ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 442 อ่อนแอ น่าสงสาร และไร้ที่พึ่ง
บทที่ 442 อ่อนแอ น่าสงสาร และไร้ที่พึ่ง
…………….
บทที่ 442 อ่อนแอ น่าสงสาร และไร้ที่พึ่ง
เมื่อทัณฑ์สวรรค์สุดท้ายของผู่ตานฟาดลงมา สายฟ้าแผ่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว กวาดล้างพลังปีศาจตามเส้นทางจนหมดสิ้น หอคอยปีศาจก็ไม่พ้น ตัวหอสั่นสะเทือนอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่ปรากฏรอยแตกร้าว ส่วนร่างแยกและสัตว์เฝ้าหอคอยต่างหนีออกจากที่เกิดเหตุได้ทันเวลา ไม่ได้รับอันตรายใด ๆ
ร่างแยกที่ลอยอยู่กลางอากาศหรี่ตามองไปยังใจกลางของทัณฑ์สวรรค์อย่างเงียบ ๆ ด้วยหัวใจเต้นรัว หากถึงคนผู้นั้นไม่ตายก็คงบาดเจ็บสาหัสแล้วกระมัง?
อีกสักครู่หากชายผู้นั้นโผล่หัวออกมา พวกเขาจะลงมือพร้อมกัน เพื่อกำจัดศัตรูที่น่ารำคาญที่สุด ขอเพียงแค่กำจัดเขาได้ จุดประสงค์ในการสร้างโลกของร่างแท้ก็จะสำเร็จในไม่ช้า!
ร่างแยกหมายเลขหนึ่งจัดแขนเสื้อพลางคิดอย่างไม่เข้าใจ ทั้ง ๆ ที่พวกเขาทั้งสามร่างแยกเฝ้าจับตาดูเมล็ดพันธุ์ปีศาจไว้แล้ว ทำไมนางถึงยังหนีเข้าไปในหอคอยปีศาจได้?
ถึงขนาดส่งตัวเองไปอยู่ต่อหน้าร่างแท้?
เมล็ดพันธุ์ปีศาจ… ช่างโง่เขลาเสียจริง?
ในขณะที่ร่างแยกหมายเลขหนึ่งกำลังสงสัย ชิงหลง หงส์เพลิง และมนุษย์ที่จมอยู่ในสายฟ้าปรากฏตัวขึ้นในสภาพไหม้เกรียม… เสียงร้องของหงส์ที่ใกล้ตายดังขึ้นพร้อมกับเสียงคำรามของมังกร แสงสีขาวสายหนึ่งแหวกผ่านสายฟ้า พุ่งอย่างรวดเร็วไปยังหอคอยปีศาจที่ยังคงสั่นไหวและถูกสายฟ้าห้อมล้อม
พลังกระบี่สีขาวเพิ่มเติมด้วยสายฟ้าสีม่วงทอง ลมหายใจมังกรสีเขียว ไฟหงส์ และการโจมตีจากแก่นปราณแสง
ก่อนที่ร่างแยกและสัตว์เฝ้าหอคอยจะทันขยับ กระบี่อันทรงพลังก็สัมผัสกับหอคอยปีศาจแล้ว และแยกออกเป็นกระบี่นับไม่ถ้วนฟันลงไปพร้อมกัน
เสียง “โครม!” ดังขึ้น หอคอยปีศาจแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ในพริบตา
ร่างสีขาวบินออกมาจากหอคอย ตามด้วยร่างสีดำที่ถือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์พุ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
ร่างสีขาวหันกลับมามอง ดวงตาสองสีทั้งดำทองและทองล้วนยืนยันข้อสงสัยของโม่จวินเจ๋อ เทพปีศาจกำลังหลอมรวมเมล็ดพันธุ์ปีศาจจนสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง
อีกครึ่งกำลังหลอมรวม ดูจากสีตาแล้ว หลิงเยว่… ก็ถูกหลอมรวมไปบางส่วนแล้ว
หลิงเยว่…
โม่จวินเจ๋อกำกระบี่แน่นขึ้น ใบมีดสั่นไหวอย่างรุนแรง ราวกับส่งผ่านความโกรธของเจ้าของ
“หากข้าตาย เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ก็จะตายตามไปด้วย” เทพปีศาจยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่สายตากลับจ้องมองกระบี่ที่อยู่เหนือศีรษะเขม็ง
ทันใดนั้นดวงตาต่างสีของเทพปีศาจพลันเปลี่ยนเป็นสีทองล้วนทั้งคู่ เขาใช้สองมือรับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เสวียนเทียน แล้วกำลังจะปาดคอตัวเอง
โม่จวินเจ๋อ “???”
