ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 1046 เปลี่ยนแผนไม่ทันตามสถานการณ์ (1)
ตอนที่ 1046 เปลี่ยนแผนไม่ทันตามสถานการณ์ (1)
……….
จ้าวหยาเข้าใจความหมายของเย่เชียนเป็นอย่างดีเพราะเย่เชียนต้องการทำอะไรบางอย่างโดยไม่ต้องกังวลกับเธอ ส่วนจ้าวหยาก็ไม่ได้พูดอะไรมากและเธอก็เข้าใจดี จากการสนทนาสั้นๆระหว่างเย่เชียนกับซูซี่ในตอนนี้เธอก็ได้ยินเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของซูซี่ เพราะตัวตนที่ถูกจัดโดยสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติประเทศจีนจะต้องถูกเก็บเป็นความลับและหลายสิ่งหลายอย่างก็จะไม่เปิดเผยโดยเด็ดขาด
จ้าวหยาก็พยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “นายเองก็รีบๆพักผ่อนด้วยล่ะ” หลังจากพูดจบเธอก็ลุกขึ้นพูดกับซูซี่สองสามคำจากนั้นก็หันหลังและเดินไปที่ห้องชั้นบน
ซูซี่ก็ยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “คุณเย่โชคดีจริงๆ”
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างเฉยเมยและพูดว่า “เรามาร่วมมือกันเถอะ..ผมมีวิธีที่จะช่วยให้คุณได้รับความไว้วางใจจาก CIA มากขึ้นคุณอยากจะลองดูมั้ย?”
“คุณจะทำยังไง?” ซูซี่ถามอย่างกระตือรือร้นเพราะเธอเป็นสายลับ CIA มานานมากแล้วแต่เธอก็ไม่เคยเจาะข้อมูลของพวกเขาเลยจริงๆและนี่เป็นเรื่องที่ซูซี่กังวลมาเสมอ ดังนั้นหากเย่เชียนมีวิธีที่ดีจริงๆมันก็คุ้มค่าที่จะลองเพราะเธอเคยได้ยินหวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดถึงเย่เชียนว่าเขามักจะมีความคิดบ้าๆบอๆมากมายแต่ทำอะไรด้วยสามัญสำนึกเสมอและบ่อยครั้งก็สามารถบรรลุผลลัพธ์ที่ดีมากอีกด้วย ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเย่เชียนจะมีวิธีที่ดีจริงๆก็ได้
“จริงๆแล้วมันก็ง่ายมาก” เย่เชียนพูด “คุณแค่ต้องกระจายข่าวโดยบอกว่าผมเป็นคนฆ่าพวก CIA ที่ไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศจีนทั้งหมด..จากนั้นคุณก็บอกพวกเขาว่าผมอาศัยอยู่ที่ไหนแล้วพวกเขาจะต้องเชื่อใจคุณอย่างแน่นอน..แน่นอนว่าคุณต้องกำหนดตัวตนให้กับผมโดยผมจะต้องสวมบทเป็นสายลับจากสำนักความมั่นคงแห่งชาติจีนเพื่อพวกเขาจะได้เชื่อใจคุณมากขึ้น”
“ไม่!..มันอันตรายเกินไป” ซูซี่พูด “คุณคิดว่าคุณเป็นยอดมนุษย์อย่างงั้นเหรอ..ถ้าฉันพูดอย่างนั้น CIA จะต้องระดมพลไปจัดการกับคุณอย่างแน่นอนและมันจะยากสำหรับคุณที่จะออกไปจากประเทศนี้..อย่าประมาทพลังของ CIA สิเราไม่ควรละเลยความเสี่ยงต่างๆ..หากคุณอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายจริงๆฉันจะอธิบายให้ผู้อำนวยการหวงฟู่ยังไงและฉันจะอธิบายให้หูวเค่อฟังยังไง?..ยิ่งไปกว่านั้นหลี่เหว่ยจะต้องโกรธฉันอย่างแน่นอน..เรื่องนี้มันเป็นไปไม่ได้เลย”
ที่ซูซี่พูดนั้นคือความจริงเพราะถ้าเธอทำตามที่เย่เชียนพูด CIA จะไม่มีวันปล่อยให้เย่เชียนออกจากประเทศสหรัฐอเมริกาไปและพวกนั้นจะฆ่าเขาต่อให้เย่เชียนจะมีความสามารถมากแค่ไหนก็ตามแต่นี่มันดินแดนของคนอื่นดังนั้นเย่เชียนจะต้านทานการไล่ล่าของ CIA ได้อย่างไร?
