ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ - บทที่ 303 ท่านอ๋อง ท่านหลงรักพระชายาแล้ว
ยอดชายากับองค์หนูน้อยแห่งจวนอ๋องอี้ บทที่ 303 ท่านอ๋อง ท่านหลงรักพระชายาแล้ว
ภายในเรือนจู๋หลาน
หยุนอี่ว์โหรวฟื้นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว จากการพักผ่อนสองวัน บวกกับที่ผ่านมาบุตรแม่ทัพส่งหมอจวนฝีมือดีมา ตอนนี้อาการมดลูกตกเลือดของนางหยุดลงแล้ว
นางค่อยๆลงจากเตียง ทั้งร่างอ่อนเพลียไม่มีแรงอย่างมาก
นางรู้ข่าวแล้ว เกิดเรื่องกับหยุนเหิง หนานหว่านเยียนยังยั่วยุสร้างความบาดหมางระหว่างนางกับจวนแม่ทัพ จนจวนแม่ทัพทุกคนโกรธจัด
ทางด้านจวนแม่ทัพถึงแม้จะไม่มีใครมาซักไซ้เอาความนาง แต่วันนี้นางให้จ้างฮวานำจดหมายไปส่ง กลับถูกตีกลับมาอย่างไร้ความปรานี
แสดงว่าแม่ทัพใหญ่โกรธนางแล้วจริงๆ แต่หนานหว่านเยียนคิดว่าตนเองสมหวังแล้วหรือ ที่พึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนางไม่ใช่จวนแม่ทัพ แต่เป็นท่านอ๋อง
ขอเพียงนางกุมหัวใจท่านอ๋องไว้ให้ได้ ต่อให้ต่อไปเกิดอะไรขึ้นกับหยุนเหิง สืบหาความรับผิดชอบอะไรขึ้นมา ท่านอ๋องก็จะคอยปกป้องนาง
นางกระตุกมุมปากหัวเราะอย่างเย็นชา
“จ้างฮวา เจ้าไปสั่งห้องครัวต้มน้ำแกงโสมไก่ ข้าจะเอาไปให้ท่านอ๋อง”
“เพคะ ท่านอ๋อง” จ้างฮวารีบไปจัดเตรียมทันที
หยุนอี่ว์โหรวไปนั่งตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง มองตรงหน้ากระจกแล้วตั้งใจแต่งหน้าขึ้นมา
นางทาสีแดงบางๆ บนแก้มของนาง ริมฝีปากทาด้วยลิปบาล์มสีชมพูอ่อน เปลี่ยนสวมชุดกระโปรงเรียบๆ ดูภูมิฐานและเรียบร้อย
จ้างฮวายกน้ำแกงไก่มาให้ หยุนอี่ว์โหรวรับเอามาใส่ในกล่องอาหาร แล้วถือเดินออกไปข้างนอก
“พระชายารองหยุนหยุดก่อน” องครักษ์หน้าประตูยังคงขวางนางไว้ แต่ครั้งนี้ไม่ได้ยื่นมือออกมา
เพราะครั้งที่แล้ว พวกเขายังไม่ได้แตะต้องนางเลย พระชายารองก็โอนเอนเหมือนอย่างกระดาษ พวกเขาไม่อยากต้องโทษ
หยุนอี่ว์โหรวพูดขึ้นอย่างน่าสงสารว่า “ข้าเพียงแค่อยากไปดูท่านอ๋อง ครั้งที่แล้วข้าออกไป ท่านอ๋องก็ไม่ได้ลงโทษข้า วันนี้หากข้าไปเรือนซีเฟิงแล้วถูกท่านอ๋องไล่กลับมา ข้าจะรับผิดชอบเอง จะไม่ให้พวกเจ้าต้องรับโทษ ให้ข้าออกไปเถอะ”
องครักษ์ทั้งสองคนมองตากัน แล้วพูดขึ้นมาอย่างลังเลว่า “งั้น…เชิญพระชายารองหยุน”
สายตาหยุนอี่ว์โหรวฉายแววเย็นชา ใบหน้ากับยิ้มแย้ม ถือกล่องอาหารแล้วเดินออกไป
ภายในห้องเรือนซีเฟิง
เสิ่นอี่ว์มีธุระออกไปแล้ว ส่วนกู้โม่หานหลังจากเปลี่ยนยาแล้ว ก็สวมชุดคลุมสีดำ ก้มหน้าก้มตาทำงาน แค่ใบหน้าด้านข้างก็ทำให้คนมองเห็นหลงใหลได้ หล่อเหลาอย่างน่าทึ่งที่สุด
มือหยุนอี่ว์โหรวจับกล่องอาหารไว้แน่นอย่างไม่ได้รู้ตัว รอยยิ้มยิ่งอ่อนหวานอ่อนโยน
นี่คือผู้ชายที่นางเฝ้าใฝ่ฝันมานานหลายปี หล่อเหลาอย่างไร้ที่ติ เก่งทั้งบู๊ ทั้งบุ๋น
“ท่านอ๋อง โหรวเอ๋อร์มาเยี่ยมท่าน อาการของท่านดีขึ้นบ้างหรือยัง โหรวเอ๋อร์เอาน้ำแกงโสมไก่มาให้ท่าน”
น้ำเสียงท่าทีของนางอ่อนโยน ก้าวเท้าเดินเข้ามาในห้อง
“โหรวเอ๋อร์?” กู้โม่หานได้ยินแล้วหันไปมอง เห็นใบหน้าขาวซีดของหยุนอี่ว์โหรว คิ้วเข้มที่หล่อเหลาย่นลงเล็กน้อย พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ามาได้อย่างไร ถูกกักบริเวณไม่ใช่หรือ?”
