ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 754 หว่านเยียน ข้าจะดีต่อเจ้าตลอดไป
ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 754
หลิงฉือ?!
พลันที่คำพูดนี้ประกาศออกมา ภายในจิตใจทุกคนล้วนเกิดมรสุมคลื่นยักษ์มหาวาตะพายุลูกใหญ่ระลอกหนึ่งขึ้นมาแล้ว
นี่คือการลงทัณฑ์โทษประหารชีวิตที่สุดแสนโหดเหี้ยมทารุณเลยทีเดียว!
ดูเหมือนว่าองค์ฮ่องเต้จะบันดาลโทสะแล้วจริงๆ แต่เมื่อลองคิดใคร่ครวญดูอย่างละเอียดแล้ว ประการแรกหยุนอี่ว์โหรวหลอกลวงเบื้องสูง ประการที่สองจงใจวางแผนสังหารองค์หญิงน้อยศักดิ์ฐานะสูงส่งสองคน ประการที่สามพยายามวางแผนฆ่าคนปิดปาก
ข้อหาโทษฐานความผิดทั้งสามนี้ข้อใดบ้างที่มิใช่คดีอุกฉกรรจ์เป็นความผิดอันใหญ่หลวง? การตัดสินประหารชีวิตก็ยังให้ความสะดวกแก่นางแล้วด้วยซ้ำ!
หนานหว่านเยียนก็ยังรู้สึกแปลกใจอยู่บ้างเล็กน้อย พูดตามตรงแล้ว นางเองก็ไม่แน่ใจในทัศนคติของกู้โม่หานที่มีต่อหยุนอี่ว์โหรวเช่นกัน กล่าวถึงที่สุดแล้วภายในท้องหยุนอี่ว์โหรวกำลังตั้งครรภ์ลูกน้อยของเขาอยู่
กลับคิดมิถึงว่า โทษประหารชีวิตโดยลงทัณฑ์หลิงฉือเขาก็ยังพูดออกมาจากปากแล้ว
จิตใจนางรู้สึกดีขึ้นอยู่บ้างแล้วอย่างอธิบายมิถูก แต่สายตาที่มองไปทางหยุนอี่ว์โหรวนั้นหาได้มีความยินดีใดๆ และก็ไม่มีความเมตตากรุณาเห็นใจใดๆ เช่นกัน
หยุนอี่ว์โหรว มิเพียงแต่ได้ช่วงชิงความรักใคร่โปรดปรานของนางไปเท่านั้น ยังมักรู้สึกเบื่อหน่ายรำคาญต่อการมีชีวิตที่ยืนยาว คอยแสดงความเจ้าเล่ห์เพทุบายต่อหน้านาง ครั้งเดียวไม่เพียงพอก็กระทำซ้ำขึ้นอีกครั้ง
แต่ก่อนนางโง่เขลามิรู้เท่าทัน หยุนอี่ว์โหรวพร้อมด้วยทุกคนต่างชอบรังแกนางให้ได้รับความอัปยศอดสู ภายหลังนางได้ฟื้นฟูความทรงจำสมัยใหม่กลับคืนมาแล้ว หยุนอี่ว์โหรวทราบว่ามิสามารถจัดการนางได้ง่ายดายเหมือนอย่างเมื่อก่อนอีกแล้ว ก็ใช้เล่ห์ลิ้นคารมซุบซิบนินทาให้ร้ายนางต่อกู้โม่หาน
วันเวลาของนางในจวนท่านอ๋อง ไม่เคยมีวันที่ผ่อนคลายสบายใจสักวันเดียวมาก่อน ตรงกันข้ามต้องถลำเข้าไปในหลุมพรางกับดักจำนวนหลายครั้งเลยทีเดียว หากมิใช่มีสติปัญญาไหวพริบละก็ เกรงว่าคงถูกหยุนอี่ว์โหรววางแผนเล่นงานเสียชีวิตอย่างน่าอนาถไปแต่แรกแล้ว
นางหาใช่เทพมารดรผู้เมตตาและเสียสละไม่ สำหรับคนที่มุ่งหน้าหมายเอาชีวิตนางและลูกน้อยของนาง คอยจ้องจะเล่นงานให้ถึงตายมากมายหลายครั้งเช่นนี้ ความตาย คือจุดจบบทสรุปเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!
