ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 427 เจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป
บทที่ 427 เจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป
…………….
บทที่ 427 เจ้าจะกลายเป็นนางคนต่อไป
ไม่ถูกต้อง! นี่ไม่ใช่วิชาหยุดเวลา แต่เป็นวิชาเร่งเวลาให้ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
กาลเวลากำลังผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลิงเยว่ยังเห็นตัวเองผมขาวโพลน ใบหน้าเหี่ยวย่น นอนอยู่บนพื้นรอความตายอย่างเงียบ ๆ
นางรู้สึกเหนื่อยมาก อยากนอนหลับ อยากหลับไปอย่างสงบเช่นนี้…
ตื่นเถิด!
หลิงเยว่ไม่ได้ตื่นขึ้นมา แต่กลับรู้สึกว่าเปลือกตาหนักอึ้ง ขณะกำลังจะหลับตาลง ลูกแก้ววิญญาณก็พุ่งเข้าสู่ร่างของนางอย่างรวดเร็ว พลังของมันรุนแรงและเจ็บปวดยิ่งกว่าสายฟ้าเสียอีก…
เกือบจะสูญเสียสติ หลิงเยว่ที่ปลดวิชาพรางตัวก็สะดุ้งตื่นกลับมามีสติทันที
เมื่อได้สติ นางถึงกับคิดว่าตายไปเสียยังดีกว่า อวัยวะภายในไม่เพียงแต่เลือดออก ยังมีสายฟ้าของผู้นำแม่ทัพปีศาจที่กำลังแผดเสียงดังสนั่น แถมยังมีสายฟ้าสีม่วงอีกสายหนึ่งกำลัง ‘ต่อสู้’ กับสายฟ้าสีดำ?
สิ่งนี้มาจากที่ไหนกัน?
อ้อ! มาจากโม่จวินเจ๋อนั่นเอง
ลูกแก้ววิญญาณยังใช้พลังของโม่จวินเจ๋อได้ด้วยหรือ?
ช่างเหลือเชื่อเหลือเกิน!
สายฝนและสายฟ้ากระหน่ำลงมาตลอดครึ่งเดือนเต็ม ในระหว่างนั้น นอกจากผู้นำแม่ทัพจะออกโรงเองแล้ว แม้แต่เหล่าแม่ทัพปีศาจที่เหลือก็ผลัดกันออกมาโจมตีด้วย
“ครึ่งเดือนแล้ว แม้แต่พวกที่เป็นอมตะก็คงทนการย่ำยีของพวกเราไม่ไหว”
“หรือว่าคราวนี้ผู้บุกรุกจะเป็นร่างแยกจากโลกผู้บำเพ็ญเซียน?”
“เป็นไปไม่ได้ โลกผู้บำเพ็ญเซียนถูกพวกปีศาจยึดครองไปนานแล้ว พวกที่รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิดถูกไล่ล่าทุกวัน คงไม่มีปัญญาจะส่งร่างแยกลงมาหรอก”
“เจ้าพูดถูก”
แม่ทัพปีศาจทั้งสิบเอ็ดหันไปมองผู้นำแม่ทัพปีศาจผู้เงียบขรึม
“ดำเนินการต่อไป”
หลิงเยว่ถึงกับสบถออกมาทันที “ไอ้หมอนี่ช่างรับมือยากเหลือเกิน!”
ช่างเถอะ นางไม่อยากเสียเวลาอีกต่อไป
อีกครึ่งเดือนผนึกจะถูกเปิดใช้งานทั้งหมด ถึงตอนนั้นตำแหน่งจะเปลี่ยนไป และแม่ทัพปีศาจจะอยู่ในสภาวะที่ประสาทสัมผัสทั้งห้าถูกปิดกั้น…
คำพูดที่เหลือไม่จำเป็นต้องให้ระบบบอก หลิงเยว่ก็รู้ว่าควรทำอย่างไร
ตอนนั้นเป็นโอกาสที่ดีในการลงมือมากกว่า!
และเป็นโอกาสเดียวที่นางจะมีชีวิตรอดออกไปได้!
