ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 1042 ย้อนความทรงจำ
ตอนที่ 1042 ย้อนความทรงจำ
……….
ความรักนั้นมีความคล้ายคลึงกันอย่างมากกับมิตรภาพหากปฏิบัติต่อกันอย่างพี่น้องจริงๆก็จะเรียกว่ามิตรภาพและครอบครัว หากไม่ปฏิบัติต่อกันแบบพี่น้องก็จะเรียกว่าความรักความผูกพัน
ผู้ชายที่มีผู้หญิงคนหนึ่งที่เสียสละเพื่อตัวอย่างลับๆในชีวิตของเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่มีเงินบังตาจะมีผู้หญิงสักกี่คนที่ยอมเสียสละเพื่อความรักโดยไม่ลังเล? น้อยคนนักและเย่เชียนก็เป็นหนึ่งในผู้โชคดีที่ผู้หญิงของเขาทุกคนเป็นแบบนี้
สำหรับผู้หญิงแบบนี้ควรถูกเอาใจใส่อย่างไม่มีที่สิ้นสุดและไม่ควรปล่อยให้เธอได้รับบาดเจ็บหรือเสียใจเลยแม้แต่น้อย ดังนั้น หลังจากรับสายจากจ้าวหยาแล้วเย่เชียนก็ตัดสินใจโดยไม่ลังเลเลย ในใจของเขาผู้หญิงของเขาคือทุกสิ่งทุกอย่างและไม่ว่าเขาจะต้องทำอะไรสำคัญแค่ไหนเขาก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อผู้หญิงของเขาได้ เขาไม่สามารถพลาดที่จะปรากฏตัวในเวลาที่เธอต้องการเขามากที่สุดได้เพราะถ้าหากไม่ใช่ทางเลือกสุดท้ายพวกเธอก็จะไม่รบกวนเขาอย่างแน่นอน เย่เชียนก็เชื่อเช่นกันว่าจ้าวหยาจะไม่ขอให้เขามาถ้าหากเธอแก้ปัญหาได้แต่คราวนี้เธอคงจนตรอกและไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยตัวเองจริงๆ
จ้าวหยาก็ยิ้มที่มีความสุขแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร..ฉันแค่เหนื่อยเกินไป”
“ทำไมเธอถึงทำงานหนักขนาดนี้ล่ะ..ถ้าเธออยากทำงานจริงๆเธอก็ไปทำที่เครือน่านฟ้ากรุ๊ปสินั่นคือบริษัทของเรา..ตอนนี้เธออยู่ในเดอะมัวร์กรุ๊ปเพราะงั้นต่อให้เธอจะทำได้ดีแค่ไหนมันไม่ใช่ของเราอยู่ดี” เย่เชียนพูด “ฉันรู้สึกแย่ที่เห็นเธอเหนื่อยขนาดนี้รู้มั้ย..สัญญานะว่าเธอจะไม่ทรมานตัวเองแบบนี้อีกในอนาคต”
“อืม..ฉันสัญญา” จ้าวหยาพยักหน้าอย่างหนักหน่วงและเธอก็สัมผัสได้ถึงความห่วงใยของเย่เชียนซึ่งสำคัญกว่าสิ่งอื่นใดและยังทำให้เธอรู้สึกว่าความพยายามทั้งหมดของเธอคุ้มค่าแล้ว ย้อนกลับไปในตอนนั้นเพื่อพิสูจน์ว่าเธอสามารถอยู่กับเย่เชียนได้เหมือนกับฉินหยูเพื่อที่จะกลายเป็นผู้ช่วยของเย่เชียนและคอยดูแลเขาปกป้องเขาและช่วยเขาในอาชีพการงานของเขา ดังนั้นเธอจึงพยายามอย่างมากแต่เธอก็ไม่เคยบ่น ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นสิ่งที่เธอรอคอยมาอย่างยาวนานและจ้าวหยาก็รู้สึกว่าทุกอย่างคุ้มค่าแล้ว
“มาเถอะให้ฉันแนะนำเธอ..นี่คือเพื่อนของฉันจินเหว่ยห่าว” เย่เชียนพูด นอกจากคำว่าเพื่อนแล้วเย่เชียนก็ไม่รู้ว่าจะใช้คำไหนที่จะอธิบายตัวตนของจินเหว่ยห่าวเพราะพวกเขาไม่ใช่เพื่อนและพี่น้องกันจริงๆ “คุณจินนี่คือผู้หญิงของผมจ้าวหยา..ประธานบริหารของเดอะมัวร์กรุ๊ปประจำภาคเอเชีย..เป็นไงล่ะชื่อเสียงของเธอไม่ธรรมดาเลย” เย่เชียนพูดแล้วยิ้ม
