ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่377 ท่านอ๋องง้อพระชายา
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่377 ท่านอ๋องง้อพระชายา
หนานหว่านเยียนยิ้มแห้ง
นางผสมยาที่ขมที่สุดลงไปทั้งหมด ไม่เพียงแต่ไม่กระทบต่อฤทธิ์ยา ยังทำให้กู้โม่หานทรมานเล่นๆได้ด้วย ใครใช้ให้กู้โม่หานคิดแย่งลูกไปจากนางล่ะ เช้านี้ยังคิดจะจูบนางอีก
นางไม่มีทางให้เขาอยู่เป็นสุขแน่
เกี๊ยวน้อยมองดูใบหน้าหล่อเหลาของกู้โม่หาน เอียงหัวอย่างสงสัย “หื้ม? สีหน้าของท่านพ่อ ทำไมถึงครึ้มแบบนี้ล่ะ?”
“หรือยายังร้อนอยู่?”
ว่าแล้ว นางก็เป่าให้ยาเย็นเร็วๆ
กู้โม่หานกระตุกยิ้ม แล้วพูดว่า: “ไม่ใช่หรอก ยาอุ่นแล้วล่ะ”
ซาลาเปาน้อยเม้มริมฝีปากครุ่นคิด สักพักใหญ่ก็ถามเสียงเบาว่า “ยาขมเกินไปใช่หรือไม่? ตอนเด็กข้าป่วยบ่อย ท่านแม่จะทำยาที่ขมมากๆให้ข้ากิน ตอนแรกข้าก็ไม่ชิน แต่ท่านแม่บอกว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา ฉะนั้นต้องกินลงไป อาการป่วยถึงจะหายดี”
“ข้าสอนวิธีหนึ่งให้ท่านพ่อดีไหม! ตอนดื่มยาก็บีบจมูกไว้อย่าสูดลมหายใจ แล้วดื่มเข้าไปรวดเดียว จะไม่รู้สึกขมมาก!”
ได้ยินดังนั้น กู้โม่หานก็อึ้ง เขาขมวดคิ้ว มองไปยังหนานหว่านเยียน เห็นเพียงสีหน้าของนางเรียบเฉย ไม่มีอารมณ์ใดๆ ในใจคงจะไม่สบายใจ
ห้าปีมานี้ เขาไม่รู้เรื่องของเด็กสองคนเลย และไม่รู้ด้วยว่าซาลาเปาน้อยชอบป่วยตอนเด็กๆ หนานหว่านเยียนดูแลพวกนางคนเดียว ลำบากหรือเปล่า เขาก็ไม่รู้……
เขาเม้มริมฝีปาก ลูบหน้าของซาลาเปาน้อยเบาๆ แล้วฝืนใจดื่มยาทั้งหมด
หนานหว่านเยียนเห็นกู้โม่หานขมวดคิ้วเป็นปม ก็รู้สึกสบายใจมาก ยิ้มแล้วพูดเตือนกู้โม่หาน
“ยานี้ออกฤทธิ์เร็ว ท่านอ๋องต้องดื่มทุกวันสามครั้ง บาดแผลถึงจะหายเร็วขึ้น”
กู้โม่หานรู้ว่าหนานหว่านเยียนคิดจะทำอะไร จึงตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ขอบใจพระชายาแล้ว”
เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยสบตากันแล้วยิ้ม
ไทเฮาเห็นครอบครัวสี่คนปรองดองกัน ก็รู้สึกพอใจมาก
“ข้าไม่ได้เห็นภาพแบบนี้มานานแล้ว รู้สึกในวังเงียบเหงามาก เจ้าหก เยียนเอ๋อร์ พวกเจ้านอนอีกคืนได้หรือไม่ ข้าอยากอยู่กับเด็กสองคนนานกว่านี้”
หนานหว่านเยียนยังไม่ทันได้ตอบ กู้โม่หานก็รีบตอบทันที
“ได้ขอรับ”
“พวกเจ้าคุยกันเถอะ เดี๋ยวถึงเวลากินข้าว ข้าจะส่งคนมาเรียกพวกเจ้าเอง”
ไทเฮายิ้มตาหยีเป็นเสี้ยวพระจันทร์ ลูบหัวของเด็กสองคนเบาๆ “ยังจำที่ข้าบอกพวกเจ้าได้ไหม ต้องเป็นเด็กดีของพ่อแม่นะ รู้ไหม?”
