ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 758 มิใช่สตรีของเขาอีกต่อไปแล้ว
ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 758
เจ้านายของนางผู้นี้ รู้สึกห่วงใยกังวลใจต่อบรรดาชนรุ่นเยาว์มาแล้วตลอดชีวิต
ความจริงสามารถเพลิดเพลินอย่างมีความสุขอยู่กับสมาชิกครอบครัวคนในบ้าน แต่บัดนี้ล่วงเลยเข้าสู่วัยชราแล้ว ยังคงสืบเนื่องเพราะเรื่องราวเหล่านี้ จนมิสามารถสงบจิตสบายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อนางเห็นเช่นนั้นแล้ว ทำให้รู้สึกช่างเจ็บปวดใจอย่างยิ่งจริงๆ……
กู้โม่หานและหนานหว่านเยียนได้เห็นลักษณะตื่นเต้นสะเทือนใจเช่นนี้ขององค์ไทเฮาแล้ว ทั้งสองคนต่างล้วนสีหน้าหม่นหมอง มิได้เอ่ยปากโต้แย้งคัดค้านอีกต่อไป
เมื่อตอนที่พวกเขาเป็นเด็กน้อย ยังมิได้ปีกกล้าขาแข็งไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองนั้น องค์ไทเฮาได้เสียสละตัวเองปกป้องพวกเขาไว้มากมายหลายครั้ง นี่คือผู้อาวุโสที่เปี่ยมความเมตตากรุณารักใคร่เอ็นดูพวกเขาตลอดมา พวกเขาทั้งหมดต่างล้วนจารึกอยู่ในความทรงจำเสมอมา
กู้โม่หานจ้องมองดูหยุนอี่ว์โหรว ยังต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง กลับถูกหนานหว่านเยียนกดมือวูบห้ามเอาไว้แล้ว
ปลายนิ้วเย็นเฉียบของหญิงสาวสัมผัสถูกผิวกายร้อนลวกของเขา ทำให้เขาสะท้านไปทั้งตัวคราหนึ่ง อดไม่ได้ที่จะมองไปทางหนานหว่านเยียน
หนานหว่านเยียนหาได้สนใจสายตาของกู้โม่หานไม่ นางจ้องมองดูเส้นผมหงอกสีดอกเลาขององค์ไทเฮา “ในเมื่อเสด็จย่าก็ยังออกปากแล้ว หม่อมฉันและองค์ฮ่องเต้ ก็มิมีเหตุผลที่จะขัดขวางแล้วเช่นกัน”
“วันนี้เห็นแก่หน้าของเสด็จย่า เรื่องของหยุนอี่ว์โหรว พวกหม่อมฉันสามารถมอบให้ท่านไปจัดการด้วยตัวเอง”
“หว่านเยียน!” พลันสีหน้าของกู้โม่หานแปรเปลี่ยน จ้องมองนางอย่างเหลือเชื่อพูดว่า “ข้ามิต้องการให้เจ้าคับแค้นใจ”
ในอดีตเขาได้กระทำผิดต่อนางสร้างความคับแค้นใจให้มากเพียงพอแล้ว เวลานี้เขามิต้องการให้นางได้รับความคับแค้นใจอีกแม้แต่เพียงน้อยนิด
เฟิงยางและคนอื่นๆ ที่ฟังอยู่ยิ่งขุ่นเคืองในความอยุติธรรม ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยรู้สึกว่าช่างไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง
หนานหว่านเยียนสีหน้าเรียบเฉยมิแสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ “เพียงแค่ยืดเวลาออกไปให้ล่าช้าเท่านั้นเอง มิได้ให้นางมีชีวิตอยู่ตลอดไป”