เย่เชียนก็พึงพอใจอย่างมากกับความกังวลของซูซี่ที่มีต่อเขาเพราะการเป็นตัวแทนสายลับนั้นไม่ใช่เรื่องยากแต่การเป็นตัวแทนสายลับที่ดีที่ต้องเข้าไปแฝงตัวในองค์กรต่างๆนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะพวกเขามักจะสับสนระหว่างปฏิบัติการนอกเครื่องแบบและตัวตนของพวกเขาเอง ซึ่งบางทีก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไรหรืออยู่ฝ่ายไหนในบางสถานการณ์จนพวกเขาไม่สามารถยืนยันตัวตนของพวกเขาได้และซูศซี่ก็ถูกปกปิดเอาไว้ในฐานะสายลับของจีนมานานแล้วแต่เธอก็ยังสามารถแสดงตัวตนของสายลับ CIA ที่มีความสามารถและมีคุณสมบัติที่เหมาะสมมาก
มีหลายกรณีในโลกใบนี้เกี่ยวกับการเป็นสายลับ พวกเขาจะต้องลืมตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาไปในที่สุดและอุทิศตนเพื่อเอกลักษณ์ที่ปลอมแปลงอย่างสมบูรณ์แบบ ดังนั้นในฐานะตัวแทนสายลับแล้วพวกเขาจะต้องมีการควบคุมที่เข้มงวดมากแต่สิ่งนี้ก็ไม่สามารถรับประกันได้อย่างสมบูรณ์ว่าพวกเขาจะสามารถรักษาจิตใจและความเป็นมนุษย์ทั่วไปได้
เย่เชียนก็ยิ้มแล้วพูดว่า “หากไม่มีการเตรียมการมันก็ยากที่จะหลบหนีได้..แต่เนื่องจากนี่เป็นกับดักที่เราวางเอาไว้เพราะงั้นตราบใดที่เราวางแผนอย่างรอบคอบมันก็ไม่เป็นอะไรหรอก..หลังจากที่คุณส่งหยาเอ๋อร์ในวันพรุ่งนี้ผมก็จะเดินไปตามถนนอย่างจงใจและเมื่อถึงเวลานั้นคุณค่อยแจ้งข่าวให้ CIA ทราบแล้วผมจะล่อพวกเขาไปยังที่ที่เราแผนเอาไว้..ถ้าคุณไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นอะไรคุณสามารถถอนตัวได้ทุกเมื่อ..เอาล่ะคุณมีคำถามอะไรมั้ย?”
“ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี” ซูซี่พูด “แผนการนี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ได้เพราะงั้นถ้าหากมีอะไรเปลี่ยนแปลงฉันเกรงว่าเราจะควบคุมอะไรไม่ได้เลย..อีกอย่างฉันก็ไม่สามารถออกมาช่วยคุณได้เลย..ซึ่งคุณจะตกอยู่ในอันตรายมากยิ่งขึ้น”
เย่เชียนก็ยักไหล่เล็กน้อยและพูดว่า “ผมต้องแก้แค้นพวกนั้นให้ได้..ไอ้พวกสารเลวจาก CIA มันมาท้าทายผมถึงประเทศจีน..แน่นอนว่าผมไม่ต้องการให้พวกนั้นทำผลการวิจัยสำเร็จเพราะถ้าหากพวกเขาสำเร็จมันจะเป็นภัยคุกคามต่อผมและประเทศจีนอย่างมาก..ดังนั้นมันจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและมีประโยชน์มากที่สุดที่จะช่วยให้คุณบุกเข้าเจาะข้อมูลภายในของพวกนั้น” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็พูดต่อ “ทุกๆอย่างล้วนมีความเสี่ยงแม้กระทั่งการดื่มน้ำเปล่าก็มีโอกาสมากที่จะสำลักน้ำจนตายเหมือนกัน..เพราะงั้นไม่ต้องกังวลเดี๋ยวผมจัดการสิ่งต่างๆเอง..พรุ่งนี้คุณแค่พาคนจาก CIA มาหาผมและพรุ่งนี้ผมจะไปที่ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองแต่เช้าตรู่เพราะคนแถวนั้นพลุกพล่าน..ดังนั้นถึงแม้ว่า CIA จะต้องการจับผมที่นั่นก็เป็นไปไม่ได้ แล้วหลังจากนั้นผมจะล่อพวกเขามาที่นี่ได้”
ซูซี่ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและไม่ต้องสงสัยเลยว่าวิธีการของเย่เชียนนั้นดีจริงๆแต่เธอกังวลเรื่องความปลอดภัยของเย่เชียนเพราะความสามารถของ CIA เป็นพลังที่ไม่สามารถประเมินได้ ซึ่งถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเย่เชียนจริงๆเขาจะไม่สามารถออกไปจากประเทศนี้ได้เลย หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆซูซี่ก็พูดว่า “ถึงแม้ว่าแผนนี้จะเป็นไปได้แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่มาก..คุณไม่กังวลบ้างเลยงั้นเหรอ?”
