ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 424 ข้าไม่เห็นด้วย!
บทที่ 424 ข้าไม่เห็นด้วย!
…………….
บทที่ 424 ข้าไม่เห็นด้วย!
หลิงเยว่ไม่ได้อนุญาตให้ชิงหลงไปยังหุบเหวปีศาจ แต่ให้พวกเขาคอยดูแลลูกชายทั้งสองของนาง เพราะหากนางล้มเหลว ภารกิจนี้จะตกเป็นของโม่จวินเจ๋อแทน
“ข้าไม่เห็นด้วย!”
ชิงหลงเอ่ย ภารกิจหลักของเขาคือปกป้องผู้สืบทอดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ แล้วตอนนี้ผู้สืบทอดจะไปหาที่ตายเอง นางจะยอมได้อย่างไร?!
“เจ้ามีภารกิจของเจ้า ข้าก็มีภารกิจของข้า”
“ภารกิจอันตรายเช่นนี้ไม่ใช่…”
“เป้าหมายในการปกป้องข้าคืออะไร?”
คำถามย้อนกลับของหลิงเยว่ ทำให้ชิงหลงต้องครุ่นคิด
ใช่แล้ว เป้าหมายในการปกป้องหลิงเยว่คืออะไร?
ก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้โลกผู้บำเพ็ญเซียนต้องเผชิญกับความพินาศอีกครั้ง…
แม้จะเผชิญหน้ากับสงครามระหว่างเทพและปีศาจอีกครั้ง ผู้สืบทอดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์แห่งชีวิตที่มีพลังรักษาแกร่งกล้า สามารถลดความสูญเสียในโลกวิญญาณให้เหลือน้อยที่สุด…
“อีกอย่าง ท่านเคยคิดบ้างไหมว่าเหตุใดข้าจึงเกิดมามีกายาต้านหายนะ?”
“เพราะเจ้า…”
เป็นผู้สืบทอดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นั่นเอง
ชิงหลงตอบในใจ
“ในขณะเดียวกัน ข้าก็เป็นลูกรักของเทพแห่งโชคลาภด้วย”
หลิงเยว่กล่าวอย่างมั่นใจ การที่นางมีคุณสมบัติเช่นนี้ หากไม่ใช่บุตรแห่งโชคลาภก็คงอธิบายไม่ได้
ชิงหลงและหัวหน้าตะขาบมรกตได้ยินดังนั้นต่างนิ่งเงียบ บุตรแห่งโชคลาภแต่ละคนล้วนมาพร้อมกับภารกิจ… เมื่อนึกถึงเรื่องราวต่าง ๆ ของหลิงเยว่ ก็สมควรแล้ว…
ทุกคนที่อยู่เคียงข้างนางล้วนได้รับผลประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
“ข้าและเขาจะไปรอรับเจ้า”
“ข้าก็จะไปด้วย มีชิงหลงอยู่ดูแลไข่สองฟองก็เพียงพอแล้ว”
ผู้นำเผ่าทิงมี่ยืนข้างกายหัวหน้าตะขาบ
นับตั้งแต่ข่าวเกี่ยวกับถ้ำปีศาจและหอคอยกระดูกถูกเปิดเผย ผู้นำเผ่าทิงมี่ก็ผิดหวังในเทพปีศาจแล้ว เขารู้ดีว่าการให้สิ่งมีชีวิตจากสองโลกเป็นเครื่องสังเวย ท่านผู้นั้นสามารถทำได้อย่างแน่นอน
มังกรปีศาจก็เป็นเพียงหมากตัวหนึ่งเท่านั้น
เผ่าทิงมี่ไม่ควรแม้แต่จะเป็นหมากให้พวกนั้น เขาต้องการหาโอกาสทำให้สมาชิกเผ่าของตนมีชีวิตรอด!
