ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 1065 พลิกแพลงสถานการณ์ (1)
ตอนที่ 1065 พลิกแพลงสถานการณ์ (1)
…………….
ราชาหมาป่าเย่เชียนในทวีปตะวันออกกลางนั้นแข็งแกร่งแค่ไหนทุกคนต่างก็รู้ดี ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เห็นสิ่งที่เย่เชียนทำเป็นการส่วนตัวแต่จากการได้ยินชื่อและวีรกรรมก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตกใจแล้วและไม่ว่าพวกเขาจะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่พวกเขาก็ต้องยอมรับว่าราชาหมาป่าเย่เชียนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างแท้จริง ซึ่งการคุกคามดังกล่าวทำให้พวกเขารู้สึกกลัวอย่างมาก
อย่างไรก็ตามที่นี่คือทำเนียบประธานาธิบดีและพวกเขาก็ต้องรับผิดชอบความปลอดภัยที่นี่ หากมีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ชีวิตของพวกเขาก็จะจบลงที่นี่เช่นกัน หากพวกเขาก้าวไปข้างหน้าพวกเขาก็จะตายและถ้าพวกเขาถอยพวกเขาก็จะตายเหมือนกันจนพวกเขาไม่รู้จะทำยังไงกันดี
ผู้ชายควรมีจุดยืนเป็นของตัวเองและผู้ชายจะเสียอะไรก็ได้แต่เขาต้องไม่เสียความเป็นตัวเองไป ถ้าเย่เชียนแสดงความขี้ขลาดในเวลานี้ไม่ต้องสงสัยเลยว่านั่นจะเทียบเท่ากับการพ่ายแพ้ต่อหน้าวาก้าและชื่อเสียงของราชาหมาป่าเย่เชียนและองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าก็จะพังทลายลงและจะไม่มีใครกลัวอีกเลย
เนื่องจากเย่เชียนกล้าเดินเข้าไปแบบนี้เขาก็ไม่เกรงกลัวภัยคุกคามเหล่านี้ตั้งแต่แรกแล้ว เขาไม่รู้ว่าการกระทำของบอดี้การ์ดถูกวาก้ากำชับมาหรือเปล่า แตสิ่งนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของเย่เชียนและความยิ่งใหญ่ขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าได้เพราะพวกเขาไม่อนุญาตให้ใครมาคุกคามพวกเขาเป็นอันขาด
ในเวลานี้ชายวัยกลางคนอายุห้าสิบกว่าปีก็เดินออกมาจากข้างในด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและพอเห็นสถานการณ์ตรงหน้าเขาก็เคร่งเครียดและดุว่า “พวกแกกำลังทำอะไรกัน?..เขาเป็นแขกผู้มีเกียรติของฉัน..อย่าทำตัวหยาบคาย..วางปืนลงซะ!”
หลังจากฟังคำตำหนิของวาก้าแล้วเหล่าบอดี้การ์ดก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ส่วนเย่เชียนก็ยิ้มเบาๆและรอยยิ้มของเขาก็เย็นชา การเสแสร้งแกล้งทำของวาก้าจะทำให้เย่เชียนมีความสุขอย่างงั้นเหรอ? แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะดูเหมือนเขาจะจริงใจแต่ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความเย่อหยิ่งของเขา แต่ถ้าหากเป็นวาก้าก่อนหน้านี้เขาจะขอโทษทุกวิถีทางในเวลานี้อย่างแน่นอนแต่ตอนนี้เขาแค่ดุด่าผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างหน้าซื่อใจคดและเห็นได้ชัดว่าเขาไม่เคารพเย่เชียนเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งเย่เชียนก็ไม่พูดอะไรใดๆและท่าทีของเขาก็ไม่แสดงความโกรธเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมจู่ๆคุณเย่ถึงมาที่ซาอุดิอาระเบียล่ะ..ทำไมคุณถึงไม่แจ้งให้ผมทราบเมื่อคุณจะมาล่ะผมจะได้ไปรับคุณ” วาก้าพูดและยิ้มเล็กน้อย
เย่เชียนก็ยิ้มจางๆแล้วพูดว่า “ประธานาธิบดีวาก้าจะมาต้อนรับผมได้ยังไง?..ถ้าคุณมารับผมที่สนามบินล่ะก็สนามบินจะไม่แออัดเลยงั้นเหรอ?”
