ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 399 ยังมีอีกหรือ?
บทที่ 399 ยังมีอีกหรือ?
……….
บทที่ 399 ยังมีอีกหรือ?
หลิงเยว่เลิกคิด แล้วหันไปมองค่าพลังวิญญาณคงเหลือ…
หินปีศาจที่ผู้นำเผ่ากระทิงงามมอบให้นางเก็บรักษาไว้ชั่วคราว ถูกใช้ไปเกือบหมดแล้ว หลิงเยว่รู้สึกผิดจนไม่กล้ามองหน้าอีกฝ่าย
หลังจากผ่านทัณฑ์สวรรค์นี้ไปแล้ว นางจะคืนให้แน่นอน! อย่างมากก็แค่พาชิงหลงกับโม่จวินเจ๋อไปปล้นอีกสักรอบ!
การปล้นนั้นเป็นหนทางสู่ความร่ำรวยได้เร็วที่สุด!
หลิงเยว่ไม่ใช่คนเดิมที่ขยันขันแข็ง พยายามศึกษาหรือทำอะไรเช่นชาแปลงร่าง ชาสืบทอดวิญญาณ และอาหารปีศาจพิเศษเพื่อหาเงินอีกต่อไป ตอนนี้นางเปลี่ยนไปแล้ว!
“ลมหายใจของเจ้าเริ่มสงบแล้ว พอจะช่วยให้เจ้าผ่านการทดสอบครั้งต่อไปได้!”
อดีตผู้นำเผ่าดีใจจนตัวลอย กลับไปยังหลุมสายฟ้าของตน รอคอยการมาของสายฟ้าลูกต่อไป
“ยัง… มีอีกหรือ?!”
พวกผู้โจมตีพ่นเลือดออกมา พวกเขามาเพื่อโจมตี ไม่ใช่มาช่วยฝ่าทัณฑ์สวรรค์สักหน่อย!
มีคนพยายามลุกขึ้น แต่ร่างกายกลับถูกพลังลึกลับตรึงไว้ ไม่สามารถดิ้นหลุดได้เลย!
“พวกข้า… ผิดไปแล้ว ปล่อยข้า… ไป!”
“ใช่! ข้ามีทั้งพ่อแม่และลูกน้อยที่ต้องเลี้ยงดู…”
“บัดซบ! ถ้าข้ารอดออกไปได้ ข้าจะฆ่าพวกเจ้าให้หมด ฮ่า ๆ โอ๊ย!”
พวกผู้โจมตีถูกสายฟ้าฟาดจนเสียสติไปแล้ว บางคนขอความเมตตา บางคนขู่ บางคนก็ยอมรับชะตากรรม หากมีแรงตะโกนขนาดนั้น ใช้โอกาสนี้ฟื้นฟูร่างกายเพื่อเอาชีวิตรอดไม่ดีกว่าหรือ?
พวกเขาจะรอดชีวิตไหม?
คำถามนี้ไม่มีใครตอบได้ แม้แต่หลิงเยว่เองยังไม่รู้ว่าตัวเองจะรับมือกับทัณฑ์สวรรค์ที่เหลือได้หรือไม่ เพราะพลังของสายฟ้าจะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้น หลิงเยว่จึงซื้อโอสถฟื้นปราณระดับเทพอีกหกเม็ด และใช้วิชารักษาพวกผู้โจมตีทั้งยี่สิบห้าคนอีกครั้ง หวังว่าพวกเขาจะทนได้นานขึ้นอีกสักหน่อย
การรักษาครั้งนี้ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดของผู้โจมตี แก่นแท้ปีศาจที่แตกร้าวได้รับการซ่อมแซม
อีกด้านหนึ่ง ด้วยพลังวิญญาณที่ไม่มีวันหมดสิ้นของหลิงเยว่ ลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์จึงสามารถรักษาสภาพไว้ได้ และทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อซ่อมแซมร่างกายของโม่จวินเจ๋อ
ทัณฑ์สวรรค์มาอีกแล้ว…
ลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์กำลังจะพาโม่จวินเจ๋อไปยังตำแหน่งถ้ำปีศาจถัดไป แต่ถูกขัดขวาง
“ไม่จำเป็น พวกเผ่าปีศาจรู้แล้ว ที่เหลือปล่อยให้พวกเขาจะจัดการเอง”
แม้โม่จวินเจ๋อจะไม่รู้ว่าทำไมลูกแก้ววิญญาณถึงสามารถดึงเขากลับมาจากความตายได้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่เขารู้ว่าไม่มีสิ่งใดมีพลังที่ไม่มีวันหมดสิ้น การพาเขาบินไปไกลขนาดนั้นต้องใช้พลังไม่น้อยใช่ไหม?
“เมล็ดพันธุ์ปีศาจ เจ้ายังสามารถบอกตำแหน่งถ้ำปีศาจอื่น ๆ ได้อีกหรือไม่?”