องค์ไทเฮาและหลี่หมัวมัวถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วคำหนึ่ง องค์ไทเฮากุมมือของหนานหว่านเยียนเอาไว้ สีหน้ารักใคร่เอ็นดูทะนุถนอมและก็เจ็บปวดใจ “ขออภัยต่อเจ้าด้วย เยียนเอ๋อร์ ล้วนเป็นเพราะข้าที่ต้องขออภัยต่อเจ้า……”
ผลปรากฏว่าถึงช่วงสุดท้าย นางยังคงได้แต่ให้หนานหว่านเยียนเป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อถอยให้ ในท้ายที่สุดแล้วเป็นราชวงศ์ของพวกเขาที่ติดค้างหนานหว่านเยียน
ในที่สุดหินก้อนใหญ่ภายในใจของหยุนอี่ว์โหรวก็ตกลงสู่พื้นแล้ว นางพิงอยู่ที่ด้านข้างแห่งหนึ่งอย่างสิ้นเรี่ยวแรง มองดูควันเปลวเพลิงของศึกสงครามรอบนี้จางหายสลายไป
นี่เป็นความรู้สึกของการมีชีวิตใหม่หลังจากรอดพ้นภัยพิบัติหายนะเลยทีเดียว นางยังคงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง
อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น นางก็จะต้องเสียชีวิตแล้ว……
แต่ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าหนานหว่านเยียนจะรอมชอมยุติลงเพียงแค่นี้นั่นเอง พลันหนานหว่านเยียนดึงมือกลับมาทันใด แล้วจ้องมององค์ไทเฮาพูดว่า
“เสด็จย่า หยุนอี่ว์โหรวนางก่อกรรมทำเข็ญมากมายนั้นเป็นความจริง แม้ว่าพวกหม่อมฉันจะมอบนางให้ท่านจัดการ ก็เพียงแค่เป็นการไว้ชีวิตนางไว้ก่อนเท่านั้น รอจนกระทั่งนางคลอดบุตรแล้ว สมควรมีการลงโทษทัณฑ์ มิอาจผ่อนผันแม้แต่น้อยนิด!”
“แต่ว่า นางยังสามารถมีชีวิตอยู่ได้อีกนานหลายเดือนเช่นนี้ ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนล่วงหน้าออกมาส่วนหนึ่งเช่นกัน”
หนานหว่านเยียนประนีประนอมเช่นนี้แล้ว องค์ไทเฮาย่อมต้องเห็นแก่หน้านางอยู่แล้ว จึงรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็วพูดว่า “เยียนเอ๋อร์ เจ้าพูดมาเถอะ ขอเพียงเป็นสิ่งที่ข้าสามารถทำได้ เป็นเรื่องที่ไม่ทำร้ายลูกภายในท้องของนางแล้วละก็ ข้าล้วนสามารถรับปากเจ้า”
หยุนอี่ว์โหรวรู้สึกเสียวสันหลังวาบเหมือนกับหนามแหลมทิ่มตำแผ่นหลัง หลั่งเหงื่อเย็นเยียบจนเปียกชุ่มตลอดทั้งตัวแล้ว เริ่มรู้สึกจิตใจมิอาจสงบอย่างบอกบรรยายมิถูกชนิดหนึ่ง
หนานหว่านเยียนหันหน้ากลับมาจ้องมองหยุนอี่ว์โหรวเขม็ง สายตาเย็นชาเฉยเมย “ก็มิใช่เรื่องยากอันใดเช่นกัน เพียงแค่นับจากบัดนี้เป็นต้นไป ขอให้องค์ฮ่องเต้ทรงหย่าร้างกับหยุนอี่ว์โหรวคนผู้นี้ ต่อไปนี้นางมิใช่โหรวเฟยขององค์ฮ่องเต้อีกต่อไปแล้ว และก็มิใช่พระชายารองภายในจวนอี้อ๋องอีกต่อไปแล้วเช่นกัน”
หยุนอี่ว์โหรวมิใช่ใส่ใจกังวลศักดิ์ฐานะของนางมากที่สุดหรอกหรือ เหลือลูกน้อยภายในท้องเอาไว้ เกรงว่าก็เพื่อกลับมาผงาดยิ่งใหญ่ในตำแหน่งอีกครั้ง และมุมานะต่อสู้ช่วงชิงให้ได้มาซึ่งตำแหน่งของฮองเฮากระมัง?
และในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น หยุนอี่ว์โหรวก็อาศัยศักดิ์ฐานะเป็นพระชายารองของกู้โม่หานนี่แหละไปก่อกรรมทำเข็ญสารพัด ถ้าให้นางยังมีตำแหน่งฐานะอยู่บ้างเล็กน้อย และพลังอำนาจส่วนหนึ่งแล้วละก็ ดอกบัวใจดำคนโหดเหี้ยมชั่วร้ายผู้นี้ จะมิสามารถอยู่นิ่งเฉยสงบเสงี่ยมตลอดกาล!
วันนี้แม้ว่านางจะละเว้นชีวิตของหยุนอี่ว์โหรวแล้วก็ตาม แต่ศักดิ์ฐานะตำแหน่งของหยุนอี่ว์โหรว นางจำเป็นจะต้องถอดถอนให้หมดสิ้น!
นางต้องการทำลายปีกของหยุนอี่ว์โหรวให้หักสะบั้น!
อะไรนะ?!
หัวใจของหยุนอี่ว์โหรวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงหนักหน่วง รู้สึกสิ้นหวังดุจดั่งร่วงหล่นดิ่งลงสู่หุบเหวลึกล้ำก็มิปาน รู้สึกเบื้องหน้าสายตาดำมืดเป็นพักๆ
หนานหว่านเยียนกลับต้องการให้กู้โม่หานหย่าร้างกับนางแล้ว?!
“ไม่ได้ จะทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?! ไทเฮา หากหม่อมฉันมิใช่สตรีขององค์ฮ่องเต้แล้ว เช่นนั้นเด็กคนนี้ไยมิใช่กลายเป็นความเป็นมาไม่กระจ่างไปแล้วหรอกหรือ?!”
เด็กเป็นเพียงคำกล่าวอ้างของนางเท่านั้น เหตุผลแท้จริงที่นางกระทำทุกอย่างนั้น ทั้งหมดล้วนเพื่อศักดิ์ฐานะตำแหน่งนี้ เพื่อหวังว่าสักวันหนึ่ง นางจะสามารถเป็นฮองเฮายืนเคียงคู่อยู่ข้างกายกู้โม่หานนั่นเอง ไฉนจะยอมสูญเสียคุณสมบัติยืนเคียงข้างเขาไปได้ล่ะ!
มิอาจอย่างเด็ดขาด มิอาจให้หนานหว่านเยียนช่วงชิงทุกสิ่งนี้ไปอย่างเด็ดขาด!
ยังมิทันรอให้องค์ไทเฮาได้เอ่ยปาก กู้โม่หานก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชากับเสิ่นอี่ว์โดยตรงว่า “เสิ่นอี่ว์! นำพู่กันกับกระดาษมาให้ข้า!”
เสิ่นอี่ว์พยักหน้าตอบรับ แล้วรีบหาพู่กันกับกระดาษมามอบให้กู้โม่หานทันที
ทั้งหมดกลั้นหายใจเฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของบุรุษผู้นี้ด้วยใจจดจ่อ ไม่มีใครสักคนกล้าส่งเสียงรบกวน แต่ทุกคนต่างล้วนทราบอยู่แก่ใจ กู้โม่หานนี้ได้ยอมรับข้อเรียกร้องของหนานหว่านเยียนแล้ว
กล่าวถึงที่สุดแล้วสตรีลักษณะอย่างหยุนอี่ว์โหรวผู้นี้ รั้งอยู่ข้างกายก็คือภัยพิบัติหายนะอย่างหนึ่ง
นิ้วมือเรียวยาวจับด้ามพู่กันไว้ ลายมือตัวอักษรของกู้โม่หานเข้มแข็งเปี่ยมพลัง ลายมือพู่กันแต่ละเส้น คล้ายดั่งล้วนแฝงไว้ด้วยความสำนึกเสียใจและเพลิงโทสะอันเข้มข้นรุนแรง
เขียนอักษรสุดท้ายเสร็จแล้ว เขาโยนพู่กันขนหมาป่าภายในมือทิ้งไป แล้วโยนกระดาษหนังสือหย่าใบหนึ่งพริ้วลอยละล่องมาถึงเบื้องหน้าสายตาหยุนอี่ว์โหรว
“จากวันนี้เป็นต้นไป เจ้ากับข้า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ต่อกันอีกต่อไปแล้ว!”
