ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 1028 ความลับของตระกูลจิน

ตอนที่ 1028 ความลับของตระกูลจิน

……….

พูดได้เลยว่าความวุ่นวายทางการเงินในทวีปอเมริกาใต้เป็นเพราะซ่งหลันและเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เครือน่านฟ้ากรุ๊ปได้เติบโตจากบริษัทเล็กๆ กลายมาเป็นบริษัทจดทะเบียนและติด 100 อันดับบริษัทชั้นนำของโลกโดยอาศัยความวุ่นวายทางการเงินครั้งนั้นกวาดผลกำไรอย่างมหาศาล จากนั้นซ่งหลันก็ผลักดันเครือน่านฟ้ากรุ๊ปจนติดหนึ่งใน 20 อันดับบริษัทชั้นนำของโลกและพูดได้เลยว่าซ่งหลันนั้นเกิดมาพร้อมกับความฉลาดและความเป็นนักธุรกิจโดยสมบูรณ์

เมื่อซ่งหรันวางแผนเรื่องนี้นักเก็งกำไรจากต่างประเทศจำนวนมากก็เข้ามามีส่วนร่วมด้วยเพราะถ้าให้ซ่งหลันทำเพียงคนเดียวก็จะไม่มีทางทำสำเร็จได้ ซึ่งในเวลานั้นชิงหยุนกรุ๊ปก็ได้ใช้ประโยชน์จากเวลานี้เช่นกันโดยโอ่วหยางหมิงซวนมีส่วนในหลายๆ อย่างและการพัฒนาของตระกูลโอ่วหยางทั้งหมดนี้ก็เกิดจากโอ่วหยางหมิงซวนหากปราศจากโอ่วหยางหมิงซวนแล้วตระกูลโอ่วหยางก็อาจจะเป็นเพียงตระกูลใหญ่ที่มีแต่ชื่อเสียงเท่านั้นแต่ไม่ได้มีอำนาจและอิทธิพลมากมายขนาดนี้ ซึ่งถ้าหากไม่ใช่โอ่วหยางหมิงซวนแล้วคนในตระกูลโอ่วหยางจะกล้าท้าทายจินเหว่ยห่าวได้อย่างไร?”

หลังจากหยุดไปชั่วขณะหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็พูดต่อ “ตระกูลโอ่วหยางไม่ได้มีคนที่มีพรสวรรค์ที่โดดเด่นแบบนี้มาสามชั่วอายุคนแล้ว..ซึ่งโอ่วหยางกัวเหว่ยพ่อของโอ่วหยางหมิงซวนก็เป็นคนที่มีทัศนคติด้านลบอยู่เสมอ..ส่วนลูกของลุงป้าน้าอาของโอ่วหยางหมิงซวนก็เป็นคนที่ไม่ได้เรื่อง..เพราะฉะนั้นโอ่วหยางหมิงซวนจึงทำให้ตระกูลโอ่วหยางมองเห็นแสงสว่างอย่างไม่ต้องสงสัย..ด้วยความวุ่นวายทางการเงินในอเมริกาใต้ทำให้โอ่วหยางกัวเหว่ยตระหนักถึงความสามารถของโอ่วหยางหมิงซวนดังนั้นเขาจึงมอบอุตสาหกรรมเกือบทั้งหมดของตระกูลให้กับโอ่วหยางหมิงซวนเพื่อให้เขาดูแลจัดการสิ่งต่างๆ ..อาจกล่าวได้ว่าคนที่มีอำนาจที่แท้จริงของตระกูลโอ่วหยางก็คือโอ่วหยางหมิงซวนนั่นเอง”

“ดูเหมือนว่าโอ่วหยางหมิงซวนจะเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งจริงๆ” เย่เชียนพูด “มันค่อนข้างน่าสนใจเลยทีเดียวว่าเขาจะทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้”

“ไอ้หนูอย่าเพิ่งสร้างปัญหาอะไรเพิ่มเลย..ตอนนี้ภาคตะวันตกเฉียงเหนือก็ร้อนระอุมากพอแล้ว..ถ้าเอ็งทำให้ตระกูลโอ่วหยางเดือดพล่านล่ะก็สถานการณ์ของเราจะแย่มาก” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูดด้วยความกังวล

เมื่อได้ยินแบบนั้นเย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ผมก็แค่พูดผมไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกที่จะไปยั่วยุโอ่วหยางหมิงซวนในตอนนี้..แต่ผมสงสัยว่าทำไมโอ่วหยางหมิงซวนถึงแสดงความจริงใจและอ่อนน้อมถ่อมตนกับผมหรือว่าเขารู้ว่าผมเป็นCEOที่แท้จริงของเครือน่านฟ้ากรุ๊ป? ..เพราะงั้นเขาเลยต้องการเข้าหาผม”

