ยอดนักรบจอมราชัน - ตอนที่ 1002 หวังฉิงเซิง
ตอนที่ 1002 หวังฉิงเซิง
……………………………………………………………………..
หลังจากผ่านค่ำคืนที่วุ่นวายไปม่อหลงก็กลับไปที่โรงแรมในตอนเช้าแต่ก็ยังไม่มีข่าวของแม่ม่ายดำจือเหวินเลย ยิ่งไปกว่านั้นม่อหลงก็ไม่คุ้นเคยกับดินแดนนี้ไม่เหมือนในเมืองเซี่ยงไฮ้เพราะถ้าเขาต้องการข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้เขาก็จะได้รับข้อมูลมากมายแต่ในเมืองซีหนิงนั้นม่อหลงต้องซ่อนตัวตนของเขาดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะทราบข่าวต่างๆได้
เย่เชียนเองก็นอนไม่หลับทั้งคืนเพราะจือเหวินหายตัวไปอย่างลึกลับดังนั้นเขาจะหลับได้อย่างไร เพื่อทำให้สงบสติอารมณ์เย่เชียนจึงนั่งบนโซฟาทั้งคืนเพื่อปรับสมาธิ ส่วนหลี่เหว่ยกับชิงเฟิงเองพวกเขายังกังวลเกี่ยวกับจือเหวินเช่นกันและเอาแต่สูบบุหรี่ตลอดทั้งคืนเพื่อลดความกังวลและพวกเขาก็มาที่ห้องของเย่เชียนในตอนเช้า
ไม่นานหลังจากนั้นม่อหลงก็กลับมาและมองเย่เชียนอย่างขอโทษแล้วพูดว่า “ฉันขอโทษด้วยบอส..มันไม่มีข่าวเกี่ยวกับจือเหวินเลย..ซึ่งฉันก็ลองไปที่คฤหาสน์ของหวังหว่านยู่ราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือและบอกได้เลยว่าการป้องกันที่นั่นแน่นหนามากจนเข้าใกล้ไม่ได้เลย”
“ไม่เป็นไร..พี่เองก็เหนื่อยมาทั้งคืนแล้วเพราะงั้นรีบไปพักผ่อนเถอะ” เย่เชียนพูด
“บอส..เราจะไปตรวจสอบทำไมล่ะเพราะไม่ว่าพี่สะใภ้จะถูกหวังหว่านยู่จับตัวไปหรือไม่ก็ตามถึงยังเธอก็หายตัวไปในเมืองซีหนิงเพราะงั้นเราก็แค่ไปหาใครสักคนเพื่อถามสิ่งต่างๆ” หลี่เหว่ยพูด
“ใช่เราควรไปหาพวกเจ้าถิ่นของเมืองนี้และถึงแม้ว่าหวังหว่านยู่จะไม่ได้จับพี่สะใภ้ไปก็เถอะ..แต่ถ้าเราไปซื้อข้อมูลจากพวกนั้นเราจะได้ข่าวเร็วกว่าไปสืบเองอย่างแน่นอน” ชิงเฟิงพูดต่อ “บอสอย่างกังวลไปเลยพี่สะใภ้เป็นคนฉลาดและเธอก็ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก”
เย่เชียนสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดว่า “เตรียมตัวให้พร้อมเราจะไปหาหวังหว่านยู่ราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือใน..ฉันล่ะอยากรู้จริงๆว่าคนที่ถูกเรียกว่าราชาจะมีความสามารถสักแค่ไหน” ในสายตาของเขา เจตนาฆ่าที่แข็งแกร่งระเบิดออกมา สังหารอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันจะไปด้วย” ม่อหลงพูด
เย่เชียนก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “เมื่อคืนพี่ทำงานหนักและไม่ได้นอนทั้งคืนเลยเพราะงั้นวันนี้พี่ควรจะพักผ่อนให้เพียงพอ..ผมคิดว่าหวังหว่านยู่ไม่กล้าทำอะไรกับผมหรอกและนอกจากนี้เราเป็นฝ่ายไปหาเขาเพื่อพูดคุยเพราะงั้นมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก”
“ไอ้คนแบบนี้มันไว้ใจไม่ได้และในความคิดของผมหวังหว่านยู่เป็นคนเลวทรามต่ำช้าและเจ้าเล่ห์ไม่อย่างนั้นมันคงไม่เล่นสกปรกโดยการจับตัวพี่สะใภ้ไปหรอก..บอสระวังตัวเอาไว้ด้วยนะ” หลี่เหว่ยพูด “ตอนนี้ผมพร้อมมากเพราะงั้นถ้าเขากล้าทำอะไรล่ะก็มันจะเกิดสงครามแน่นอน” หลี่เหว่ยพูดและฉีกเสื้อด้วยความบ้าคลั่งและร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยระเบิด
