ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 1064 ไปทำเนียบประธานาธิบดี
ตอนที่ 1064 ไปทำเนียบประธานาธิบดี
…………….
แท้จริงแล้วเย่เชียนในทวีปตะวันออกกลางมีสถานะที่สูงมากและไม่เพียงแค่มีฐานทัพเขี้ยวหมาป่าในหลายๆ ประเทศเท่านั้นแต่ผู้นำของประเทศแต่ละประเทศก็ยังต้องพึ่งพาพลังและอำนาจของเขี้ยวหมาป่าเพื่อรับมือกับประเทศคู่แข่งด้วย ซึ่งนี่ต้องใช้ความสามารถอย่างมากและไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะมีอิทธิพลแบบนี้ได้ ดังนั้นนี่เป็นเหตุผลที่ผู้นำประเทศแต่ละประเทศต้องพึ่งพาเขี้ยวหมาป่าเพื่อทำสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทำได้
ฐานของเขี้ยวหมาป่าที่นี่เป็นเพียงสาขาหนึ่งเท่านั้นแต่ก็ไม่สามารถประเมินพวกเขาต่ำเกินไปได้เพราะหลังจากหลายปีของการพัฒนาก็ทำให้มีสมาชิกที่ประจำการมากกว่า 200 คน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเจ้าหน้าที่ปลดประจำการระดับแนวหน้าของโลก ซึ่งแต่ละคนล้วนมีพรสวรรค์และหลังจากเข้าสู่องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าพวกเขาก็ต้องผ่านการคัดเลือกและการฝึกอบรมที่โหดร้ายมาก ดังนั้นคนเหล่านี้จึงถือได้ว่าเป็นยอดฝีมือระดับแนวหน้าอย่างแน่นอน ทำไม CIA แห่งประเทศสหรัฐอเมริกาถึงได้กลัวองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าล่ะ? นั่นก็เพราะสมาชิกของเขี้ยวหมาป่าแต่ละคนนั้นเป็นไปด้วยพรสวรรค์และความสามารถที่หาได้ยาก หากพวกเขาอยู่ที่ไหนในโลกใบนี้พวกเขาก็อาจจะทำให้เกิดความโกลาหลและมีกำลังรบที่มหาศาลและความจริงที่ว่าองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าประจำการในทวีปตะวันออกกลางนั้นจะส่งผลกระทบต่อพวกเขาในหลายๆ ด้านอย่างไม่ต้องสงสัย
มันเป็นผลงานที่ยิ่งใหญ่ของเขี้ยวหมาป่าและเย่เชียนต่อความสำเร็จของวาก้าในการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีและแน่นอนว่าเย่เชียนไม่ได้สนใจผลประโยชน์ของตัวเองในขณะนั้นเลยแต่เต็มใจช่วยวาก้าอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามพฤติกรรมของวาก้าในตอนนี้กลับกตัญญูและลืมว่าตัวเองเคยเป็นใครและมีวันนี้เพราะใคร ซึ่งเย่เชียนก็เชื่อว่าเหตุผลที่วาก้าทำแบบนี้ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าผลกำไรหรืออำนาจและเงินที่ตระกูลบิลล์สามารถมอบให้ได้ แต่สิ่งเหล่านี้เย่เชียนก็สามารถให้เขาได้เช่นกันแต่พฤติกรรมในปัจจุบันของวาก้าทำให้เย่เชียนไม่พึงพอใจอย่างมาก
