ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 763 ท้องลูกของชู้
ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 763
หลี่หมัวมัวรีบพ่นลมไปทางกลางอากาศสามครั้ง “เพ่ยเพ่ยเพ่ย! ท่านอายุมากแล้วพูดอะไรเช่นนี้! ท่านเกิดมาในโชคชะตาสูงส่ง ทรงเป็นพระพันปี หลังจากนี้ยังต้องดูการเจริญเติบโตขององค์หญิงน้อยทั้งสอง ดูพวกเขาสร้างครอบครัวไปด้วยกัน!”
“คำพูดที่ไม่เป็นสิริมงคลเข่นนี้ อย่าได้พูดอีกเลยเพค่ะ ข้าน้อยเชื่อว่า ฮ่องเต้และฮองเฮาเหนียงเหนียงต้องมีสักวันจะต้องเข้าใจถึงความปรารถนาดีของท่าน”
ไทเฮาทำเหมือนกำลังปลอบใจตัวเอง แล้วตบเบาๆที่มือของหลี่หมัวมัว “เฮ้อ หวังว่าจะเป็นแบบนั้น……”
เมื่อหลี่หมัวมัวเห็นว่าไทเฮากำลังโทษตัวเองอยู่ จู่ๆก็ไม่กล้าพูดถึงเรื่องที่ฮองเฮาเหนียงเหนียงกำลังตั้งพระครรภ์อยู่
ก่อนหน้านี้คนที่มาส่งข่าวเร่งรีบจนเกินไป พวกเขาได้ยินเพียงแค่ว่าหยุนอี่ว์โหรวกำลังถูกจะประหารชีวิต ก็เร่งรีบวิ่งกันออกไปช่วยชีวิตคน แต่คิดไม่ถึงตอนที่เขากำลังกลับมาได้ยินคนใช้ทั้งสองพูดว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงเองก็กำลังตั้งพระครรภ์เช่นกัน……
หากไทเฮารู้ว่าฮองเฮาเหนียงเหนียงกำลังตั้งพระครรภ์อยู่ แล้วยังปฏิบัติต่อนางเช่นนี้ เกรงว่าคงจะยิ่งโทษตัวเองไปมากกว่านี้
งั้นก็รออีกสักสองถึงสามวันค่อยบอกแล้วกัน ถึงอย่างไร……ก็จะต้องรู้อยู่ดี
ไทเฮาไม่รู้ว่าในใจของหลี่หมัวมัวนั้นคิดอะไรอยู่ ได้แต่มองไปที่ห้องของหยุนอี่ว์โหรวดูแล้วดูอีก ทันใดนั้นสีหน้าก็ได้เปลี่ยนเป็นความเศร้าหมอง “ทุกอย่างก็ได้เตรียมการเกือบหมดแล้วกลับกันเถอะ”
“เพค่ะ” หลี่หมัวมัวรีบประคองไทเฮาให้ลุกยืนขึ้น แล้วเดินนำพระองค์ออกไปทางประตู
ไทเฮาเพิ่งจะเสด็จออกมาจากประตู จากนั้นก็ได้หันกลับมามององครักษ์ทั้งหลายแล้วตะคอกพูดว่า “ดูคนแทนข้าไว้ให้ดี หลังจากนี้เรื่องอาหารการกินหรือเรื่องเสื้อผ้าของนางจะต้องอยู่แต่ในห้องนี้เท่านั้น ห้ามออกมาแม้แต่ครึ่งก้าว!”
“หากมีเรื่องอะไร ต้องรายงานข้าเป็นคนแรก!”