หยุนอี่ว์โหรวเหมือนถูกน้ำเย็นราด รอยยิ้มแข็งทื่อเล็กน้อย
นางอุตส่าห์มาหาเขา ทำไมไม่เห็นเขายินดี กลับค่อนข้างไม่พอใจ….
กู้โม่หานเห็นนางไม่พูดอะไร นิ้วมือเรียววางลงบนโต๊ะทำงาน พร้อมถามขึ้นด้วยเสียงต่ำ
“ในเมื่อเจ้ามาแล้ว ข้าก็อยากถามเจ้า เกิดอะไรขึ้นกับหยุนเหิงพี่ชายของเจ้า?”
เสิ่นอี่ว์บอกกับเขาว่า เชี่ยนปี้ตายแล้ว
เชี่ยนปี้ตาย เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ นางกับหยุนอี่ว์โหรวไม่เคยห่างกันมาตั้งแต่เด็ก เขานึกว่าหยุนอี่ว์โหรวจะเสียใจ
กลับคิดไม่ถึงว่า เมื่อวานหยุนอี่ว์โหรวให้หยุนเหิงส่งสาวใช้คนใหม่เข้ามาให้ในจวนอ๋อง ยังไปทะเลาะกับพี่ชายของนางที่เรือนเซียงหลิน…..
“ที่แท้ท่านอ๋อง ก็รู้เรื่องแล้ว” มือหยุนอี่ว์โหรวที่ถือกล่องข้าวกำแน่นขึ้นมา มองดูท่าทีเย็นชาของกู้โม่หาน จู่ๆก็ค่อนข้างไม่มั่นใจว่าเขารู้เรื่องมากน้อยแค่ไหน แล้วคิดยังไงกันแน่
นางหุบยิ้ม วางกล่องข้าวไว้บนโต๊ะ
“เชี่ยนปี้ไปแล้ว ข้าวกายโหรวเอ๋อร์ไม่มีสาวใช้ที่ไว้ใจได้ จึงให้พี่ชายส่งสาวใช้คนใหม่มาให้ พี่ชายก็ไม่ได้ตั้งใจจะมีเรื่องกับพระชายา ขอท่านอ๋องให้ความเป็นธรรม”
กู้โม่หานกวาดสายตามองดูหยุนอี่ว์โหรวแวบหนึ่ง บอกไม่ถูกว่าเชื่อไหม
“โหรวเอ๋อร์ พี่ชายของเจ้ามีเรื่องกับหนานหว่านเยียนนั้น ไม่ได้ตั้งใจจริงๆหรือ?”
หยุนเหิงมีนิสัยใจร้อนก้าวร้าว และปกป้องคนของตนเองมาก แต่การที่โหรวเอ๋อร์ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นเพราะนางทำตัวเองทั้งนั้น
แต่หยุนเหิงกลับตรงไปหาเรื่องหนานหว่านเยียน หากไม่มีใครพูดยั่วยุ เป็นไปได้หรือ?