จินเหว่ยห่าวก็ยิ้มเล็กน้อยและเขาก็ไม่ได้แสดงความไม่พอใจและไม่เห็นด้วยกับการแนะนำตัวของเย่เชียนแบบนั้น ความจริงก็เป็นอย่างนั้นเพราะตอนนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ “คุณเย่ช่างโชคดีจริงๆ” จินเหว่ยห่าวพูดแล้วยื่นมือออกมาและพูดว่า “สวัสดีครับคุณจ้าว”
จ้าวหยาก็เอื้อมมือไปจับมือจินเหว่ยห่าวแล้วพูดว่า “บางครั้งอารมณ์ของเย่เชียนก็ดีเกินไปเพราะงั้นถ้าเขาทำอะไรให้คุณขุ่นเคืองฉันก็หวังว่าคุณจะไม่โกรธเขานะ..จริงๆแล้วเย่เชียนเป็นคนใจดีแต่ก็ติดตลกไปบ้าง..ฉันคิดว่าพวกคุณสองคนจะเข้ากันได้ดี”
เย่เชียนกับจินเหว่ยห่าวก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งส่วนเย่เชียนก็ยิ้มเล็กน้อย เพราะจ้าวหยาที่ฉลาดปราดเปรื่องสามารถมองเห็นเบาะแสบางอย่างจากคำพูดและการกระทำของเย่เชียนและจินเหว่ยห่าวได้อย่างชัดเจน ดูเหมือนว่าการทำงานหนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะส่งผลกระทบต่อจ้าวหยาและทำให้เธอมีไหวพริบอย่างมาก นี่เป็นผลดีอย่างมากและมีการเปลี่ยนแปลงวิสัยทัศน์ครั้งใหญ่ ซึ่งถ้าหากแทนที่กับจ้าวหยาที่ดื้อรั้นจากเมื่อก่อนกลัวว่าเธอจะไม่สามารถมองเห็นสิ่งเหล่านี้ได้เลย?
จากนั้นไม่นานทั้งสามคนก็ออกจากสนามบินและขึ้นรถปอร์เช่แล้วขับรถไปที่บ้านพักที่จ้าวหยาอาศัยอยู่ชั่วคราว นี่เป็นทรัพย์สินประจำตัวของ CEO ของเดอะมัวร์กรุ๊ปสาขาอเมริกาเพื่อให้เจ้าหยาอาศัยอยู่ชั่วคราว ซึ่งในเขตชานเมืองของนครนิวยอร์ก สภาพแวดล้อมดีมากและอากาศก็สดชื่นมาก ตำแหน่งของจ้าวหยาในเดอะมัวร์กรุ๊ปนั้นค่อนข้างดีเยี่ยมและในฐานะที่เป็นผู้หญิงตะวันออกไม่กี่คนในเดอะมัวร์กรุ๊ปเธอจึงมีเสน่ห์และน่าดึงดูดมาก โดยธรรมชาติแล้วมีคนกำลังไล่ตามเธออยู่มากมาย สำหรับ CEO เดอะมัวร์กรุ๊ปประจำสาขาอเมริกานั้นเขามีอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากจึงไม่มีปัญหาในการให้จ้าวหยาอยู่ที่นี่ ซึ่งเขาชื่นชอบโรงแรมมากกว่าและเขาก็มีความสุขอย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตามเขาก็ยังต้องการเอาใจจ้าวหยาอีกด้วย
เย่เชียนหันไปมองที่จ้าวหยาแล้วพูดว่า “เป็นยังไงบ้าง?..ไม่ใช่เพราะเธอเหนื่อยใช่มั้ยที่เธอให้ฉันมาหา..มันมีอย่างอื่นอีกหรือเปล่า?” เย่เชียนยังคงชัดเจนเกี่ยวกับจ้าวหยาโดยอิงจากบุคลิกและอารมณ์ของจ้าวหยาเพราะถ้าเพียงเพราะความเจ็บป่วย เธอจะไม่เรียกหาเขาอย่างแน่นอน แต่เนื่องจากจ้าวหยาเรียกเขามาดังนั้นเธอจะต้องมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้นกับเธอแน่นอน