หยุนอี่ว์โหรวคุกเข่าลงกับพื้น ถูกความดุร้ายเกรี้ยวกราดและเดชอำนาจบารมีของกู้โม่หาน ทำให้ตกใจกลัวจนมิกล้าขยับเขยื้อนแล้ว นางมองดูกระบี่ยาวตรงหน้ากู้โม่หาน บวกกับคำพูดของกู้โม่หานแล้ว ก็ยิ่งตกใจกลัวจนร่ำไห้หลั่งน้ำมูกน้ำตานองหน้า เอาแต่ส่ายหน้าสะอึกสะอื้นตลอดเวลา ขอร้องกู้โม่หานอย่าได้ทำเช่นนี้
“อย่า ไม่ได้ ฮ่องเต้ ท่านมิอาจทำเช่นนี้กันหม่อมฉัน……”
หยุนอี่ว์โหรวที่สภาพผมเผ้าสยายยุ่งเหยิงกระเซิง สูญเสียภาพลักษณ์สง่างามหนักแน่นมั่นคงที่เคยมียามปกตินั้นไปแต่แรกแล้ว วันนี้นางใช้ลูกน้อยภายในท้องมากรรโชกคุกคามกู้โม่หาน นางกำลังทุ่มเทเสี่ยงอันตรายวางเดิมพันจนหมดหน้าตัก ช่างบ้าคลั่งอย่างยิ่งจนสุดจะเปรียบปานแล้ว
นางคิดมิถึงว่า กู้โม่หานที่อยู่ตรงหน้ากลับบ้าคลั่งยิ่งกว่านางเสียอีก ถึงกับไม่เสียดายแม้ว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของตนเอง ก็ต้องสะสางความเกี่ยวข้องทั้งหมดที่มีกับนางให้หมดสิ้น หลังจากนั้นจึงประทานมอบความตายให้ เพียงเพื่อชดเชยความผิดพลาดให้แก่หนานหว่านเยียน
สิ่งที่เขาทำทั้งหมดนั้นล้วนทำเพื่อหนานหว่านเยียนทั้งสิ้น ถ้าเช่นนั้นแล้วนางล่ะ? นางและลูกน้อยภายในท้องของนาง หรือว่าช่างไร้ค่ามิมีความหมายแม้แต่เพียงน้อยนิดเช่นนี้หรือ?
ท่ามกลางความกลัวหวาดหวั่นพรั่นพรึงอย่างยิ่ง อีกทั้งผสมผสานด้วยความอิจฉาริษยาและความไม่ยินยอม หยุนอี่ว์โหรวมิกล้าและก็มิอาจตัดใจ นางร่ำไห้สะอึกสะอื้นสุดชีวิต “ฮ่องเต้ พระองค์มิอาจทำร้ายตัวเอง!”
“ล้วนเป็นความผิดของหม่อมฉัน เป็นความผิดของหม่อมฉัน มิอาจนำพระวรกายของพระองค์มาเป็นค่าตอบแทน หม่อมฉันก็ผิดไปแล้วจริงๆ เช่นกัน อี่ว์โหรวขอร้องท่านแล้ว โปรดให้โอกาสอี่ว์โหรวสักครั้งเถิด และก็ละเว้นตัวท่านเองด้วยเช่นกันดีหรือไม่……”
เสิ่นอี่ว์ที่อยู่ด้านข้างก็มิอาจทนดูต่อไปได้แล้วเช่นกัน เขาก้าวไปข้างหน้าคิดจะช่วงชิงกระบี่ยาวเล่มนั้นกลับมา “ฮ่องเต้ทรงโปรดอย่าทำเช่นนั้น!”
“พระองค์คือองค์ราชันแห่งแว่นแคว้นหนึ่ง มิอาจมีข้อผิดพลาดใดๆ เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด! เวลานี้ไฉนต้องจ่ายค่าตอบแทนมากมายถึงขนาดนี้เพื่อหยุนอี่ว์โหรวที่เป็นคนลักษณะเช่นนี้?! โทษฐานความผิดของนางหาได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับพระองค์ไม่ หากพระองค์ต้องการมอบคืนให้นางจริงๆ ละก็ เช่นนั้นก็ให้ข้าน้อยรับหนึ่งดาบนี้แทนพระองค์ก็แล้วกันพะย่ะค่ะ!”
วันนี้หากองค์ฮ่องเต้เกิดอันตรายอันใดขึ้นมาจริงๆ แล้วละก็ ทุกคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ ต่างล้วนมีโทษฐานความผิดถึงขั้นประหารชีวิตเลยทีเดียว!
ยิ่งไปกว่านั้น เริ่มแรกเดิมทีพวกเขาทำทุกสิ่งนี้ก็เพียงเพื่อลงโทษหยุนอี่ว์โหรวนั่นเอง แล้วไฉนองค์ฮ่องเต้จำเป็นจะต้องกระทำถึงจุดนี้ด้วยเล่า?
