ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 437 องค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ
พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่นั้นก็ไม่ใช่คนโง่เพราะครั้งนี้เขาได้มีความสัมพันธ์แบบร่วมมือกันกับเซอร์เก้วิชพุชกินดังนั้นแน่นอนว่าเขาต้องการใช้ประโยชน์จากเซอร์เก้วิชพุชกิน ซึ่งถึงแม้ว่าพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่จะไม่รู้ว่าแผนและจุดประสงค์จริงๆ ของเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นคืออะไรก็ตามแต่ถึงยังไงมันก็ไม่สำคัญสำหรับเขาเพราะสิ่งที่สำคัญก็คือการที่เซอร์เก้วิชพุชกินนั้นสามารถช่วยให้เขาครอบครองดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้ได้และหลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นราชาที่แท้จริงของดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้
ท้ายที่สุดแล้วความสัมพันธ์ของเขากับเซอร์เก้วิชพุชกินนั้นก็เป็นเพียงความสัมพันธ์ที่ได้รับประโยชน์ร่วมกัน เพียงแค่ว่าเซอร์เก้วิชพุชกินหลวนปิงลี่นั้นดูเหมือนจะมองตัวเองสูงเกินไปเล็กน้อยเพราะเขามักจะคิดอยู่เสมอว่าเขานั้นหลอกใช้เซอร์เก้วิชพุชกินเหมือนเขาอยู่ในกำมือของตน ซึ่งถ้าหากวันหนึ่งเขารู้ความจริงล่ะก็เกรงว่ามันอาจจะสายเกินไปที่จะเสียใจเสียแล้ว อย่างไรก็ตามเขาอาจจะไม่มีโอกาสได้เสียใจเลยด้วยซ้ำ
เมื่อเห็นชายชาวต่างชาติในชุดลายพรางทหารอยู่ตรงหน้าเขาแล้วพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยและยื่นมือออกมาแล้วพูดว่า “สวัสดี! ..คุณชื่ออะไร? ”
เนื่องจากดินแดนแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นติดกับประเทศรัสเซียอยู่แล้วและอีกฝ่ายก็เป็นสมาชิกขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะที่มีชื่อเสียงอย่างมากในโลกจึงเป็นเรื่องปกติที่เขาจะพูดภาษาจีนได้เล็กน้อย ซึ่งชายที่ยืนอยู่ด้านหน้าของพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่นั้นสูง 190 เซนติเมตรและยื่นฝ่ามือขนาดใหญ่ออกมาจับมือของพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่และพูดอย่างว่างเปล่าว่า “ไมคาอินอฟ! ..ภายใต้คำแนะนำของคุณเซอร์เก้วิชพุชกิน..ฉันมาเพื่อปฏิบัติตามคำขอของคุณ..ถ้าหากมีสิ่งใดคุณหลวนโปรดสั่งมาได้เลย”
พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่นั้นก็เป็นคนที่มีรูปร่างกำยำเช่นกันแต่ทว่าต่อหน้าไมคาอินอฟคนนี้แล้วดูเหมือนว่าพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่จะตัวเล็กลงอย่างไงอย่างงั้น ถึงแม้ว่าพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่จะไม่รู้จักตัวตนที่เฉพาะเจาะจงของคนเหล่านี้ก็ตามแต่เขาก็รู้ว่าคนเหล่านี้เป็นคนที่มีความสามารถอย่างมากและคนธรรมดาก็ไม่สามารถมีอ่อร่าเช่นเดียวกันกับคนเหล่านี้ได้เลย
“คุณไมคาอินอฟเชิญนั่งก่อน!” พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่กล่าวคำทักทายอย่างสุภาพ