“นอกจากนี้ ข้ามิต้องการเห็นหน้าเจ้าอีกต่อไป แม้ว่าวันนี้เสด็จย่าจะทรงขอไมตรีแทนเจ้า เจ้าก็ได้แต่ถูกกักบริเวณอยู่ภายในตำหนักเย็นเท่านั้น มิสามารถก้าวเท้าออกมาแม้แต่ครึ่งก้าว เจ้ากล้าก้าวเท้าออกมาครึ่งก้าว ข้าจะไม่ละเว้นเจ้าอีกต่อไปแล้ว!”
ภาพลักษณ์อันเด็ดขาดของเขา และน้ำเสียงอันเด็ดเดี่ยวมิสามารถปฏิเสธได้ ทำให้ทุกต่างล้วนตระหนกตกใจอย่างใหญ่หลวง
องค์ไทเฮาเองก็ยอมรับการกระทำของกู้โม่หานแล้วเช่นกัน พยักหน้าเล็กน้อยมิได้เอ่ยปากพูดอะไรอีก
หนานหว่านเยียนมองดูเขา คิ้วงามสีดำเลิกขึ้นเล็กน้อย สีหน้ากลับเรียบเฉยมิมีการแสดงออกใดๆ
เฉพาะหยุนอี่ว์โหรวเท่านั้น นางจ้องมองดูกระดาษเนื้อดีที่ร่วงตกลงสู่พื้น เสียงบูมดังขึ้นภายในห้วงคำนึงเสียงหนึ่ง นางสูญเสียพลังความคิดไตร่ตรองไปแล้วโดยสิ้นเชิง
นางถูกหย่าร้างแล้ว ถูกหย่าร้างแล้วจริงๆ
นางมิใช่สตรีของกู้โม่หานอีกต่อไปแล้ว แม้แต่เพียงในนามเท่านั้นก็ยังมิใช่แล้ว เช่นนั้นต่อไปยังจะเป็นฮองเฮาได้อย่างใด……
พลันความใฝ่ฝันมุ่งมั่นโหยหาของตลอดทั้งชีวิตก็พังทลายลงแล้ว สีหน้าแววตาสิ้นหวังของหยุนอี่ว์โหรวเวิ้งว้างว่างเปล่าและด้านชา สองมือที่กำลังสั่นเทาหยิบกระดาษเนื้อดีขึ้นมา ภายในเบ้าตาที่เป็นสีแดงเลือดนั้น น้ำตาก็ยังหลั่งไหลจนเหือดแห้งแล้ว
ทันใดนั้น ตำแหน่งตรงท้องน้อยก็เจ็บปวดขึ้นมา ประดุจหนึ่งมีคนกำลังถือไม้กระบองก่อกวนอยู่ภายในร่างกายอย่างบ้าคลั่งก็ปาน นางรู้สึกช่างเจ็บปวดรวดร้าวแสนสาหัสยากทนทานยิ่งนัก
สองตาหยุนอี่ว์โหรวมืดมิดลงวูบ ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถยืนหยัดต้านทานพลังความกดดันเหล่านี้ได้ เป็นลมสิ้นสติไปโดยตรงอยู่ภายในตำหนักหยูซิน……