ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 548 บอกความจริง
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 548 บอกความจริง
เซียวลี่ได้ยินเช่นนี้ก็เข้าใจได้ทันทีว่า ท่านอ๋องพูดเช่นนี้ ต้องคาดเดาอะไรบางอย่างได้แน่
เซียวลี่พยักหน้า ตอบรับด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “พ่ะย่ะค่ะ!”
หลังจากจัดแจงทุกอย่างเรียบร้อย กู้โม่หานก็มุ่งหน้าไปที่เรือนจิ้งฉาน
ภายในเรือน หวางหมัวมัวกำลังต้มยาอยู่ กู้โม่หานเดินเข้าไป “หวางหมัวมัว ทำไมท่านไม่ไปพักผ่อนล่ะ?”
ไม่กี่วันก่อน เขาพูดคำอย่างเข้มงวดต่อหวางหมัวมัว
แม้ว่าเรื่องของหยุนอี่ว์โหรวจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิด แต่หวางหมัวมัวไม่รู้ย่อมไม่ผิด เขาไม่ควรพูดแบบนั้นกับนาง
แต่หวางหมัวมัวกลับดูเหมือนจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนั้น นางยังคงยิ้มอย่างอบอุ่น “ท่านอ๋อง ท่านมาแล้ว”
“บ่าวขอต้มยาให้เหนียงเหนียงก่อน พรุ่งนี้เช้าอุ่นเล็กน้อยก็สามารถให้เหนียงเหนียงกินได้แล้ว เมื่อครู่เหนียงเหนียงเพิ่งหลับไป ท่านจะเข้าไปเยี่ยมไหม?”
กู้โม่หานพยักหน้า “อืม”
เขาเดินตามหวางหมัวมัวเข้าไปในห้อง เห็นหยีเฟยนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียง ดูดีขึ้นกว่าเดิมมาก
กู้โม่หานมองไปที่หยีเฟยอย่างลึกซึ้ง รู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง
เสด็จแม่กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ หากเสด็จแม่หายดีแล้ว จะได้เห็นวันที่รอคอย
กู้โม่หานมองไปที่หวางหมัวมัว พลางเอ่ยเสียงเบา “เสด็จแม่หลับอยู่ ข้าไม่อยากรบกวน ท่านดูแลเสด็จแม่ให้ดี อย่าลืมพักผ่อนด้วย”
หวางหมัวมัวพยักหน้า พลางเอ่ยเสียงเบา “เพคะ บ่าวเข้าใจแล้ว ท่านอ๋องก็เช่นกัน”
ว่าแล้วนางก็มองตามกู้โม่หานออกจากเรือนจิ้งฉาน
หลังจากกู้โม่หานออกมาจากเรือนจิ้งฉานแล้ว ก็ไม่ได้กลับห้องไปพักผ่อน แต่ตรงไปหาเสิ่นอี่ว์แทน
บนเตียง เสิ่นอี่ว์กำลังเหม่อลอย เมื่อได้ยินเสียงประตูถูกผลักเปิดออก ก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที สายตามีความระแวดระวัง
เมื่อเขาเห็นชัดเจนว่าคนที่มาคือกู้โม่หาน ก็ถึงกับตกตะลึง จากนั้นก็แสร้งทำเป็นตื่นจากความฝันอันยิ่งใหญ่ กะพริบตาปริบๆ ให้กู้โม่หาน น้ำเสียงอ่อนแรง “ท่านอ๋อง ท่านมาที่นี่ได้ยังไง?”
เมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเซียวของเสิ่นอี่ว์ กู้โม่หานก็รู้สึกสะเทือนใจ
เขาเดินไปที่ข้างเตียงและนั่งลง ช่วยประคองเสิ่นอี่ว์ให้ลุกขึ้น รินน้ำหนึ่งแก้วให้เขา
“ข้ามาที่นี่เพื่อพบท่าน เป็นไงบ้าง หลายวันมานี้ จำอะไรได้บ้างหรือเปล่า?”
มือของเสิ่นอี่ว์ที่รับแก้วน้ำมาสั่นเล็กน้อย แต่ก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว
เขาส่ายหน้าอย่างหงุดหงิด สีหน้ามีรอยความขุ่นเคืองใจ “ขออภัยท่านอ๋อง ข้าน้อยยัง…ยังจำอะไรไม่ได้เลย”
“ถ้าไม่ใช่เพราะพระชายาวางแผนการในวันนั้น ข้าน้อยคงคิดไม่ถึงเลยว่า คนที่ต้องการฆ่าข้าน้อยในวันนั้น จะเป็นพ่อบ้านกาว!”