ในเมื่อฮ่องเต้ทรงพูดแล้วว่าจะคุมตัวหยุนอี่ว์โหรว ดังนั้นนางก็ต้องยอมรับ และต้องยอมอย่างสุดหัวใจ พระองค์ก็หวังว่าผู้หญิงที่ชั่วร้ายคนนี้จะไม่ออกมาก่อปัญหาข้างนอกอีก
รอให้หยุนอี่ว์โหรวคลอดองค์รัชทายาทออกมาอย่างราบรื่น พระองค์ก็จะให้คนคุมตัวนางไปอยู่ตรงหน้าหนานหว่านเยียนและกู้โม่หาน แล้วแต่พวกเขาจะจัดการ
“ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ!”องครักษ์ทั้งหลายตอบรับด้วยความเคารพนอบน้อม มองดูไทเฮาและหลี่หมัวมัวจากไป
หลังจากที่ไทเฮาเดินจากไปเพียงเวลาครึ่งก้านธูปภายในห้อง สีหน้าซีดเซียวของหยุนอี่ว์โหรวที่นอนอยู่บนเตียง ลืมตาขึ้นด้วยความอ่อนแรง
นางรู้สึกถึงอาการวิงเวียน อาการปวดท้องของนางทำให้ยิ่งกังวล
เปิดแล้วเปิดริมฝีปากที่แตกของนาง “น้ำ น้ำ……”
ทางด้านข้าง ปี้หยุนเพราะต้องดูแลหยุนอี่ว์โหรวตลอดจนไม่ได้พักผ่อนเลย
ในขณะที่นางกำลังงีบหลับก็ได้ยินเสียงหยุนอี่ว์โหรว ตื่นตกใจอยู่ชั่วครู่ ก็รีบเด้งขึ้นมาแล้วไปเทน้ำให้หยุนอี่ว์โหรว
“เหนียงเหนียงท่านรอสักครู่! ข้าน้อย ข้าน้อยจะรีบไปเดียวนี้!”
ปี้หยุนรีบนำน้ำมาอย่างเร่งรีบ ประคองร่างกายของหยุนอี่ว์โหรวไว้ แล้วป้อนน้ำอุ่นให้นางอย่างระมัดระวัง
หลังจากทำให้คอชุ่มชื้นขึ้น หยุนอี่ว์โหรวถึงได้รู้สึกว่าตัวเองนั้นได้ฟื้นคืนชีพมาอีกครั้ง บนใบหน้าของนางก็ยังคงรู้สึกแสบร้อนด้วยความปวดบวมเป่งอยู่เหมือนเดิม
วินาทีต่อมา ดูเหมือนนางจะจำอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ทันใดนั้นก็ผลักแก้วน้ำที่อยู่บนมือของปี้หยุนด้วยความโมโห กัดฟันแน่น ในสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “ให้ตายเถอะ!”
ปี้หยุนตกใจจนรีบคุกเข่าลงไปกับพื้น และพูดอย่างไม่หยุดว่า “เหนียงเหนียงใจเย็นก่อนเพค่ะ! ตอนนี้ท่านห้ามกระทบกระเทือนถึงเด็กในท้องอย่างเด็ดขาดนะเพค่ะ วันนี้ที่พวกเราสามารถผ่านวิกฤษนี้ไปได้ เป็นเพราะองค์รัชทายาทที่ยังอยู่ในท้องของท่านช่วยไว้ทั้งนั้นนะเพค่ะ ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ ท่านต้องห้ามเป็นอะไรไปนะเพค่ะ!”
หยุนอี่ว์โหรวจ้องมองปี้หยุนด้วยสายตาเย็นชาและโกรธ กำผ้านวมที่อยู่บนตัวไว้อย่างแน่น
ถูกต้อง ถ้าไม่มีเด็กคนนี้คอยปกป้องไว้ นางเกือบได้ตายไปแล้วจริงๆ
เมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ หยุนอี่ว์โหรวยิ้มเยาะ นัยน์ตาสีแดงฉานเกือบจะทะลุออกมาเป็นไฟอยู่แล้ว “แล้วยังไง? เด็กคนนี้สามารถปกป้องข้าได้ช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถปกป้องข้าได้ตลอดทั้งชีวิต”
วันนี้เจ้าก็เห็นแล้ว ฮ่องเต้บอกว่าจะฆ่าข้า หากจะลงมือจริงๆ รอให้เด็กคนนี้คลอดออกมา ชีวิตของข้า ก็จบสิ้นเหมือนกัน!”
แต่สิ่งที่นางกลัวที่สุด ไม่ใช่การตายด้วยน้ำมือของกู้โม่หาน แต่เพราะกลัวจะถูกกู้โม่หานหย่าด้วย แบบนั้นนางก็จะถูกลดสถานะให้เป็นผู้หญิงต่ำต้อยที่ไม่มีสถานะใด ๆ !
