ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 724 กุมมือเจ้า
ยากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ นิยาย บท 724
กู้โม่หานอดไม่ได้ที่จะจุมพิตไปที่ริมฝีปากของนาง ร่างกายของเขาฮึกเหิมเป็นอย่างมาก ทว่าท้ายที่สุดเขาก็ข่มมันไว้
เขาจ้องมองหว่างคิ้วที่ละมุนของนาง พลางถอดแหวนนิ้วก้อยข้างขวาออกอย่างเบามือ
แหวนนิ้วก้อยสีเงินเป็นประกาย แวววาวเป็นอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าได้รับการขัดอย่างดี ดูเรียบง่ายแต่สวยงามสะดุดตา
ตอนที่หน้าโถงราชโองการ เขายังไม่รู้ถึงความหมายของแหวน เขายุ่งอยู่กับงานทั้งวันทั้งคืน ไม่เคยว่างเว้น แต่เขากลับใส่ใจที่จะถามความคิดเห็นของหนานหว่านเยียน จึงจับเกี๊ยวน้อยมาซักถาม
‘หากพ่อขอแม่ของพวกเจ้าแต่งงานอีกครั้ง พวกเจ้าคิดว่านางจะดีใจหรือไม่’
ตอนนั้นเกี๊ยวน้อยครุ่นคิดพลางกลอกตาไปมา ‘เช่นนั้นก็ต้องดูว่าเสด็จพ่อขอแต่งงานอย่างไรแล้ว เสด็จแม่ชอบความหวานซึ้ง หากเสด็จพ่อขอแต่งงานเฉกเช่นผู้คนทั่วๆ ไป เสด็จแม่คงจะไม่ซึ้งใจอย่างแน่นอน’
เขาเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความอยากรู้ ‘เช่นนั้น เจ้าว่าควรจะทำอย่างไรดี?’
เกี๊ยวน้อยรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที นางรีบกวักมือเรียกเสด็จพ่อของเขามากระซิบข้างหู ‘ลูกจะบอกให้ แต่เสด็จพ่ออย่าได้บอกเสด็จแม่เชียวนะเพคะ’
‘ก่อนหน้านี้ลูกเคยอ่านหนังสือของเสด็จแม่ เวลาชายหญิงแต่งงาน จะต้องแลกเปลี่ยนแหวนกัน มัน…มันมีลักษณะกลมๆ สามารถสวมลงบนนิ้วได้’
‘ขอเพียงแค่มีแหวนแต่งงาน ฝ่ายชายสวมให้ฝ่ายหญิง สวมลงบนนิ้วนางข้างขวา เป็นการแสดงให้เห็นว่านางได้เป็นของเขาแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งสองจึงจะยืนยาวตลอดไปเพคะ’
เมื่อเกี๊ยวน้อยพูดจบ นางก็หันไปสังเกตสีหน้าของเขาอย่างมีเลศนัย อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าเบาๆ พลางโบกมือขอตัวลา ‘ช่างเถิด พูดไปเสด็จพ่อก็ไม่เข้าใจอยู่ดี’
จริงๆ แล้วกู้โม่หานไม่เข้าใจเรื่องแหวนแต่งงานที่เกี๊ยวน้อยพูดถึงแต่อย่างใด
แต่เขาพอจะรู้คร่าวๆ ว่าหน้าตาของแหวนมีลักษณะอย่างไร
ก่อนหน้านี้เขาไม่เชื่อว่าความรักของคนสองคนจะอาศัยแหวนวงเล็กๆ มาผูกมัด ยิ่งไม่เคยคิดว่าสิ่งสิ่งนี้จะสามารถทำให้หนานหว่านเยียนอยู่เคียงข้างเขาตลอดชีวิต
เขาเชื่อเสมอมา ว่าสิ่งที่ตนอยากได้ จะต้องอาศัยตนเองไปต่อสู้ดิ้นรนเพื่อที่จะได้มันมาเท่านั้น
ดังนั้นเขาจึงไม่เก็บเอาไปคิดแต่อย่างใด อีกอย่างตอนนั้นเพิ่งจะสถาปนาจักรพรรดิองค์ใหม่ ค่อนข้างยุ่งเป็นอย่างมาก จึงไม่มีเวลานึกถึงเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
จวบจนวันที่มีการระเบิดในพิธีเฉลิมฉลอง หนานหว่านเยียนและซาลาเปาน้อยหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขาจึงเริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา
จะว่าไปก็น่าขำสิ้นดี นิสัยเหี้ยมโหดและใจร้อนมันฝังอยู่ในกระดูกของเขาอยู่แล้ว ไม่มีเรื่องอะไรให้เขาต้องเกรงกลัว ทว่าเขากลับกังวล หวาดกลัวและคอยยับยั้งชั่งใจในทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหนานหว่านเยียนและเกี๊ยวน้อย
ดังนั้นในเวลาต่อมา เขาจึงใช้ปิ่นหงส์ที่ไหม้ไปแล้วครึ่งหนึ่งมาหล่อหลอม ตีเป็นแหวนตามจินตนาการของเขาและขนาดนิ้วของนาง
พอได้สติกลับคืนมา กู้โม่หานก็ได้ยกมือของหนานหว่านเยียนขึ้นมาอย่างเบามือ จากนั้นก็สวมแหวนนิ้วก้อยลงบนนิ้วนางของหนานหว่านเยียน
ขนาดแหวนกำลังพอดี
เขาฉีกยิ้ม นัยน์ตาท่วมท้นไปด้วยความหมายอันลึกซึ้ง
“ถึงแม้ว่าข้าจะไม่เคยเชื่อเรื่องเทพเจ้า ยิ่งไม่เชื่อเรื่องพรหมลิขิต แต่หากมันสามารถรักษาเจ้าไว้ข้างกายข้าได้ ข้ายินดีจะเชื่อสิ่งที่มองไม่เห็นเพื่อเจ้า”
เขาประสานนิ้วทั้งห้าลงบนมือของหนานหว่านเยียน สิบนิ้วกระชับแนบแน่น “กุมมือเจ้า อยู่เคียงข้างจนแก่เฒ่าไปด้วยกัน หว่านเยียน เจ้ายินดีจะอยู่กับข้าไปตลอดชีวิตหรือไม่?”