หากการทำเช่นนี้จะทำให้พวกเขาสบายใจ… หลิงเยว่ก็ตกลง
หลังจากนั้นนางมอบแหวนเก็บของให้แก่ชิงหลง ภายในแหวนมีจดหมายและของขวัญที่นางเขียนถึงญาติมิตรอยู่ด้วย
ชิงหลงมองทั้งสามคน พร้อมกับฝูงสัตว์วิญญาณและสัตว์อสูรจากไปด้วยสีหน้าซับซ้อน
นางถอนหายใจเบา ๆ แล้วเดินเข้าไปในห้องบำเพ็ญ
นอกจากชิงหลง ผู้นำเผ่าทิงมี่ และหัวหน้าตะขาบแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องที่หลิงเยว่ออกไปแล้ว
ส่วนการที่นางเดินเข้าไปในห้องบำเพ็ญนั้น ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดว่าหลิงเยว่ยังคงเก็บตัวบำเพ็ญอยู่
“หากอาจารย์หลิงไม่ออกมา ฮวนฮวนจะแก่ก่อนแล้วนะ!” สาวน้อยยืนถอนหายใจ พึมพำอยู่ด้านนอก ก่อนจะเดินจากไป
ดินแดนของกระทิงอยู่ห่างไกลจากหุบเหวปีศาจมาก แม้ทั้งสามคนจะฉีกมิติไป ก็ยังต้องใช้เวลาเจ็ดวันกว่าจะมาถึงบริเวณใกล้เคียง
หุบเหวปีศาจปรากฏเป็นสีดำสนิท เห็นเพียงหอคอยดำตั้งตระหง่านอยู่ราง ๆ ต่างจากพลังปีศาจในเขตแดนปีศาจ เพราะพลังปีศาจในหุบเหวนี้สามารถบดบังประสาทสัมผัสทั้งห้าของทุกคน แม้แต่ผู้ที่มีจิตสัมผัสแกร่งกล้าก็ไม่อาจมองเห็นได้ไกลเกินร้อยเมตร
หลิงเยว่สั่งการให้ ‘กองทัพสัตว์นักรบ’ ของนางเข้าไปก่อน จากนั้นก็หันไปโบกมือให้หัวหน้าตะขาบและผู้นำเผ่าทิงมี่ “พวกเจ้ารออยู่ตรงนี้เถิด ข้าจะเข้าไปแล้ว”
“รอก่อน!”
หลิงเยว่หันกลับมาด้วยความสงสัย
หัวหน้าตะขาบมรกตอ้าปากพูดด้วยท่าทางจริงจัง “ระวังตัวด้วย”
ร่างบางถูกพลังปีศาจกลืนกิน ราวกับหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับหุบเหวนี้ไปแล้ว
ทันทีที่เข้าสู่หุบเหวปีศาจ หลิงเยว่ก็ใช้วิชาพรางตัวขั้นสูงกับตัวเอง เปลี่ยนจากคนให้กลายเป็นนกสีดำตัวเล็ก บินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ
ไม่มีใครบอกตำแหน่งที่แน่ชัดของบ่อสวรรค์ได้ แม้แต่ระบบก็ตาม เพราะตำแหน่งของบ่อสวรรค์เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นหลิงเยว่จึงพาเหล่าสหายตัวน้อยมาด้วย ให้พวกมันกระจายกันออกค้นหาตำแหน่งที่แน่ชัด
ผู้บุกรุกผู้นั้นนับว่าโชคดีที่อย่างน้อยเขาก็ค้นพบมัน แต่โชคร้ายที่เขา… ยังคงล้มเหลว
ยิ่งเข้าไปลึกเท่าไร หลิงเยว่ยิ่งรู้สึกถึงอุปสรรคมากขึ้นเท่านั้น
ไม่เพียงแต่การบินที่ยากลำบาก ดวงตาทั้งสองข้างก็จมดิ่งลงสู่ความมืดมิด ก่อนหน้านี้ยังพอมองเห็นสภาพด้านหน้าได้ประมาณร้อยเมตร แต่ตอนนี้เหมือนตาบอดทั้งที่ลืมตา ทั้งไม่ได้ยิน ไม่เห็น และ… บินไม่ได้
นกน้อยสีดำจึงตกลงบนพื้น โอ้! ไม่ใช่พื้นสิ แต่เป็นหนองน้ำเหนียวหนืด…
หลิงเยว่รู้สึกว่าตัวเองกำลังจมลงไปอย่างรวดเร็ว
ความมืดมิดไร้ที่สิ้นสุด…
ทันใดนั้น ในความมืดก็ปรากฏดวงตาสีแดงเข้มคู่หนึ่ง
เจ้าของดวงตากะพริบตา หลิงเยว่ถูกหนองน้ำปั่นป่วนพัดกระเด็นไปไกล จนนางมึนงงไปหมด
ไม่ได้! หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อย่าว่าแต่จะหาตำแหน่งบ่อสวรรค์เลย ชีวิตของนางก็คงจบเห่เช่นกัน!
