาแห่งโลกทหารรับจ้างนั้นได้ไม่เป็นเพียงเพราะเย่เชียนเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลุ่มคนดั่งพี่น้องที่จริงใจและแข็งแกร่งเช่นนี้อีกด้วย
เช่นเดียวกับองค์กรเซเว่นคิลที่สามารถกลายเป็นตำนานนักฆ่าได้นั้นแน่นอนว่าการทำสิ่งต่างๆ คนเดียวมันก็ไม่เพียงพอกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้เพราะถึงยังไงองค์กรเหล่านี้ต่างก็ต้องการมีกลุ่มพี่น้องที่ทรงพลังกันทั้งนั้น
“มิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ผมต้องขอรบกวนคุณเรื่องหนึ่งน่ะ” หลังจากแนะนำตัวเย่เชียนก็พูดต่อ
“บอกมาได้เลยมิสเตอร์เย่! ..ผมจะทำทุกอย่างที่คุณต้องการ” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ด้วยความเคารพ
“ผมต้องรบกวนคุณให้ช่วยหาที่อยู่และข้อมูลส่วนตัวของบุคลในมูร์มันสค์น่ะ” เย่เชียนพูด
อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เอ่อ..ไม่มีปัญหาเลย..มิสเตอร์เย่อยากสืบข้อมูลของใครหรือ?”
เย่เชียนมองไปที่ม่อหลงเพื่อสงสัญญาณให้ม่อหลงพูด เมื่อเห็นเช่นนั้นม่อหลงก็พยักหน้าและพูดว่า “เขาคนนั้นชื่อเฉินยี่..และนี่คือรูปถ่ายของเขา..เขาอายุประมาณเจ็ดสิบปี” ม่อหลงพูดขณะที่เขาหยิบรูปถ่ายออกมาจากกระเป๋าเสื้อและส่งให้อัสลานฮอร์ดมิลฟ์
อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็ดูรูปภาพแล้วพูดว่า “ไม่ใช่ปัญหาเลย..เมืองมูร์มันสค์ไม่ได้กว้างขวางอะไร..ถ้าคุณต้องการหาใครสักคนที่นี่ล่ะก็..ไม่เกินหนึ่งวันคุณก็จะรู้ข้อมูลของเขาแล้ว”
“ขอบคุณมิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์” เย่เชียนพูดต่อ “ถ้างั้นก็ฝากด้วยเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก!”
“ทำไมหรือ? ..คนคนนี้ทำให้มิสเตอร์ม่อหลงขุ่นเคืองหรอ..ไม่ต้องกังวลไปเนื่องจากคุณเป็นพี่น้องของมิสเตอร์นั่นก็เหมือนพี่น้องของผมเช่นกัน..ผมจะส่งคนไปสืบข่าวให้ทันที..พวกคุณมั่นใจได้เลย!” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์พูดพร้อมตบหน้าอกของเขาอย่างจริงจัง
“ขอบคุณมิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์มาก..แต่เขาคนนี้เป็นเพื่อนปู่ของผมไม่ใช่ศัตรู..ผมหวังว่าคนของมิสเตอร์อัสลานฮอร์ดมิลฟ์จะไม่ปรากฏตัวออกไปและเมื่อคนของคุณพบเขาแล้วช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วยนะ..ผมต้องการไปหาเขาเป็นการส่วนตัว” ม่อหลงพูด
“ไม่มีปัญหา..ผมจะกำชับให้” อัสลานฮอร์ดมิลฟ์ตอบแล้วกวักมือเรียกลูกน้องคนหนึ่งของเขาแล้วพูดว่า “ไปบอกคนของเราว่าให้ไปสืบว่าคนคนนี้อยู่ที่ไหน..แล้วจำเอาไว้ด้วยว่าเมื่อพบเขาแล้วไม่ต้องทำอะไรและให้รีบรายงานฉันทันทีเมื่อได้ข่าว”
“ครับหัวหน้า!” มาเฟียคนหนึ่งตอบแล้วรีบเดินออกไป
เย่เชียนก็ไม่ได้พูดอะไรใดๆ ซึ่งการที่อัสลานฮอร์ดมิลฟ์เป็นดั่งงูเจ้าถิ่นของที่นี่และตอนนี้เขาก็ได้ควบคุมเมืองมูร์มันสค์เอาไว้ทั้งหมดด้วยมือของเขาเองดังนั้นการตามหาตามสืบข้อมูลของใครสักคนนั้นมันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลย
หลังจากรับประทานอาหารเช้ากันแล้วอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ก็กล่าวคำอำลากับเย่เชียนจากนั้นก็ออกจากบ้านไป ซึ่งการที่สลาดาร์อาร์ตันและแก๊งมาเฟียของเขาเพิ่งจะถูกกวาดล้างไปเมื่อคืนนี้ดังนั้นจึงยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่รอให้อัสลานฮอร์ดมิลฟ์จัดการเพราะงั้นอัสลานฮอร์ดมิลฟ์จึงไม่กล้าที่จะเพิกเฉยเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าตอนนี้สลาดาร์อาร์ตันจะพ่ายแพ้ไปแล้วแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่มีโอกาสหวนกลับมา ดังนั้นเพื่อให้มั่นใจในความสมบูรณ์แบบของมูร์มันสค์ทั้งหมดนั้นอัสลานฮอร์ดมิลฟ์จึงต้องทำสิ่งต่างๆ ให้เคร่งครัดมากขึ้นและนอกจากนี้ตราบใดที่เขาเหนื่อยในตอนนี้เขาก็จะมีเวลาสะดวกสบายในภายภาคหน้า