แต่ในไม่ช้าดวงตาสีทองกลับเปลี่ยนกลับเป็นตาสองสีอีกครั้ง เขาไม่สนใจบาดแผลที่มือและคอที่ถูกกระบี่ศักดิ์สิทธิ์กรีดจนเลือดสด ๆ พุ่งทะลักออกมา แล้วหมุนตัวกลับอย่างรวดเร็ว
โม่จวินเจ๋อแน่ใจว่า เมื่อครู่นี้คนที่ทำการฆ่าตัวตายต้องเป็นหลิงเยว่แน่นอน!
หลิงเยว่สามารถควบคุมร่างของปีศาจได้ แม้เพียงชั่วขณะ แต่มากพอที่จะทำให้ปีศาจปวดหัวแล้ว
เกิดอะไรขึ้นระหว่างพวกเขากัน?
โม่จวินเจ๋อไม่มีเวลาคิดมาก ตรงหน้าเขามีเพียงร่างสีขาวที่กำลังจะหายไป
พลังปีศาจของหุบเหวค่อย ๆ จางหาย สถานที่ที่มืดมิดตลอดกาลกลับมีแสงสว่างขึ้นมา แต่ไม่นานก็ถูกเมฆดำที่รวมตัวกันบดบังไว้
“แย่แล้ว!”
ร่างแยกหมายเลขหนึ่งตะโกนขึ้น แต่สายเกินไปเสียแล้ว!
สวรรค์ค้นพบหุบเหวปีศาจ และยังพบพวกเขาซึ่งเป็น ‘ผู้ลักลอบเข้าเมือง’ ด้วย
ผู้คนในเขตแดนปีศาจที่ได้ชมละครคลุมเครือจบลงต่างเบิกตากว้างอีกครั้ง บนท้องฟ้าเหนือหุบเหวปีศาจซึ่งครอบครองหนึ่งในสามของเขตแดนปีศาจ มีสายฟ้าแลบแปลบปลาบไม่หยุด เสียงฟ้าร้องแทบจะทำให้แก้วหูของพวกเขาแตก
ทัณฑ์สวรรค์ ไม่…
สิ่งนี้ไม่อาจเรียกว่าทัณฑ์สวรรค์ได้อีกต่อไป แต่ควรเรียกว่าฝนสายฟ้า สายฟ้าจำนวนมหาศาลที่มีขนาดใหญ่และสีสันแตกต่างกันฟาดลงมายังหุบเหวปีศาจ งานเลี้ยงสายฟ้าที่ไม่เคยมีมาก่อนได้เปิดฉากขึ้นต่อหน้าต่อตาผู้เฝ้าดูแล้ว!
ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าการที่สองคนฝ่าทัณฑ์สวรรค์กว่าสิบสายพร้อมกันนั้นน่าประทับใจแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า… ภูเขาลูกหนึ่งสูงกว่าอีกลูกหนึ่ง อาจเป็นเพราะประสบการณ์ของพวกเขายังน้อยเกินไป!
ฝนสายฟ้าเกือบจะพลิกเขตแดนปีศาจ เสียงคำรามของสัตว์อสูรดังมาจากทุกทิศทุกทาง ตามด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาจำนวนมากที่ตื่นขึ้นมาจากที่หลับใหลของพวกมัน
สัตว์อสูรที่ชาวปีศาจคิดว่าสูญพันธุ์ไปแล้วได้ปรากฏตัวขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่ง ดูเหมือนพวกมันจะได้รับคำสั่งบางอย่าง ไม่เกรงกลัวพลังของฝนสายฟ้า และพากันหลั่งไหลไปยังหุบเหวปีศาจทันที
“เทพปีศาจเรียกพวกมันหรือ?”
“นอกจากเทพปีศาจแล้ว ใครจะสั่งการพวกมันได้เล่า…”
เหล่าปีศาจพลันรู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก พวกเขารู้สึกว่าจะมีเหตุการณ์ที่พวกเขาคาดไม่ถึงเกิดขึ้น
เทพปีศาจเริ่มเรียกสัตว์อสูรทรงพลังที่ซ่อนตัวอยู่ เวลาที่จะออกคำสั่งให้พวกมันยังอีกนานไหม?
ความกังวลของเหล่าปีศาจไม่ได้เกิดขึ้น
ดอกไม้ปีศาจที่ ‘ไร้พิษภัย’ ซึ่งกระจายอยู่นอกหุบเหวปีศาจได้เปิดทางให้สัตว์อสูรระดับสูงที่จะเข้าไปอย่างว่าง่าย ดูเชื่องและน่ารักเป็นพิเศษ
เชื่องงั้นหรือ?
เหล่าปีศาจไม่คิดว่าดอกไม้ปีศาจจะเชื่องหรอก แต่ตอนนี้พวกเขามั่นใจได้ว่าเมล็ดพันธุ์ปีศาจที่ขวางอยู่ข้างนอกคงเป็นคำสั่งของเทพปีศาจ
ถ้าไม่ใช่ตัวเขาเอง ก็คงเป็นร่างแยกแน่นอน!
