ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 423 นางไม่รับใช้แล้ว!
บทที่ 423 นางไม่รับใช้แล้ว!
…………….
บทที่ 423 นางไม่รับใช้แล้ว!
ระยะเวลาจนถึงภารกิจหลักที่ 22 เหลือไม่ถึงสี่สิบปี หลิงเยว่รู้สึกว่าตนต้องเร่งรีบหน่อยแล้ว
คัมภีร์หมื่นชีวางอกเงยนั้นยากที่จะเรียนรู้ นางไม่รู้ว่าตนจะสามารถฝึกฝนวิชาปรสิต วิชาเร่งการเจริญเติบโต และอื่น ๆ ทั้งหมดให้ถึงขั้นสูงได้ภายในสี่สิบปีได้หรือไม่?
ในห้องบำเพ็ญที่เงียบสงบ ปรากฏลูกสัตว์อสูรตัวหนึ่ง บนหัวของมันมีดอกไม้สีดำงอกขึ้นมา ดอกไม้สีดำค่อย ๆ เปลี่ยนสีจากดำเป็นขาว แล้วกลายเป็นแดง… ในระหว่างที่ดอกไม้เปลี่ยนสี ร่างของลูกเสือน้อยก็เติบโตขึ้น ดวงตาที่เคยมึนงงค่อย ๆ มีประกายขึ้นมา
มันยกขาหน้าของตนขึ้น อุ้งเท้าสีดำที่เต็มไปด้วยขนนุ่มกลายเป็นกรงเล็บนก ขาหน้าที่เคยอวบอ้วนเริ่มเล็กลง
เสือดำตัวน้อยที่มีดอกไม้บนหัว กลายเป็นเหยี่ยวดำตัวน้อยในพริบตา!
หลิงเยว่มองผลงานของตนด้วยรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจ จนถึงตอนนี้นางได้พบว่าวิชาคัมภีร์หมื่นชีวางอกเงยสามารถหลอมรวมกันได้ ไม่จำเป็นต้องฝึกแยกอีกต่อไป!
การค้นพบนี้ช่วยลดเวลาในการบำเพ็ญลงได้ หากเป็นเช่นนี้ เพียงยี่สิบปีนางจะสามารถฝึกฝนวิชาทั้งหมดให้ถึงขั้นสูงได้แล้ว!
บนไข่สองฟองที่วางเรียงกันในห้อง เต็มไปด้วยลูกสัตว์น้อย ๆ ที่กลายร่างมาจากสมุนไพรวิญญาณและสมุนไพรปีศาจ ส่วนบนพื้นเต็มไปด้วยสมุนไพรที่กลายร่างมาจากสัตว์
ภายในห้องมีทั้งสัตว์ ดอกไม้ สมุนไพร หญ้าและต้นไม้ครบครัน อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของพืชและดอกไม้ ลูกสัตว์ตัวน้อย ๆ วิ่งเล่นบนทุ่งหญ้า นกร้องอยู่บนต้นไม้
หลิงเยว่ได้ปรับเปลี่ยนห้องบำเพ็ญให้กลายเป็นโลกใบใหม่ แม้แต่ผนังที่ว่างเปล่าก็ถูกพืชพรรณปกคลุมไปทั่ว
แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่วุ่นวายเช่นนี้ ไข่ทั้งสองฟองก็ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ราวกับเป็นไข่ที่ตายไปแล้ว…
หลิงเยว่จับนกสีสันสดใสที่บินวนเหนือศีรษะของนาง แล้วเข้าไปหาไข่ทั้งสองฟอง
วิชาเร่งการเจริญเติบโตของนางอยู่ในขั้นสูงแล้ว ไม่รู้ว่าจะใช้กับผู่ตานและโม่จวินเจ๋อได้หรือไม่
[เจ้าลองดูก็ได้]
“หมายความว่าลองแล้วจะตายใช่ไหม?”
[ไม่ใช่]
ระบบตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง มือของหลิงเยว่เริ่มคันยิบ ๆ
[พวกเขาน่าจะเป็นไข่ระดับศักดิ์สิทธิ์ วิชาเร่งขั้นสูงใช้ได้แค่กับไข่ระดับสุดยอดลงมาเท่านั้น]
[วิชาเร่งการเจริญเติบโตขั้นสูงไม่สามารถเร่งไข่ศักดิ์สิทธิ์ให้ฟักในเวลาอันสั้น แต่สามารถย่นระยะเวลาการฟักของพวกเขาได้]
“จริงหรือ?”
“ใช้หนึ่งครั้งสามารถย่นระยะเวลาได้นานเท่าไร?”
