ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 524 เขาไม่เสียใจ
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 524 เขาไม่เสียใจ
บนจดหมาย เขียนเต็มไปด้วยเหตุการณ์เรื่องเล็กใหญ่ที่เกิดขึ้นในวังวันนี้ ที่หนานชิงชิงไม่รู้
รวมถึงเทศกาลปีใหม่เมื่อหลายวันก่อน องค์หญิงฮั่นเฉิงที่มาไกลจากแคว้นเทียนเซิ่งหลงรักกู้โม่หาน อยากแต่งงานผูกสัมพันธ์กับเขาแล้วถูกปฏิเสธ
ตลอดจนกู้โม่หาน นำพาพวกทูตนั่งเรือท่องเที่ยวแล้วลอบฆ่า กลับวันนี้ในตำหนักหย่างซิน กู้จิ่งซานโกรธโมโหจัด กู้โม่เฟิงกลับออกโรงปกป้องกู้โม่หานสองสามีภรรยา….
เล่าทุกเรื่องอย่างละเอียด หนานชิงชิงตื่นตระหนกอยู่ในใจ
สิ่งที่แนบติดจดหมายมา ยังมีแผนที่สนามเตะบอลในวันพรุ่งนี้ เส้นทางภายในภายนอกสนามเตะบอล ล้วนทำสัญลักษณ์ไว้อย่างชัดเจน
ชิวซวงก็เห็นแล้ว รู้สึกแปลกประหลาดใจ พร้อมพูดขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “พระชายา ท่านรู้ไหมว่าใครเป็นคนส่งมา?”
สามารถบันทึกรายละเอียดทุกอย่างที่เกิดขึ้นในหลายวันนี้ ยังแนบแผนที่สนามเตะบอลในวันพรุ่งนี้ นี่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ฝีมือคนธรรมดาสามารถทำได้
“ไม่รู้” หนานชิงชิงขมวดคิ้ว พร้อมพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงว่า “ออกไปเถอะ”
“เพคะ พระชายา” ชิวซวงไม่กล้าอยู่ต่ออีก ถอยออกไปอย่างเชื่อฟัง
รอเมื่อชิวซวงออกไปแล้ว หนานชิงชิงมองดูจดหมายในมือ แล้วก็ขยี้อย่างแรง โยนลงบนพื้นอย่างต้องการระบายอารมณ์ สายตาฉายแววเหี้ยมโหด
นี่เพิ่งกี่วันเอง
หนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานสามารถประสบความสำเร็จได้ถึงเพียงนี้
ยังมีกู้โม่เฟิง โง่อย่างมาก ไปช่วยพูดเข้าข้างกู้โม่หาน เขาไม่รู้หรือว่า ฮองเฮาล้มลงแล้ว คนในราชสำนักก็จะไม่ปกป้องพวกเขาอีก หาโอกาสยากว่าฮ่องเต้จะลงโทษกู้โม่หาน เขาไม่รู้จักสร้างปัญหาซ้ำเติม ยังออกหน้าช่วยเหลือ
โง่เง่า
บนโต๊ะ แผนที่สนามเตะบอลวางอยู่บนนั้นอย่างเรียบร้อย ถึงหนานชิงชิงจะไม่รู้ว่าคนที่มาส่งจดหมายคือใคร แต่ดูจากความหมายแล้ว น่าจะไม่ใช่ศัตรูของนาง แต่เป็นศัตรูของหนานหว่านเยียน
ศัตรูของศัตรู ก็คือเพื่อนกัน
แต่ว่า “เพื่อน” คนนี้ ไม่สะดวกที่จะปรากฏตัว ต้องการให้นางไปหยั่งเชิงต้นทางเท่านั้นเอง
แต่ความจริง นางก็ทนรอไม่ไหวแล้ว
กู้โม่หานกับหนานหว่านเยียนได้ใจคนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในวันไหว้พระจันทร์ก็จะป่าวประกาศแล้ว เมื่อกำหนดให้เข้าไปอยู่ในตงกงแล้ว กู้โม่เฟิงก็จะไม่มีโอกาสได้เป็นไท่จื่อแล้ว
นางจะรอเฒ่าประมงได้กำไรไม่ได้แล้ว และก็ไม่สามารถคาดหวังในตัวหยุนอี่ว์โหรวที่ไม่ได้เรื่องคนนั้น นางต้องลงมือด้วยตนเอง ก่อนวันไหว้พระจันทร์ ต้องลากตัวกู้โม่หานกับหนานหว่านเยียนลงมาให้ได้
แต่หนานหว่านเยียนกับกู้โม่หานสามัคคีกันมาก ราวกับผนังกำแพงเหล็ก ยากที่จะจู่โจม เวลากระชั้นชิดขนาดนี้ นางจำต้องหาวิธีอื่น
หนานชิงชิงมองดูแผนที่สนามเตะบอล ในดวงตาคู่สวยนั้นแฝงไปด้วยความดุดัน
องค์หญิงฮั่นเฉิงของแคว้นเทียนเซิ่งชอบกู้โม่หาน ลงมือจากตรงนี้ ยังไงก็ต้องมีช่องทาง
พรุ่งนี้ เป็นโอกาสที่นางจะได้พลิกสถานการณ์ที่ดีที่สุด
ค่ำคืนนี้ หนานชิงชิงถือแผนที่ไว้ในมือ มองดูตนเองในกระจก รอยยิ้มยิ่งอยู่ก็เยือกเย็นลงอย่างแปลกประหลาด….