เย่เชียนเหนื่อยเล็กน้อยหลังจากที่ต้องวิ่งไปรอบๆ โลกอย่างต่อเนื่องและเมื่อเขากลับมาที่ฐานเย่เชียนก็ได้พบกับพี่น้องเขี้ยวหมาป่าทั้งหมดที่ประจำการอยู่ที่นี่และมองไปรอบๆ เพื่อดูวิธีการฝึกของพวกเขาจากนั้นก็กลับไปที่ห้องที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ ตอนนี้ได้เวลาพักผ่อนแล้วส่วนจินเหว่ยห่าวถึงแม้จะเหนื่อยนิดหน่อยแต่เขาก็อยากดูวิธีการฝึกของสมาชิกเขี้ยวหมาป่า เพราะเขาอุตส่ามีโอกาสมาเห็นแบบนี้สักครั้งในชีวิตก็เป็นธรรมชาติที่เขาจจะไม่พลาด แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้เย่เชียนก็ไม่ได้ปิดบังหรือห้ามเพราะเนื่องจากเย่เชียนตัดสินใจพาเขามาที่นี่เพราะงั้นก็ไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นดังนั้นเย่เชียนจึงบอกให้เล้งยี่คอยดูแลและแนะนำจินเหว่ยห่าวด้วยจากนั้นเย่เชียนก็ขึ้นไปที่ชั้นบนเพื่อพักผ่อน
ในตอนเย็นเย่เชียนลงมาทานอาหารและพูดคุยกับเหล่าสมาชิกเขี้ยวหมาป่าอย่างเป็นกันเอง ซึ่งบางคนที่นี่เพิ่งจะได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกเขี้ยวหมาป่าในภายหลังและพวกเขาก็ไม่เคยเจอราชาหมาป่าในตำนานตัวเป็นๆ ซึ่งเมื่อพวกเขาเห็นเย่เชียนยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาแล้วพวกเขาก็แทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเลย แท้ที่จริงแล้วเย่เชียนนั้นห่างไกลจากตัวละครและรูปลักษณ์ที่พวกเขาจินตนาการเอาไว้อย่างมากเพราะพวกเขาเคยคิดว่าเย่เชียนจะต้องเป็นคนที่ร่างกำยำสูงตระหง่านและดูมีอ่อร่าที่น่าเกรงขามแต่เมื่อพวกเห็นเย่เชียนในตอนนี้มันกลับไม่เป็นแบบนั้นเลย ถ้าไม่ใช่เพราะรอยแผลเป็นบนใบหน้าของเย่เชียนล่ะก็พวกเขาคงคิดว่าเย่เชียนเป็นชายหนุ่มที่เคร่งขรึมเท่านั้นเอง แต่เมื่อเห็นตัวจริงแล้วเขาผู้นี้คือคนที่ฆ่าได้โดยไม่กะพริบตาและเป็นผู้นำขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าผู้ยิ่งใหญ่ราชาหมาป่าเย่เชียนและพวกเขาต่างก็ชื่นชมอย่างมาก
ในการใกล้ชิดกับพี่น้องเหล่านี้เย่เชียนไม่จำเป็นต้องวางตัวเองให้อยู่ในตำแหน่งที่สูงเพราะเขาต้องการให้ความรู้สึกที่เป็นกันเองกับพวกเขาเหล่านี้ ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่พวกเขาจะเป็นฝูงหมาป่าที่จะต่อสู้เคียงข้างกันและนี่ก็คือการล้างสมองวิธีหนึ่ง
ในตอนกลางคืนสมาชิกเขี้ยวหมาป่าก็ยังคงฝึกฝนกันอยู่และเย่เชียนก็คอยแนะนำพวกเขาเป็นการส่วนตัว เมื่อเห็นการฝึกของพวกเขาเย่เชียนก็พอใจมากเพราะนี่คือกองกำลังใหม่ของเขี้ยวหมาป่าและจะเป็นกองทัพของเขี้ยวหมาป่าในอนาคต ถึงแม้ว่ารายได้ขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเพราะจะมีค่าจ้างที่สูงมากแต่พวกเขาก็มีงานต่างๆ ให้ทำอย่างไม่หยุดยั้งเพราะสมาชิกแต่ละคนต่างก็มีประสบการณ์จากสงครามจริงนับไม่ถ้วน ดังนั้นรากฐานและมาตรฐานของเขี้ยวหมาป่าจึงสูงมาก ตราบใดที่มีรากฐานเหล่านี้ก็เท่ากับมีความแข็งแกร่งที่มั่นคงเหมือนต้นไม้ใหญ่และคนเหล่านี้ก็เป็นต้นไม้,ราก,กิ่งและใบเพราะแต่ละคนจะมีบทบาทที่สำคัญเป็นของตัวเอง
องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่านั้นทำงานและพักผ่อนตามเวลาปกติมาก ซึ่งฝึกเลิกซ้อมประมาณ 5 ทุ่มและเข้านอนตรงเวลาตอนเที่ยงคืนและตื่น 6 โมงเช้าเพื่อรับประทานอาหารเช้า ซึ่งฐานประจำการแห่งนี้เคยเป็นเศษซากเก่าๆจากสงครามแต่นำมาปรับปรุงซ่อมแซมใหม่จนกลายเป็นฐานทัพ แน่นอนว่าทุกๆองค์กรจะต้องมีความขัดแย้งภายในเป็นการส่วนตัวและในเขี้ยวหมาป่าเองก็เช่นกัน อย่างไรก็ตามองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าป่ามีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนและเคร่งครัดโดยอนุญาตให้สมาชิกทะเลาะกันเด็ดขาด หากมีความขัดแย้งจะให้เลือกการแก้ไขโดยการแข่งขันประลองฝีมือกัน แต่ไม่ว่าผลการแข่งขันจะเป็นเช่นไรทั้งสองฝ่ายจะไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาอีกไม่เช่นนั้นจะถูกไล่ออกทั้งคู่
สวัสดิการขององค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่านั้นค่อนข้างสูง ไม่อย่างนั้นทหารผ่านศึกที่คุ้นเคยกับชีวิตในค่ายทหารและการปลิดชีพศัตรูในสนามรบมามากมายคงจะไม่เลือกเข้ามาสังกัดองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าอย่างแน่นอน นั่นเป็นเพราะสวัสดิการและค่าตอบแทนที่สูงอย่างมากนั่นเอง
นอกจากนี้ทหารส่วนใหญ่มักจะมีความสามัคคีและมิตรภาพที่แข็งแกร่งและเมื่อเหล่าสมาชิกเข้ากันได้พวกเขาจะไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ และถึงแม้ว่าจะมีการขัดแย้งกันบ้างแต่ก็เป็นสหายร่วมรบที่ไว้ใจกันได้อยู่ดี
หลังจากพักผ่อนทั้งคืนจิตวิญญาณของเย่เชียนก็ดีขึ้นมากและเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่เขาต่อสู้กับตู้ฟู่เหว่ยเขาได้ใช้วิชาลับประตูแปดด่านจนทำให้ตันเถียนของเขาระเบิดออกและหลังจากการเปลี่ยนแปลงเย่เชียนก็รู้สึกว่าพลังปราณของเขาบริสุทธิ์และมีพลังทำลายล้างมากกว่าเดิม ถึงแม้ว่าเย่เชียนจะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่รูปร่างคล้ายมนุษย์จิ๋วในตันเถียนของเขาคืออะไรแต่ตราบใดที่มันดีสำหรับเขาเย่เชียนก็ขี้เกียจเกินกว่าจะกังวล อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งเหล่านี้คืออะไรดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะไม่คิดถึงมัน
