ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 530 พ่ายแพ้แล้ว
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 530 พ่ายแพ้แล้ว
ฉินมู่ไป๋จงใจหกล้ม กู้โม่หลิงก็เกือบถูกนางพาล้มไปด้วย
เขาเห็นฉินมู่ไป๋เก็บก้อนหินมาหลายก้อน แล้วตอนที่ลุกขึ้นมา ก็โยนก้อนหินไปหาหนานหว่านเยียนอย่างรุนแรง
ตอนนี้ หนานหว่านเยียนกำลังใจจดใจจ่อไล่ตามฉินอี้หราน ไม่เห็นถึงความประสงค์ร้ายของฉินมู่ไป๋
ส่วนกู้โม่หาน ใกล้จะสามารถแย่งลูกบอลมาจากฉินอี้หรานได้แล้ว กลับรู้สึกได้ถึงรัศมีสังหาร
ดวงตาคู่งามดั่งหงส์เยือกเย็นลงทันที กู้โม่หานหยุดชะงัก แล้วดึงหนานหว่านเยียนที่กำลังวิ่งอยู่มาอุ้มกอดไว้
จากนั้น เขาจับจ้องมอง ใช้เท้าเตะก้อนหินที่ลอยมานั้นย้อนกลับไปทางเดิม
หนานหว่านเยียนที่ถูกอุ้มขึ้นมาอย่างกะทันหันยังไม่ทันรู้ตัว ได้ยินเสียงฉินมู่ไป๋ร้องขึ้นมาอย่างเจ็บปวด
นางจึงหันไปมองฉินมู่ไป๋ แล้วก็เห็นฉินมู่ไป๋กับกู้โม่หลิงล้มไม่เป็นท่า
ทุลักทุเลอย่างมาก
จากนั้น นางก็ได้ยินเสียงส่ายระฆังดังขึ้น ทันใดนั้นก็มีเสียงโห่ร้องดังสนั่นหวั่นไหว
“เข้าแล้ว”
“ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยเตะลูกบอลเข้าอีกแล้ว ยอดเยี่ยมมากๆเลย”
ฉินอี้หรานกำลังเตะบอลอยู่ดีๆ จู่ๆก็ได้ยินเสียงฉินมู่ไป๋กรีดร้องขึ้นมา หันไปสนใจเพียงชั่วขณะหนึ่งเดียว ลูกบอลก็ถูกกู้โม่หานแย่งไปแล้ว
ตอนที่เขาเงยหัวขึ้นมา กู้โม่หานก็ชนะแล้ว สีหน้าฉินอี้หรานเปลี่ยนไปทันที เขาหันไปมองหนานหว่านเยียนกับกู้โม่หาน ดวงตาแฝงไปด้วยความกระหายเลือดและตื่นเต้นเล็กน้อย
ยอดเยี่ยมไม่เบา
ส่วนฉินมู่ไป๋ยิ่งโกรธโมโหจนหน้าเขียว
เดิมเมื่อกี้นางคิดอยากจะใช้ก้อนหินโจมตีหนานหว่านเยียน ให้นางเสียหน้า ใครจะคิดว่ากู้โม่หานจะเก่งขนาดนี้ เอาก้อนหินที่นางโยนออกไป ย้อนคืนมาให้กับนาง ทำให้นางล้มลงอย่างทุลักทุเล จนใบหน้าแทบจะได้รับบาดเจ็บ
และภายใต้สถานการณ์แบบนี้ กู้โม่หานยังสามารถแย่งลูกบอลไปจากพี่ชายของนาง จนได้ชัยชนะ
น่าโมโห น่าโมโหจริงๆ
นางกำหมัดไว้แน่น เชือกรัดจนทำให้กู้โม่หลิง ที่อยู่ด้านหลังนางเจ็บจนขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “องค์หญิง เบาหน่อย….”
ฉินมู่ไป๋หันไปตะคอกพูดขึ้นว่า “หุบปาก”
หนานหว่านเยียนมองดูสถานการณ์แล้ว ต่อให้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็มั่นใจว่าเมื่อกี้จะต้องเกิดเรื่องอะไรบางอย่างแน่ นางถูกกู้โม่หานวางลงกับพื้นอีกครั้ง มองดูเขาด้วยสายตางุนงง พร้อมถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
กู้โม่หานกอดเอวบางของนางไว้แน่น พร้อมกระตุกมุมปาก พูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉยว่า “เรื่องเล็ก”
หนานหว่านเยียนยิ่งงุนงง แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมาก
กู้โม่หานเตะลูกบอลเข้าประตูสองลูกติดกัน บรรยากาศในสนามแข่งคึกคักอย่างมาก ส่วนการแข่งขันต่อมา เกือบจะกลายเป็นสถานการณ์สองด้าน
ด้านหนึ่งคือให้กำลังใจฉินอี้หรานอย่างบ้าคลั่ง ส่วนอีกด้าน ให้กำลังใจกู้โม่หานกับหนานหว่านเยียนที่วันนี้ทำให้ทุกคนหูตาสว่างขึ้น
ส่วนฉินมู่ไป๋กับกู้โม่หลิง ยังมีหนานชิงชิงสองสามีภรรยา เพราะเข้ากันกับทีมไม่ได้ สูญเสียกำลังอย่างมาก จนเมื่อถึงตอนสุดท้าย ก็ต่างวิ่งไม่ไหวแล้ว
การแข่งขันจบลงอย่างรวดเร็ว
ฉินอี้หรานได้ชัยชนะอันดับสองในคะแนนสิบแปดคะแนน แพ้หนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานไปห้าคะแนน
แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ ในใจหนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานต่างก็ตกใจ
ต้องรู้ว่า สาวใช้ข้างกายฉินอี้หราน ไม่ได้ช่วยอะไรเลย ฉินอี้หรานแบกร่างคนอีกคนหนึ่งแล้ววิ่งไม่พอ ยังเตะลูกบอลเข้าประตูได้อย่างบ้าคลั่ง มีพละกำลังที่น่ากลัวมาก
สุดท้าย ฉินอี้หรานหันไปแกะเชือกบนข้อมือ แล้วเดินมาหาหนานหว่านเยียนกับกู้โม่หาน
“คิดไม่ถึงว่า ไม่เพียงไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยที่เก่งกาจ ไท่จื่อเฟยเองก็ไม่น้อยหน้า ให้ความร่วมมือกันได้อย่างรู้ใจกันดี”
บนใบหน้าหล่อเหลาของกู้โม่หานยังคงมีเม็ดเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมา กลับท่าทีเคร่งขรึมอย่างไร้ขอบเขต
“ข้ากับพระชายาแต่งงานกันมานานหลายปี ความรู้ใจกันนี้ไม่มีใครเทียบได้อย่างแน่นอน”
“หากผิงซวนอ๋องอิจฉา ก็รีบมีครอบครัว”
ได้ยินแบบนี้ ฉินอี้หรานก็หัวเราะขึ้นมา
“ถึงในโลกนี้จะมีผู้หญิงมากมาย แต่จะหาคนที่เข้ากับข้าได้สักคนนั้น ไม่แน่ว่ามีหรือไม่มี”
พูดจบ เขามองดูหนานหว่านเยียนอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง แล้วก็เดินไปทางด้านกลุ่มคนแคว้นเทียนเซิ่ง
ถึงแม้เขาจะหมั้นหมายกับองค์หญิงแคว้นต้าเซี่ย แต่แล้วยังไงล่ะ ตอนนี้แคว้นต้าเซี่ย มีแต่องค์ชาย
ต่อให้มีองค์หญิงมาเกิด ก็ไม่แน่ว่าจะมีความสามารถหรือไม่ นอกเสียจากเหมือนหนานหว่านเยียน มีความสามารถรอบด้าน เขาถึงจะพอใจ
กู้โม่หานมองดูเงาหลังฉินอี้หราน นัยน์ตาคู่งามดั่งหงส์ค่อยๆลึกล้ำและเย็นชา
การแข่งขันเตะบอลในวันนี้ กู้โม่หานแสดงออกได้อย่างเป็นการเปิดหูเปิดตา ดึงดูดทำให้ขุนนางแคว้นเทียนเซิ่งต่างให้ความสนใจไม่น้อย
ด้านหนึ่งพวกเขาพูดชื่นชมฉินอี้หรานไม่หยุด ด้านหนึ่งก็ไปโค้งคำนับต่อหน้ากู้จิ่งซาน
“วันนี้พวกกระหม่อมถือว่าได้เห็นถึง พลังอานุภาพของเทพสงครามแคว้นซีเหย่แล้ว”
“คิดไม่ถึงว่า ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยไม่เพียงมีความสามารถในการยิงธนู ฝีมือในการเตะบอลก็ไม่แพ้กัน แม้แต่ไท่จื่อเฟย ก็ไม่ได้อ่อนแอเหมือนอย่างผู้หญิงปกติทั่วไป”
“การแข่งขันทั้งสองครั้งนี้ แคว้นเทียนเซิ่งเราพ่ายแพ้อย่างเลื่อมใสอย่างสุดจิตสุดใจ”
กู้จิ่งซานฟังคำพูดชื่นชมของพวกเหล่าขุนนางแคว้นเทียนเซิ่ง สายตาที่หันไปมองกู้โม่หานกับหนานหว่านเยียน อดไม่ได้ที่จะแอบซ่อนความชั่วร้าย
การแข่งขันนะเมื่อกี้เขามองอยู่ตลอด และก็เข้าใจดี ลูกชายของตนคนนี้ ตอนนี้ปีกกล้าขาแข็ง ใกล้จะไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาแล้ว
ตอนนี้ แม้แต่แคว้นอื่น ยังรู้สึกดีต่อกู้โม่หาน
คิดถึงเมื่อหลายวันก่อน ที่เขาตั้งใจหาเรื่องกู้โม่หาน สายตากู้จิ่งซานเยือกเย็นลงเล็กน้อย
แต่น้ำเสียงของเขายังคงพูดขึ้นมาอย่างเป็นธรรมชาติว่า “วันนี้ฝีมือของงผิงซวนอ๋อก็ไม่ด้อย ลูกชายอีกหลายคนของข้า ยังสู้ไม่ได้ มีเพียงไท่จื่อที่พอสามารถสู้ผิงซวนอ๋องได้บ้าง”
“การเตะบอลกับการยิงธนูในวันนี้ ข้าล้วนพอใจอย่างมาก ทหาร มอบรางวัลให้กับทุกคน”
เฟิ่งจงฉวนรีบไปจัดการเรื่องของรางวัล ฉินอี้หรานไม่สนใจสิ่งของนอกกายพวกนี้ หนานหว่านเยียนกลับดีใจไม่น้อย
มีของรางวัลเพิ่มขึ้น เส้นทางความมั่งคั่งของการหย่ากันก็จะเยอะขึ้นมาด้วยเหมือนกัน
ฉินมู่ไป๋กับกู้โม่หลิงแกะเชือกออกจากกันแล้ว ก็รีบมาหากู้โม่หาน
“ไท่จื่อเตี้ยนเซี่ยเก่งมากจริงๆ แม้แต่พี่ชายยังแพ้ให้กับเจ้า….”