เมื่อเห็นแบบนั้นเย่เชียน,ม่อหลงและชิงเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ “นายไปเอาระเบิดพวกนี้มาจากไหน” เย่เชียนถามด้วยความประหลาดใจ
“ผมเตรียมมันเอาไว้ก่อนที่จะมาถึงที่นี่..ตอนแรกผมต้องการจะระเบิดคฤหาสน์ของหวังหว่านยู่ให้หายออกไปจากแผนที่เมืองซีหนิง” หลี่เหว่ยพูดอย่างเกรี้ยวกราด
เย่เชียนก็ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้เพราะถึงแม้ว่าบางครั้งหลี่เหว่ยจะหุนหันพลันแล่นไปหน่อยแต่เขาก็จริงใจเสมอ ซึ่งเย่เชียนนั้นก็ไม่รู้เลยว่าราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือหวังหว่านยู่นั้นเป็นคนยังไงและไม่มีใครสามารถรับประกันได้ว่าเขาจะไม่ทำอะไร ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือสิ่งที่หลี่เหว่ยคิด แต่ทว่าในขณะที่เขากำลังจะพูดจู่ๆก็มีคนเคาะประตูและหลี่เหว่ยก็รีบใส่เสื้อผ้าของเขาทันทีจากนั้นชิงเฟิงก็เดินไปเปิดประตู
ที่ประตูมีชายวัยกลางคนแปลกๆยืนอยู่และชิงเฟิงก็ตกตะลึงเล็กน้อยแล้วถามว่า “คุณมาหาใครเหรอ?”
“คุณเย่อยู่ที่นี่หรือเปล่า..ผมชื่อหวังฉิงเซิง” ชายวัยกลางคนที่ประตูพูด
“คุณมาผิดที่แล้ว..ที่นี่ไม่มีคนชื่อเย่” ชิงเฟิงพูดแล้วปิดประตูเพราะในดินแดนของคนอื่นชิงเฟิงต้องระวังอย่างมาก
“ให้เขาเข้ามา” เสียงของเย่เชียนดังมาจากด้านในและชิงเฟิงก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งแล้วเปิดประตูอีกครั้งแล้วให้หวังฉิงเซิงเข้ามา จากนั้นหวังฉิงเซิงก็ขอบคุณเขาครั้งแล้วครั้งเล่าและเดินเข้ามายืนตรงหน้าเย่เชียนด้วยความสั่นเทา “นั่งลงเถอะ” เย่เชียนโบกมือแล้วพูดว่า “ผมเพิ่งจะมาถึงที่นี่เมื่อวานนี้เองเพราะงั้นคุณมีอะไรจะมาบอกผมอย่างงั้นเหรอ?”
“ผมรู้ว่าคุณเย่ต้องอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับแม่ม่ายดำจือเหวินอย่างแน่นอนเพราะงั้นผมจึงมาที่นี่เพื่อบอกคุณ” หวังฉิงเซิงพูด
เย่เชียนก็ขมวดคิ้วและมองไปยังหวังฉิงเซิงที่อยู่ข้างหน้าเขาและรอยยิ้มอันชั่วร้ายก็ก่อตัวขึ้นที่มุมปากของเย่เชียน จากนั้นเขาก็พูดว่า “จริงเหรอ?..ผมอยากรู้จริงๆว่าคุณหวังมีข้อมูลดีๆอะไรบ้าง..พูดมาได้เลย”
“ตอนนี้จือเหวินอยู่กับหวังหว่านยู่ราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือ..ซึ่งเขาหลอกเธอเพราะเขาไม่ต้องการให้เธอกลับไปที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและยิ่งไปกว่านั้นสุสานของหยางเทียนที่อยู่ในพื้นที่รกร้างนั้นจริงๆแล้วมันไม่มีเลยและที่อยู่ที่นั่นคือกับดักของหวังหว่านยู่..ส่วนหลุมศพของหยางเทียนนั้นถูกซ่อนเอาไว้ที่อื่น” เมื่อมองไปที่ดวงตาของเย่เชียนแล้วหัวใจของหวังฉิงเซิงก็สั่นสะท้านโดยไม่มีเหตุผลและเขาก็คิดว่าถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้เขาคงถูกเย่เชียนทำร้ายไปแล้ว”
“ราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือนี่ช่างมีแผนการที่ล้ำลึกจริงๆ” เย่เชียนนั้นอดไม่ได้ที่จะคิดว่ากับดักนี้ถูกสร้างขึ้นมาหลายปีแล้วและเขาก็ต้องชื่นชมหวังหว่านยู่ที่มีแผนการอันล้ำลึกแบบนี้ แต่แน่นอนว่าเย่เชียนจะไม่เชื่อคำพูดของหวังฉิงเซิงง่ายๆขนาดนั้นและเย่เชียนก็รู้ดีว่าถ้าหวังฉิงเซิงต้องการยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเย่เชียนกับหวังหว่านยู่และแม่ม่ายดำจือเหวินก็เป็นกุญแจสำคัญ ดังนั้นคำพูดของหวังฉิงเซิงจึงเป็นความจริงครึ่งเดียวและความเท็จอีกครึ่งหนึ่ง
“คุณหวังแล้วที่ผมทำร้ายลูกชายของคุณแบบนั้นแต่คุณไม่เกลียดผมเลยเหรอ?” เย่เชียนพูด
“ถ้าพูดว่าไม่เกลียดนั่นก็เหมือนโกหกแต่ก็เป็นความผิดของเด็กมันด้วย..ถ้าไม่ใช่เพราะความเลวทรามของเขาล่ะก็เขาคงไม่มาลงเอยแบบนี้และนอกจากนี้คุณเย่ได้ไว้ชีวิตผมนั่นก็ถือว่าเป็นความเมตตาแล้ว” หวังฉิงเซิงพูดอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวว่าสถานการณ์ในตอนนี้จะเปิดเผยความจริงในจิตใจของเขาที่ซ่อนอยู่เพราะต้องรับมือกับคนอย่างเย่เชียนแล้วเขาจึงต้องจัดการกับมันอย่างระมัดระวังเพราะถ้าผิดพลาดมันอาจนำหายนะมาสู่ตัวเขาเองและเขาก็ชัดเจนมากเกี่ยวกับเรื่องนี้
บางครั้งผู้ชายกับผู้ชายก็แยกตามอายุไม่ได้เพราะคำพูด,ท่าทางและทัศนคติของเย่เชียนทำให้หวังฉิงเซิงชื่นชมอย่างมาก เพราะเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ชายที่อายุต่ำกว่า 30 ปีจะมีความเป็นผู้ใหญ่และประสบความสำเร็จแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นข้างหน้าของเย่เชียนดูหวังฉิงเซิงกำลังยืนเปลือยกายอยู่ข้างหน้าเขาโดยไม่มีความลับใดๆและไม่มีความกล้าแม้แต่น้อย ซึ่งดวงตาที่แหลมคมของเย่เชียนดูเหมือนจะเจาะเข้าไปถึงเบื้องลึกในใจของผู้คนจนทุกคนต่างก็หวั่นเกรง
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ต้องขอบคุณคุณหวังด้วย..ผมรู้ว่าคุณเป็นคนของหวังหว่านยู่และผมเองก็บังคับให้คุณออกจากเมืองซีจิงเพราะงั้นคุณไม่ต้องการที่จะแก้แค้นผมเลยงั้นเหรอ?” เย่เชียนพูด
“ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นจริงๆแต่แล้วผมก็เข้าใจอย่างชัดเจนว่าตอนนี้ผมเองก็อยู่ห่างไกลจากความแข็งแกร่งของคุณเย่..เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าผมจะต้องการแก้แค้นก็ตามแต่ผมก็ไม่มีโอกาสประสบความสำเร็จได้เลย..แทนที่จะเอาชีวิตไปทิ้งอย่างไร้ประโยชน์แบบนั้นสู้เลิกล้มความคิดนี้ซะยังดีกว่า” หวังฉิงเซิงพูด “การที่คุณเย่ไม่ได้ฆ่าผมในตอนแรกนั่นก็หมายความว่าคุณเย่ไม่กลัวการแก้แค้นของฉัน”
“นี่คือเมืองซีหนิงและเป็นดินแดนของหวังหว่านยู่ราชาแห่งภาคตะวันตกเฉียงเหนือ..ซึ่งคุณเองก็เป็นคนของภาคตะวันตกเฉียงเหนือเพราะงั้นที่นี่คือโลกของคุณแต่ผมอยู่ตามลำพังในดินแดนที่อันตราย..แบบนี้ถ้าคุณอยากแก้แค้นผมมันก็ง่ายมากแต่ทำไมคุณถึงมาบอกข้อมูลเหล่านี้กับผมล่ะ?” เย่เชียนพูด “คุณหวังคุณคิดว่าผมเป็นคนโง่เหรอ..คุณคิดว่าคุณจะหลอกผมด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำแบบนั้นจริงๆใช่มั้ย?”