“ไสหัวไปให้พ้น!” ยังมิทันรอให้เสิ่นอี่ว์เข้าไปใกล้ ดวงตาเรียวยาวทั้งคู่ของกู้โม่หานก็มองเสิ่นอี่ว์อย่างดุดันแล้วคราหนึ่ง “เสิ่นอี่ว์ ข้ายังหาได้ถามความเห็นของเจ้า ผู้ใดให้กำลังขวัญความกล้าแก่เจ้ามาขัดขวางข้า?!”
น้ำเสียงเขาช่างเปี่ยมพลังเดชอำนาจบารมีสะกดข่มแข็งแกร่งอย่างยิ่ง สีหน้าแววตายิ่งไม่สามารถจะปฏิเสธได้
ทำให้เซียงอวี้และเซียงเหลียนซึ่งเดิมยังคิดจะร่วมมือกันเข้าขัดขวางพร้อมกับเสิ่นอี่ว์ ต่างล้วนพากันตระหนกตกใจหวาดหวั่นพรั่นพรึงยืนอยู่กับที่ สงบนิ่งมิกล้าขยับเขยื้อน
พลันเสิ่นอี่ว์ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้นแล้วในทันใด “ฮ่องเต้!”
กู้โม่หานหาได้มองเขา นิ้วมือที่เรียวยาวขาวซีดกำจนแนบแน่น หลังจากตวาดเสิ่นอี่ว์ล่าถอยออกไปแล้ว เขาจ้องมองดูหนานหว่านเยียนอย่างลึกซึ้ง ภายในดวงตาสีดำเหมือนหมึกก็มิปานนั้น พลันปรากฏความสำนึกเสียใจและการขอโทษอย่างเจ็บปวดรวดร้าวจากก้นบึ้งหัวใจขึ้นวูบหนึ่งทันใด
“หว่านเยียน ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย”
“ข้าทราบว่าสำหรับเจ้าแล้ว บางทีข้าอาจเหมือนเช่นเดียวกับหยุนอี่ว์โหรวที่ตายโดยไม่น่าเสียดายแม้แต่น้อย ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนั้น มิอาจชดเชยทดแทนได้ตลอดกาล แต่ข้าขอร้องเจ้าให้โอกาสข้าสักครั้งหนึ่ง หากวันนี้ข้าสามารถยืนหยัดผ่านไปได้ ข้าขอตั้งสัตย์สาบานให้คำมั่นสัญญาว่า ข้าจะดีต่อเจ้าตลอดไป”
“ชีวิตที่เหลือของข้านั้น ล้วนจะนำมาใช้ชดเชยต่อเจ้าและพวกลูกๆ”
“ฮ่องเต้……” เซียงอวี้พี่น้องสองสาวร่ำไห้หลั่งน้ำตาอย่างกะทันหัน เซียงอวี้รีบหันหน้ามองไปทางหนานหว่านเยียน “เหนียงเหนียง……”
ความรักลึกซึ้งที่มาเมื่อสาย ก็เป็นความรักลึกซึ้งเช่นกันนะ
เหนียงเหนียงมิอาจให้องค์ฮ่องเต้ได้มีโอกาสชดเชยสักครั้งเลยเชียวหรือ
องค์ฮ่องเต้ทราบว่าผิดแล้วจริงๆ!
เฟิงยางกลับขมวดคิ้วขึ้นมา
มิทราบว่าเป็นภาพลวงตาของนางใช่หรือไม่ นางมักรู้สึกว่าเวลานี้กู้โม่หานกำลังใช้แผนทรมานสังขาร นั่นก็คือต้องการได้รับบาดเจ็บต่อหน้าจวิ้นจู่ เพื่อจะได้ให้จวิ้นจู่ใจอ่อนนั่นเอง!