เช้าวันรุ่งขึ้นหลังอาหารเช้าเย่เชียนกับจินเหว่ยห่าวก็ขับรถไปที่ทำเนียบประธานาธิบดีของประเทศซาอุดิอาระเบียและเดิมทีเล้งยี่ก็ยืนยันที่จะมากับพวกเขาพร้อมกับสมาชิกจำนวนหนึ่งเพื่อความปลอดภัยของเย่เชียนแต่เย่เชียนปฏิเสธ เพราะคราวนี้เขาแค่คุยไปกับวาก้าเท่านั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำให้เรื่องต่างๆ วุ่นวายมากเกินไป บางทีอาจจะยังพอมีทางเจรจาดังนั้นหากทำอะไรมากเกินไปมันก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้เพราะท้ายที่สุดที่นี่ก็คืออาณาเขตคนอื่นและถึงแม้ว่าองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจะมีความแข็งแกร่งอยู่ที่นี่แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับกองทัพแห่งชาติของประเทศซาอุดิอาระเบียทั้งประเทศได้อยู่ดี
องค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าจะอยู่อย่างสบายใจเฉิบท่ามกลางกองกำลังต่างๆ ทั้งประเทศได้อย่างไร? ดังนั้นต้องแยกแยะสิ่งต่างๆ เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมสูงสุดเพราะนี่คือกฎเกณฑ์เมื่ออยู่ต่างแดน
ทำเนียบประธานาธิบดีของประเทศซาอุดิอาระเบียนั้นไม่ได้หรูหราและใหญ่โตเท่าของประเทศรัฐเซียและประเทศสหรัฐอเมริกาแต่มันก็ยังเป็นสถานที่ที่ดีมากเพราะอย่างน้อยๆ ผู้คนที่อยู่ที่นี่ต่างก็ไม่ใช่บุคคลธรรมดาเหมือนกับของจีนถึงและถึงแม้ว่าจะมีสวนสนามหญ้าก็ตามแต่ใครจะกล้าเข้ามาเดินเล่น? อย่างน้อยๆ ก็ไม่มีใครกล้าไม่เหมือนกับในประเทศที่เปิดเป็นสวนสาธารณะด้วย
หลังจากผ่านการตรวจจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแล้วเย่เชียนกับจินเหว่ยห่าวก็เข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดีและเดินไปที่ห้องรับแขกชั่วคราวของวาก้าภายใต้การนำของบอดี้การ์ด ซึ่งบอดี้การ์ดเหล่านี้ค่อนข้างหยิ่งผยองแต่ในสายตาของเย่เชียนแล้วคนเหล่านี้ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่ากระดาษเพราะแค่สมาชิกเขี้ยวหมาป่าก็จัดการกับคนเหล่านี้ได้แล้ว
เย่เชียนกับจินเหว่ยห่าวเดินเคียงข้างกันและการแสดงออกของจินเหว่ยห่าวก็ดูค่อนข้างตื่นเต้น จากนั้นเขาก็ยิ้มและพูดว่า “ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยเข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดีมาก่อนเลย..ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเพราะงั้นต้องขอบคุณน้องเย่เลย”
เย่เชียนก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรหรอกเพราะต่อไปเราจะไปทำเนียบขาวของประเทศรัสเซียและสหรัฐอเมริกาเพื่อพูดคุยกับผู้นำของพวกเขา!”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีเลยเพราะฉันจะได้สามารถคุยโอ้อวดในอนาคตได้” จินเหว่ยห่าวพูดแล้วหัวเราะ
“ได้โปรดเงียบ..ที่นี่ไม่ใช่สวนหลังบ้านของพวกคุณ!” บอดี้การ์ดตะโกนเสียงดัง
เย่เชียนก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “อย่ามาพูดแบบนี้กับฉันเด็ดขาด..พวกนายเป็นแค่บอดี้การ์ดตัวเล็กๆ เพราะแม้แต่ประธานาธิบดีของพวกนายยังไม่กล้าพูดกับฉันแบบนี้เลย!..ถ้านายยังพูดแบบนี้อีกเชื่อมั้ยว่าฉันจะฆ่าพวกนายซะตอนนี้เลย?”
