ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 422 เขาเกิดการกลายพันธุ์
บทที่ 422 เขาเกิดการกลายพันธุ์
…………….
บทที่ 422 เขาเกิดการกลายพันธุ์
หลิงเยว่รู้สึกจนปัญญากับเรื่องที่โม่จวินเจ๋อกลายเป็นไข่มังกร
ในตอนนั้นนางกำลังจะเทชาสืบทอดวิญญาณที่ปรุงสำเร็จแล้วใส่ขวดไม้เล็ก ๆ แต่หยดของเหลวสีดำทองนั้นไม่ให้โม่จวินเจ๋อปฏิเสธ แล้วบุกเข้าไปในร่างของเขาเช่นนี้
จากนั้นกระต่ายตาสีม่วงอำพันที่น่ารักน่าชังก็กลายเป็นมังกรน้อยสีดำ นอนขดตัวอย่างไร้สติ ครึ่งตัวเป็นสีทอง อีกครึ่งตัวเป็นสีดำ แล้วต่อมา…
หลิงเยว่นึกถึงตอนที่โม่จวินเจ๋อถูกทรมานด้วยโลหิตมังกรปีศาจและโลหิตมังกรเทพ จนร่างกายเปลี่ยนสีไม่หยุด ยิ่งใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของหลิงเยว่ยิ่งเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น
กระบวนการเปลี่ยนแปลงดำเนินอยู่นาน จนกระทั่งโม่จวินเจ๋อถดถอยกลายเป็นไข่ใบหนึ่ง หลิงเยว่จึงได้สติกลับมา
เมื่อระบบเห็นไข่มังกรที่มีสีดำและสีทองครึ่งหนึ่ง จึงบอกให้นางเตรียมใจไว้ ดังนั้นหลิงเยว่จึงตัดสินใจออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ แวะไปดูหัวหน้าตะขาบมรกต แล้วกินของอร่อยเพื่อเพิ่มพลังให้ตัวเอง ก่อนจะเก็บตัวอีกสักยี่สิบถึงสามสิบปีเพื่อฝึกฝนเคล็ดวิชา
“อาจารย์หลิง ฮวนฮวนจำได้ว่ากระต่ายน้อยไม่ได้ฟักออกมาจากไข่นี่?”
“เขากลายพันธุ์น่ะ” หลิงเยว่ตอบอย่างจริงจัง ฮวนฮวนพยักหน้าอย่างครุ่นคิด ผู่ตานที่เป็นมนุษย์ยังกลายเป็นไข่ได้ หากกระต่ายกลายเป็นไข่ก็ดูไม่แปลกเท่าไหร่
ท้ายที่สุดแล้ว ทุกสิ่งล้วนเป็นไปได้เมื่ออยู่กับหลิงเยว่!
ทั้งผู้ใหญ่และเด็กน้อยเดินตามผู้คนมาถึงถนนอาหารปีศาจ เหล่าพ่อค้าแม่ขายที่ตั้งแผงส่วนใหญ่ล้วนรู้จักหลิงเยว่ ทันทีที่ปรากฏตัว ในมือของนางก็เต็มไปด้วยของอร่อย ราวกับพวกเขาอยากจะเอาใจนางเสียเต็มประดา
“อาจารย์หลิง ฮวนฮวนอยากไปหาหัวหน้าตะขาบมรกตเจ้าค่ะ” ฮวนฮวนกล่าว พลางจิบชานมสมุนไพรปีศาจสีเทาดำ มองไปยังท้องฟ้าสีดำทะมึน ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล
“งั้นไปกันเถอะ”
ทันทีที่หลิงเยว่เอ่ยจบ ทั้งสองก็มาถึงสถานที่ฝ่าทัณฑ์สวรรค์ของหัวหน้าตะขาบมรกตแล้ว
ชิงหลงยืนกอดอกมองทัณฑ์สวรรค์ที่ฟาดร่างอวบอ้วนของแมลงด้วยความสะใจ แต่ทันทีที่ได้กลิ่นหลิงเยว่ นางก็รีบหุบยิ้มทันที “แล้วโม่จวินเจ๋อเล่า?”
หลังจากได้ยินว่าโม่จวินเจ๋อกลายเป็นไข่ใบที่สอง ชิงหลงก็พูดไม่ออก
ทำไมเจ้าแมลงอ้วนนั่นไม่กลายเป็นไข่เล่า?
สำหรับประเด็นนี้ หลิงเยว่ไม่สามารถอธิบายได้
สิงโตเก้าหางและปลาหนามกลายพันธุ์ก็ไม่ได้กลายเป็นลูกอ่อนหรือไข่ปลาอะไรนี่นา?
