ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 461 ท่านเทพธิดาโปรดฟันข้าที
บทที่ 461 ท่านเทพธิดาโปรดฟันข้าที
……….
บทที่ 461 ท่านเทพธิดาโปรดฟันข้าที
โม่จวินเจ๋อมองสีหน้าของหลิงเยว่ก็รู้ว่านางคงคิดอะไรออกแล้ว
“เจ้าวางแผนจะทำอย่างไร?”
“ลองใช้เครื่องมือค่อย ๆ ลอกเขาออกมาทีละนิด น่าจะได้ผลบ้างกระมัง?”
หลิงเยว่ลูบคางพลางเดินวนรอบต้นไม้เงือก ดูเหมือนกำลังพิจารณาว่าจะลงมือจากตรงไหนดี
นางยังไม่เคยเห็นเงือกตัวจริงเลย ไม่รู้ว่าหน้าตาจะงดงามขนาดนี้ หางจะเปล่งประกายวิบวับหรือไม่?
หลิงเยว่ที่เดินสำรวจรอบหนึ่งแล้ว หยิบมีดหั่นผักขนาดเล็กออกมา
“หากไม่ใช่อาวุธวิเศษก็ไม่สามารถตัดต้นไม้ผนึกวิญญาณได้” เงือกที่แต่เดิมยังกลัว ๆ อยู่ เมื่อเห็นมีดประหลาดสีดำทะมึนจึงเอ่ยปากเตือน
“ใช้อันนี้สิ” โม่จวินเจ๋อส่งมีดหั่นผักสีขาวให้หลิงเยว่
ลูกแก้ววิญญาณที่เปลี่ยนจากกระบี่ศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นมีดหั่นผักธรรมดา “…”
มีดสีขาวตกลงในมือของหลิงเยว่ก็เปลี่ยนเป็นสีทองบริสุทธิ์ทันที ภายใต้แสงทองเจิดจ้า ต้นไม้หน้าคนส่งเสียงร้องโหยหวนราวกับผี ดวงตาของมนุษย์เงือกเจือความหวาดกลัว
“แก่นปราณ… แสง… เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ เจ้าไม่ได้ต้องการช่วยข้า แต่ต้องการฆ่าข้าสินะ!” มนุษย์เงือกที่ไม่มีทางหนีรอดพลันคลุ้มคลั่งทันที
หลิงเยว่ที่ถือมีดอยู่มองไปทางโม่จวินเจ๋อด้วยความสงสัย
“จะเก็บแสงอย่างไร?”
เพราะนี่ไม่ใช่อาวุธของนาง นางไม่สามารถควบคุมมันได้
“มันก็เป็นอาวุธของเจ้าเช่นกัน”
แม้หลิงเยว่จะสงสัย แต่นางยังลองเก็บแสงทองเข้าไป ผลปรากฏว่านางสามารถเก็บแสงสีทองที่แสบตาเข้าไปได้จริง ๆ! มีดสีทองมีแสงวาบผ่านบนพื้นผิว เปลี่ยนจากสีทองสว่างเป็นสีทองเข้ม
“เจ้าอย่าเข้ามานะ! ข้าไม่อยากออกไปแล้ว!”
เมื่อเผชิญหน้ากับหลิงเยว่ที่ถืออาวุธศักดิ์สิทธิ์เดินเข้ามาทีละก้าว มนุษย์เงือกก็กรีดร้อง
เสียงกรีดร้องนั้นไม่ได้แสบหู แต่กลับไพเราะเสียด้วยซ้ำ หลิงเยว่ทำเสียง ‘จุ๊ ๆ ๆ’ พลันคิดว่า หากปล่อยอีกฝ่ายออกไป จะมีนักบำเพ็ญหญิงอีกกี่คนที่ต้องหลงเสน่ห์เงือกตัวนี้ บางทีปล่อยให้อยู่ที่นี่ตลอดไปคงดีเหมือนกัน
แต่สุดท้ายหลิงเยว่ก็ยกดาบขึ้น เพราะการไปแดนเทพย่อมสำคัญกว่า!
เมื่ออาวุธศักดิ์สิทธิ์แก่นปราณแสงแตะต้นไม้ผนึกวิญญาณ ผิวของมันเริ่มละลาย หลิงเยว่ค่อย ๆ กรีดลงไปโดยไม่ต้องออกแรงเลย วิญญาณเงือกหนึ่งดวงก็หลุดออกมาจากลำต้นทันที
หางสีเงินแดงวูบผ่านสายตาหลิงเยว่ไป ก่อนที่นางจะทันได้มองชัด ๆ ชายหนุ่มรูปงามที่มีขาคนสวมเสื้อคลุมสีเงินแดงพลันขึ้น
“???”