“ว่าแต่คุณเย่กลับมาอย่างกะทันหันแบบนี้มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า..จริงๆแล้วถ้ามีบางอย่างคุณเย่ก็แค่โทรมาบอกผมแล้วผมจะจัดการให้เอง..ทำไมคุณถึงต้องเดินทางมาไกลแบบนี้?” วาก้าพูดต่อ “เชิญครับคุณเย่เราเข้าไปนั่งคุยกันข้างในดีกว่า” เขาพูดพร้อมเดินไปข้างหน้าแล้วจับมือของเย่เชียน ซึ่งท่าทางของเขาแสดงอารมณ์ของเจ้าบ้านได้ดีมากพร้อมกับใบหน้าของนักการเมืองที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน
“ผมได้ยินมาว่ามีคนต้องการไล่ผมออกจากที่นี่ผมก็เลยต้องกลับมาดูว่ามันเกิดอะไรขึ้น..เมื่อสองสามวันก่อนเล้งยี่บอกกับผมและผมก็ไม่เชื่อ..เพราะผมคิดว่าในประเทศนี้ไม่มีอะไรที่ประธานาธิบดีวาก้าไม่สามารถทำได้..ถ้ามีประธานาธิบดีวาก้าอยู่ที่นี่ใครจะกล้าท้าทายและคุกคามเขี้ยวหมาป่าของเรา” เย่เชียนพูดด้วยเสียงสองแง่สองง่าม “ประธานาธิบดีวาก้าผมไม่รู้ว่าคุณรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินแบบนั้นวาก้าก็พูดว่า “แน่นอนผมรู้มานิดหน่อยแต่จริงๆแล้วมันไม่ได้ซีเรียสอย่างที่คุณเย่พูดหรอก..คุณเย่ก็น่าจะรู้ว่ารายได้ทางเศรษฐกิจของประเทศเราส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการส่งออกน้ำมันซึ่งมันเป็นปัญหาใหญ่มาก..ดังนั้นหากประเทศต้องการพัฒนาก็ต้องขยายแหล่งเศรษฐกิจให้มากขึ้นและดึงดูดวิสาหกิจและนักลงทุนที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศจำนวนมากเข้ามาลงทุนในประเทศของเรา..คุณเย่เองก็เป็นหนึ่งในนั้นเพราะงั้นผมเชื่อว่าคุณเองก็หวังที่จะเห็นเศรษฐกิจของประเทศซาอุดิอาระเบียพัฒนาใช่มั้ย?”
“ผมไม่ปฏิเสธหรอกเพราะผมเองก็ยินดีที่ได้เห็นการพัฒนาทางเศรษฐกิจของประเทศซาอุดิอาระเบีย..แต่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศซาอุดิอาระเบียจะทำลายผลประโยชน์ของเขี้ยวหมาป่าของผมหรือเปล่า?” เย่เชียนพูด “ท่านประธานาธิบดีวาก้าผมคิดว่าคุณควรมีรายการบัญชีสำหรับเงินบริจาคที่ผมได้ทำให้กับประเทศซาอุดิอาระเบียในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอย่างชัดเจนนะ..การพัฒนาเศรษฐกิจมันก็เป็นเรื่องปกติแต่ตอนนี้มีคนอยากถอนฟันออกจากปากเสือแล้วผมจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้ยังไง..ผมไม่ทราบว่าประธานาธิบดีวาก้าตัดสินใจจัดการกับเรื่องนี้ยังไง?”