ในยามนี้หัวหน้าตะขาบมรกตถูกสายฟ้าฟาดจนเลือดสีเขียวไหลนอง พร้อมหนวดที่ถูกตัดขาดไปข้างหนึ่ง กลิ่นหอมของแมลงย่างลอยอบอวลไปทั่ว
หลิงเยว่ลูบคางพลางจ้องมองหัวหน้าตะขาบมรกตด้วยความหิว เหตุผลที่นางไม่ได้ให้เขาเฉือนเนื้ออีกฝ่ายตั้งแต่แรก เพราะมันยังไม่มีวิชาใด ๆ เลย
แต่หลังจากผ่านทัณฑ์สวรรค์ครั้งนี้ไปได้ ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไป
“อย่าจ้องข้าด้วยสายตาเช่นนั้น” หัวหน้าตะขาบมรกตที่ถูกฟ้าผ่าลงหลุมแล้วปีนขึ้นมาพอดี พอเห็นสายตาหิวโหยของหลิงเยว่ เขาใช้หนวดคิดก็รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่!
แน่นอนว่านางต้องการทำให้เขากลายเป็นอาหาร!
“ข้าไม่มีทางเฉือนเนื้อให้เจ้าหรอก ฝันไปเถอะ!”
“ได้ งั้นชดใช้เป็นหินวิญญาณแทน เห็นแก่ที่พวกเราสนิทกันมาก สำหรับชาสืบทอดวิญญาณตะขาบมรกตสี่ปีก ข้าจะคิดเป็นเส้นพลังวิญญาณระดับสูงสักสามเส้นแล้วกัน!” หลิงเยว่ยิ้ม ทำเอาหัวหน้าตะขาบมรกตผู้ยากจนช่างแสบตาเหลือเกิน!
ถ้าจะปล้นกันขนาดนั้น เขาคงต้องขายลูกหลานทั้งหมดถึงจะพอรวบรวมได้!
นางช่างโหดร้ายเหลือเกิน!
ขณะที่หัวหน้าตะขาบมรกตกำลังจะต่อรองราคา สายฟ้าเส้นหนาทึบก็ฟาดลงมาอีกครั้ง
หัวหน้ามรกตที่เมื่อครู่ยังมีพลังเต็มเปี่ยม ตอนนี้กลับไม่อาจเอ่ยคำใดออกมาได้
“ช่างน่าสงสารเสียจริง!” หลิงเยว่วิ่งไปที่ขอบหลุม พร้อมกล่าวด้วยความสะใจ
“หัวหน้าตะขาบมรกต ท่านเป็นอย่างไรบ้าง!”
ไม่ค่อย… ดีนัก…
หัวหน้าตะขาบมรกตอยากตอบฮวนฮวน แต่เขาไม่อาจต้านทานพลังสายฟ้าได้ จึงสลบไป
ทัณฑ์สวรรค์ของหัวหน้าตะขาบมรกตดำเนินไปเป็นเวลาสามเดือนเต็ม ในระหว่างนั้นได้รับทัณฑ์สวรรค์ทั้งหมดสิบสามครั้ง เมื่อผ่านพ้นทั้งหมดแล้ว หลิงเยว่เห็นเพียงครึ่งศีรษะของเขา เพราะกายเนื้อใต้ศีรษะถูกฟาดจนหมด เผยให้เห็นกระดูกสีเขียวมรกต บนกระดูกยังมีสายฟ้าหนาปกคลุมอยู่ ช่างเป็น ‘ซากศพ’ ที่น่าสงสารเสียจริง!
สภาพการณ์เช่นนี้ทำให้หลิงเยว่นึกถึงตัวเองในอดีต ซึ่งน่าสังเวชยิ่งกว่าอีกฝ่ายเสียอีก อย่างน้อยกระดูกของเขาก็ยังไม่แตกกระจาย และบนศีรษะยังมีเนื้อไหม้เกรียมติดอยู่อีกหลายชิ้น
“ฝ่าทัณฑ์สวรรค์สำเร็จแล้ว…”
ดวงตาของชิงหลงฉายแววอิจฉา ไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ที่อยู่ข้างกายผู้สืบทอดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ สามารถเพิ่มพูนพลังได้อย่างง่ายดายราวกับการกินข้าวดื่มน้ำ นางนึกถึงตอนที่ตนเองฝ่าทัณฑ์สวรรค์ ซึ่งต้องใช้เวลาถึงหมื่นปีเต็ม
เจ้าแมลงอ้วนนั่นโชคดีนัก!
หัวหน้าตะขาบมรกตที่กำลังจะหยุดหายใจ เมื่อได้ยินประโยคนั้นก็รีบต่อลมหายใจให้ตัวเองทันที
เขา… ฝ่าทัณฑ์สวรรค์ได้แล้ว!