“ผมได้ยินคุณเซอร์เก้วิชพุชกินบอกว่าคุณหลวนต้องการให้พวกเราจัดการคนคนหนึ่งใช่ไหม..ไม่ทราบว่าคุณหลวนมีข้อมูลของเขาคนนั้นบ้างหรือเปล่า” ไมคาอินอฟพูดและถามอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเขาเป็นคนที่พูดจาเฉียบคมและมีไหวพริบที่สุดในบรรดาทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะ ซึ่งถึงแม้ว่าภารกิจในครั้งนี้จะดูง่ายมากก็ตามแต่ทว่ามันก็เกี่ยวข้องกับประเทศจีน ดังนั้นเบอร์นาร์ดสกี้ผู้นำขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งหิมะก็ระมัดระวังอย่างมากโดยส่งไมคาอินอฟมือดีมาลงพื้นที่ด้วยตัวเอง ซึ่งในความเป็นจริงแล้วสำหรับชาวต่างชาติหลายๆ ชนชาตินั้นมองประเทศจีนว่าเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับและพวกเขาก็รู้สึกประหลาดใจมากและอยากเยือนสักครั้งแต่พวกเขาก็รู้สึกหวาดกลัวไปกับสิ่งที่ไม่อาจรู้ได้
เนื่องจากประเทศจีนนั้นมีบุคคลที่สามารถทำให้โลกสั่นคลอนได้เยอะมากเกินไปอย่างเช่นเย่เชียนและหมาป่าผีไป๋ฮวยเป็นต้น ซึ่งพวกเขาเป็นการดำรงอยู่ที่สามารถสร้างหายนะได้ในหลายๆ ประเทศและแน่นอนว่าเบอร์นาร์ดสกี้ก็ชัดเจนเช่นกันว่าแผ่นดินเกิดของเย่เชียนนั้นคือประเทศจีนแล้วใครจะรู้ได้ว่ายังมีผู้ที่มีอำนาจที่ยิ่งใหญ่อยู่อีกกี่คนในประเทศจีนแห่งนี้? และเขาก็ตระหนักดีถึงการที่รัฐบาลจีนนั้นกวาดล้างเหล่าทหารรับจ้างออกจากประเทศ ดังนั้นเพื่อเป็นการระมัดระวังเขาจึงส่งไมคาอินอฟมือวางอันดับสองขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะมาเป็นผู้นำทีมปฏิบัติการเป็นการส่วนตัว
“คุณไมคาอินอฟพูดตรงประเด็นมาก..ผมชอบจริงๆ” พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ก็ยิ้มและพูดว่า “ข้อมูลเฉพาะของเขานั้นยังไม่ชัดเจนมากนัก..แต่เขาอยู่ในวงการพ่อค้าของเก่าของโบราณ..ซึ่งเขาเป็นเพื่อนกับหวังหูแห่งเซี่ยงไฮ้..เขาเคยมาหาผมและขอให้ผมตามหาใครสักคนให้เขา..แต่ผมปฏิเสธเขาไปและอาจจะเป็นเพราะความคับแค้นใจเขาจึงทำร้ายลูกชายของผมจนได้รับบาดเจ็บสาหัส..ผมจึงหวังว่าคุณไมคาอินอฟจะสามารถจับกุมตัวเขาและมามอบให้กับผมได้”
ไมคาอินอฟก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ใครกันที่ไม่รู้ว่าดินแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือแห่งนี้เป็นเขตของคุณหลวน..เขาถึงกับกล้าที่จะทำเรื่องแบบนี้ในเขตของคุณหลวนเชียวหรือ? ..แล้วคนของคุณล่ะ?”
พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วพูดว่า “พูดตามตรงว่าวันนี้ผมก็ส่งกลุ่มคนออกไปสองกลุ่ม..แต่ไม่มีใครทำสำเร็จเลย..เขาเก่งเกินไป..ผมจึงขอรบกวนคุณเซอร์เก้วิชพุชกินให้ช่วยผม..และตอนนี้พอผมได้พบคุณไมคาอินอฟมาแล้วผมก็อุ่นใจ”
“แล้วคุณหลวนรู้ไหมว่าตอนนี้เขาคนนั้นอยู่ที่ไหน?” ไมคาอินอฟถาม สำหรับคำเยินยอเหล่านั้นเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชอบมันมากนักเขาจึงเปลี่ยนหัวข้อถาม
“หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ผมคิดว่าคงจะไปหาที่ซ่อนใหม่แล้ว..แต่โปรดมั่นใจได้เลยคุณไมอาคินอฟเพราะดินแดนตะวันออกเฉียงเหนือหรือแม้แต่ในประเทศจีนทั้งประเทศก็ไม่มีใครสามารถหลบซ่อนไปจากผมได้” พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่พูดต่อ “ถ้าผมมีข่าวอะไรที่เกี่ยวกับเขาคนนั้นผมจะแจ้งให้คุณไมคาอินอฟทราบทันที..แต่ผมก็หวังว่าคุณไมคาอินอฟจะยั้งมือกับเขาสักหน่อยและพาเขามาให้ผมจัดการด้วยตัวเอง”