ขณะพูดที่วาก้าก็ยิ้มและเชิญเย่เชียนกับจินเหว่ยห่าวเข้าไปในห้องทำงานและหลังจากนั่งลงแล้ววาก้าก็สั่งให้เสิร์ฟชาสามถ้วย “คุณเย่มาจากประเทศจีนถ้างั้นคุณต้องมีความรู้เรื่องชามากแน่ๆ..นี่คือชามังกรที่ผมได้รับมาจากเพื่อนที่ประเทศจีน..คุณลองดูหน่อยสิว่ามันเป็นของแท้หรือเปล่า” วาก้าพูดและหัวเราะ
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วหยิบถ้วยชาขึ้นมาดมกลิ่นจากนั้นก็จิบและพูดว่า “เป็นชาที่ดีแต่น่าเสียดายที่ทักษะการชงชายังไม่เชี่ยวชาญพอจนทำให้ชาก็ไม่สามารถออกรสชาติได้อย่างเต็มที่..นี่ก็เหมือนเป็นมนุษย์ถ้าไม่โดนความร้อนอะไรๆก็จะไม่รู้จักคิดและพอหมดความร้อนไปมันก็จะไร้ชีวิตชีวา”
ความหมายของคำนั้นวาก้ารู้เป็นอย่างดีจากนั้นเขาก็ยิ้มเขินๆและพูดว่า “คุณเย่ครับจริงๆแล้วผมก็ค่อนข้างลำบากใจเพราะตระกูลบิลล์เป็นตระกูลใหญ่ในประเทศสหรัฐอเมริกาและมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจอย่างมาก..หากพวกเขาสามารถลงทุนในประเทศนี้ได้มันก็เป็นสิ่งสำคัญมากในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ..ซึ่งคนในบริษัทบิลล์กรุ๊ปสัญญากับผมว่าพวกเขายินดีที่จะช่วยสร้างเมืองท่องเที่ยวขนาดใหญ่ในประเทศซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการพัฒนาประเทศ..แต่ผมก็รู้ว่ามันอาจทำลายผลประโยชน์ของคุณเย่แต่ผมคิดว่าคุณเย่น่าจะเข้าใจเพราะเพื่ออนาคตของประเทศแล้วผมคิดว่าคุณเย่คงจะไม่สนใจอะไรมากนัก”
“อันที่จริงผมถือว่าประเทศซาอุดิอาระเบียเป็นประเทศของผมมาโดยตลอดและผมก็รักประเทศนี้มาก..อันที่จริงผมสามารถให้สัมปทานในแง่ของผลประโยชน์ได้แต่ประเด็นสำคัญก็คือประธานาธิบดีวาก้าไม่ได้แจ้งให้ผมทราบถึงสถานการณ์นี้..แต่คุณกลับสั่งปิดเหมืองและโรงกลั่นน้ำมันของผมหลายแห่งผมไม่รู้ว่าคุณต้องการอะไร..ในความคิดของผมพฤติกรรมของประธานาธิบดีวาก้าเพิกเฉยต่อการดำรงอยู่ของผมโดยสิ้นเชิงและไม่ปฏิบัติกับผมเหมือนสหายอีกต่อไป” เย่เชียนพูด
“ผมไม่อยากรบกวนคุณเย่เพราะผมคิดว่าด้วยความเอื้ออาทรของคุณเย่แล้วคงจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นเพราะพวกเราทุกคนต่างก็นึกถึงอนาคตของประเทศ” วาก้าพูด
“นี่คือคำอธิบายที่สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นงั้นเหรอ?” เย่เชียนถามอย่างเย็นชา “ประธานาธิบดีวาก้าผมคิดว่าคุณน่าจะรู้ดีกว่าผม..ที่คุณนั่งอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีได้นั่นก็เพราะเขี้ยวหมาป่าโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของตัวเองเลย..แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเขี้ยวหมาป่าของผมไม่เคยปฏิบัติไม่ดีต่อประธานาธิบดีวาก้าเลย..คุณลองคิดดูว่ามีจำนวนเงินเท่าไหร่ที่เขี้ยวหมาป่าบริจาคให้ประเทศซาอุดิอาระเบียในทุกๆปีผมคิดว่าคุณน่าจะรู้ดีกว่าผมนะ..แต่ตอนนี้คุณกลับขับไล่ผมออกจากกระดานซึ่งมันไม่เกินไปหน่อยรึเปล่า?..ผมสงสัยว่าคุณวาก้าเคยคิดถึงผลที่จะตามมาบ้างมั้ย?”
“คุณเย่นี่คุณกำลังข่มขู่ผมอยู่หรือเปล่า?” วาก้าพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ยังไงก็ตามผมก็เป็นถึงประธานาธิบดีของประเทศซาอุดิอาระเบียและผมก็สุภาพและให้เกียรติคุณเสมอแต่คุณเย่พูดแบบนี้ก็เหมือนกับคุณกำลังข่มขู่ผมอยู่..ผมรู้ว่าเขี้ยวหมาป่าของคุณน่ะแข็งแกร่งแค่ไหนแต่คุณควรรู้เอาไว้ว่าต่อให้เขี้ยวหมาป่าของคุณแข็งแกร่งแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถเผชิญหน้ากับประเทศทั้งประเทศได้หรอก!”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “คุณไม่จำเป็นต้องมาเตือนผมหรอก..ใครถูกใครผิดในเรื่องนี้ทุกคนต่างก็รู้ดี..ผมไม่มีอะไรจะพูดเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศแต่คุณกำลังทำสิ่งนี้โดยการตัดผลประโยชน์ของเขี้ยวหมาป่าของผมออกไป..คุณเคยคิดหรือเปล่ามันจะเป็นยังไงถ้าเขี้ยวหมาป่าของผมถอนการลงทุนทั้งหมดในประเทศซาอุดิอาระเบียไป?”