“ใช่!” จ้าวหยาพยักหน้าและพูดว่า “เมื่อเร็วๆนี้มีผู้ชายคนหนึ่งมารบกวนฉันและเขาเป็นลูกชายของตระกูลมาเฟีย..เขามีอำนาจและอิทธิพลมาก..ฉันไม่รู้จะรับมือกับเขายังไงดี..ฉันขอโทษฉันไม่ควรให้นายมาเสี่ยงที่นี่เลย” จ้าวหยาพูดโทษตัวเองเล็กน้อย เพราะจริงๆแล้วการมาประเทศสหรัฐอเมริกาของเย่เชียนนั้นค่อนข้างอันตรายและไม่รู้เลยว่าเขาจะรอดจาก CIA ที่ประเทศจีนอย่างโชคดีเหมือนครั้งที่แล้วได้หรือเปล่า
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “โถ่ๆสาวน้อย..ฉันต้องมาหาเธออยู่แล้วถ้าเธอมีปัญหา..ฉันไม่สนใจหรอกว่าอีกฝ่ายจะเป็นใคร..เพราะถ้าใครกล้ามารังแกผู้หญิงของฉันก็จะฆ่ามันซะ!” ถึงแม้ว่าน้ำเสียงจะดูไม่หวือหวามากนักแต่ก็มีแรงผลักดันที่ไม่สามารถปล่อยผ่านได้เลย ผู้หญิงคือจุดอ่อนของเย่เชียนเพราะฉะนั้นหากใครทำร้ายผู้หญิงของเขาล่ะก็เย่เชียนจะแก้แค้นด้วยพลังทั้งหมดที่มี
ตระกูลมาเฟียในประเทศสหรัฐอเมริกามีประวัติศาสตร์อันยาวนานและไม่อาจละเลยได้ นอกจากนี้วิธีการต่อสู้ที่มาเฟียต่างประเทศนำมาใช้นั้นก็โหดร้ายมาก ดังนั้นมันจึงไม่เหมือนกับพวกนักเลงในประเทศจีนซึ่งหลายๆคนไม่มีภูมิหลังและส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่พึ่งพาอำนาจและแบมือขอเงินบรรพบุรุษ
อย่างไรก็ตามเมื่อพูดว่าไม่ว่าคู่ต่อสู้จะแข็งแกร่งเพียงใดหรือมีอิทธิพลมากแค่ไหนในประเทศสหรัฐอเมริกาถึงยังไงเย่เชียนก็จะไม่มีวันยอมให้พวกนั้นรังแกผู้หญิงของเขาอย่างแน่นอน บางครั้งเย่เชียนก็เย่อหยิ่งและหยิ่งผยองอย่างมาก
รถกำลังขับอยู่บนทางหลวงที่กว้างขวางและเย่เชียนก็ลดกระจกลงและสูบบุหรี่อย่างเงียบๆ เย่เชียนจำไม่ได้ว่าเขามาที่ประเทศสหรัฐอเมริกากี่ครั้งแล้ว เขาคิดถึงหัวหน้ากลุ่มอัลกออิดะห์ในตอนนั้นตอนที่เราถ่ายรูปด้วยกันซึ่งมันดูตลกมากและเขาก็ไม่คิดว่ากองกำลังที่แข็งแกร่งแบบนั้นจะพ่ายแพ้ได้อย่างง่ายดาย ท้ายที่สุดแล้วมนุษย์ก็ไม่สามารถสู้กับเครื่องจักรของรัฐได้
นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวและความทรงจำมากมายของเย่เชียนที่ถูกฝังอยู่ในดินแดนแห่งนี้ เย่เชียนยังครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งว่าเขาจะสามารถอยู่รอดบนดินแดนแห่งนี้ได้อย่างไร อันที่จริงแล้วเขี้ยวหมาป่าอยู่ในภาคตะวันออกกลางซึ่งเป็นสถานที่ที่อันตรายมากและถึงแม้ว่ามันจะวุ่นวายมากแต่ก็เหมาะสำหรับทหารรับจ้างที่จะเอาชีวิตรอดได้ แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่แตกต่างกันที่นั่นประเทศใหญ่ๆบางประเทศที่อยู่ภายใต้สหพันธ์ของประเทศสหรัฐอเมริกาก็กำลังจับตามองเขี้ยวหมาป่าและมีแนวโน้มที่พวกเขาจะโจมตีเขี้ยวหมาป่าแต่ข้ออ้างเหล่านี้เย่เชียนก็รับรู้มาโดยตลอด