“โอ่วหยางหมิงซวนเป็นคนที่ฉลาดมากและเขาจะไม่เข้าหาเราโดยไม่มีเหตุผลหรอก..บอสเราต้องระวังเขาให้มาก” ม่อหลงพูด

เย่เชียนก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “สิ่งที่พี่พูดนั้นก็สมเหตุสมผลมากเพราะจากสถานการณ์ปัจจุบันโอ่วหยางหมิงซวนอาจจะยังไม่ทำอะไรในเร็วๆ นี้แต่ถ้าเรากับจู้ฟู่เหว่ยทำสงครามกันล่ะก็บางทีโอ่วหยางหมิงซวนอาจจะใช้ประโยชน์ในเวลานั้นก็ได้”

“ใช่” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด “ตลอดหลายปีที่ผ่านมาโอ่วหยางหมิงซวนต้องการขยายความแข็งแกร่งของตระกูลโอ่วหยางในภาคตะวันตกเฉียงเหนือมาโดยตลอดแต่ด้วยเหตุผลหลายๆ ประการมันก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนักและนี่คือสิ่งที่ทำให้เขาลำบากจนถึงทุกวันนี้..พวกเอ็งคือองค์กรทหารรับจ้างเขี้ยวหมาป่าที่มีอำนาจและอิทธิพลมากในภาคตะวันออกเฉียงใต้และแม้แต่ภาคกลางและนั่นส่งผลให้เครือน่านฟ้ากรุ๊ปพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว..ฉันคิดว่านี่อาจจะเป็นจุดประสงค์ของโอ่วหยางหมิงซวนเพราะเขาต้องการใช้อำนาจและอิทธิพลของเอ็งเพื่อพัฒนาตระกูลโอ่วหยาง” หลังจากหยุดไปชั่วขณะหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็พูดต่อ “เย่เชียนฉันจะเตือนเอ็งนะว่าเอ็งต้องระมัดระวังให้มากกว่านี้หน่อย..ฉันคิดว่าเอ็งควรตระหนักถึงทัศนคติของรัฐบาลกลางและเบื้องบนของประเทศจีนเพราะองค์กรขนาดใหญ่มักจะถูกสั่งห้ามกระทำใดๆ ที่โจ่งแจ้งและมากเกินไปโดยเด็ดขาดและตอนนี้อำนาจและพลังของเอ็งก็มาถึงระดับที่น่ากลัวแล้วเพราะงั้นเอ็งต้องระวังให้ดี”

เย่เชียนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเพราะเห็นได้ชัดว่าหวงฟู่ชิงเตี๋ยนกำลังจำกัดการกระทำของเขา เมื่อได้ยินแบบนั้นเย่เชียนก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ผมคิดว่าปู่ก็น่าจะรู้นะว่าทัศนคติของผมเป็นยังไง.แน่นอนว่าผมรู้ว่าพวกเขารักประเทศชาติและผมเองก็ทำงานให้กับประเทศชาติมามากมายแต่เมื่ออำนาจและอิทธิพลของผมในปัจจุบันมีมากเกินกว่าที่พวกเขาจะจัดการกับผมได้แบบนี้พวกเขาก็จะมาจำกัดการกระทำของผมมันจะไม่สมเหตุสมผลไปหน่อยเหรอ?”

เมื่อได้ยินแบบนั้นหวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า “ฉันแค่เตือนเอ็ง..อันที่จริงพวกเขาก็รู้ว่าเอ็งเป็นยังไง..ไม่งั้นเอ็งคงไม่สามารถขยายอำนาจอิทธิพลได้เรื่อยๆ แบบนี้หรอก..อย่างไรก็ตามทุกอย่างมีข้อจำกัดและเอ็งก็ต้องควบคุมความเร็วในการเติบโตให้เหมาะสม..เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ฉันเฝ้าดูเอ็งเติบโตขึ้นมานานแล้วและเชื่อมั่นในตัวพวกเอ็งอย่างเต็มที่และฉันก็ไม่เสียใจเลยที่สนับสนุนเอ็ง..ฉันคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเอ็งในตอนนี้คือการแสดงทัศนคติและความจงรักภักดีต่อประเทศชาติให้ชัดเจนแล้วหาโอกาสเพื่อใกล้ชิดกับเบื้องบนให้ได้เพราะนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับอนาคตของพวกเอ็ง”

“ทัศนคติอย่างงั้นเหรอ? ..ถ้าผมไม่รักชาติแล้วผมจะทำไปเพื่ออะไร..หรือถ้าผมไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพวกเขาผมก็จะไม่มีอนาคตอย่างงั้นเหรอ?” เย่เชียนพูด “ผมรู้ดีว่าสิ่งที่พวกเขาต้องการตอนนี้ไม่ใช่ความรักชาติของผม..แต่เป็นความจงรักภักดีของผมที่มีต่อพวกเขาใช่มั้ย? ..พวกเรายินดีที่จะรับใช้ประเทศชาติแต่ไม่อยากที่จะเป็นเบี้ยของนักการเมืองและเบื้องบนเหล่านั้น..แต่ก็ไม่มีใครเปลี่ยนสิ่งที่พวกเขาทำได้”

หวงฟู่ชิงเตี๋ยนก็ถอนหายใจเล็กน้อยและพูดว่า “ฉันรู้ว่าเอ็งคิดยังไงแต่บางครั้งเอ็งต้องให้ความสนใจกับสิ่งต่างๆ มากกว่านี้..แน่นอนว่าเอ็งมีตระกูลเย่กับตระกูลหม่าคอยสนับสนุนเอ็งและตอนนี้ก็ยังมีรองนายกรัฐมนตรีหูวหนานเจียนอีกด้วยเพราะงั้นเอ็งควรจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเบื้องบนให้มากเพราะมันจะดีกับเอ็งในอนาคต”

เย่เชียนก็ยักไหล่แล้วพูดว่า “ผมก็แค่ทำตามสถานการณ์เท่านั้น..ปู่กับผมก็ไม่ใช่คนนอกเพราะงั้นผมจึงไม่ต้องการปิดบังบางสิ่งบางอย่างกับจากปู่..ผมรู้ว่าเงื่อนไขทั้งหมดคืออะไรดังนั้นผมจะตั้งใจทำให้ดีแต่ขอแค่อย่าบังคับผมมากจนเกินไปไม่งั้นถ้าปลาจะต้องตายอวนจะต้องขาดไปด้วย..โลกนี้มันกว้างใหญ่จริงๆ เพราะงั้นผมไม่เชื่อหรอกว่าผมจะไม่มีที่ยืนในโลกใบนี้”

“แน่นอนว่าฉันเชื่อเรื่องนี้” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด “ฉันแค่จะเตือนเอ็งว่าถ้าเอ็งให้ความสนใจมากกว่านี้มันจะดีสำหรับเอ็ง”

เย่เชียนพยักหน้าแล้วพูดว่า “ผมเข้าใจประเด็นนี้แล้ว” หลังจากหยุดไปชั่วขณะเย่เชียนก็หันไปมองที่ชิงเฟิงและพูดว่า “เป็นไงบ้างมีข่าวอะไรจากแจ็คบ้างหรือเปล่า?”

“มีครับบอส” ชิงเฟิงพูด “จินเหว่ยห่าวเป็นสมาชิกของตระกูลจินและเป็นคนที่ตระกูลจินไม่ค่อยจะยอมรับมากนัก..พูดได้ว่าทุกคนในตระกูลต่างก็เพิกเฉยต่อการดำรงอยู่ของเขาโดยสิ้นเชิง..ในตระกูลจินเขาไม่มีสถานะใดๆ เลยแม้แต่น้อยและตอนที่เขาอายุสิบหกปีเขาออกจากบ้านของตระกูลจินไป”

“จินเหว่ยห่าว?” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่งและพูดด้วยความประหลาดใจว่า “เอ็งจะสืบข้อมูลของเขาไปเพื่ออะไร?”

“เมื่อวานก่อนที่โอ่วหยางหมิงซวนจะกลับไปเขาถูกจินเหว่ยห่าวลอบสังหารที่นี่” เย่เชียนพูดต่อ “ในสายตาของเขามีความเศร้าอยู่ลึกๆ และผมคิดว่าเขาจะต้องมีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นกับเขา..ซึ่งตอนนี้สถานการณ์ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือก็วุ่นวายมากและผมต้องระวังเพราะงั้นผมต้องรู้ข้อมูลของทุกคนที่ปรากฏตัวออกมาไม่อย่างนั้นมันอาจจะทำลายแผนการของเราก็เป็นได้..ว่าแต่ปู่รู้จักจินเหว่ยห่าวด้วยเหรอ?”

หวงฟู่ชิงเตี๋ยนถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ แล้วพูดว่า “จริงๆ แล้วจินเหว่ยห่าวคนนี้เป็นคนที่น่าสงสารมาก.เอ็งรู้มั้ยว่าตระกูลจินคืออะไร?”