แต่ตอนนี้สัตว์อสูรระดับสูงพวกนี้เข้าไป มันไม่ใช่การเข้าไปหาความตายหรอกหรือ?
แน่นอนว่าไม่ใช่ เห็นได้ชัดว่าเสาฟ้าผ่าอันใหญ่โตหลีกเลี่ยงสัตว์อสูรระดับสูงที่เข้าไปในห้วงลึก แล้วพุ่งเข้าใส่เหล่าสัตว์เฝ้าหอคอย
ส่วนสัตว์อสูรระดับสูงก็กระโจนเข้าใส่สัตว์เฝ้าหอคอยที่ถูกฟ้าผ่าและ… ร่างแยกของเทพปีศาจ
“เจ้าเจ็ด เจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”
ร่างแยกหมายเลขสองที่กำลังถูกโจมตีโดย ‘สัตว์เลี้ยง’ ของตัวเองพลันงุนงง เขาคิดว่ามันมาช่วย แต่กลับมาซ้ำเติมอย่างนั้นหรือ?
“ข้าขอโทษนะนายท่าน”
เทพสวรรค์มีคำสั่ง พวกมันไม่กล้าขัดขืน
จิ้งจอกดำเก้าหางแยกเขี้ยว ร่วมมือกับสายฟ้าโจมตีร่างแยกหมายเลขสองจนบาดเจ็บสาหัส
ร่างแยกอื่น ๆ ก็ถูกโจมตีโดยสัตว์อสูรระดับสูงที่คุ้นเคยในอดีต สิ่งสำคัญคือสายฟ้าไม่โจมตีพวกมัน แต่กลับร่วมมือกันซะอย่างนั้น!
ทั้งร่างแยกและสัตว์เฝ้าหอคอยไม่ได้โง่ พวกเขาเดาสาเหตุได้อย่างรวดเร็ว เทพสวรรค์คงสั่งการพวกมันแล้ว!
ตอนนี้โม่จวินเจ๋อไม่เพียงแต่มีสายฟ้าช่วยเหลือ ยังมีสัตว์อสูรระดับสูงหลายตัวมาเป็นผู้ช่วยด้วย พวกเขาล้อมเทพปีศาจไว้ ในขณะที่ฝ่ายแรกลงมือ ฝ่ายหลังทั้งหมดก็รุมเข้าใส่พร้อมกัน แม้แต่สายฟ้ายังฟาดลงมาตามจังหวะ
เทพปีศาจที่ถูกล้อมโจมตีดูอ่อนแอน่าสงสารและไร้ที่พึ่ง
แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงภาพลวงตา ดวงตาของเทพปีศาจวาบขึ้นด้วยแสงประหลาดใจ จากนั้นเขาก็เข้าใจอย่างรวดเร็ว เขายกมือขึ้นเล็กน้อยก็ซัดสัตว์อสูรระดับสูงจนกระเด็น อีกมือหนึ่งจับใบมีดที่ฟาดลงมากลางกระหม่อมไว้โดยตรง มือของเขาถูกใบมีดอันคมกริบกรีดลงไปจนเลือดไหลนอง
แต่ในที่สุด พลังจากกระบี่ก็แตกสลายในมือของเทพปีศาจ
เขาหลบพ้นการลงทัณฑ์ด้วยสายฟ้าได้อย่างง่ายดาย
โม่จวินเจ๋อสีหน้าซีดเล็กน้อย
ดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บของเทพปีศาจจะฟื้นตัวเกือบสมบูรณ์แล้ว แม้เขาจะมีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เสวียนเทียน สายฟ้า และความช่วยเหลือจากสัตว์อสูรระดับสูง แต่พลังของเขายังคงมีช่องว่างอยู่
หากต้องการฟื้นฟูพลังให้สมบูรณ์ เขาจำเป็นต้องไปยังแดนเทพสักครั้ง
แต่ว่าหลิงเยว่… คงไม่สามารถรอได้นานขนาดนั้น
หากปล่อยให้เทพปีศาจหลอมรวมเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ได้สมบูรณ์ ต่อให้เขาฟื้นฟูพลังทั้งหมดกลับคืนมา คงไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของอีกฝ่ายได้อีกต่อไป
“สองร้อยปี นางจะทนได้อีกเพียงสองร้อยปีเท่านั้น”
เสียงที่ไร้อารมณ์และเย็นชาดังขึ้นในใจของโม่จวินเจ๋ออย่างฉับพลัน
โม่จวินเจ๋อนึกถึงเทพสวรรค์เป็นอันดับแรก เพราะหลิงเยว่เป็นที่โปรดปรานของเทพแห่งสวรรค์ในโลกบำเพ็ญเซียน ดังนั้นการที่เทพสวรรค์จะส่งเสียงมาบอกเขา เพื่อช่วยนางเป็นกรณีพิเศษจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก
…………….