ช่างง่ายดายเหลือเกิน
ทั้งสามสบตากัน โดยไม่มีใครพูดอะไร
“ข้าจะลองดู”
โม่จวินเจ๋อรับมีดมา เมื่อมีดตกลงบนมือเขามันก็เปลี่ยนเป็นสีขาวอีกครั้ง พอมีดสีขาวแตะลงบนต้นไม้ คราวนี้ไม่เพียงแต่ลำต้นละลาย แม้แต่วิญญาณที่เหลืออยู่ข้างในกลับละลายไปด้วย
โม่จวินเจ๋อ “…”
เหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ เขาก็มีแก่นปราณแสงเช่นกันนี่นา
มนุษย์เงือก “…”
ยังดีที่เมื่อครู่ไม่ใช่คนคนนี้เป็นคนจัดการ ไม่งั้นเขาคงกลายเป็นกองโคลนไปแล้ว
หลิงเยว่ “???”
แน่นอนว่าการพานางมาด้วยเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องที่สุดของโม่จวินเจ๋อ
“ท่านเทพธิดาผู้ยิ่งใหญ่ โปรดใช้มีดนั่นฟันข้าเถิด อย่าให้ชายผู้นั้นทำเลย ข้าขอร้อง!”
“ข้าด้วย ๆ เมื่อออกไปแล้วข้าจะรับใช้ท่านอย่างสุดความสามารถ!”
“ท่านเทพธิดา ข้ามีสมบัติล้ำค่ามากมาย ขอเพียงช่วยข้าออกไป ข้าจะมอบให้เจ้าทั้งหมด!”
…
หลิงเยว่ช่วยมนุษย์เงือกออกมาอย่างง่ายดาย ทำให้เหล่าวิญญาณที่อยู่ในต้นไม้ต่างตื่นเต้น ลืมภาพที่โม่จวินเจ๋อใช้มีดหลอมละลายต้นไม้และวิญญาณข้างกายไปทันที พวกเขาต่างตะโกนเรียกหาหลิงเยว่อย่างบ้าคลั่ง
“พวกเราเหลือเวลาไม่มาก หากเหตุการณ์ทุกอย่างจบลงแล้วเจ้าอยากมาอีก ข้าจะมาเป็นเพื่อนเจ้า” โม่จวินเจ๋อเอียงศีรษะเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงลองเชิง
หลิงเยว่ยังลังเลอยู่บ้าง แต่นางกลับพยักหน้าแต่โดยดี
“เจ้าจะต้องเสียใจที่ช่วยพวกเขา”
“เหตุใดถึงกล่าวเช่นนั้น?”
มนุษย์เงือกส่ายหน้าพลางถอนหายใจ มองไปยังต้นไม้หน้าคนเหล่านั้นด้วยสายตารังเกียจ แต่เขาไม่ได้อธิบายอะไร กลับเลือกที่จะเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “พวกเจ้ายังจะไปสุสานใต้น้ำอีกหรือไม่?”
เพียงแค่เข้าสู่สุสานใต้น้ำได้สำเร็จก็จะใกล้แดนเทพอีกก้าวหนึ่งแล้ว
“เจ้านำทางเถอะ”
โม่จวินเจ๋อก้าวไปข้างหน้า แล้วหันกลับมามองหลิงเยว่
หลิงเยว่ไม่ได้ติดใจกับต้นไม้หน้าคนที่นี่อีกต่อไป เพราะตอนนี้พวกเขายังมีเรื่องสำคัญกว่า อีกอย่างตอนนี้นางก็ยากที่จะรักษาตัวเองให้ปลอดภัยได้
เมื่อมองเงาร่างอันไร้ความปรานีของทั้งสามค่อย ๆ ห่างออกไป ต้นไม้หน้าคนที่ขอความช่วยเหลือส่งเสียงร้องโหยหวนอย่างสิ้นหวังและน่าสะพรึงกลัว พร้อมกับคำสาปแช่งนานาชนิดที่ดังเข้าหูโม่จวินเจ๋อ
โม่จวินเจ๋อแค่นเสียงเบา ๆ แล้วจัดการกับวิญญาณที่เหลืออยู่ทันที
แม้ไม่อาจแยกวิญญาณที่หลงเหลือออกได้อย่างสมบูรณ์ แต่เขามีวิธีนับพันนับหมื่นที่จะทำให้พวกเขาสูญสลายไปทั้งร่างและวิญญาณ!
