ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 556 จำนายท่านผิดคน
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 556 จำนายท่านผิดคน
หลังจากที่หนานหว่านเยียนและเสิ่นอี่ว์ตกลงกันได้ นางก็ตรวจจับชีพจรให้เขา กำชับเขาอีกนิดหน่อยก็จากไปให้สองคําและจากไป
เป็นอีกหนึ่งวันที่ผ่านไปอย่างสงบ เช้าตรู่วันต่อมา หนานชิงชิงก็ถูกส่งไปยังวัดชิงอัน ทางตอนใต้ของเมือง
ยามที่นางเดินออกจากประตูวังด้วยเสื้อผ้าธรรมดาๆ มีผู้คนจำนวนไม่น้อยขว้างก้านผักและไข่เน่าใส่นาง เหล่าองครักษ์ที่คุ้มกันไปส่งก็เอาไม่อยู่ ตอนนี้จะมองว่าหนานชิงชิงก็เป็นเพียงคนไร้ประโยชน์คนหนึ่ง ก็จะแอบยอมรับแล้ว
ไม่มีใครรู้ว่า หนานชิงชิงเดินออกจากประตูเมืองท่ามกลางเหยียดหยามและเสียงก่นด่าได้อย่างไร และอดกลั้นไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวได้อย่างไร แม้แต่ฝ่ามือก็ยังถูกเล็กจิกคนถลอกจนเลือดไหลไปตลอดทางที่มุ่งหน้าไปยังวัดชิงอัน…
และยิ่งไม่มีใครรู้ว่า ชายผู้หนึ่งที่สวมเสื้อหนาเตอะ สวมงอบบนศีรษะ และใช้ไม้เท้าค้ำยัน คอยติดตามขนวนส่งตั้งแต่อยู่ข้างหลัง
รอจนพระอาทิตย์เกือบจะตกดิน ในที่สุดหนานชิงชิงก็เดินทางมาถึงวัดชิงอัน และชายที่สวมงอบก็มาถึงวัดชิงอัน หลังจากครึ่งชั่วยาม
เขามองไปยังวัดชิงอันที่เงียบสงบ ไม่มีคน เขาหรี่ตาลง เขาคือพ่อบ้านกาวที่ “ตาย” ในจวนอ๋องตอนนั้น!
เหตุผลที่เขาสามารถรอดพ้นจากความตายได้ ทั้งหมดเป็นเพราะยู่ความยืนหยัดในใจเขา
ในสถานการณ์ที่ยังไม่ชัดเจนว่าระหว่างหนานหว่านเยียนและหนานชิงชิง ใครกันแน่ที่เป็นคุณหนู เขาจะตายเข่นนี้ไม่ได้เด็ดขาดรู้!
เขามีบาดแผลบนร่างกาย วัดอยู่บนภูเขาต้องปีนขึ้นเขาตลอดทาง เหงื่อไหลเปียกชุ่มเสื้อผ้าและบาดแผลของเขา เจ็บปวดจนสีหน้าของเขาซีดเผือด เจ็บปวดสุดจะบรรยาย
พ่อบ้านกาวอดทนต่อความเจ็บปวด เดินเข้าวัดชิงอันด้วยสายตาที่แน่วแน่
ในวัดแห่งนี้เต็มไปหญิงสาวที่ออกบวช ไม่มีความสามารถอะไร พ่อบ้านกาวเข้าวัดชิงอันได้อย่างง่ายดาย สุดท้ายก็พบหนานชิงชิงในเรือนจิ้งอัน
ด้านหลังที่บอบบางและอ่อนแอของนางสะดุดสายตาเข้า ม่านตาของพ่อบ้านกาว “คุณ…คุณหนู”
หนานชิงชิงได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเป็นอย่างมากนี้ นางหันหน้าไปอย่างรวดเร็ว และเห็นพ่อบ้านกาวที่หน้าซีดเผือด แววตาของนางเต็มไปด้วยความประหลาดใจ และความโกรธนิดหน่อย “เจ้ายังรู้ว่าต้องมา!”