ความกดดันที่มองไม่เห็นถาโถมเข้ามา หยุนอี่ว์โหรวรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก พร้อมจับจ้องมองดูเขา
“ทำไมท่านอ๋องถามเช่นนี้ ปกติพี่ชายเป็นคนใจร้อน ท่านก็รู้ ยังไงก็ไม่ได้ตั้งใจแน่”
กู้โม่หานมองดูหยุนอี่ว์โหรวด้วยสายตาหนักแน่น น้ำเสียงกลับฟังไม่รู้ว่าผิดหวังไหม แต่เย็นชาไปมาก
“ครั้งนี้ข้าเห็นแก่เจ้า จึงไม่ถือสา ไม่อย่างนั้นพี่ชายของเจ้าเหยียดหยามพระชายาต่อหน้าผู้คน ไม่เพียงพระชายาลงโทษหนัก ข้าก็จะลงโทษสถานหนัก”
หยุนอี่ว์โหรวดีใจ คิ้วงามค่อยแลดูสดใสขึ้นมา นางรู้อยู่แล้วว่า ยังไงเขาก็เข้าข้างนาง
“โหรวเอ๋อร์ขอบคุณท่านอ๋อง โหรวเอ๋อร์รับประกันว่า จะไม่ให้มีครั้งต่อไปอีก”
“โหรวเอ๋อร์ ตราบใดที่หนานหว่านเยียนยังเป็นพระชายา นางก็มีสิทธิ์ที่จะลงโทษพวกเจ้า หากยังมีคนกล้าไปหาเรื่องนาง ต่อให้นางไม่เอาเรื่อง ข้าก็จะไม่ปล่อยไปเด็ดขาด”
หยุนอี่ว์โหรวได้ยินแบบนี้ จากนั้นก็ยิ้มไม่ออก ในใจตกตะลึง
กู้โม่หานกำลังพูดเตือนนาง ห้ามไปหาเรื่องหนานหว่านเยียน ไม่อย่างนั้นเขาจะไม่ช่วยนางอีกหรือ?
กู้โม่หาน เย็นชากับนางถึงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
หยุนอี่ว์โหรว นำถ้วยน้ำแกงออกจากกล่องอาหารแล้วใช้ช้อนคน พร้อมฝืนยิ้มพูดขึ้นว่า
“เพคะ โหรวเอ๋อร์รู้ดี ไม่พูดเรื่องพวกนี้แล้ว ท่านอ๋อง ท่านบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้ รีบดื่มน้ำแกงไก่บำรุงหน่อยเถอะ”
“ไม่รู้ว่าท่านยังจำได้ไหม เมื่อห้าปีก่อนท่านเคยพูดว่า รอเมื่อเราแต่งงานกันแล้ว ท่านจะดีกับโหรวเอ๋อร์ที่สุด และโหรวเอ๋อร์ก็จดจำมาตลอด ที่จะสามารถได้อยู่ในจวนอ๋องแล้วทำอาหารให้ท่านอ๋องทานดูแลท่านอ๋องไปตลอดชีวิต”
กู้โม่หานยิ่งขมวดคิ้วย่น ไม่สนใจที่นาพูดถึงเรื่องเก่าๆ
“ต่อไปเจ้าไม่ต้องถามเรื่องพวกนี้ ภายในจวนมีบ่าวทำให้”
ได้ยินแบบนี้ มือหยุนอี่ว์โหรวที่ถือถ้วยไว้ค่อนข้างสั่นเทา
มีบางอย่างที่เหมือนกับมีดคมๆ ถูกชุบด้วยน้ำแข็ง แทงบนหน้าอกของนางอย่างแรง ใบหน้าเรียวเล็กที่อ่อนโยนก็ซีดลงทันที
“ท่านอ๋องพูดว่าอะไรกัน โหรวเอ๋อร์เป็นพระชายารองของท่าน ตอนนี้สุขภาพท่านไม่ดี โหรวเอ๋อร์ควรที่จะดูแลท่าน หรือโหรวเอ๋อร์ทำไม่ดีตรงไหน ทำให้ท่านอ๋องโกรธโมโห ท่านพูดออกมา โหรวเอ๋อร์สามารถแก้ได้”
กู้โม่หานมองดูนาง แววตาค่อนข้างเฉียบคม
“เจ้าอยากดูแลข้า ไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ต้องโทษตัวเอง ข้าไม่อยากให้เจ้าดูแลต่างหาก”
หยุนอี่ว์โหรวค่อนข้างยืนไม่มั่นคง มองดูกู้โม่หานอย่างไม่อยากเชื่อ
“ทำไมถึงไม่อยากให้โหรวเอ๋อร์ดูแล ท่าน….ไม่รักข้าหรือ? หรือเป็นเพราะท่านหลงรักพระชายาแล้ว ดังนั้น ดังนั้นจึงไม่อยากได้โหรวเอ๋อร์แล้ว?”
“เรื่องระหว่างเราไม่ต้องลากหนานหว่านเยียนมาเกี่ยวข้อง ข้าไม่เคยรักหนานหว่านเยียน และก็จะไม่มีวันรักนาง”
บนใบหน้าหล่อเหลาของกู้โม่หาน ไม่แสดงถึงความรู้สึกใดๆ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากัน
“ข้าเพียงแค่คิดเข้าใจเรื่องบางอย่างแล้ว ภายในหลายปีมานี้ เหมือนเข้าใจผิดคิดว่าความรู้สึกซาบซึ้งที่มีต่อเจ้า เป็นความรักมาตลอด…..”