ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 400 แท้จริงแล้วยังเหลืออีกกี่ครั้งกัน?
บทที่ 400 แท้จริงแล้วยังเหลืออีกกี่ครั้งกัน?
……….
บทที่ 400 แท้จริงแล้วยังเหลืออีกกี่ครั้งกัน?
ชิงหลงพูดอย่างจริงจัง แต่ผู่ตานและหัวหน้าตะขาบมรกตดูเหมือนจะฟังไม่เข้าใจ
พวกเขาจ้องมองไปอีกด้านของท้องฟ้า ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ว่าควรแสดงสีหน้าอย่างไร โดยเฉพาะหัวหน้าตะขาบมรกตที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เมื่อก่อนตอนที่มนุษย์เปราะบางจากเขาไป เขาถึงกับอยากตายให้รู้แล้วรู้รอด แต่ตอนนี้สถานการณ์กลับเปลี่ยนไปแล้ว บางทีคนที่ต้องการการปกป้องอาจกลายเป็นตัวเขาเสียเอง
ความแตกต่างอันใหญ่หลวงนี้ทำให้หัวหน้าตะขาบมรกตแทบจะน้ำตาคลอ ส่วนผู่ตานทั้งรู้สึกดีใจและสับสน เพียงไม่กี่ปีศิษย์น้องคนเล็กสุดอาจจะกลายเป็นผู้มีพลังสูงสุดในสำนักแล้ว…
“พวกเราไม่สู้ไปตอนนี้เลยดีกว่า? พอไปถึง ศิษย์น้องหลิงคงจะผ่านทัณฑ์สวรรค์แล้วกระมัง?” ผู่ตานถามหัวหน้าตะขาบมรกตอย่างระแวดระวัง หัวหน้าตะขาบมรกตเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า
ทั้งสองไม่ได้ถามความเห็นของโม่จวินเจ๋อเลย ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาไม่โดดเด่นหรือเพราะไม่สำคัญ สรุปคือหลังจากบอกลาชิงหลงแล้ว ตะขาบหนึ่งตัวกับคนหนึ่งคนก็เดินห่อไหล่จากไปอย่างหดหู่
เดินไปครึ่งทางหัวหน้าตะขาบมรกตถึงนึกขึ้นได้ว่าเขาลืมฮวนฮวน เลยจะกลับไปตาม
“ไม่ต้องไปหรอก รอให้พวกเราพบศิษย์น้องหลิงก่อนแล้วค่อยไปหานางที่วังปีศาจดีกว่า”
ฮวนฮวนที่อยู่ข้างกายเจ้าวังย่อมไม่ได้รับอันตรายใด ๆ อีกอย่างตอนนี้พวกเขาสองคนก็ไม่สามารถปกป้องฮวนฮวนได้แล้ว
นี่เป็นความจริงอันน่าเศร้า ทำให้หัวหน้าตะขาบมรกตยิ่งรู้สึกหดหู่ แต่เขายังส่งเสียงไปบอกฮวนฮวนก่อน
ฮวนฮวนที่ยังถูกเจ้าสำนักกอดไว้ในอ้อมอกรู้สึกใจหายวาบ เงยหน้าน้อย ๆ มองซ้ายมองขวา สีหน้าเปลี่ยนเป็นน้อยใจ จนเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว แต่เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายได้รับข่าวจากอาจารย์หลิงที่รักของนางแล้วจะรีบกลับมารับนางทันทีที่พบหลิงเยว่ เด็กน้อยจึงกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้
เจ้าวังที่คอยสังเกตฮวนฮวนอยู่ตลอดเวลา รู้สึกว่าอารมณ์ของเด็กน้อยไม่ค่อยปกติ จึงรีบถามขึ้นว่า “เป็นอะไรไป?”
ฮวนฮวนส่ายหน้า
หากพูดออกไป หัวหน้าตะขาบมรกตและผู่ตานจะต้องถูกจับกลับมาแน่ นางไม่อาจพูดได้!