ที่เสด็จย่าทวดพูดเมื่อกี้?
เกี๊ยวน้อยกับซาลาเปาน้อยก็เข้าใจทันที
เสด็จย่าทวดอยากให้พวกนางให้ท่านพ่อกับท่านแม่รักกันมากๆ!
เกี๊ยวน้อยยิ้มให้ไทเฮา “รับทราบเพคะ!”
ซาลาเปาน้อยก็ดูตื่นเต้นมาก “เสด็จย่าทวดวางใจได้เลยเพคะ!”
“ไอ้หยา เหลนที่น่ารักของข้า!” ไทเฮากอดพวกนางแล้วจุ๊บ จากนั้นก็ถึงเดินออกไปอย่างอาลัยอาวรณ์
ไทเฮาเพิ่งออกไป เกี๊ยวน้อยก็ส่งซิกให้ซาลาเปาน้อย
ซาลาเปาน้อยรับรู้แล้วมองไปยังหนานหว่านเยียน “ท่านแม่ มาตรงนี้หน่อยสิ”
หนานหว่านเยียนก็รีบขยับเข้าไปใกล้ “อืม? ทำไมเหรอ?”
กู้โม่หานมองอยู่ข้างๆ อดไม่ได้ขยับเข้าไปฟังด้วย แต่กลับดูหนานหว่านเยียนมองค้อนแทน
ซาลาเปาน้อยกระซิบข้างหูหนานหว่านเยียน จากนั้นหนานหว่านเยียนก็ ‘ฮ่าๆ’ หัวเราะออกมาเสียงดัง ลูบหัวของนางแล้วพูดอย่างเหนื่อยใจว่า “ได้ แม่จะไปกับเจ้านะ”
พูดจบ นางก็อุ้มซาลาเปาน้อยขึ้นมา
ก่อนออกไป นางก็จ้องกู้โม่หานแล้วพูดเตือนว่า “จำที่พวกเราพูดกันไว้ด้วย”
ห้ามแย่งลูกสาวไปจากนางเด็ดขาด!
กู้โม่หานพยักหน้า
หนานหว่านเยียนไปแล้ว เกี๊ยวน้อยก็รีบเดินไปดูที่หน้าประตู จากนั้นก็เดินกลับเข้าห้องแล้วปิดประตูลง เดินไปตรงหน้ากู้โม่หานอย่างลับๆล่อๆ
“ลุงกู้! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
กู้โม่หานอึ้ง นางเรียกเขา ‘ลุงกู้’ อีกครั้ง เขากลับรู้สึกไม่ชอบใจเท่าไหร่
เมื่อกี้ยังเรียกเขาว่าท่านพ่ออยู่เลย เล่ห์เหลี่ยมเยอะเสียจริง พอไทเฮาไป ก็รีบเรียกเขาว่าลุงกู้เลยนะ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
เกี๊ยวน้อยอยากปีนขึ้นเก้าอี้ แต่กลับถูกกู้โม่หานอุ้มขึ้นมาก่อน
นางกะพริบดวงตากลมโต เงยหน้ามองกู้โม่หาน
“ข้ากับซาลาเปาน้อยเห็นว่าท่านแม่อารมณ์ไม่ดี! ลุงกู้ทำให้ท่านแม่มีความสุขกับพวกเราได้หรือไม่?”
กู้โม่หานหรี่ตาลง หนานหว่านเยียนไม่มีความสุข เพราะยังไงเมื่อคืนกับตอนเช้า เห็นได้ชัดว่านางอารมณ์ไม่ดีเพราะโดนเขาแกล้ง แต่เมื่อกี้กลับไม่ได้แสดงออกมา เกี๊ยวน้อยก็ยังจับสังเกตได้อีก
“เจ้าคิดว่าควรจะทำยังไงล่ะ?”