หวังฉิงเซิงก็พูดด้วยน้ำเสียงสั่นๆว่า “ใช่!..ผมต้องการใช้พลังของคุณเย่จัดการกับหวังหว่านยู่แต่เรื่องที่แม่ม่ายดำจือเหวินอยู่กับเขานั้นเป็นเรื่องจริงๆ..หลายปีที่ผ่านมาผมอยู่ภายใต้การควบคุมของหวังหว่านยู่เพราะงั้นถึงภายนอกเขาจะดูยิ่งใหญ่และโออ่ามีราศีก็ตามแต่มีเพียงแค่ผมเท่านั้นที่รู้ว่าหวังหว่านยู่นั้นเลวทรามแค่ไหน..เขาทั้งข่มเหงและลงโทษทำร้ายร่างกายผมตามใจชอบและไม่ปฏิบัติกับผมเหมือนมนุษย์เลย..ผมเกลียดเขาและผมก็ต้องการที่จะแก้แค้นเขา..ผมต้องการให้เขารู้ว่าหวังฉิงเซิงคนนี้ไม่ใช่สุนัขรับใช้ของเขาแต่ยิ่งใหญ่กว่าเขาอีก”
คำพูดนี้เป็นจริงครึ่งเท็จครึ่งและยังรวมความเกลียดชังของหวังฉิงเซิงที่มีต่อหวังหว่านยู่และมันช่างสะเทือนอารมณ์จริงๆ หลังจากรับใช้หวังหว่านยู่มานานหลายปีหวังฉิงเซิงก็รู้ว่าคนอย่างหวังหว่านยู่จะไม่ยอมใครอย่างแน่นอนและถึงแม้ว่าจือเหวินจะไม่ได้อยู่ในกำมือของหวังหว่านยู่ในตอนนี้ก็ตามแต่หวังหว่านยู่จะไม่มีวันก้มหัวและยอมรับความพ่ายแพ้ต่อหน้าเย่เชียนอย่างแน่นอน ดังนั้นหวังฉิงเซิงจึงไม่กังวลเกี่ยวกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเพราะขอแค่ให้ทั้งสองได้เผชิญหน้ากันเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว
“ตั้งแต่สมัยโบราณคนที่ทรยศต่อเจ้านายของพวกเขาก็จะจบลงแบบเดียวกันเสมอ..เมื่อคุณเลือกที่จะทรยศต่อเฉินฉิงหนิวคุณก็น่าจะรู้ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไงไม่ใช่เหรอ?” เย่เชียนพูด
“มีใครที่ไม่อยากไต่เต้าเป็นใหญ่บ้าง?..ใครอยากจะอยู่ใต้เท้าของคนอื่นตลอดไป?..ทางเลือกของผมมันผิดก็จริงแต่ผมไม่เคยเสียใจเลย” หวังฉิงเซิงพูด
เมื่อได้ยินแบบนั้นเย่เชียนก็พูดว่า “คุณมาบอกข่าวผมแบบนี้เพราะคุณต้องการให้ผมจัดการกับราชาตะวันตกเฉียงเหนือหวังหว่านยู่เพื่อที่คุณจะได้ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ใช่มั้ย?..คุณไม่กลัวว่าผมจะไปบอกหวังหว่านยู่เกี่ยวกับเรื่องนี้และยื่นข้อเสนอให้เขาปล่อยตัวจือเหวินบ้างเหรอ?..ผมเชื่อว่าเขาต้องอยากรู้แน่ๆว่าใครที่ทรยศหักหลังเขาแบบนั้นคุณก็น่าจะรู้ว่าสิ่งต่างๆจะเป็นยังไงใช่มั้ย?”
หวังฉิงเซิงก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน เมื่อได้ยินแบบนั้นใบหน้าของหวังฉิงเซิงก็เปลี่ยนเป็นสีซีดและเงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นก็พูดว่า “ผมเชื่อว่าคุณเย่จะไม่ทำแบบนั้นเพราะผมสามารถร่วมมือกับคุณเย่เพื่อจัดการกับหวังฉิงเซิง..ตราบใดที่เขาตายเราก็สามารถแบ่งดินแดนภาคตะวันตกเฉียงเหนือออกเป็นสองส่วนได้อย่างง่ายดาย” หวังฉิงเซิงต้องแสดงข้อเสนอที่ดีเพราะนอกเหนือจากนี้เขาก็ไม่รู้จริงๆว่าจะมีวิธีอื่นเพื่อดึงดูดใจอย่างไร?
หลังจากหยุดไปชั่วขณะหวังฉิงเซิงก็พูดต่อ “ที่สำคัญแม่ม่ายดำจือเหวินก็อยู่ในกำมือของหวังหว่านยู่เพราะงั้นมันคงเป็นเรื่องยากที่จะทำอะไรกับหวังหว่านยู่ในตอนนี้แต่ผมสามารถช่วยให้จือเหวินไม่ตกอยู่ในอันตรายได้”
.
.
.
.