เห็นได้ชัดว่าไมคาอินอฟนั้นไม่พอใจกับท่าทีของพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่อย่างมาก ซึ่งมันไม่ผิดที่ทหารรับจ้างจะได้รับการว่าจ้างจากเซอร์เก้วิชพุชกินให้มาช่วยเหลือพยัคฆืแดนเหนือหลวนปิงลี่จัดการกับปัญญาเหล่านี้ แต่เป็นเพราะว่าพวกเขานั้นมีวิธีการทำสิ่งต่างๆ เป็นของตัวเองและเขาก็ยังไม่ชอบให้คนอื่นชี้นิ้วใส่เขาเหมือนที่พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ทำและยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่มีความสามารถมากพอเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องให้ช่วยแต่อย่างใด
“เขาคนนั้นชื่ออะไร?” ไมคาอินอฟถามหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง
“เย่เชียน!” พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ตอบ
“เย่เชียน?” ไมคาอินอฟก็ถึงกับตกตะลึงไปครู่หนึ่งและในทันใดนั้นร่างคนร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นภายในใจของเขา ซึ่งเขานั้นได้ติดตามเบอร์นาร์ดสกี้หัวหน้าองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะเข้าร่วมในการประชุมทหารรับจ้างจากทั่วทุกมุมโลกทุกครั้งและเขาก็เคยได้พบกับเย่เชียนอีกด้วย กล่าวได้ว่าเขานั้นคอยเฝ้าดูเย่เชียนเติบโตและยิ่งใหญ่มาเสมอ ซึ่งตอนเริ่มต้นเย่เชียนนั้นเป็นแค่เด็กหนุ่มตัวเล็กๆ ที่ติดตามเทียนเฟิงและในเวลานั้นเขี้ยวหมาป่าก็ยังเป็นเพียงแค่องค์กรทหารรับจ้างอันดับสอง อย่างไรก็ตามเพียงไม่กี่ปีต่อมาเด็กหนุ่มตัวเล็กก็ได้เข้ารับตำแหน่งผู้นำของเขี้ยวหมาป่าและกำจัดเสือดาวหิมะที่ได้ชื่อว่าเป็นอดีตราชาแห่งโลกทหารรับจ้างในเวลานั้นจึงทำให้เขี้ยวหมาป่าขึ้นมายืนแทนที่เสือดาวหิมะและถูกขนานนามว่าราชาหมาป่าเย่เชียนตั้งแต่นั้นมา
พูดตามตรงก็คือไมคาอินอฟนั้นไม่เชื่อในข่าวลือจากโลกภายนอกสักเท่าไหร่แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เชื่อว่าราชาหมาป่าเย่เชียนนั้นมีความสามารถและยิ่งใหญ่ค้ำฟ้าเช่นนั้นก็ตามแต่ทว่าการที่เย่เชียนนั้นสามารถนั่งอยู่ในตำแหน่งปัจจุบันของเขาได้ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าเย่เชียนนั้นไม่ใช่คนธรรมดาๆ อีกต่อไปและนับตั้งแต่เขี้ยวหมาป่าโค่นล้มเสือดาวหิมะได้นั้นก็ทำให้องค์กรทหารรับจ้างทุกแห่งในโลกไม่กล้าเผชิญหน้ากับเขี้ยวหมาป่าอีกต่อไปและองค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะเองก็ไม่มีข้อยกเว้นเช่นกัน ซึ่งเบอร์นาร์ดสกี้เองก็เคยพูดเอาไว้ว่าที่ใดมีเขี้ยวหมาป่าที่นั่นจิ้งจอกหิมะก็ต้องหลีกทางให้เท่านั้น ดังนั้นเมื่อไมคาอินอฟได้ยินชื่อนี้เขาจึงอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับชื่อที่คุ้นเคยเช่นนี้
เมื่อเห็นการแสดงออกของไมคาอินอฟแล้วพยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ก็อดไม่ได้ที่จะถามด้วยความประหลาดใจว่า “อะไรเหรอ? ..คุณไมคาอินอฟรู้จักคนคนนี้อย่างงั้นหรือ?”
ไมคาอินอฟก็ส่ายหัวเบาๆ แล้วพูดว่า “ชื่อนี้คุ้นๆ ..แต่ผมคิดว่ามันไม่น่าจะเป็นคนคนเดียวกัน..เพราะเย่เชียนที่ผมรู้จักน่ะเขาไม่ใช่พ่อค้าของเก่า..คุณหลวนมีรูปของเขาบ้างไหม?”