ฝูงตะขาบมรกตสี่ปีกบินออกมาจากแก่นแท้สัตว์อสูรที่แตกละเอียดของหัวหน้าตะขาบมรกต
“พวกเขาก็บาดเจ็บเช่นกัน!” ฮวนฮวนชี้ไปที่ฝูงแมลงที่กำลังบินวนรอบหัวหน้าตะขาบมรกตอย่างยากลำบาก บ้างก็โบกปีกได้แค่ครึ่งเดียว บ้างก็ลากขาที่หายไป บ้างก็หางขาดหรือตาบอด ดูเหมือนพวกเขากำลังให้กำลังใจหัวหน้าที่ใกล้สิ้นลมให้ฮึดสู้
“พวกเขาก็รับสืบทอดมาด้วย คงจะช่วยแบ่งเบาภาระฟ้าผ่าบางส่วนให้หัวหน้าตะขาบมรกต”
หลิงเยว่มองท้องฟ้าเบื้องบน ดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย ทำไมสายฝนปีศาจยังไม่ตกลงมาอีก?
หากไม่ตกลงมาเร็ว ๆ นี้ เกรงว่าหัวหน้าตะขาบมรกตคงทนไม่ไหวแล้ว
คิดได้ดังนั้น หลิงเยว่จึงยกมือทั้งสองขึ้นกำลังจะใช้วิชารักษาขั้นสูง ทันใดนั้นหยดฝนสีเขียวเย็นเฉียบก็ตกลงบนมือของนาง
ฝนสีเขียวเริ่มโปรยปรายลงมา ฝูงแมลงบินขึ้นสู่ที่สูงเพื่อรับสายฝน พวกมันกลืนกินสายฝนปีศาจด้วยความกระหาย ร่างกายที่บาดเจ็บเริ่มฟื้นฟู
ลมหายใจของหัวหน้าตะขาบมรกตเริ่มสม่ำเสมอขึ้น
เห็นดังนั้นหลิงเยว่จึงลดมือลง มองดูร่างกายของอีกฝ่ายที่ค่อย ๆ ฟื้นฟูขึ้น
สายฝนปีศาจตกเพียงชั่วยาม ลูกหลานเผ่าตะขาบมรกตทั้งหมดฟื้นคืนสภาพและเกิดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยหัวหน้าตะขาบมรกตมีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด ไขมันส่วนเกินกลับหลายเป็น ‘กล้ามเนื้อ’ ปีกสีเขียวมรกตเปล่งประกายระยิบระยับใต้แสงอาทิตย์
หัวหน้าตะขาบมรกตกระพือปีกที่ยาวกว่าลำตัวพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า ทะลุผ่านเมฆหมอก แล้วปล่อยให้ร่างร่วงหล่นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถึงพื้นดินในชั่ววินาที มันเบี่ยงตัวบินขึ้นไปอีกครั้ง กลายเป็นแสงสีเขียวมรกตหายลับไปในท้องฟ้า
หลิงเยว่รู้สึกถึงความปีติยินดีของมัน มุมปากของนางยกขึ้นเล็กน้อย
“ท่านหัวหน้าตะขาบมรกตพาฮวนฮวนไปด้วย!” ฮวนฮวนโบกมือไปทางท้องฟ้าสุดแรง ดวงตาเต็มไปด้วยความปรารถนา
สายลมพัดผ่านหน้าหลิงเยว่ ฮวนฮวนหายลับไปแล้ว…
หลิงเยว่เบ้ปากอย่างไม่พอใจ นางยืนอยู่ตรงนี้ทั้งคน ทำไมไม่พานางไปด้วยเล่า!
“ไปกันเถอะ”
ชิงหลงคว้ามือหลิงเยว่ไว้ พริบตาเดียวทั้งสองก็มาถึงดินแดนของกระทิง
“ข้าจะเก็บตัวบำเพ็ญแล้ว”
ในเมื่อหัวหน้าตะขาบมรกตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ได้อย่างราบรื่นแล้ว หลิงเยว่ควรไปทำภารกิจของตนให้สำเร็จเช่นกัน
“เจ้ามนุษย์เปราะบางจะเก็บตัวอีกแล้วหรือ?”
หัวหน้าตะขาบมรกตที่พาฮวนฮวนบินวนกลับมาขมวดคิ้วมุ่น แต่ก่อนตอนอยู่ในโลกวิญญาณ ไม่เห็นหลิงเยว่จะขยันขันแข็งเช่นนี้
แต่พอมาถึงเขตแดนปีศาจกลับกลายเป็นคนรักการบำเพ็ญขึ้นมาเสียอย่างนั้น?!
น่าแปลกเหลือเกิน…
หรือนางกำลังวางแผนการใหญ่อะไรอยู่?