เกี๊ยวน้อยรีบพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น “มื้อค่ำใต้แสงเทียน!”
กู้โม่หานขมวดคิ้ว “มื้อค่ำใต้แสงเทียน มันคืออะไรกัน?”
มื้อค่ำที่ทำจากเทียนเหรอ?
กินได้เหรอ?
เกี๊ยวน้อยมองดูใบหน้าที่ไม่เข้าใจของกู้โม่หาน ก็นึกขึ้นได้ว่าเขาไม่เคยอ่านหนังสือของท่านแม่ ก็เลยอธิบายอย่างใจเย็น
“ก็คือเทียน จากนั้นก็มีอาหาร บรรยากาศดีมากเลยนะ! ผู้หญิงหลายคนชอบแบบนี้ทั้งนั้น!”
กู้โม่หานขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม เสียบธูปอีกสามดอก งั้นก็เหมือนกำลังประกอบพิธีกรรมน่ะสิ?
จะมีคนชอบจริงๆเหรอ?
เกี๊ยวน้อยเห็นเขาลังเล ก็รีบพูดว่า “หรือจะเป็นสวนน้ำ! เอ่อ ก็คือคนกลุ่มหนึ่งว่ายน้ำในบ่อน้ำ จากนั้นก็เล่นน้ำกันอย่างมีความสุข จากนั้น จากนั้นก็กินของอร่อยแล้วดื่มน้ำอร่อยๆ!”
เล่นน้ำกับหนานหว่านเยียนเหรอ?
กู้โม่หานพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ “ไม่ได้”
เกี๊ยวน้อยครุ่นคิดอย่างสงสัย แล้วพูดขึ้นอีกครั้ง
“ข้าลืมไป ตอนนี้ลุงบาดเจ็บอยู่ ทำกิจกรรมมากไม่ได้ งั้น งั้นลุงก็ถือดอกกุหลาบ 9999 ดอก แล้วคุกเข่าต่อหน้าท่านแม่ แล้วร้องเพลงรักให้นางสิ!”
“ลุงร้องเพลงรักเป็นไหม?”
กู้โม่หานส่ายหน้าอีกครั้ง
เกี๊ยวน้อยมองเขาด้วยสีหน้าผิดหวัง “ข้าสอนลุงร้องนะ คอกแคก ‘ฉันไม่เคยรัก ไม่เคยรู้ ว่าชีวิตมันดีเช่นไร เมื่อได้มีบางคนข้างกาย——’”
“ช้าก่อน” เกี๊ยวน้อยพูดมาเยอะมาก กู้โม่หานยิ่งฟังก็ยิ่งกลัว
ยิ่งไปกว่านั้น ให้เขาร้องเพลง เขาแค่เริ่มร้อง หนานหว่านเยียนคงได้เอากระทะมาฟาดหัวเขาสลบแน่
ของแบบนี้ หนานหว่านเยียนไม่มีทางชอบแน่นอน!
เกี๊ยวน้อยชะงัก “ทำไมล่ะ?”
กู้โม่หานถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ “เจ้าบอกข้ามาตรงๆดีกว่า แม่ของพวกเจ้าชอบอะไร?”
เกี๊ยวน้อยพูดออกไปทันทีว่า: “ท่านแม่ชอบความโรแมนติก! ชอบของขวัญที่ทำให้นางแปลกใจ ชอบชายหนุ่มที่หล่อเหลามีเสน่ห์และมากความสามารถ ทางที่ดีให้ต่อสู้เก่งด้วย……”
ชายหนุ่มหล่อเหลาผู้ซึ่งโรแมนติก มากความสามารถ และต่อสู้เก่ง
นี่มันตรงกับเขาเลยนี่?
เกณฑ์การเลือกสามีของเกี๊ยวน้อยกับหนานหว่านเยียน ทำไมถึงแตกต่างกันขนาดนี้
กู้โม่หานมองดูลูกสาวในอ้อมกอด “เจ้าเรียกข้าว่าพ่อจ๋าก่อน ข้าจะไปง้อท่านแม่พวกเจ้า เป็นไง?”