โม่จวินเจ๋อเหลือบมองไปยังฮวนฮวนที่อยู่ในอ้อมกอดของเจ้าวังปีศาจ แล้วพยายามบอกตำแหน่งถ้ำปีศาจออกมาอย่างยากลำบาก
เผ่าปีศาจที่สร้างหอกระดูกและถ้ำปีศาจถูกมังกรปีศาจสาปว่าห้ามไม่ให้พูดถึงตำแหน่งถ้ำปีศาจที่เผ่าของตนปกป้อง แม้พวกเขาจะพูดไม่ได้ แต่ยังสามารถพา ‘เจ้านาย’ ของพวกเขาไปดูด้วยตัวเองได้
ในช่วงไม่กี่ปีนี้ เขาได้รวบรวมตำแหน่งถ้ำปีศาจไปแล้วกว่าสองร้อยแห่ง ที่เหลือ… ยังไม่ทราบ นี่จึงเป็นเหตุผลหลักที่โม่จวินเจ๋อยังไม่สามารถสละทิ้งตำแหน่งมังกรปีศาจได้ในตอนนี้
โครม!
มังกรยักษ์สีน้ำตาลเข้มพุ่งลงมาอย่างดุร้าย ทำให้พื้นดินของเขตแดนปีศาจสั่นสะเทือนครั้งแล้วครั้งเล่า
ผู้คนที่มุงดูต่างชินชาเสียแล้ว แม้แต่เสียงร้องตกใจก็ยังขี้เกียจเปล่งออกมา พวกเขาเพียงแต่จ้องมองท้องฟ้าและแผ่นดินที่เปลี่ยนสี ด้วยสายตาที่ซับซ้อนและยากจะบรรยาย
ขณะที่บางคนชินชา แต่ยังมีผู้มาใหม่ที่ตกตะลึงกับภาพการฝ่าทัณฑ์สวรรค์เบื้องหน้า
ผู่ตานและหัวหน้าตะขาบมรกตอ้าปากกว้าง เมื่อครู่พวกเขาแทบไม่มีโอกาสได้เห็นสายฟ้ามังกรเงิน บัดนี้โชคดีที่ได้อยู่ภายใต้การปกป้องของเจ้าวังปีศาจ ได้เห็นภาพที่น่าตื่นตะลึงจนไม่มีวันลืมเลือนด้วยตาตัวเอง จะไม่ให้งงได้อย่างไร?
“ข้า… เมื่อไหร่ข้าจะได้ฝ่าทัณฑ์สวรรค์เช่นนี้?”
คนแรกพูดด้วยความชื่นชม ส่วนคนหลังทั้งดูถูก อิจฉาและชื่นชม “ข้าจะต้องฝ่าทัณฑ์สวรรค์ก่อนเจ้าแน่นอน!”
“เรื่องนี้ยังพูดไม่ได้ว่า…”
“เหตุใดพวกเจ้าทั้งสองจึงมาอยู่ที่นี่?”
ผู่ตานยังพูดไม่ทันจบ เสียงใสกังวานของสาวน้อยก็ดังขึ้นอย่างประหลาดใจ
“เจ้าเป็นใคร?” หัวหน้าตะขาบมรกตถอยหลังอย่างระแวดระวัง แล้วดึงผู่ตานไว้
ชิงหลงเลิกคิ้วพลางเล่นปลายผมของตัวเอง “ข้าเข้ามาพร้อมกับพวกเจ้า”
“หลิงเยว่…?” หัวหน้าตะขาบมรกตและผู่ตานคิดว่าสาวน้อยเผ่าปีศาจตรงหน้าคือหลิงเยว่
“อีกคนหนึ่ง!”
ดวงตาของหนึ่งคนและแมลงหนึ่งตัวเปล่งประกายขึ้นมา ที่พึ่งที่น่าเชื่อถือที่สุดของพวกเขาปรากฏตัวแล้ว!
ดวงตาของผู่ตานแดงก่ำ จนแทบจะร้องไห้
ชิงหลงถอยหลังอย่างรังเกียจ และเดาได้ว่าพวกเขาต้องการถามอะไร นางจึงเอ่ยปากก่อน “รอให้เรื่องที่นี่จบก่อน ข้าจะพาพวกเจ้าไปหานางเอง”
“เจ้ายังรู้จักพวกนี้อีกหรือ…” ผู้นำเผ่าทิงมี่กวาดตามองผู่ตานและ หัวหน้าตะขาบมรกต พลางเบ้ปากใส่
สีหน้านี้ทำร้ายจิตใจอันบอบบางของคนและแมลงยิ่งนัก หัวหน้าตะขาบมรกตอยากจะพุ่งเข้าไปฟาดอีกฝ่ายสักหมัด แต่เขายังอดกลั้นเอาไว้ได้!
รอดูเถิด เมื่อเขาพบมรดกสืบทอด คนแรกที่เขาจะซัดให้จมดินคือองค์หญิงน้อย ส่วนคนที่สองคือไอ้หน้าด้านตรงหน้านี่!