รู้ทั้งรู้ว่าจะไม่ได้ยินคำตอบ ทว่าเวลานี้เขากลับไม่ได้รู้สึกเสียดายแต่อย่างใด
“ข้าจะถือว่าเจ้าตอบรับแล้ว” นัยน์ตาของเขาแฝงไปด้วยรอยยิ้ม พลางกอดนางแนบชิดกว่าเดิม สิบนิ้วประสานแน่น จากนั้นก็ค่อยๆ หลับตาลง หลับใหลไปกับนาง…
พระจันทร์กระจ่างดวงดาวเลือนราง หยาดน้ำค้างเกาะกลีบดอกเตรียมเบ่งบาน
นอกตำหนักหยูซิน เซียงอวี้และเซียงเหลียนเฝ้าอยู่นอกประตูอย่างเงียบๆ รอปรนนิบัติอยู่หน้าชายคา
ภายในตำหนักเงียบสนิท ไม่มีเสียงทะเลาะให้ได้ยิน ทั้งสองจึงรู้สึกโล่งใจเป็นอย่างมาก
เสิ่นอี่ว์แหงนหน้ามองท้องฟ้าที่ไร้ซึ่งขอบเขต จู่ๆ เขาก็หัวเราะออกมาเบาๆ พลางอิงหลังกับบานประตู รู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก
ในเมื่อฮ่องเต้และฮองเฮาเหนียงเหนียงกลับมาแล้ว ถึงแม้ทั้งสองจะทะเลาะกันบ้าง ทว่าทะเลาะที่หัวเตียง ก็คืนดีกันที่ปลายเตียงอยู่ดี ท้ายที่สุดก็จะหวนคืนกลับมา เช่นนั้น คำพูดที่เขาเคยพูดกับ ‘ไป๋จื่อ’ ก็ถือเป็นโมฆะแล้วกัน
ตอนนั้นเพราะเขากลัวว่าอาการป่วยทางใจของกู้โม่หานจะทรุดหนัก และก็กลัวว่าหากไม่มีฮองเฮาเหนียงเหนียงแล้ว กู้โม่หานจะทรุดอย่างไม่มีวันจะฟื้นขึ้นมาได้อีก จึงปิดปากเงียบมาโดยตลอด
แต่ตอนนี้ฮองเฮาเหนียงเหนียงก็อยู่ข้างกายฮ่องเต้แล้ว อาการป่วยทางใจของฮ่องเต้ไม่ต้องรักษาก็ยังหายเองได้ จะไปพะว้าพะวังทำไมกัน
ถึงแม้เด็กที่อยู่ในครรภ์ของหยุนอี่ว์โหรวจะสำคัญ ทว่าการเปิดเผยธาตุแท้ของนางสำคัญยิ่งกว่า!
ตอนนี้เขาเข้าใจหมดแล้วทุกอย่าง และก็จะไม่มีทางปล่อยให้ฮ่องเต้ถูกผู้หญิงประเภทนั้นปิดหูปิดตาได้อีกเป็นอันขาด เพื่อหมัดโสโครกเพียงตัวเดียว ทำให้ฮองเฮาเหนียงเหนียงหนีไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ
ข้อมูลที่ฮองเฮาเหนียงเหนียงสั่งให้เขาไปตรวจสอบเมื่อครั้งก่อน เขาได้จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหลักฐานที่สามารถใช้มัดตัวหยุนอี่ว์โหรวจนดิ้นไม่หลุด!
รอพรุ่งนี้เช้า หลังจากที่ฮองเฮาเหนียงเหนียงตื่นแล้ว เขาก็จะมอบเอกสารทั้งหมดให้กับเหนียงเหนียง
เขายินดีอย่างยิ่งที่จะให้การเป็นพยานชี้ตัวหยุนอี่ว์โหรว เพราะตอนอยู่ที่จวนอ๋อง นางได้ร่วมมือกับผู้ดูแลระดับสูงวางแผนจะฆ่าเขาให้ตาย…