นางทระนงตนมาตั้งแต่เกิด และยังไม่เคยถูกดูถูกต่ำต้อยเช่นนี้มาก่อน!
นางทำไม่ได้ ยิ่งไม่เต็มใจอย่างยิ่ง ทุกสิ่งที่นางทำมาจนถึงตอนนี้ทั้งหมด ก็เพื่อตำแหน่งที่สูง หากให้นางสูญเสียชื่อเสียงและโชคลาภในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ มันเจ็บปวดสะยิ่งกว่าการปล่อยให้นางตายเป็นพันเท่าล้านเท่า!
ปี้หยุนมองดูความทะเยอทะยานของหยุนอี่ว์โหรว รู้สึกกลัว แต่นางรู้ว่า การต่อสู้แย่งชิงอำนาจของราชวงค์นั้นเป็นเช่นนี้มาเสมอ อำนาจนั้นมันช่างน่าดึงดูดเกินไป ทำให้คนสามารถกายเป็นปีศาจร้ายได้โดยไม่รู้ตัว
เป็นธรรมดา ผู้ชนะถือกษัตริย์ และนางเองก็ตะกายขึ้นไปอยู่กับหนานหว่านเยียนไม่ได้อีก ทำได้เพียงติดตามหยุนอี่ว์โหรวอย่าง
ตายใจต่อไป “ถ้าเช่นนั้น เหนียงเหนียง หลังจากนี้พวกเราควรจะทำอย่างไร?”
หยุนอี่ว์โหรวลูบท้องตัวเอง แล้วมองออกไปข้างนอก เต็มไปด้วยทหารอารักขา ซึ่งนี่แตกต่างจากองครักษ์ที่จวนอ๋อง
ทหารที่จวนเป็นแค่คนธรรมดาทั่วไป แต่ทหารอารักขามาจากค่ายทหาร เป็นทหารของกู้โม่หาน และถวายความจงรักภักดีต่อกู้โม่หานไม่มีใครสามารถไปเขย่าได้
หัวใจของนางเต็มไปด้วยความเกลียดแค้น สีหน้าดุน่าเกลียดมาก ราวกับว่านางได้ยืนอยู่บนขอบหน้าผาอีกครั้ง ตับและถุงน้ำดีเหมือนถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
“ยังสามารถทำอะไรได้ละ ก่อนที่เด็กคนนี้จะคลอด จะต้องกลับแพ้เป็นชนะให้ได้!”
“ไม่เช่นนั้น เราก็ทำได้แค่รอความตายเท่านั้น!”
ในตอนนี้ นางได้ถูกปิดล้อมไว้ทั่วทุกด้านแล้วจริงๆ ภายในใจยังคงเหลือความเกลียดชังที่ถูกทอดทิ้งอยู่ และยังมีหวาดกลัวเล็กน้อย
ศพของหยางเลี่ย นางแค่ห่อด้วยเสื่อกกและฝังกลบด้วยหญ้า หวังว่าศพคงจะไม่ส่งกลิ่นเหม็นในเร็วๆนี้ มิฉะนั้น หากมีคนไปทำความสะอาดที่ตำหนักบรรทมเดิมของนาง คงจะถูกค้นพบเป็นแน่!
หากเป็นคนไม่เกี่ยวข้องก็ดี มีแต่กู้โม่หาน นางหวาดระแวงในคืนนั้นที่นางไม่ได้เข้าห้องหอกับเขา หากไม่ใช่เพราะว่าในคืนนั้นความทรงจำของเขาเองนั้นก็สับสนอยู่เช่นกัน แต่นางก็คือกัดไม่ปล่อยว่านางได้เข้าห้องหอร่วมกับเขาแล้ว ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้ก็คงจะยังไม่คลี่คลาย
แต่ หากว่าศพผู้ชายที่อยู่ในตำหนักบรรทมของนางถูกค้นพบ อีกอย่างยังเป็นอดีตองครักษ์ในจวนอ๋องอีก……
เกรงว่า เรื่องที่เด็กในท้องที่กำลังตั้งครรภ์อยู่นั้นเป็นลูกของชู้ ก็จะปิดไม่มิดอีกต่อไป——