“ไม่มี” พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดโดยไม่ลังเลเพราะในความเป็นจริงแล้วลูกน้องของเขานั้นได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพของเย่เชียนเอาไว้และเขาก็มีรูปของเย่เชียนจริงๆ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นการแสดงออกของไมคาอินอฟแล้วเขาจึงไม่ลังเลใดๆ เลยดังนั้นเขาจึงบอกว่าไม่มีเพราะเขากังวลมากว่าไมคาอินอฟจะรู้จักเย่เชียนและกลัวว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์แบบไหนกันกับเย่เชียนซึ่งมันอาจจะรับมือได้ยากมากกว่าเดิม
“ไม่เป็นไร” ไมคาอินอฟพูด ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าคนที่ชื่อเย่เชียนที่พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่หมายถึงนั้นคือราชาหมาป่าเย่เชียนที่เขารู้จักก็ตาม แต่ถึงยังไงเขาก็ไม่สามารถถอยกลับได้แล้วเพราะคราวนี้เขาได้รับการว่าจ้างมาจากเซอร์เก้วิชพุชกินซึ่งเขาคนนั้นมีผู้ทรงอำนาจที่อยู่เบื้องหลังเขาและไม่ใช่สิ่งที่องค์กรทหารับจิ้งจอกหิมะนั้นสามารถรุกรานได้เลย ดังนั้นถ้าหากเขาปฏิเสธไปล่ะก็มันจะนำหายนะมาสู่องค์กรของเขาและยิ่งไปกว่านั้นสิ่งนี้ก็ยังเกี่ยวข้องกับประเด็นเรื่องศักดิ์ศรีของทหารรับจ้างที่รับงานมมาแล้วอีกด้วยเพราะถ้าหากพวกเขาละทิ้งงานโดยไม่ต่อสู้ล่ะก็จิ้งจอกหิมะจะอยู่รอดในโลกของทหารรับจ้างในอนาคตได้อย่างไร? และสถานะขององค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็จะตกลงสู่อันดับล่างในทันที
สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือไมคาอินอฟเองก็ต้องการพบราชาหมาป่าเย่เชียนที่เป็นถึงบุคคลในตำนานที่ยิ่งใหญ่ได้ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งการต่อสู้กับเย่เชียนเพียงครั้งเดียวนั้นก็เป็นเกียรติสำหรับเขาอย่างยิ่งและถึงแม้ว่าเขาจะต้องตายในสนามรบแต่ถึงยังไงเขาก็จะไม่เสียใจเลยแม้แต่น้อย
“คุณไมคาอินอฟ..ผมจัดห้องพักเอาไว้ให้พวกคุณแล้ว..โปรดมากับผมด้วย” พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่เห็นคิ้วที่ขมวดกันของไมอาคินอฟแล้วเขาก็ยิ้มเล็กยิ้มน้อยในใจ
ไมคาอินอฟก็พยักหน้าเบาๆ และลุกขึ้นแล้วทำภาษามือพร้อมกับพูดว่า “ผลัดกันเฝ้าเวรรอบละสี่คน..คนอื่นๆ ที่เหลือไปพักได้!”
“รับทราบ!” สมาชิกทีมจิ้งจอกหิมะตอบอย่างพร้อมเพรียง
“ไม่เป็นไรคุณไมคาอินอฟ..แค่คนของผมก็เพียงพอแล้ว..ผมเชื่อว่ามันไม่มีใครกล้าที่จะบุกเข้ามาในเขตบ้านของผมแน่นอน..พี่น้องของคุณเดินทางมากันเหนื่อยๆ เพราะงั้นให้พวกเขาพักผ่อนก่อนเถอะ” พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่พูด
“นี่เป็นกฎเหล็กของเรา..คุณหลวนไม่ต้องกังวลไป” ไมคาอินอฟพูดเบาๆ
“เอ่อ! ..” พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่ตอบกลับอย่างว่างเปล่าโดยไม่ได้พูดอะไรใดๆ อีกและพาไมคาอินอฟไปยังห้องที่เขาเตรียมเอาไว้
หลังจากเข้าไปในห้องพักแล้วไมคาอินอฟก็ตกอยู่ในห้วงแห่งความคิดเพราะเรื่องนี้ทำให้เขานั้นปวดหัวอย่างมาก ซึ่งถึงแม้ว่าเขาจะเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมเอาไว้แล้วว่าเย่เชียนคนที่พยัคฆ์แดนเหนือหลวนปิงลี่พูดนั้นคือราชาหมาป่าเย่เชียนที่เขารู้จักก็ตามแต่ถึงยังไงเขาก็ยังคงกังวลอย่างมากเพนสะท้ายที่สุดแล้วเขี้ยวหมาป่าก็เป็นถึงราชาแห่งโลกของทหารรับจ้างและราชาหมาป่าเย่เชียนก็ไม่ใช่คนธรรมดาๆ ดังนั้นถ้าหากพวกเขาต้องต่อสู้กับเย่เชียนล่ะก็ถึงยังไงพวกเขาก็ไม่สามารถมีความมั่นใจได้มากนัก
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งไมคาอินอฟก็โทรไปหาเบอร์นาร์ดสกี้เพราะไม่ว่าเย่เชียนคนนั้นจะเป็นราชาหมาป่าเย่เชียนหรือไม่ถึงยังไงไมคาอินอฟก็ต้องไปรายงานเบอร์นาร์ดสกี้โดยตรงเพราะถ้าหากเป็นเรื่องจริงล่ะก็เขาจะได้ให้เบอร์นาร์ดสกี้ตัดสินใจสิ่งต่างๆ และถ้าหากเขาไม่สามารถตัดสินใจได้ล่ะก็องค์กรทหารรับจ้างจิ้งจอกหิมะก็ต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เนื่องจากเย่เชียนนั้นมีชื่อเสียงในด้านการตั้งรับและการปกป้องระยะสั้นที่โดดเด่นอย่างมาก