คนกับแมลงเพิ่งเดินมาถึงเขตปลอดภัยห่างจากพื้นที่ฝ่าทัณฑ์สวรรค์ ก็มีทัณฑ์มังกรเก้าขั้นฟาดลงมาอีกครั้ง
เมื่อพวกเขาเข้าใกล้เขตปีศาจอสูรระดับสูง หลิงเยว่กำลังฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ครั้งสุดท้ายแล้ว เพียงแค่ผ่านครั้งนี้ไปได้ ก็จะหลุดพ้นจากฝันร้ายนี้แล้ว
หลิงเยว่นอนราบอยู่ในหลุมสายฟ้า ทั้งร่างหาเนื้อดี ๆ ไม่ได้สักชิ้น พลางมองทัณฑ์สวรรค์ที่ยังไม่ทันก่อตัวเสร็จอย่างเหม่อลอย ข้างศีรษะมีต้นกล้าสีทองต้นหนึ่งกำลังเติบโตอย่างน่ายินดียิ่งภายใต้การชำระล้างด้วยเลือดสดและสายฟ้า
หลิงเยว่ใช้วิชารักษาได้คล่องแคล่วขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่ใช้พลังก็จะแข็งแกร่งขึ้น ‘เพื่อนร่วมทาง’ ในการฝ่าทัณฑ์สวรรค์ของนางที่ได้รับความเจ็บปวดใกล้ตายถูกช่วยชีวิต แล้วก็เฉียดตายอีกรอบ… วนเวียนไปมา มันช่างเป็นชีวิตที่แย่ยิ่งกว่าความตายเสียอีก!
สิงโตขนเงินมองเนื้อหนังที่ระเบิดของตนกำลังฟื้นคืน เมื่อถูกทัณฑ์สวรรค์ฟาดจนไร้ขนแล้วงอกขนขาวบริสุทธิ์ขึ้นมาใหม่ ในใจกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
เมฆฝนฟ้าคะนองยังไม่สลายไป สายฟ้าหลากสีเต้นระบำอยู่ในเมฆ เสียงฟ้าร้องยังคงถล่มแก้วหูของนางไม่หยุด
แท้จริงแล้วยังเหลืออีกกี่ครั้งกัน?
นอกจากอดีตผู้นำเผ่าและสิงโตขนเงิน ทุกคนต่างร่ำไห้กันหมด
ในบรรดานั้นพวกที่แอบโจมตีร้องไห้อย่างน่าเวทนาที่สุด หากรู้เช่นนี้แต่แรก พวกเขาไม่ควรมาเลย ถ้ำปีศาจหายไปยังสร้างใหม่ได้ แต่หากชีวิตสูญเสียไปก็คือจบสิ้น!
ในเขตปีศาจอสูรระดับสูง ถ้ำปีศาจหอกระดูกถูกเปิดเผยต่อหน้าทุกคนเพราะผลกระทบจากการทดสอบด้วยสายฟ้า
“นี่คือ… ถ้ำปีศาจหอกระดูกหรือ?”
เผ่าปีศาจอสูรคลานไปที่ขอบถ้ำ มองเข้าไปข้างในแล้วถูกภาพตรงหน้าทำให้ตกใจ ทั่วทั้งถ้ำเต็มไปด้วยกระดูกปีศาจสีดำสลับขาว หน้าผนังกระดูกแต่ละด้านมีลูกอ่อนเผ่าปีศาจอสูรที่ดูมีชีวิตชีวานั่งยอง ๆ นอน หรือคลานอยู่
ลูกอ่อนเผ่าปีศาจอสูรที่ถูกทำให้เป็นจุดศูนย์กลางและพลังของเตาหลอมต่างจ้องมองไปยังจุดกึ่งกลาง ตรงกลางมีหัวใจขนาดมหึมาแขวนอยู่ และยังคงเต้นอยู่เป็นจังหวะ
“นั่นคือหัวใจของบรรพบุรุษเผ่าข้า!”
เผ่าปีศาจอสูรที่จำหัวใจขนาดมหึมานั้นได้ สายตาของเขาพลันพร่ามัวและสลบไปทันที
เผ่าปีศาจอสูรนับวันยิ่งรวมตัวกันมากขึ้น เมื่อพบซากศพของพวกพ้องตน ดวงตาของพวกเขายิ่งลุกโชนด้วยความโกรธแค้น
ทุกปีมีพวกพ้องหายตัวไป แต่พวกเขาไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะโลกภายนอกอันตราย บ้างพ่ายแพ้ในศึก บ้างตายระหว่างฝึกฝน นับเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่สิ่งที่เหล่าปีศาจอสูรไม่คาดคิดคือ พวกพ้องที่หายตัวไปหลายปีนี้ถูกจับมาทำเป็นกำแพงกระดูกเช่นนี้!
“ไอ้มังกรปีศาจชั่วช้า!”
เผ่าปีศาจอสูรคำรามด้วยความโกรธ แล้วใช้พลังทำลายถ้ำปีศาจหอกระดูกนั้นทันที
ทัณฑ์สวรรค์ครั้งสุดท้ายของหลิงเยว่ก็ปรากฏขึ้น ครั้งนี้การปรากฏตัวของหัวมังกรทำให้ผู้ถูกบังคับให้ฝ่าด่านที่นอนราบอยู่ในหลุมสายฟ้าต้องลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ
ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นมังกรยักษ์สีเดียว แต่ครั้งนี้กลับเป็นมังกรสายฟ้าหลากสี?!