เย่เชียนนั้นไม่ได้จริงจังกับบอดี้การ์ดเหล่านี้มากนักแต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของความเหมาะสมและตอนนี้เห็นได้ชัดว่าบอดี้การ์ดเหล่านี้ทำตัวหยิ่งผยองมากเกินไปหน่อย ซึ่งคนเหล่านี้ควรจะไว้หน้าเขาไม่ใช่เหรอ? เย่เชียนที่ความสามารถก้าวกระโดดจากเมื่อก่อนอย่างมากและยังมีจินเหว่ยห่าวอยู่ที่นี่อีกดังนั้นบอดี้การ์ดเพียง 13 คน ก็เป็นแค่เศษเค้กสำหรับพวกเขา
เห็นได้ชัดว่าบอดี้การ์ดไม่คิดว่าเย่เชียนจะกล้าพูดกับเขาอย่างเย่อหยิ่งแบบนี้เพราะเขาเพิ่งได้รับคำสั่งจากเบื้องบนว่าประธานาธิบดีกำลังจะนัดพบกับชายหนุ่มคนหนึ่งในวันนี้ แต่เขาก็ไม่รู้รายละเอียดของเย่เชียนเพราะถ้าเขารู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขาคือราชาหมาป่าเย่เชียนล่ะก็เขาจะกล้าทำแบบนี้ได้อย่างไร?
“อยากตายงั้นเหรอ?” บอดี้การ์ดตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวและง้างหมัดเพื่อต่อยเย่เชียน ซึ่งพวกเขาเป็นบอดี้การ์ดส่วนตัวของประธานาธิบดีซาอุดิอาระเบียแต่เมื่อเทียบกับเหล่าบอดี้การ์ดประธานาธิบดีของจีนที่มีความสามารถเหล่านั้นล่ะก็พวกเขาต่างกันราวฟ้ากับเหว เมื่อเห็นแบบนั้นเย่เชียนก็ไม่สบอารมณ์อย่างมากดังนั้นเขาจึงสวนกลับทันที
จากนั้นเย่เชียนก็หมุนตัวเตะบอดี้การ์ดอย่างแรงจนกระเด็นออกไปทันทีและกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างแรง ถ้าเย่เชียนไม่ยับยั้งพลังของเขาเอาไว้ล่ะก็เกรงว่าบอดี้การ์ดคนนี้จะต้องตายในทันที เสียงดังกล่าวได้ดึงดูดผู้คนในทำเนียบประธานาธิบดีทันทีและจากนั้นบอดี้การ์ดและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคนก็มารวมตัวกันทันทีและเล็งปืนไปที่เย่เชียนกับจินเหว่ยห่าว
เย่เชียนนั้นไม่กลัวเลยแม้แต่น้อยและถอนหายใจอย่างเย็นชาจากนั้นก็มองไปที่บอดี้การ์ดและพูดว่า “พวกแกจดจำชื่อของฉันเอาไว้ให้ดี!..ฉันเย่เชียน..ราชาหมาป่าเย่เชียนและถ้าคราวหน้าใครกล้าพูดกับฉันแบบนี้อีกพวกแกจะไม่โชคดีแบบนี้แล้ว” หลังจากพูดจบเย่เชียนก็หันไปมองรอบๆ แล้วพูดว่า “อะไรกัน..นี่พวกแกอยากจะยิงฉันงั้นเหรอ?”
เมื่อพวกเขาได้ยินว่าชายหนุ่มที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาเป็นผู้นำองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าผู้ยิ่งใหญ่ราชาหมาป่าเย่เชียนแล้วพวกเขาก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขาคือราชาหมาป่าเย่เชียนแล้วพวกเขาจะไม่กลัวได้อย่างไร? อย่างไรก็ตามที่นี่คือทำเนียบประธานาธิบดีเพราะงั้นในฐานะบอดี้การ์ดและหน่วยรักษาความปลอดภัยของที่นี่แล้วถ้าหากมีอะไรเกิดขึ้นพวกเขาก็ต้องลงมือทำ
.
.
.
.
.