หลังจากที่อัสลานฮอร์ดมิลฟ์จากไปเย่เชียนก็แนะนำม่อหลงให้หลินเฟิงรู้จักเป็นการส่วนตัว ส่วนม่อหลงนั้นก็อดไม่ได้ที่จะประหลาดใจและตกตะลึงเมื่อเขาได้ยินว่าเย่เชียนแนะนำว่าชายที่มีลักษณะคล้ายผู้หญิงเล็กน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาคือผู้นำขององค์กรเซเว่นคิลในตำนานหลินเฟิงคนนั้น หลังจากนั้นม่อหลงก็ทักทายหลินเฟิงอย่างสุภาพซึ่งหลินเฟิงก็สุภาพและเรียบง่ายมากจนทำให้โมหลงประหลาดใจมากกว่าเดิม ซึ่งเมื่อม่อหลงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้นคนที่เป็นนักฆ่าก็ควรจะเย็นชาและไม่ยิ้มแย้มแจ่มใสเช่นนี้แต่ม่อหลงนั้นไม่ได้คาดหวังเลยว่าหลินเฟิงจะเป็นคนง่ายๆ เช่นนี้
หลังจากการแนะนำให้รู้จักกันแล้วทั้งเย่เชียนและหลินเฟิงต่างก็ออกจากบ้านของอัสลานฮอร์ดมิลฟ์ไปเพื่อแยกย้ายกันไปติดต่อสมาชิกในทีมและรับข้อมูลข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ เพราะเวลาที่จะกวาดล้างพวกจิ้งจอกหิมะนั้นก็ใกล้เข้ามาแล้วและเย่เชียนกับหลินเฟิงก็ไม่กล้าที่จะลดละเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็เป็นที่รู้จักกันดีและยังเป็นองค์กรทหารรับจ้างชั้นหนึ่งของประเทศรัสเซีย ดังนั้นพวกเขาจึงต้องให้ความสำคัญและแผนการและข้อมูลต่างๆ อย่างจริงจัง
ม่อหลงก็ติดตามเย่เชียนไปอย่างเป็นธรรมชาติซึ่งตลอดทางนั้นม่อหลงเงียบมากและไม่พูดอะไรมากเขาเพียงแต่ขมวดคิ้วแน่นตลอดเวลา ซึ่งเย่เชียนก็เข้าใจความคิดของม่อหลงเป็นอย่างดีเพราะม่อหลงตามหาสาวกม่อจื๊อมานานแล้วแต่ก็ยังไม่พบเบาะแสแต่ในที่สุดเขาก็พบตู้เหลียงเฉิงแต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าตู้เหลียงเฉิงจะแปรพักตร์ต์และคิดที่จะฆ่าม่อหลงเช่นนั้น
ตอนนี้หลังจากความยากลำบากมานานในที่สุดม่อหลงก็ได้พบข่าวที่เกี่ยวกับเฉินยี่ดังนั้นม่อหลงจึงรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเพราะอาจกล่าวได้ว่าม่อจื๊อนั้นเป็นดั่งบ้านของม่อหลงดังนั้นเขาจึงอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่สำนักในปีนั้น ซึ่งถ้าเขาอยากจะหาเบาะแสและไขปริศนาเหล่านี้เขาก็ต้องตามหาสาวกม่อจื๊อให้ได้เสียก่อน
เย่เชียนตบไหล่ม่อหลงเบาๆ แล้วพูดปลอบใจว่า “สำนักม่อจื๊อมีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายพันปีและพี่ก็ออกจากบ้านมาตั้งแต่พี่ยังเด็กมากเพราะงั้นมันก็ไม่ง่ายหรอกที่จะตามหา..แต่อย่าเพิ่งท้อใจเพราะถ้าพี่มีความทะเยอทะยานล่ะก็ทุกๆ อย่างจะต้องสำเร็จ”
ม่อหลงก็พยักหน้าและพูดว่า “ฉันไม่รู้ว่าการตามหาสาวกม่อจื๊อนั้นมีความหมายหรือเปล่า..เพราะถ้าฉันพบสาวกม่อจื๊อแล้วแต่กลับพบว่ามันมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เป็นไปตามที่ฉันจินตนาการเอาไว้ล่ะ..ฉันจะทำยังไงดีล่ะ? ”
“ถึงยังไงม่อจื๊อก็เป็นบ้านของพี่..แน่นอนว่าถ้าพี่ตามหาสักวันพี่ก็ต้องพบแต่ถ้าพี่คอยกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไปมันจะทำให้พี่เสียสมาธินะ” เย่เชียนพูดต่อ “นอกจากนี้ถ้าพี่ยอมแพ้ตอนนี้ถึงแม้ว่าพี่จะรอจนกว่าวันหนึ่งพี่จะตายไปแต่พี่ก็จะต้องเสียใจอยู่ดี”
“ฉันเข้าใจ..เพราะฉันตามหามานานแล้วแต่ฉันก็ยังไม่รู้เลยว่าสำนักและสาวกม่อจื๊อนั้นอยู่ที่ไหน..มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ฉันจะรู้สึกหลงทางน่ะ” ม่อหลงพูดต่อ “อย่างไรก็ตามฉันจะไม่ยอมแพ้..ฉันต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้นและพ่อแม่ของฉันยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า..ขอบคุณมากนะบอส!”
เย่เชียนก็ยิ้มและตบไหล่ของม่อหลงเบาๆ แล้วพูดว่า “โถ่..เราเป็นพี่น้องกันทำไมพี่ถึงต้องขอบคุณผมด้วยล่ะ!”