“เป็นหนึ่งในแปดตระกูลเสาหลักแห่งโลกศิลปะการต่อสู้โบราณและเป็นทายาทของลัทธิเต๋า” ชิงเฟิงพูด

“ใช่แล้วตระกูลจินแท้จริงแล้วพวกเขาเป็นทายาทสายเลือดแท้ของลัทธิเต๋า” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด “สำหรับตระกูลจินแล้วถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นตระกูลศิลปะการต่อสู้โบราณก็จริงแต่ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่ได้เข้ามาพัวพันกับโลกศิลปะการต่อสู้โบราณเลยเพราะเดิมพวกเขาเป็นตระกูลชนชั้นสูงและเป็นตำนานที่เล่าขานกันมาของลัทธิเต๋า..แต่พอมาถึงในยุคนี้พวกเขาก็รู้สึกอับอายและต่อมาก็เปลี่ยนเป็นตระกูลจินและเริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณ..ว่ากันว่าพลังของตระกูลจินนั้นยิ่งใหญ่มากและจัดอันดับอยู่หนึ่งในสี่ตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกศิลปะการต่อสู้โบราณ!”

เย่เชียนขมวดคิ้วและคิดอย่างลับๆ ว่า ‘ภูมิหลังของจินเหว่ยห่าวคนนี้ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ..แต่การที่โอ่วหยางหมิงซวนกล้าที่จะยั่วโมโมจินเหว่ยห่าวนั่นก็เท่ากับเป็นการท้าทายตระกูลจินไม่ใช่เหรอ?’ ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องราวมากกว่าที่เขาคิดและหลังจากหยุดไปสักพักเย่เชียนก็พูดต่อ “ช่วยเล่าเกี่ยวกับจินเหว่ยห่าวให้พวกเราฟังหน่อย..ดูเหมือนว่าปู่น่าจะรู้จักเขานะ”

“ถึงแม้ว่าจินเหว่ยห่าวจะเป็นทายาทสายตรงของตระกูลจินแต่ตระกูลจินก็ไม่ได้สนับสนุนเขาเลย..พ่อของเขาคือจินเจิ้งปิงและแม่ของเขาคือจือยู่..เดิมทีแม่ของเขาเป็นเพียงคนรับใช้ของตระกูลจินแต่จินเจิ้งปิงได้ตกหลุมรักเธอแล้วแต่งงานกับเขาในฐานะภรรยาของเขา..แต่ทว่าจินถิงชานผู้นำตระกูลจินต่อต้านอย่างรุนแรง..เอ็งก็น่าจะเข้าใจว่าการแต่งงานในตระกูลใหญ่แบบนี้มักจะต้องแต่งกับพันธมิตรที่มีอำนาจ..ดังนั้นจินถิงชานจึงบังคับให้จินเจิ้งปิงแต่งงานใหม่..ซึ่งนั่นเป็นผลทำให้แม่ของจินเหว่ยห่าวถูกตระกูลจินทอดทิ้งและต่อมาเธอก็เสียชีวิตลงด้วยความเครียดจนป่วยหนัก..ด้วยเหตุนี้จินเหว่ยห่าวจึงเกลียดชังตระกูลจินมาโดยตลอดและส่งผลให้ความสัมพันธ์กับพ่อของเขาไม่ค่อยจะดีนัก” หวงฟู่ชิงเตี๋ยนพูด

“ตามข้อมูลที่แจ็คให้มาจินเหว่ยห่าวมีแฟนตอนเขาอายุสิบแปดและเธอเป็นผู้หญิงจากครอบครัวธรรมดาๆ แต่ทั้งสองก็รักกันมาก..แต่ทว่ากลับฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงไปในแม่น้ำและว่ากันว่าเป็นเพราะตระกูลจินกดดันเธอและเรื่องนี้ก็สร้างปัญหาให้กับนับครั้งไม่ถ้วน..นั่นทำให้เธอเครียดมากจนคิดสั้นฆ่าตัวตาย ” ชิงเฟิงพูดต่อ “ด้วยเหตุนี้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจินเหว่ยห่าวกับตระกูลจินก็ตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ ..อันที่จริงตระกูลใหญ่ๆ เหล่านี้ก็มักจะไม่ยอมให้ลูกหลานในตระกูลไปแต่งงานกับคนจากตระกูลและครอบครัวธรรมดาๆ อย่างเด็ดขาดและต่อให้พวกเขาเป็นเพียงเศษเสี้ยวของตระกูลก็ตาม”

.

.

.

.

.

.