ก่อนหน้านี้ติดต่อพ่อบ้านกาวไม่ได้ นางยังคิดว่า พ่อบ้านกาวไม่สนใจนางแล้ว
ในช่วงครึ่งชั่วยามที่พ่อบ้านกาวมาถึงช้า หนานชิงชิงได้โกนผม และสวมหมวกไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชุดคลุมสีเขียวที่สวมใส่อยู่เรียบง่ายและสง่างาม
พ่อบ้านกาวทุกข์ใจสุดๆ และยิ่งตําหนิตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าอย่างไรหนานชิงชิงเป็นคุณหนูที่เขาคอยปรนนิบัติมากว่ายี่สิบปี หญิงสาวผู้หนึ่ง ยังเป็นพระชายาอีก มาวันนี้ ความรุ่งโรจน์และความมั่งคั่งทั้งหมดได้จากนางไป ซ้ำยังถูกโกนผมยาวทิ้งอีก นางจะทุกข์ใจเพราะเรื่องนี้ถึงเพียงไหนกัน…
เขาคุกเข่าลงที่ปลายเท้าของหนานชิงชิง พร้อมกล่าวด้วยเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “ก่อนหน้านี้เกิดอุบัติเหตุขึ้นเล็กน้อย ข้าน้อยมาช้าสายเกินไป ทำให้คุณหนูต้องได้รับความลำบากนี้ คุณหนูได้โปรดลงโทษข้าน้อย!”
หนานชิงชิงมองดูพ่อบ้านกาว ก็เกิดหลายความรู้สึกขึ้นมาพร้อมกันอยู่ครู่หนึ่ง
นางรู้ว่าพ่อบ้านกาวได้แอบช่วยเหลือนางอย่างลับๆ มาหลายครั้งแล้ว หลายๆ คนและหลายๆ เรื่องล้วนเป็นพ่อบ้านกาวที่ยื่นมือมาช่วยให้
คนรับใช้ที่ซื่อสัตย์เช่นนี้ เป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน
แต่นางก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย เพราะพ่อบ้านกาวไม่เคยบอกนางตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ว่าเหตุถึงทำดีต่อนาง
ตอนนี้นางกําลังเดือดร้อน นางก็ไม่รู้ว่าเขาจะอยู่หรือไป
นางกําหมัด และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ลุกขึ้นเถิด ตอนนี้ช้าก็เป็นแค่เพียงแม่ชี ไม่มีสถานะที่คู่ควรกับการคุกเข่าคำนับ”
“ท่านจะดูถูกตัวเองแบบนี้ไม่ได้นะขอรับ!” พ่อบ้านกาวห้ามอย่างจริงจัง
“ข้าน้อยรู้ว่าท่านลำบากมาก แต่ตอนนี้ในเมื่อข้าน้อยมาแล้ว ก็จะไม่ให้ท่านได้รับความลำบากแน่นอน!”
“แต่ข้าน้อยยังต้องหาหลักฐานมาพิสูจน์ คุณหนู ข้าน้อยอยากทราบ หยกห้อยเอวสีแดงชิ้นนั้น ยังอยู่กับท่านหรือไม่?”
หยกห้อยเอว?” หนานชิงชิงขมวดคิ้ว หยิบหยกห้อยเอวออกมาจากในเสื้อส่งให้พ่อบ้านกาวด้วยความสงสัย “ข้าพกมันไว้ตลอด มีปัญหาอะไรงั้นหรือ?”
หยกห้อยเอวยังอยู่!
เมื่อพ่อบ้านเกาเห็นชิ้นส่วนของหยกห้อยเอวที่นายท่านเหลือไว้ชิ้นนั้น พูดไม่ออกด้วยความตื่นเต้นดีใจอย่างอธิบายไม่ได้ ใช่ เป็นหยกห้อยเอวชิ้นนี้ไม่ผิดแน่!”
เขาก็รู้ว่าเขาไม่ได้จำผิด!
ในตอนเขาเป็นองครักษ์ลับของนายท่าน แม้ว่าจะเคยเจอคุณหนูไม่กี่ครั้ง เมื่อนายท่านเกิดเรื่อง เขาเป็นคนที่สลับคุณหนูกับบุตรสาวของฮูหยินเฉิงเซี่ยง
เขาไม่ได้จำผิดคนอย่างแน่นอน!
สําหรับหยกห้อยเอวที่ติดตัวหนานหว่านเยียนนั้น เป็นเพราะโม่หวิ่นหมิงฟื้นคืนความทรงจำแล้ว รู้ฐานะของตัวเองแล้ว ดังนั้นจึงติดต่อคนของแคว้นต้าเซี่ย ผลคือจำเจ้านายผิดคน
ดูเหมือนว่าเขายังคงต้องหาโอกาสจะกลับไป และแอบเตือนโม่อวิ่นหมิง ว่าอย่าจำเจ้านายผิดคน!