“ถ้าคุณเย่ต้องการทำแบบนั้นจริงๆผมก็ไม่มีอะไรจะพูด..ทัศนคติของประเทศเราต่อนักธุรกิจต่างชาติเป็นอย่างนี้มาโดยตลอดและพวกเขายินดีที่จะมาลงทุนแต่พวกเขาไม่ได้ถูกบังคับให้อยู่ต่อแต่ถ้าต้องการถอนการลงทุนไปผมก็จะไม่ห้ามอย่างแน่นอน” วาก้าพูด
เย่เชียนขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะวาก้าพูดอย่างมั่นใจและดูเหมือนว่าพวกบิลล์กรุ๊ปจะต้องให้คำมั่นสัญญาและผลประโยชน์มากมายกับเขา ด้วยเหตุนี้เย่เชียนจึงไม่จำเป็นต้องยอมเพราะโลกนี้มีที่หาเงินมากมายและไม่จำเป็นต้องประนีประนอมใดๆทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นด้วยความแข็งแกร่งขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าในภาคตะวันออกกลางก็ไม่จำเป็นต้องอ่อนข้อเลย หากว้าก้าสามารถทนต่อผลที่ตามมาได้จริงๆเย่เชียนก็เต็มใจที่จะต่อสู้กับเขาเช่นกัน แต่สิ่งเหล่านี้จะทำให้ทุกคนในประเทศประเทศซาอุดิอาระเบียตระหนักได้อย่างชัดเจนว่าประธานาธิบดีของพวกเขาไม่มั่นคงนัก
“หากเป็นกรณีนี้ผมก็ไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว..คุณวาก้าผมหวังว่าคุณจะไม่เสียใจในภายหลังนะเพราะโลกนี้มันไม่มีของฟรีและเงินของบิลล์กรุ๊ปก็ไม่ได้หามาง่ายๆหรอก” เย่เชียนพูดต่อ “คุณอยู่บนหลังเสือแล้วเพราะงั้นรอดูผลที่ตามมาได้เลย..คุณจะเป็นคนแรกที่ผมไร้ความปรานีด้วยเพราะงั้นอย่ามาโทษที่ผมโหดร้ายก็แล้วกัน” เมื่อพูดจบเย่เชียนก็ลุกขึ้นและเดินออกไป ต่อจากนี้ไม่ต้องพูดอะไรมากไม่อย่างนั้นจะเหมือนกับว่าเขากำลังเมตตาคนที่ไม่สมควรให้โอกาส
“หืม..เย่เชียน!..คุณกล้าที่จะขู่ผมงั้นเหรอ?” วาก้าตบโต๊ะอย่างโกรธเกรี้ยวจนเกิดเสียง “ปัง” และถ้วยน้ำชาบนโต๊ะสั่นไหวจากนั้นเย่เชียนก็หยุดแล้วหันไปมองด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่รุนแรงจนทำให้วาก้าก้าวถอยหลังไปโดยไม่รู้ตัว
ในเวลานี้ประตูห้องรับแขกก็ถูกผลักเปิดออกและฝ่ามือของวาก้าดูเหมือนจะเป็นสัญญาณลับและทันใดนั้นเหล่าบอดี้การ์ดหลายคนก็พุ่งเข้ามาจากด้านนอกและเล็งปืนไปที่เย่เชียนกับจินเหว่ยห่าวและบรรยากาศก็ตึงเครียดในทันที
.
.
.
.
.
.
.
ราชาหมาป่าเย่เชียนในทวีปตะวันออกกลางนั้นแข็งแกร่งแค่ไหนทุกคนต่างก็รู้ดี ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เห็นสิ่งที่เย่เชียนทำเป็นการส่วนตัวแต่จากการได้ยินชื่อและวีรกรรมก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาตกใจแล้วและไม่ว่าพวกเขาจะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่พวกเขาก็ต้องยอมรับว่าราชาหมาป่าเย่เชียนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างแท้จริง ซึ่งการคุกคามดังกล่าวทำให้พวกเขารู้สึกกลัวอย่างมาก
.
…………….