หลิงเยว่ปลดวิชาพรางตัว แล้วเปลี่ยนเป็นปลา ว่ายขึ้นไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่นางแหวกออกจากหนองน้ำ สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาก็ตามนางออกมาด้วย!
เมื่อหันกลับไปมอง สิ่งที่ต้อนรับหลิงเยว่คือปากใหญ่ราวกับเหวลึก พร้อมด้วยฟันแหลมคมสองแถวที่เปล่งประกายในความมืด
หลิงเยว่ตวัดหางปลาย้อนกลับ สิ่งมีชีวิตขนาดมหึมาถูกตบกระเด็น จากนั้นนางก็แปลงร่างให้มีปีกคู่หนึ่ง แล้วบินหายไปในความมืด
ไม่แปลกเลยที่ระบบส่งภารกิจมาให้นางยกระดับวิชาให้ถึงขั้นสูงสุดก่อนเข้าสู่หุบเหวปีศาจ ที่แท้ก็เพื่อให้สามารถพรางตัวได้ตลอดเวลา สะดวกต่อการ ‘หนีเอาชีวิตรอด’
ด้วยวิชาขั้นสูงสุดของหลิงเยว่ การสังหารปีศาจทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในหุบเหวปีศาจไม่ใช่เรื่องยาก แต่นั่นคงจะเสียเวลามากเกินไป
ในขณะที่หลิงเยว่กำลังวนเวียนอยู่นั้น หนึ่งในสหายที่เข้ามาก่อนนางก็ส่งสัญญาณมาให้
พบตำแหน่งที่คาดว่าจะเป็นบ่อสวรรค์แล้ว!
ด้วยการนำทางของสหาย หลิงเยว่จึงพบทางไปอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่ต้อนรับนางกลับเป็นดอกไม้กินคนสีดำขนาดมหึมา
หลิงเยว่ที่ถูกกลืนเข้าไปในปากดอกไม้ “???”
เจ้าพวกตัวน้อยไม่มีทางหลอกนางแน่!
เสียงลมหายใจอ่อนแรงดังมาจากข้าง ๆ หลิงเยว่หันไปมองสิงโตตัวน้อยที่ถูกน้ำเมือกของดอกไม้ขับออกมาห่อหุ้มร่างไว้ทั้งตัว ใบหน้าดูสงบนิ่ง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ราวกับกำลังฝันดี
ที่แท้น้ำเมือกนี้มีฤทธิ์อ่านความทรงจำได้ ดอกไม้กินคนอ่านความทรงจำของสิงโตน้อย แล้วส่งข้อมูลเท็จมาให้หลิงเยว่
หลิงเยว่ “…”
หลังจากนั้นก็มีเจ้าตัวน้อยอีกตัวที่ส่งข่าวมา นางจะไปช่วยได้หรือไม่?
หลิงเยว่ตัดสินใจฉีกดอกไม้นั่นด้วยมือเปล่า พร้อมอุ้มสิงโตน้อยเดินออกมา แน่นอนว่านางต้องไป ในเมื่อเป็นสหายก็ต้องช่วยเหลือกัน
แม้ว่าการทำเช่นนี้จะทำให้ล่าช้าก็ตาม…
หลิงเยว่ใช้วิชารักษาสิงโตน้อย แล้วปล่อยมันไป
[เจ้าช่วยใส่ใจสักหน่อยได้ไหม? ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป อย่าว่าแต่ร้อยปีเลย ให้เจ้าพันปีหมื่นปีก็หาตำแหน่งบ่อสวรรค์ไม่เจอหรอก]
ระบบบ่นอย่างเสียดาย
หลิงเยว่รู้ดีว่าทำแบบนี้มันช้าเกินไป แต่นางก็คิดหาวิธีที่ดีกว่านี้ไม่ออกจริง ๆ
“ใช่แล้ว!”
นางสามารถถามคนคนนั้นได้นี่!
แต่หากไม่ยอมให้ถาม นางก็สามารถใช้วิธีการพิเศษได้!
…………….