สีทองเข้ม เขียว แดง ดำ น้ำเงิน ดวงตาสองข้างสีขาวเงินโปร่งใส เมื่อมันลืมตา พลังปีศาจรอบข้างพลันปั่นป่วนสั่นสะเทือน อุณหภูมิแปรปรวนร้อน ๆ หนาว ๆ มีฝนปนลูกเห็บขนาดเท่ากำปั้นทารกตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง
สมุนไพรปีศาจที่เคยถูกฟ้าผ่าจนเกลี้ยงเกลางอกขึ้นมาใหม่ พวกมันไม่ได้ถูกทำลายด้วยฝนปนลูกเห็บอันน่าสะพรึงกลัว แต่กลับเหมือนได้รับพลังพิเศษแล้วเติบโตอย่างแข็งแรง!
“เกิดอะไรขึ้น?”
ผู่ตานที่สะดุดล้มเพราะสมุนไพรปีศาจที่ผุดขึ้นมาอย่างกะทันหันมีสีหน้างุนงง และไม่ใช่แค่เขาเท่านั้นที่งุนงง ยังมีทั้งหัวหน้าตะขาบมรกตและเผ่าปีศาจอสูรทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ด้วย
การลงทัณฑ์มีแต่การทำลายล้างเท่านั้น จะให้กำเนิดชีวิตได้อย่างไร?
การลงทัณฑ์ด้วยสายฟ้าจริง ๆ แล้วไม่สามารถให้กำเนิดชีวิตได้ แต่หลิงเยว่และอีกหนึ่งชีวิตของนางอย่างเจ้าต้นกล้าสีทองทำได้
แต่สถานการณ์นี้ไม่เกี่ยวกับหลิงเยว่เลย ทั้งหมดเป็นฝีมือของเจ้าต้นกล้าทอง มันเร่งให้สมุนไพรปีศาจเติบโตอย่างบ้าคลั่งก่อน แล้วค่อยดูดพลังของพวกมัน
เหล่าพืชที่เติบโตอย่างบ้าคลั่งเหี่ยวเฉาในพริบตา และเจ้าต้นกล้าทองก็หายไปจากข้างหลิงเยว่
“มัน… กำลังหนีเอาชีวิตรอดหรือ?” หลิงเยว่ถามระบบด้วยความไม่อยากเชื่อ
[อืม หากเจ้าถูกสายฟ้าลงทัณฑ์ครั้งสุดท้ายฟาดตาย มันยังสามารถเปิดทางรอดอีกสายให้เจ้าได้]
“มันคิดว่าข้าต้องผ่านไม่ได้แน่ ๆ หรือ?” หัวใจของหลิงเยว่เดิมทีค่อนข้างสงบพลันปั่นป่วนดั่งคลื่นยักษ์ สายฟ้าลงทัณฑ์ห้าสีนั้นช่างงดงามและ… อ่อนโยน คงไม่ได้มาด้วยความตั้งใจจะฟาดนางให้ตายหรอกกระมัง?
ถึงอย่างไร นางก็ถือบทนางเอก ทั้งยังเป็นบุตรีแท้ ๆ ของสวรรค์ ไม่ต้องพูดถึงสองอย่างนี้ นางยังมีคนช่วยผ่านการลงทัณฑ์ถึงสามสิบเอ็ดคน จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะผ่านไม่ได้!
[มิเช่นนั้นมันจะหนีไปทำไม?]
ระบบก็อยากหนีเช่นกัน น่าเสียดายที่มันและหลิงเยว่ผูกพันกันแล้ว จึงหนีไม่พ้น
หลิงเยว่ “…”
ก็ได้
“เหตุใดคราวนี้สายฟ้าทั้งสองฝั่งจึงต่างกัน?”
“โอ้… ข้าเพิ่งเคยเห็นทัณฑ์มังกรเช่นนี้ครั้งแรก”
ชิงหลงสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ตอนที่นางผ่านทัณฑ์มังกรเก้าขั้นก็ไม่เคยเห็นมังกรเช่นนี้ แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทนรับได้
สมกับเป็น… ผู้สืบทอดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เสียจริง
“หากนางถูกฟ้าผ่าตาย ข้าคง…” ผู้นำเผ่าทิงมี่นึกถึงความเป็นไปได้ที่ตนอาจต้องตายตามไปด้วย ช่างเจ็บปวดใจนัก! คิดได้ดังนั้นเขาจึงฉีกช่องว่างมิติออก
เขาไม่ได้หนี แต่กำลังหาทางเอาชีวิตรอดต่างหาก!
……….