เสียงสาปแช่งด่าทอค่อย ๆ เบาลง ต้นไม้หน้าคนพบว่าลำต้นรอบข้างกำลังแตกสลายอย่างเงียบงัน พร้อมกับใบหน้าที่น่าสะพรึงกลัวเหล่านั้น
ในไม่ช้าต้นไม้หน้าคนในป่าลึกก็เหลือรอดเพียงสิบกว่าต้น และที่ยังมีชีวิตอยู่ได้ล้วนเป็นต้นที่ไม่ได้ร่วมสาปแช่งหลิงเยว่
ต้นไม้หน้าคนสิบกว่าต้นมองหน้ากันด้วยความหวาดกลัว ตามมาด้วยความรู้สึกหวาดผวาและตื่นตระหนก การกระทำอันยิ่งใหญ่เช่นนี้มีเพียงชายผู้นั้นที่จะทำได้
หลิงเยว่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตอนที่เสียงสาปแช่งดังขึ้น โม่จวินเจ๋อก็ได้แอบปิดกั้นมันไว้แล้ว
เงือกหนุ่มมองโม่จวินเจ๋อด้วยสายตาราวกับจะบอกว่า ‘ข้าเข้าใจทุกอย่าง’
โม่จวินเจ๋อทำหน้าปกติ ไม่ได้มองเงือกหนุ่มแม้แต่วินาทีเดียว แต่เขาคอยสังเกตหลิงเยว่ที่อยู่ข้างกายตลอดเวลา
“เอ๊ะ!”
หลิงเยว่ชี้ไปข้างหน้าด้วยความประหลาดใจ นางได้ยินเสียงน้ำตกดังมาจากทางนั้น แต่สิ่งที่เห็นยังคงเป็นต้นไม้หน้าคนไม่มีที่สิ้นสุด
พวกเขายังไม่ได้เดินออกไปจากป่าต้นไม้มนุษย์ แต่ดูเหมือนจะใกล้แล้ว
“ใกล้ถึงแล้วละ” เงือกหนุ่มไม่คิดว่าการเดินทางครั้งนี้จะราบรื่น ตามหลักแล้วยิ่งเข้าใกล้น้ำตก ต้นไม้หน้าคนควรจะยิ่งคลุ้มคลั่ง แต่ทำไมตอนนี้พวกมันกลับหลับตาแกล้งตายกันทุกต้น ไม่มีทีท่าจะก่อเรื่องเลย ช่างว่านอนสอนง่ายเกินไปแล้ว!
หากต้นไม้หน้าคนได้ยินเสียงในใจของเงือกหนุ่ม คงจะด่าทอกันยกใหญ่แน่!
เรื่องที่เกิดขึ้นในกลางป่าได้แพร่มาถึงพวกมันแล้วว่า มีชายโหดร้ายคนหนึ่งเดินผ่านมา หากยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อไปจงทำตัวเป็นใบ้เสีย แต่ถ้าไม่ ก็ก่อเรื่องให้สะใจเถอะ ชายผู้นั้นจะส่งพวกมันไปสู่สุคติเอง
แม้จะถูกกักขังในต้นไม้ผนึกวิญญาณ สูญเสียอิสรภาพและร่างกาย แต่เศษวิญญาณเหล่านั้นยังคงเป็นความหวังเล็ก ๆ ว่าสักวันหนึ่งพวกมันอาจจะได้ออกไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเห็นเงือกหนุ่มที่ออกมาจากต้นไม้ผนึกวิญญาณอย่างสมบูรณ์ ยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นแน่วแน่ขึ้น ต้นไม้หน้าคนบางส่วนที่แกล้งตายอยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาแอบมองหญิงสาวร่างบางที่ยืนอยู่ตรงกลางอย่างพินิจพิเคราะห์
เป็นนางใช่หรือไม่?
นางสามารถดึงวิญญาณที่หลอมรวมกับลำต้นออกมาได้อย่างง่ายดายเชียวหรือ?
อีกทั้งระดับพลังของนางยังไม่ถึงขั้นมนุษย์เซียนด้วยซ้ำ จะสามารถแยกพวกมันออกมาได้จริงหรือ?
แม้ในใจจะคิดเช่นนั้น แต่ต้นไม้หน้าคนยังแสดงความกระตือรือร้นออกมาอย่างเต็มที่
เห็นได้ชัดว่าต้นไม้จำนวนมากต่างโน้มตัวแยกไปสองทิศทาง เพื่อเปิดเส้นทางให้ทั้งสาม และเพื่อป้องกันไม่ให้ใบไม้ร่วงหล่นใส่หลิงเยว่ พวกมันยังถักทอตาข่ายขึ้นมาเองเพื่อดักใบไม้ที่ร่วงหล่นด้วย
หลิงเยว่ “?”
ต้นไม้หน้าคนที่นี่เป็นมิตรขนาดนี้เลยหรือ?
โม่จวินเจ๋อและเงือกหนุ่มที่รู้เรื่องอยู่แล้ว…
……….