เขาสัญญากับพระชายาเอาไว้ ตอนนี้ยังต้องแสร้งทำเป็นสูญเสียความทรงจำ ไม่บอกความจริงกับท่านอ๋องเด็ดขาด
ความผิดหวังปรากฏขึ้นในดวงตาของกู้โม่หาน แต่กลับพูดอย่างใจเย็น น้ำเสียงกลางๆ
“ไม่เป็นไร จำไม่ได้ก็อย่าฝืนตัวเอง พักผ่อนให้มากๆ”
แม้ว่าจะพูดเช่นนั้น แต่ในใจเขาก็อยากรู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนั้นกันแน่
เสิ่นอี่ว์สืบอะไรได้ ถึงทำให้พ่อบ้านกาวต้องลงมือฆ่า
เพราะเขาไม่เชื่อสิ่งที่พ่อบ้านกาวพูดในวันนั้นเลย มีความคับแค้นอะไรกับเสิ่นอี่ว์มานานถึงต้องลงมือฆ่า ต่อให้เขาโง่จริงๆ ไม่รู้เบื้องลึกของพ่อบ้านกาวจริงๆ แต่เขาก็ได้เห็นคุณธรรมและพฤติกรรมของพ่อบ้านกาวมานานหลายปี
ไม่มีใครสามารถเสแสร้งได้ตลอดเวลา แม้ว่าพ่อบ้านกาวอาจไม่คิดว่าเขาเป็นนายท่าน แต่ก็ไม่ใช่คนเลวที่ทำความผิดจนไม่น่าให้อภัย
ในวันนั้น ตอนนี้หนานหว่านเยียนซักถามพ่อบ้านกาว ยังถามว่าพ่อบ้านกาวสามารถปกป้องหยุนอี่ว์โหรวอย่างไม่คิดชีวิตใช่หรือไม่
คำพูดนี้ เขาไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไร
หยุนอี่ว์โหรวเป็นคนของแคว้นซีเหย่ ส่วนพ่อบ้านกาวก็มีหลักฐานแสดงว่ามาจากแคว้นต้าเซี่ย ความสัมพันธ์ได้มีอะไรระหว่างทั้งสอง มีเงื่อนไขใดทีจำเป็นต้องถึงพ่อบ้านกาวต้องปกป้องหยุนอี่ว์โหรวอย่างไม่คำนึงถึงชีวิตด้วย?
แต่ทุกอย่างนี้ ตราบใดที่เสิ่นอี่ว์ไม่ฟื้นความทรงจำ เขาก็ไม่สามารถยืนยันได้
เสิ่นอี่ว์มองสายตาอันลุ่มลึกของกู้โม่หาน ในใจแม้จะทนไม่ไหว แต่ก็ยังกล่าวขอบคุณอย่างซาบซึ้ง “ขอบพระทัยท่านอ๋องสำหรับความห่วงใย ข้าน้อยจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุด พยายามจดจำทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ได้เร็วที่สุด”
กู้โม่หานมองเสิ่นอี่ว์ที่ติดตามเขามาตั้งแต่เด็ก พลางรู้สึกหงุดหงิด “เสิ่นอี่ว์ หลายวันมานี้มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย จิตใจข้าค่อนข้างว้าวุ่น”
หายากที่ท่านอ๋อจะมีการแสดงออกเช่นนี้
เสิ่นอี่ว์ตกตะลึง มองกู้โม่หานอย่างไม่เชื่อสายตา “ท่านอ๋อง มีเรื่องอะไรรบกวนจิตใจท่านหรือ?”
กู้โม่หานเม้มปาก “ไม่กี่วันก่อน อดีตสาวใช้พระชายาถูกตามตัวกลับมา”
“ข้าได้ยินจากปากนางว่า ตอนนั้นพระชายาไม่ได้เสียพรหมจรรย์ให้ใครอื่น และไม่มีชายชู้ด้วย ที่ผ่านมา…มีเพียงข้าคนเดียวเท่านั้น”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ดวงตาทั้งสองของเสิ่นอี่ว์ก็สว่างไสวขึ้น
“ถ้าอย่างนั้น พระชายาก็ไม่เคยทรยศท่านอ๋อง!”
แววตาของกู้โม่หานมีความรู้สึกผิด “ใช่ ข้าเข้าใจนางผิด แล้วยังทำร้ายนางเพราะเหตุนี้ ข้า…ข้าทำผิดต่อนาง”
มือที่ถือถ้วยชาของเสิ่นอี่ว์สั่นเทิ้มด้วยความตื่นเต้น
สถานการณ์ระหว่างพระชายาและท่านอ๋องเปลี่ยนทิศทางกลายเป็นเช่นนี้ แล้วเรื่องที่พระชายาเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตท่านอ๋องไว้ จะพูดได้หรือยัง?
พระชายาคิดว่าท่านอ๋องเชื่อมั่นในพระชายารองหยุน ไม่ไว้ใจนางมากพอ ดังนั้นจึงบอกให้เขาอย่าพูดอะไร ตอนนี้ท่านอ๋องรักพระชายาอย่างลึกซึ้งเช่นนี้แล้ว ต่อให้พูดเรื่องผู้มีพระคุณช่วยชีวิตออกไป ท่านอ๋องก็จะเชื่อมั่นในตัวพระชายาเท่านั้น!
เสิ่นอี่ว์เอ่ยปากอย่างตื่นเต้น “ท่านอ๋อง ความจริงแล้วพระชายา…”