“บัดซบจริงๆ..ถึงแม้ว่าผมเย่เชียนคนนี้จะไม่ใช่สุภาพบุรุษแต่อย่างน้อยๆผมก็เป็นผู้ชายและผมก็สามารถทำในสิ่งที่ผมพูดได้และต่อให้มันต้องเสี่ยงแค่ไหนก็ตาม” เย่เชียนพูด “ซึ่งนี่ไม่ใช่การกระทำเล็กๆน้อยๆและผมก็ทำสิ่งนี้เพื่อแผนการในอนาคตของผมเอง..เพราะถ้าหากว่าการทดลองของพวกเขาสำเร็จมันจะเป็นอันตรายต่อผมและประเทศชาติอย่างมาก”
“ตกลง..เราจะทำตามแผนนี้..ฉันสามารถจัดเส้นทางการหลบหนีให้คุณได้..ดังนั้นหลังจากที่คุณออกจากเมืองนิวยอร์กไปคุณจะเดินทางไปยังชิคาโก..จากนั้นก็ขึ้นเครื่องบินเพื่อออกจากประเทศนี้ไปให้เร็วที่สุด” ซูซี่พูด
เย่เชียนก็พยักหน้าเล็กน้อยและยิ้ม
อย่างไรก็ตามเย่เชียนไม่ได้คาดหวังว่าที่ชั้นบนจ้าวหยาจะแนบหูฟังที่ประตูเพื่อฟังการสนทนาของพวกเขาและได้ยินอย่างชัดเจนด้วยหูของเธอ ซึ่งสัญชาตญาณของเธอบ่งบอกว่าเย่เชียนจะเป็นอันตรายอย่างมากถ้าจะทำแบบนั้น
ซูซี่ไม่ได้ออกจากบ้านในคืนนั้นและพักอยู่ที่นี่หนึ่งคืนเพราะบ้านพักแห่งนี้มีหลายห้องดังนั้นจึงไม่เป็นไรที่จะให้เธอพัก จากนั้นเย่เชียนก็เข้าไปในห้องของจินเหว่ยห่าวเพราะเขารู้ว่าจินเหว่ยห่าวนั้นรู้สึกอย่างไรในตอนนี้ “คุณจินเป็นยังไงบ้าง?”
“ก็แค่นึกถึงเรื่องเก่าๆน่ะ” จินเหว่ยห่าวพูด
เย่เชียนเข้าใจสิ่งที่จินเหว่ยห่าวคิดแล้วตบไหล่เขาเบาๆแล้วพูดว่า “พวกเธอตายไปแล้วแต่คุณยังมีชีวิตอยู่และอดีตก็จบลงไปแล้วเพราะงั้นหากคุณยังจมปลักอยู่กับความทรงจำอันแสนเจ็บปวดในอดีตมันก็มีแต่จะทำให้ชีวิตของคุณเจ็บปวดและมืดมนมากขึ้นเท่านั้น..บางครั้งการลืมและปล่อยวางก็เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกัน..หากคุณรักพวกเธอจริงๆคุณก็ควรมีชีวิตที่สวยงามกว่านี้และให้พวกเธอรู้ว่าคนที่พวกเธอรักไม่ใช่คนไร้ประโยชน์และไม่ใช่คนที่ขี้ขลาดและมีชีวิตอยู่อย่างเข้มแข็ง”
จินเหว่ยห่าวก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วหันไปมองที่เย่เชียนแล้วยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ผมเข้าใจเรื่องพวกนี้ดีเพราะงั้นคุณเย่ไม่ต้องกังวลไปหรอก..ผมแค่คิดถึงพวกเธอเพราะด้วยวิธีนี้ผมจะรู้สึกเหมือนว่าพวกเธอยังมีชีวิตอยู่..ผมจะไม่ลืมเป้าหมายของผมเพราะผมจะพิสูจน์ให้พวกเธอเห็นว่าผมเป็นผู้ชายที่คู่ควรกับความรักของพวกเธอจริงๆ”
“ผมจะเล่าอะไรให้ฟัง” เย่เชียนพูดแล้วบอกแผนการของเขากับซูซี่สั้นๆจากนั้นก็พูดว่า “เรื่องนี้อันตรายมากและถ้าหากคุณอยากจะถอนตัวล่ะก็คุณก็เดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ได้เลย..ผมจะไม่โทษคุณในเรื่องนี้และเราก็จะยังเป็นเพื่อนกันอยู่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”
จินเหว่ยห่าวก็ฉีกยิ้มแล้วพูดว่า “แล้วถ้าผมอยู่ล่ะ?..แบบนั้นเราจะเป็นพี่น้องกันได้หรือเปล่า?” หลังจากหยุดไปชั่วขณะจินเหว่ยห่าวก็พูดต่อ “เนื่องจากผมเลือกที่จะมาที่ประเทศสหรัฐอเมริกากับคุณแล้วผมก็คิดเอาไว้แล้วว่ามันจะต้องมีเรื่องที่เสี่ยงและถ้าผมถอยกลับตอนนี้มันก็เท่ากับว่าผมดูถูกตัวเองน่ะสิ?”