หนานชิงชิงไม่ค่อยเข้าใจ นางมองปฏิกิริยาของพ่อบ้านกาวอย่างลนลาน “พ่อบ้านกาว?”
หยกห้อยเอวมีอะไรที่แปลกประหลาดงั้นหรือ ถึงกับทำให้เขามีปฏิกิริยาเช่นนี้?
พ่อบ้านกาวฟื้นคืนสติ มองไปทางหนานชิงชิง ในดวงตามมีน้ำตาคลอเบ้า
“คุณหนู ข้าน้อยไม่เป็นอะไร หากท่านต้องการ ข้าน้อยจะช่วยท่านเอง! ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ ต่อให้ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลก็ตาม!”
ในตอนนั้นเขาได้ทำสาบานเลือดกับนายท่านของเขา ว่าจะปกป้องคุณหนูให้ปลอดภัยไปตลอดชีวิต หากมีคนต้องการให้คุณหนูตาย อย่างนั้นจะต้องข้ามศพเขาไป!
ทันใดนั้นหนานชิงชิงก็ตกใจกับคําพูดของพ่อบ้านกาว
นางมองไปยังพ่อบ้านกาวด้วยความไม่เชื่อ น้ำเสียงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่แน่ใจ
“พ่อบ้านกาว ข้ารู้สึกขอบคุณสําหรับสิ่งที่เจ้าทําเพื่อข้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าไม่เข้าใจ”
“เจ้าและข้าพวกข้าสองคนไม่ใช่ญาติมิตรศัตรู และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกัน เหตุใดเจ้าต้องทำดีกับข้าโดนไม่มีเงื่อนไขเช่นนี้?”
เรื่องนี้กวนใจนางอยู่หลายปี
แต่นางไม่เคยพูดกับผู้ใด รวมถึงท่านแม่ของนางด้วย
นางรู้สึกเสมอว่า พ่อบ้านกาวผู้นี้ลึกลับมาก ลึกลับมากจนแม้แต่กู้โม่หานก็ไม่เคยค้นพบใบหน้าที่แท้จริงของเขา และเขาสามารถช่วยให้นางประสบความสําเร็จในหลายๆ เรื่อง ที่เดิมเป็นเรื่องยากสําหรับนาง
เมื่อวันเวลาผ่านไป นางก็ชินแล้ว ชินกับการที่มีพ่อบ้านกาว ดังนั้นวันนั้นในคุกหลวงนางจึงมีความมั่นใจที่จะพูดคนผู้นั้นว่า นางสามารถช่วยคนผู้นั้นก่อกบฏได้
มีความหมายที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่ในสายตาของพ่อบ้านกาว ซึ่งน้ำเสียงนั้นให้ความเคารพและจริงจังอย่างมาก
“มีหลายสิ่งที่ข้าน้อยยังไม่สามารถบอกท่านได้ในตอนนี้”
“แต่ท่านเพียงแค่ต้องรู้ว่าตัวตนของท่านไม่ได้เป็นเพียงแค่พระชายาเฉิง ท่านเป็นผู้ที่มีฐานะสูงส่ง สถานะของนั้นท่านสูงศักดิ์!”
“และจุดประสงค์ที่ข้าน้อยยังมีชีวิตอยู่ ก็เพื่อคือทำงานให้ท่านอย่างดีที่สุด”
สถานะของนางสูงศักดิ์?
หมายความอย่างไร!
หนานชิงชิงตะลึงไปอย่างเห็นได้ชัด
นางมองไปยังพ่อบ้านกาวด้วยท่าทางงงงวย ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความสงสัย ตอนนี้นางเป็นนักโทษแล้ว ยังมีฐานะอื่นซะที่ไหน?
พ่อบ้านกาวเพิกเฉยต่อความงุนงงของหนานชิงชิง เขาหยิบลูกกลมที่มีรูปร่างผิดปกติที่เปล่งสีสดใสออกจากในอกเขา และยื่นมันใส่ในมือของหนานชิงชิงอย่างเคร่งขรึม
“คุณหนู สิ่งที่ข้าน้อยจะพูดก็มีแค่นี้ ท่านเกิดเรื่องในคราวนี้ เกิดความสามารถที่บ่าวจะช่วยไม่ได้จริงๆ แต่บ่าวมีวิธีช่วยให้ท่านได้เกิดใหม่อีกครั้ง เพียงแต่ก่อนหน้านั้น ท่านจะต้อง ‘ตาย’ ก่อนครั้งหนึ่ง