ผู้ชายตัวโตแต่งตัวฉูดฉาดพิสดารเช่นนี้ ช่างแสบตาเหลือเกิน!
“ท่านรู้หรือไม่ว่าศิษย์น้องหลิงอยู่ที่ใด?”
ชิงหลงพยักหน้าแล้วถอนหายใจ “เหตุใดเจ้ายังคงเป็นเพียงผู้บำเพ็ญขอบเขตปฐมวิญญาณอยู่เล่า?”
ทั้งที่มีพรสวรรค์แท้ ๆ
หวังว่าเมื่อผู่ตานและแมลงอ้วนตัวนี้ได้เห็นหลิงเยว่กับโม่จวินเจ๋อแล้ว จะไม่รู้สึกน้อยใจจนอยากฆ่าตัวตายหรอกนะ?
แม้แต่ดอกไม้โลหิตปีศาจยังพัฒนาไปไม่น้อย ส่วนพวกเขา…
ชิงหลงถอนหายใจอีกครั้ง
ผู่ตานและหัวหน้าตะขาบมรกตที่ถูกพาดพิงอีกครั้งรู้สึกว่าอารมณ์ดี ๆ กลับพังทลายในพริบตา มังกรตัวนี้น่าจะคิดบ้างว่าที่นี่คือที่ไหน นี่เขตแดนปีศาจนะ เขตแดนปีศาจ!
มีเพียงพลังปีศาจที่ล้อมรอบเขตแดนปีศาจ แล้วพวกเขาจะฝึกบำเพ็ญได้อย่างไร?
การพึ่งพาหินวิญญาณนั้นช้าเกินไป ไม่ฝึกฝนเสียยังดีกว่า!
“ศิษย์น้องอยู่ที่ใด? ท่านบอกตำแหน่งให้ข้าเถิด ข้าจะไปตามหานางเอง”
ผู่ตานไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไป หัวหน้าตะขาบมรกตก็คิดเช่นเดียวกัน
ชิงหลงยกมือขึ้นวาดผ่านหน้าคนและแมลงหนึ่งตัว ให้พวกเขามองไปอีกทิศทางหนึ่ง
เนื่องจากข้อจำกัดของพลัง คนและแมลงหนึ่งตัวไม่สามารถมองเห็นดินแดนของปีศาจอสูรระดับสูงที่อยู่ห่างไกลได้ชัดเจน บัดนี้ด้วยพลังของชิงหลง ผู่ตานและหัวหน้าตะขาบมรกตจึงมองเห็นแล้ว จากนั้นม่านตาของพวกเขาพลันสั่นไหว!
สถานการณ์ทางนั้นน่าตกตะลึงยิ่งกว่าที่นี่เสียอีก!
“ศิษย์น้องของเจ้ากำลังรับทัณฑ์สวรรค์อยู่ที่นั่น”
ผู่ตานและหัวหน้าตะขาบมรกต “???”
พวกเขาไม่ได้ฟังผิดใช่หรือไม่ หลิงเยว่จะฝ่าทัณฑ์สวรรค์ที่รุนแรงเช่นนี้ได้อย่างไร!
“นี่คือ… ทัณฑ์สวรรค์อะไรกัน?”
“ขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์”
“อะไรนะ เจ้าพูดอะไรนะ?!” หัวหน้าตะขาบมรกตเปล่งเสียงสูง
ในช่วงเวลานั้น มนุษย์เปราะบางที่เขาต้องปกป้องกำลังรับทัณฑ์สวรรค์ขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์อยู่หรือ?
ก้าวข้ามสามขอบเขตใหญ่ติดต่อกัน?
เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!
ทั้งคนและแมลงต่างสงสัยในชีวิตของตนทันที…
ชิงหลงตบไหล่ทั้งสองเบา ๆ โดยไม่เลือกที่จะบอกพวกเขาว่าผู้ที่กำลังฝ่าทัณฑ์สวรรค์อยู่ตรงหน้าคือโม่จวินเจ๋อ
“ในเมื่อศิษย์น้องหลิงกำลังฝ่าด่าน เหตุใดท่านจึงไม่ไปช่วยคุ้มครอง?”
แต่กลับมาดูเมล็ดพันธุ์ปีศาจฝ่าด่านแทนเล่า?
ผู่ตานที่กลับมามีสติเอ่ยถาม
“นางมีผู้คุ้มครองมากมาย ขาดข้าคนเดียวไม่เป็นไรหรอก”
ทั้งหมดสามสิบสองสาย แสดงว่ามีคนสามสิบเอ็ดคนกำลังช่วยหลิงเยว่อยู่ นี่คือเหตุผลที่ชิงหลงไม่ได้ทิ้งโม่จวินเจ๋อไปหาหลิงเยว่ในทันที
เมื่อเทียบกับหลิงเยว่แล้ว สถานการณ์ของโม่จวินเจ๋อดูจะอันตรายกว่าอย่างเห็นได้ชัด
……….