หยุนอี่ว์โหรวถลึงตาจ้องมองหนานหว่านเยียนอย่างสิ้นหวังและเกลียดชัง ความไม่ยินยอมและเพลิงอิจฉาริษยาภายในใจกองสุมท่วมท้นขึ้นมา โลหิตคั่งค้างจนอึดอัดคำหนึ่งแทบทะลักออกมาจากลำคอ ทำร้ายนางบาดเจ็บจนปวดรวดร้าวอย่างยิ่ง
คนที่นางยอมลดความอวดดื้อถือดีไปขอร้อง ยามนี้กลับกำลังเรียกร้องขออภัยจากหญิงสาวอีกคนหนึ่ง
นี่คือการเยาะเย้ยเสียดสีมากมายเพียงใด ประดุจหนึ่งกำลังใช้แส้เหล็กเส้นหนึ่งกระหน่ำฟาดใส่ใบหน้านางอย่างดุดันมิมีผิด
แต่ความรักอันลึกซึ้งสลักจิตของกู้โม่หานนี้ ภายในสายตาของหนานหว่านเยียนแล้ว ยังคงราบเรียบสงบนิ่งไร้ระลอกคลื่นใดๆ
นางจ้องมองบุรุษที่อยู่เบื้องหน้าด้วยสายตาเย็นชา สีหน้าซีดเผือดกลับกอปรด้วยสภาวะพลัง เสียงแหบพร่าอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อความเฉยเมยเย็นชาของน้ำเสียงแต่อย่างไร “มิสามารถให้ได้”
“หม่อมฉันเรียกพระองค์รุดมา เนื่องเพราะท่านคือองค์ฮ่องเต้ และก็เป็นคู่กรณีของปัญหาด้วยเช่นกัน หม่อมฉันมีหน้าที่เพียงแค่เปิดโปงเผยความจริงออกมาเท่านั้น ส่วนท่านจะคิดอย่างใด และต้องการจะทำเช่นใดนั้น พระองค์ท่านจงตัดสินใจด้วยตัวท่านเอง อย่าได้นำหม่อมฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย”
“สำหรับหยุนอี่ว์โหรวนั้น หม่อมฉันพูดได้แต่เพียงคำเดียวว่า หม่อมฉันไม่มีทางละเว้นนางอย่างเด็ดขาด”
หนานหว่านเยียนปฏิเสธผู้คนจนห่างไกลนับพันลี้ ทุกคนต่างล้วนรู้สึกผิดหวังกังวลใจขึ้นมาแล้ว แต่กู้โม่หานกลับมีสีหน้าที่มิได้รู้สึกเหนือความคาดหมายมากมายนัก ภายในดวงตาสีดำเข้มเปล่งประกายหม่นหมองขึ้นวูบหนึ่ง “ข้าเข้าใจแล้ว ข้าจะไม่บีบบังคับเจ้า”
เขาหันมองไปทางหยุนอี่ว์โหรว ประกายสายตาสุดแสนเย็นชาพูดว่า “หยุนอี่ว์โหรว สิ่งที่ข้าติดค้างเจ้านั้น ตอนนี้เจ้าสามารถเอากลับไปได้แล้ว”
“ไม่ อย่า!” หยุนอี่ว์โหรวส่ายหน้าอย่างสุดชีวิต กู้โม่หานหมดความอดทนแล้ว หักกระบี่ยาวขาดโดยตรง แข็งขืนบังคับยัดเข้าใส่ไว้ภายในมือของหยุนอี่ว์โหรว
“อ๊าไม่เอา! ฮ่องเต้ อย่า!” หยุนอี่ว์โหรวเห็นภายในมือเพิ่มกระบี่หักแล้วเล่มหนึ่ง ตกใจจนดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง แต่ข้อมือถูกกู้โม่หานจับไว้อย่างแน่นหนาจนแทบจะหักลงแล้ว
สองตานางแดงก่ำเหมือนเช่นเดียวกับหลั่งโลหิต เอาแต่ส่ายศีรษะเพียงอย่างเดียวเพื่อขัดขืน แต่กู้โม่หานยืนนิ่งประดุจหนึ่งรูปปั้นหินศิลาก็มิปาน ไม่ว่านางจะดิ้นรนอย่างใดล้วนแล้วแต่เปล่าประโยชน์ทั้งสิ้น
สีหน้าแววตาของเขาเย็นชายิ่งนัก “ครั้งก่อนหน้าอกด้านซ้ายของเจ้าต้านรับแทนข้าเอาไว้แล้วหนึ่งกระบี่ วันนี้ข้าก็จะใช้คืนให้ด้วยตำแหน่งนั้นเช่นเดียวกัน”
พูดจบ กู้โม่หานใช้ความเร็วฉับไวยิ่งกว่าเสียงอสนีสายฟ้าด้วยซ้ำ จับมือของหยุนอี่ว์โหรวไว้อย่างดุดัน ใช้กระบี่หักภายในมือนางมุ่งหน้าแทงใส่เข้าไปในทรวงอกของตนอย่างเต็มที่——
“ฮ่องเต้!” ยามกะทันหัน เสียงร่ำไห้เศร้าโศกเสียดแทงหัวใจของเซียงอวี้และเซียงเหลียนสองคน ก็ดังแว่วออกมาจากตำหนักหยูซินมิขาดสาย……