ดังนั้นหลิงเยว่จะต้องอดทนต่อความทรมานอีกครึ่งเดือน หากไม่ใช่เพราะลูกแก้ววิญญาณปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน นางคงไม่กล้าจินตนาการว่าตนเองจะผ่านครึ่งเดือนแรกและครึ่งเดือนหลังไปได้อย่างไร
หลิงเยว่ถูกทรมานจนรู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้าเหลือเกิน ในขณะที่พวกแม่ทัพปีศาจที่ใช้วิชาทรมานนางกลับสนุกสนาน พวกเขาถึงขั้นร่วมมือกันหลายคน ยกพลังจากแก่นปราณต่าง ๆ พากันออกโรงมาพร้อมกัน
ภายในเขตต้องห้ามเต็มไปด้วยแสงหลากสี
แต่พลังชีวิตของหลิงเยว่นั้นแข็งแกร่งยิ่งนัก นางทนได้โดยไม่แสดงอาการผิดปกติแม้แต่น้อย
ผ่านไปอีกเกือบครึ่งเดือน ผู้นำแม่ทัพปีศาจห้ามลูกน้องไม่ให้เล่นสนุกอีก “อีกสามวันจะเปลี่ยนตำแหน่งแล้ว ข้าคาดว่ามนุษย์คนนั้นน่าจะปรากฏตัวขึ้น”
“เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าตอนนั้นพวกเราจะ…”
ผู้นำแม่ทัพแค่นเสียงอย่างเย็นชาอีกครั้ง “ตลอดหลายปีมานี้ มีผู้บุกรุกเข้ามาในบ่อสวรรค์นับหมื่น ล้วนเป็นยอดฝีมือทั้งนั้น พวกเขาคงใช้วิชาลับส่งข่าวสารกันก่อนสิ้นใจ แล้วบุกเข้ามาทีละคน ๆ จนกระทั่งนางผู้นั้นปรากฏตัว ในมือนางมีข้อมูลครบถ้วนยิ่งนัก ถึงขั้นคำนวณตำแหน่งที่ผนึกจะย้ายไปได้ด้วย
สนมปีศาจที่หกเอ๋ย… เจ้าซ่อนความลับไว้ลึกล้ำเหลือเกิน หากข้าไม่ได้ระแวดระวังไว้แต่แรก…”
ผู้นำแม่ทัพหลุบตาลงมองทารกปีศาจในกายตน มันกำมือแน่นราวกับซ่อนบางสิ่งไว้
“แล้วพวกเราจะทำอย่างไรดีขอรับ?”
“การย้ายตำแหน่งในครั้งนี้ พวกเราไม่อาจ…”
“วางใจเถิด ข้ามีวิธีของข้าเอง”
ผู้นำแม่ทัพมั่นใจว่าสิ่งที่ทารกปีศาจกำไว้ในมือนั้น จะต้องดึงดูดผู้ที่ซ่อนตัวอยู่ได้แน่นอน
ผู้นำแม่ทัพปีศาจที่สีหน้าเย็นชามาตลอด มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม
ไม่มีมนุษย์คนใดสามารถทำลายผนึก และปลดปล่อยบ่อสวรรค์ได้หรอก!
อีกทั้งผนึกร้อยแปดชั้นจะง่ายดายเช่นนั้นได้อย่างไร?
จะมีวิธีใดเล่า?
ในยามนี้หลิงเยว่ที่ห่างจากผนึกชั้นแรกอีกสามสิบชั้น จู่ ๆ ก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย และความรู้สึกไม่สบายใจนี้เหมือนกับตอนที่ได้ยินชิงหลงบอกว่ามีผู้บุกรุกเกือบจะทำสำเร็จ
หรือว่าพวกเขาจะปล่อยผู้บุกรุกคนนั้นออกมาข่มขู่นาง?
เป็นไปไม่ได้กระมัง… แม่ทัพปีศาจจะยอมให้ผู้บุกรุกมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้!
หากเป็นเช่นนั้น… จะเป็นผู้ใดกัน?
หลิงเยว่พยายามบังคับให้ตนเองสงบลง ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด นางจะไม่ยอมอ่อนข้อ และต้องทำลายผนึกคำสาปนี้ให้ได้!
หนึ่งเดือนผ่านไป
ความทรมานนานัปการของหลิงเยว่ก็สลายไปด้วย
[ถึงเวลาเริ่มต้นแล้ว เจ้าต้องรักษาสติอยู่ตลอดเวลา]
ระบบเอ่ยเตือน น้ำเสียงจริงจังยิ่งนัก แม้แต่ลูกแก้ววิญญาณก็หยุดเปล่งแสง
ผู้นำแม่ทัพปีศาจจ้องมองท้องฟ้าที่ถูกพลังปีศาจบดบัง จากนั้นก็หมุนตัวเดินไปยังจุดศูนย์กลางของค่ายกล แล้วนั่งขัดสมาธิ ส่วนแม่ทัพปีศาจทั้งสิบเอ็ดก็เคลื่อนไหวอย่างสงบไปยังจุดสำคัญต่าง ๆ ของค่ายกล
ในขณะที่ผนึกเริ่มเปล่งแสง แม่ทัพปีศาจหัวหน้าเผ่าก็ยิ้มเล็กน้อย วิญญาณของสตรีผู้หนึ่งซึ่งมีสีหน้าเลื่อนลอยและซีดขาวปรากฏขึ้น
หลิงเยว่แทบควบคุมลมหายใจไม่อยู่เมื่อเห็นสนมปีศาจที่หก
ผู้บุกรุกคือสนมปีศาจที่หกหรือ?!