วันรุ่งขึ้น อากาศสดใส
หนานหว่านเยียนนอนหลับอย่างสบาย ยังสบายอย่างผ่อนคลาย
นางค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือใบหน้าหล่อเหลาของกู้โม่หาน ผิวของเขาขาวมาก หน้าตาได้รูป ดวงตาคู่หงส์หลับสนิท ขนตางอนยาว หล่อจนไม่อาจละสายตา
หนานหว่านเยียนไม่ทันตั้งตัว จนเกือบจะกรีดร้องออกมา นางเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองไม่เพียงนอนอยู่กับกู้โม่หาน นางยังนอนหนุนแขนของเขา โอบกอดเอวของเขา ขาข้างหนึ่งยังพาดอยู่บนตัวเขา ท่าทางการนอนนั้นไร้ความกังวลและไร้การควบคุม
และมือของเขาก็โอบเอวของนางไว้ ทั้งสองคนแนบชิดกันมาก เหมือนอย่างคนรักกันที่แนบชิดกัน
หนานหว่านเยียนหน้าแดงขึ้นมา เป็นครั้งแรกที่นางใกล้ชิดกับผู้ชายขนาดนี้ ต่อให้ที่ผ่านมาก็เคยนอนกับกู้โม่หาน แต่ก็แค่ใกล้กัน นอนอยู่บนเตียงเดียวกัน ไม่เคยแนบชิดกันขนาดนี้
จู่ๆ หนานหว่านเยียนก็คิดถึงหยุนอี่ว์โหรวขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ หยุนอี่ว์โหรวนอนกับเขาแล้ว พวกเขาก็เคยทำกันแบบนี้…..
นางขมวดคิ้วขึ้นมาทันที ไม่รู้ไม่เป็นสุขขึ้นมา นางค่อยๆชักขากลับมา ค่อยๆลุกขึ้น
ไม่ง่ายกว่าหนานหว่านเยียนใกล้จะหลุดพ้นแล้ว ข้อมือเรียวกลับถูกคว้าดึงกลับ นางล้มลงแนบอกแข็งแรงของเขา
“อ้าก….” ครั้งนี้หนานหว่านเยียนอดทนไม่ไหว ร้องเรียกขึ้นมา เงยหน้าขึ้นมาเห็นเขาลืมตาจับจ้องมองดูนาง เสียงดังแม่เหล็กหลังจากตื่น ก็ดังขึ้นมาอย่างแผ่วเบาว่า “ตื่นแล้วทำไมไม่เรียกข้า คิดอยากไปไหน?”
“ตื่นแล้วลุกจากเตียงไม่ใช่เรื่องปกติหรือ?” หนานหว่านเยียนดิ้นรน คิดอยากลุกออกมาจากอ้อมอกเขา กลับถูกเขากอดรัดไว้แน่น นางมองดูเขา พร้อมพูดขึ้นว่า “ปล่อยมือ”
เขาไม่ขยับ ดวงตาดำมืดของเขา จับจ้องมองดูใบหน้าที่งดงามของนาง สายตาค่อยๆเลื่อนต่ำลง มองดูตรงริมฝีปากของนาง
ริมฝีปากนางบวมเล็กน้อย เมื่อคืนเขาจูบรุนแรงไปหน่อย
แต่เขาไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด
หากไม่ใช่เพราะยังไม่ถึงเวลา เมื่อคืนก็จะไม่เพียงแค่จูบเท่านั้น….
หนานหว่านเยียนเห็นเขาจับจ้องมองดูตนเอง ไม่เห็นเขาทำอะไรอีก ก็อดไม่ได้ที่จะยิ่งขมวดคิ้วแน่น
“เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่ รีบปล่อยข้าก่อน เรากอดกันแน่นอยู่แบบนี้ไม่ค่อยเหมาะมั้ง?”
ถึงแม้ เมื่อวานเขาปกป้องนางอย่างเป็นลูกผู้ชาย แต่…..
พวกเขาเพียงแค่หวังผลประโยชน์ร่วมกัน ไม่ได้หมายความว่าในด้านความรักจะสามารถทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ พวกเขายังไม่ถึงขึ้นนั้น
นางค่อนข้างไม่พอใจ ขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าเต็มไปด้วยท่าทีต่อต้านการเข้าใกล้เขา ดวงตาสีเข้มของชายหนุ่มเปื้อนไปด้วยความหมายลึกล้ำที่ไม่อาจคาดเดาได้ แฝงไปด้วยความเย็นชาเล็กน้อย
“ที่นี่เป็นในวัง รอบทิศเต็มไปด้วยสายตาคอยจับตามอง ใกล้ชิดกันหน่อยคนอื่นจะได้ไม่สงสัย”
พูดอยู่แบบนี้ เขากลับยังคงปล่อยนาง
หนานหว่านเยียนรีบลุกขึ้นมานั่ง เสื้อผ้าที่บางมากยุ่งเหยิง เสื้อด้านซ้ายยังหลุดไหลลงมา
นางเพิ่งดึงเสื้อขึ้นมา วินาทีต่อมาก็ถูกเงาปกคลุม นางยังไม่ทันได้หันไปมอง กระดูกไหปลาร้าที่บอบบางก็ถูกเขากัดอย่างแรง
หนานหว่านเยียนหายใจเข้าลึกๆ
“เจ็บมากเลย กู้โม่หาน เจ้าทำอะไร….”