[ประมาณหนึ่งเดือน]
“เจ้าแน่ใจหรือว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขา?” แม้จะรู้สึกตื่นเต้น แต่หลิงเยว่ยังคงระมัดระวัง
นางไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอีกแล้ว
[ไม่มีผลกระทบใด ๆ]
[มีแต่ข้อดีเท่านั้น]
หนึ่งครั้งก็ประมาณหนึ่งเดือน หากนางใช้ทุกวัน จะสามารถเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของ ‘ลูกชาย’ ทั้งสองก่อนจากไปได้หรือไม่?
หลิงเยว่ถูมือด้วยความตื่นเต้น สีหน้าของนางค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นจริงจัง ลงมือประทับผนึกลงบนผิวไข่ทั้งสองฟอง แล้วผนึกก็ค่อย ๆ ซึมเข้าไปในไข่
“เป็นอย่างไรบ้าง ย่นระยะเวลาได้กี่วัน?” หลิงเยว่ถามระบบด้วยความคาดหวัง
[อืม… เจ้าไปฝึกฝนต่อเถอะ]
“อะไรกัน?”
ระบบหมายความว่าอย่างไร?
หรือว่าวิชาเร่งการเจริญเติบโตขั้นสูงที่นางอุตส่าห์ใช้นั้นไร้ผลต่อไข่ทั้งสองฟอง?
ไม่นานไข่ทั้งสองก็ตอบสนอง พวกมันคายผนึกนั้นออกมาต่อหน้าต่อตาหลิงเยว่!
หลิงเยว่ที่โดนผนึกของตัวเองประทับลงบนแก้มทั้งสองข้าง “…”
ยังสะท้อนกลับได้อีก?!
หลิงเยว่ลูบหน้าตัวเองอย่างงุนงง ในเมื่อลูกทั้งสองไม่รู้จักบุญคุณเช่นนี้ นางก็ไม่อยากดูแลอีกต่อไป!
อยากออกจากเปลือกเมื่อไหร่ก็แล้วแต่เลย!
ภายในห้องเต็มไปด้วยเสียงนกร้องและกลิ่นหอมของดอกไม้ ส่วนคนที่อยู่ด้านนอกต่างรู้สึกกระวนกระวายใจ
“คราวนี้เจ้ามนุษย์เปราะบางเก็บตัวบำเพ็ญนานเกินไปหรือไม่?”
“เมื่อเทียบกับครั้งก่อนแล้ว ครั้งนี้นานกว่าจริง ๆ”
ชิงหลงขมวดคิ้วเล็กน้อย สงสัยว่าหลิงเยว่เกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรหรือเปล่า?
“จะเรียกนางดีหรือไม่?”
หัวหน้าตะขาบมรกตสูดลมหายใจ กำลังจะใช้ ‘วิชาก้องภูผา’ แต่ถูกชิงหลงปิดปากไว้ทันเวลา
“หากเจ้าตะโกนเสียงดังเช่นนี้ แล้วทำให้หลิงเยว่ตกใจจนธาตุไฟเข้าแทรกจะทำอย่างไร?”
หัวหน้าตะขาบมรกต “…”
ผู้บำเพ็ญขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นปลายโดยสมบูรณ์ ยังจะถูกเขาผู้มีระดับพลังขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นต้นทำให้ตกใจได้อีกหรือ?
ล้อเล่นหรือไง?
เวลาผ่านไปสิบเจ็ดปีแล้ว นับจากหัวหน้าตะขาบมรกตได้ฝ่าทัณฑ์สวรรค์สำเร็จ ดินแดนกระทิงก็ได้พัฒนาจากเพียงอาณาเขตกลายขึ้นเป็นเมืองกระทิงแล้ว
ในช่วงเวลานี้ จำนวนหอกระดูกและถ้ำปีศาจที่ถูกทำลายมีมากเกือบสี่ร้อยแห่ง อีกทั้งยังจับกุมผู้จงรักภักดีต่อมังกรปีศาจได้อีกไม่น้อย
ยังมีเหตุการณ์ผิดปกติที่หุบเหวปีศาจ และมังกรดำที่คอยปกป้องภายนอกหอคอยปีศาจก็หายตัวไป…
“ข้าคาดว่า เรื่องที่เกิดขึ้นภายในหุบเหวปีศาจต้องเกี่ยวข้องกับบ่อน้ำสวรรค์ที่ถูกผนึกแน่!”
นี่คือเหตุผลที่หัวหน้าตะขาบมรกตและชิงหลงรอคอยให้หลิงเยว่ออกจากการบำเพ็ญสักที อีกเหตุผลหนึ่งคือ พวกเขากังวลว่านางจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น
สายตาของชิงหลงมองไปทางหุบเหวปีศาจ นางรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ลึกซึ้งกว่าหัวหน้าตะขาบมรกต เพราะในช่วงเวลาที่เกิดความผิดปกตินั้น นางได้รับรู้ถึงทัณฑ์สวรรค์ของขอบเขตพ้นโลกีย์เพียงชั่วครู่!