แม่ของศิษย์พี่สี่ของนางน่ะนะ?
หากศิษย์พี่รู้ว่านางเพิกเฉยต่อชีวิตของแม่เขา…
หลิงเยว่ก็ไม่อาจเพิกเฉยต่อชีวิตผู้อื่นได้เช่นกัน
[อย่าได้หลงกล]
“ข้า… เข้าใจแล้ว”
หลิงเยว่ยังคงมีสติสัมปชัญญะดีอยู่ นางคอยดูว่าจะมีโอกาสซ่อนสนมปีศาจที่หกไว้ได้หรือไม่
หากไม่สามารถทำได้ ก็…
“เจ้ารู้จักนางหรือไม่? นางคือสนมคนโปรดอันดับหกของราชาปีศาจ เพื่อทำลายคำสาปของบ่อสวรรค์ นางไม่ลังเลที่จะสังหารสามีของตน บีบคอบุตรจนสิ้นใจ อีกทั้งผู้คนที่ตายภายใต้น้ำมือของนางนั้นยังมีอีกนับไม่ถ้วน…”
ขณะที่ผู้นำแม่ทัพปีศาจกำลังกล่าว เขาก็ล้วงร่างที่ไร้ซึ่งใบหน้าออกมาจากแหวนปีศาจ สภาพศพนั้นน่าสยดสยองเสียจนหลิงเยว่ไม่กล้าแม้แต่จะมอง
โหดเหี้ยมเหลือเกิน!
“เจ้าจะกลายเป็นคนต่อไปหรือไม่?”
เหล่าแม่ทัพปีศาจต่างหัวเราะขึ้นมา “หรืออาจจะยิ่งเลวร้ายกว่านั้น”
วิญญาณของสนมปีศาจที่หกเมื่อได้เห็นร่างกายของตนเอง กลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ราวกับเป็นเพียงร่างไร้วิญญาณ
วางแผนมานานหลายปี ในขณะที่กำลังจะประสบความสำเร็จ… กลับพ่ายแพ้
ไม่มีผู้ใดครอบครองข้อมูลมากไปกว่านางอีกแล้ว แม้แต่ข้อมูลที่ซ่อนอยู่ในหยกของผู่ตานก็ถูกทำลาย นี่อาจเป็นความประสงค์ของสวรรค์ สวรรค์ต้องการให้โลกวิญญาณพังพินาศ!
ความประสงค์ของสวรรค์…
สนมปีศาจที่หกหัวเราะอย่างไร้เสียง
ในขณะที่ผนึกทั้งร้อยแปดชั้นเริ่มขึ้น ฟ้าดินหมุนคว้าง วิญญาณของสนมปีศาจที่หกวูบไหวไปมา แสงสีขาวจากบ่อสวรรค์จมดิ่งลงสู่ความมืดมิดชั่วขณะ
หลิงเยว่พยายามทำให้ตัวเองมีสติ แต่ก็ยังสู้กับการหมุนคว้างอันบ้าคลั่งไม่ได้
ถึงเวลาแล้ว!
หลิงเยว่ตัดสินใจอย่างฉับพลันเปลี่ยนเป็นมนุษย์ เร่งความเร็วถึงขีดสุด มือหนึ่งถือแผ่นยันต์ระดับศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งประกายสีทอง อีกมือหนึ่งไม่หยุดเติมพลังวิญญาณเข้าสู่แผ่นยันต์
นางมาถึงจุดศูนย์กลางของค่ายกลในชั่วพริบตา แผ่นยันต์ทำลายค่ายกลต้องห้ามระดับศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นลำแสงสีทองพุ่งเข้าใกล้จุดศูนย์กลาง แต่กลับถูกลูกกลมสายฟ้าสีดำสกัดไว้
ลำแสงใสพุ่งเข้าชนสายฟ้า ปล่อยให้แผ่นยันต์ปลิวออกมา หลิงเยว่ใช้ร่างกายของนางขวางผู้นำแม่ทัพปีศาจไว้ก่อนที่เขาจะลงมือเป็นครั้งที่สอง!
…………….