ดังนั้นสถานการณ์ของเขี้ยวหมาป่าจึงไม่รุ่งโรจน์อย่างที่คิดและมีความเสี่ยงมากมายซ่อนอยู่เบื้องหลังและปัญหาพื้นฐานที่สุดในการแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ก็คือการรับมือกับประเทศสหรัฐอเมริกาก่อน เย่เชียนได้เฝ้าดูสิ่งต่างๆมานานหลายปีเพื่อที่จะสู้รบในระยะแรกและเครือน่านฟ้ากรุ๊ปก็ได้เข้ามาหยั่งรากลึกอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกามาเป็นเวลานาน ท้ายที่สุดซ่งหลันก็ยังรู้จักเย่เชียนดีกว่าใครและไม่ต้องให้เย่เชียนบอกว่าเธอควรทำอะไรใดๆ
รถแล่นช้าลงและอาคารสไตล์ตะวันตกขนาดเล็กสามชั้นก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเย่เชียน ซึ่งมีสวนขนาดใหญ่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาชนิดและสระว่ายน้ำขนาดใหญ่อยู่ในสวนข้างในและมีรถโรลส์รอยซ์สุดหรูจอดอยู่
จ้าวหยาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วรถก็ขับเข้าไปอย่างช้าๆ “เกิดอะไรขึ้น?” เย่เชียนหันกลับมาถาม
“ชายคนนั้นบุกเข้าไปในบ้านของฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต” ใบหน้าของจ้าวหยาดูไม่พึงพอใจอย่างมากและเธอก็รู้สึกรังเกียจมากกับวิธีการของเรกบูนร์ อย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นที่ส่วนตัวของเธอด้วยดังนั้นการที่เรกบูนร์บุกเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตมันคือการคุกคามและไร้มารยาทอย่างมาก
มุมปากของเย่เชียนค่อยๆฉีกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ชั่วร้ายและดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า จ้าวหยารู้สึกได้อย่างชัดเจนและรีบพูดว่า “เย่เชียนอย่าทำอะไรนะเพราะตัวตนของเขาและสถานะพิเศษฉันเกรงว่ามันจะอันตรายต่อนายมากถ้านายทำอะไรมากเกินไป” อันที่จริงอิทธิพลของเรกบูนร์ในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นแข็งแกร่งมากและเย่เชียนก็มาเสี่ยงเพียงคนเดียวซึ่งมันจะ อันตรายมากจริงๆ
เย่เชียนพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยว่า “ไม่ต้องกังวลไป..ฉันรู้ว่าต้องทำอะไร..เธอคิดว่าสามีของเธอมาที่นี่โดยไม่ได้คิดเรื่องความเสี่ยงเลยงั้นเหรอ?..เธอไม่ต้องกังวลไปหรอก..เธอจะต้องมีความสุขและปลอดภัยจากทุกๆอย่าง”
จ้าวหนาก็ยิ้มอย่างมีความสุขและพยักหน้าอย่างหนักหน่วง
หลังจากลงจากรถแล้วทั้งสามคนก็เดินตรงเข้าไปในบ้านแล้วผลักประตูเข้าไปและเห็นชายในชุดสูทนั่งอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น ด้วยท่าทีสงบ เขาดูมีเกียรติมากซึ่งตรงนั้นมีชายร่างกำยำที่มีแผลเป็นที่ดูน่ากลัวตั้งแต่หน้าผากซ้ายจรดหางตาและจมูกจรดมุมปากราวกับตะขาบที่น่าขยะแขยง ถ้าหากคนธรรมดาได้เห็นก็ต้องหวาดกลัวอย่างมาก
แต่เย่เชียนคือใคร? เขาเคยเห็นคนเลวทรามมากมายและยิ่งไปกว่านั้นบ่อยครั้งคนที่น่ากลัวเมื่ออยู่ต่อหน้าเย่เชียนแล้วก็เป็นแค่กระดาษ ต่อให้คนที่อยู่ข้างหน้าเขาจะน่ากลัวแค่ไหนแต่เย่เชียนก็ไม่เคยหวั่นเกรง
.
.
.
.
.
.