เย่เชียนก็ยิ้มด้วยความโล่งอกเพราะเขารู้ว่าจินเหว่ยห่าวนั้นคิดอะไรเพราะในใจของจินเหว่ยห่าวนั้นไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าพวกเธอเพราะในความคิดของจินเหว่ยห่าวมีแต่พวกเธอเท่านั้น ซึ่งพวกเธอก็คือคนรักของจินเหว่ยห่าวสองคนที่เสียชีวิตไป ซึ่งพวกเธอเกิดจากครอบครัวธรรมดาๆแต่จินเหว่ยห่าวก็รักพวกเธออย่างสุดซึ้ง
เย่เชียนไม่ได้พูดอะไรมากเพราะบางครั้งการเป็นพี่น้องก็ต้องใส่ใจเรื่องมิตรภาพและเขาก็หวังจะเป็นพี่น้องกับจินเหว่ยห่าวได้จริงๆ ที่จริงแล้วถ้าหากจินเหว่ยห่าวเลือกที่จะจากไปเย่เชียนก็จะไม่โทษเขาเพราะมันไม่ใช่ความผิดของจินเหว่ยห่าว แต่ด้วยวิธีนี้จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับจินเหว่ยห่าวที่เป็นพันธมิตรจะกลายเป็นพี่น้องได้อย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งการที่จินเหว่ยห่าวเลือกที่จะอยู่นั้นจะเพิ่มความสัมพันธ์ของพวกเขาและเร่งมิตรภาพที่มีให้กันอย่างมาก
เย่เชียนก็ตบไหล่ของจินเหว่ยห่าวแล้วหันหลังเดินออกจากห้องไปและเดินขึ้นไปชั้นบน ในห้องนั้นจ้าวหยากำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างเงียบๆมีเสียงหายใจเล็กน้อย เมื่อเห็นแบบนั้นเย่เชียนก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มแล้วถอดเสื้อคลุมจากนั้นก็ขึ้นเตียงไปอย่างช้าๆ แต่จู่ๆจ้าวหยาก็หันกลับมากอดเขาโดยไม่พูดอะไรและกอดเขาแน่นอย่างมาก
เย่เชียนก็อึ้งไปครู่หนึ่งแล้วยิ้มเพราะปรากฏว่าจ้าวหยายังไม่หลับซึ่งเขาก็เอนกายอยู่บนเตียงให้จ้าวหยากอดส่วนเขาก็ครุ่นคิดเรื่องพรุ่งนี้อย่างเงียบๆและทั้งสองก็ไม่ได้พูดอะไรกัน บางครั้งความสุขก็แสนจะธรรมดาเพราะขอแค่คนรักกันได้อยู่ด้วยกันถึงแม้ว่าจะไม่พูดอะไรแต่รสชาติแห่งความสุขก็ยังคงเต็มอิ่ม
คืนนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นคืนที่ไม่มีใครนอนหลับเพราะจินเหว่ยห่าวกับซูซี่ก็ยังไม่ได้นอนเช่นกันเพราะพวกเขากำลังนอนอยู่บนเตียงและครุ่นคิดเกี่ยวกับความคิดของพวกเขาจนไม่สามารถนอนได้
.
.
.
.