แต่แล้ว… มันก็หายไปอย่างสิ้นเชิง
“คงมีผู้บุกรุกเข้าไปในบ่อน้ำสวรรค์ แต่น่าเสียดายที่ไม่สำเร็จ”
ชิงหลงรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่ผู้บุกรุกคนนั้นคงจะรู้สึกเสียดายยิ่งกว่า ทั้งที่ผนึกได้คลายตัวลงบ้างแล้ว เหลืออีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น…
นางอยากไปสานต่อเจตนารมณ์ของคนผู้นั้น แต่นางไม่อาจวางใจเรื่องของหลิงเยว่ได้
ชิงหลงลำบากใจ ไม่รู้จะถอยหรือจะรุกดี
“เจ้าไปเถิด ข้ากับไอ้คนหิวแสงจะอยู่เฝ้าที่นี่เอง”
“เจ้าสิหิวแสง!” ผู้นำเผ่าทิงมี่โต้กลับ
“จะไปไหนหรือ?”
หลิงเยว่เดินออกมาจากห้องบำเพ็ญ พร้อมกับเหล่าสัตว์วิญญาณมากมาย
สามคนที่ถูกลูกสัตว์ตัวน้อย ๆ พุ่งใส่ร่าง “???”
นางไม่ได้บำเพ็ญ แต่เข้าไปเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอยู่หรือ?
“พวกมันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงหรอก แต่เป็นเหล่าสัตว์ที่แข็งแกร่ง”
หลิงเยว่ไม่พอใจกับคำว่าสัตว์เลี้ยงเท่าไหร่นัก พวกลูกสัตว์ตัวน้อยก็เช่นกัน พวกเขากล้าดูถูกพวกมันได้อย่างไร!
นกสีฟ้าตัวหนึ่งเลยใช้ปีกพัดหัวหน้าตะขาบมรกตลอยออกไป
หัวหน้าตะขาบมรกตที่ลอยอยู่กลางอากาศ “?!”
“อย่าดูถูกพวกมันเพียงเพราะตัวเล็ก เพราะแต่ละตัวล้วนมีระดับพลังอยู่ระหว่างขอบเขตแสวงหาและขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ทั้งนั้น” หลิงเยว่เชิดคางอย่างภาคภูมิใจ การที่นางคงรูปร่างพวกมันไว้ เพียงเพื่อไม่ให้พวกมันกินมากเกินไป และแน่นอนว่าตัวเล็ก ๆ แบบนี้ ดูน่ารักกว่า
นางได้ทำภารกิจหลักที่ 22 สำเร็จแล้ว การฝึกฝนเคล็ดวิชาทั้งหมดถึงระดับสูงสุดโดยสมบูรณ์ และเหล่าสัตว์น้อยน่ารักของนางจะกลายเป็นดวงตาและหูของนาง พร้อมไปสู่หุบเหวปีศาจด้วยกัน
“เจ้าซ่อนพลังของพวกมันไว้หรือ?”
ในสายตาของทั้งสามคน ฝูงลูกสัตว์เหล่านี้ดูเหมือนไม่มีพลังเลยแม้แต่น้อย!
“เปล่า แต่ข้าพรางตัวตนของพวกมันไว้ต่างหาก แม้แต่นกที่โจมตีนั่นก็ไม่ใช่นกจริง ๆ แต่เป็น…” นกสีฟ้าในฝ่ามือของหลิงเยว่เปลี่ยนเป็นต้นกล้าสีเขียวเล็ก ๆ
ตั้งแต่ได้พบหลิงเยว่ เครื่องหมายคำถามบนศีรษะของทั้งสามคนก็ไม่เคยหายไปเลย…
“ท่านมองไม่ออกใช่ไหม?”
หลิงเยว่ถามชิงหลง สิบสองแม่ทัพปีศาจที่คุ้มครองบ่อสวรรค์ล้วนมีพลังขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นปลายโดยสมบูรณ์ หากการพรางตัวนี้หลอกชิงหลงได้ ย่อมไม่มีปัญหาในการหลอกแม่ทัพปีศาจแน่นอน!
“ไม่…” ชิงหลงส่ายหัวเบา ๆ
“ถ้าเช่นนั้นก็ดีแล้ว”
หลิงเยว่รู้สึกโล่งอก
“พวกท่านยังไม่ได้ตอบข้าเลย พวกท่านจะไปที่ใดกันเหรอ?”
“ข้าจะไปดูที่หุบเหวปีศาจสักหน่อย”
มีคนไปบุกหุบเหวปีศาจแล้ว และเกือบจะสำเร็จด้วย?!
เป็นผู้ใดกัน?
แล้ว… เขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่?
…………….