ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 397 เขายังมีชีวิตอยู่
บทที่ 397 เขายังมีชีวิตอยู่
……….
บทที่ 397 เขายังมีชีวิตอยู่
คำถามของเจ้าวังปีศาจทำให้ทุกคนเงียบกริบ
ใช่แล้ว เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่สนมปีศาจที่สี่กลับไม่ปรากฏตัว
นางคงรู้สึกผิดกระมัง?
“การสังเวยสรรพชีวิตทั้งหมด รวมถึง… พวกข้าด้วยหรือ?” ผู้พิทักษ์ถ้ำปีศาจที่เพิ่งมาถึงพึมพำ ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ
ตอนแรกสนมปีศาจที่สี่ไม่ได้พูดแบบนี้…
“เป็นไปไม่ได้ พวกข้าจงรักภักดีต่อสนมปีศาจ นางจะไม่ทำแบบนี้กับพวกข้าแน่นอน!” จิ่วหลีพูดเช่นนั้น แต่ในใจเริ่มสั่นคลอนเล็กน้อย
“แล้วตอนนี้นางอยู่ที่ใดกันเล่า?”
ผู้พิทักษ์ถ้ำปีศาจต่างมองไปที่จิ่วหลี เพื่อรอคำตอบจากนาง เพราะนางเป็นคนโปรดของสนมปีศาจที่สี่
“นางกำลัง… กำลังเก็บตัวบำเพ็ญ!” จิ่วหลีจำต้องโกหกเพื่อรักษาความสงบในหมู่ปีศาจทั้งหลาย
เหล่าปีศาจชัดเจนว่าไม่เชื่อ แต่เพียงคำพูดสองสามประโยคของเจ้าวังปีศาจ พวกเขาไม่อาจเชื่อถือคำพูดของเขาได้ทั้งหมด
“ตอนนี้ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งสำคัญคือหาที่ปลอดภัยซ่อนตัวก่อน รอให้เรื่องสงบแล้วค่อย…”
คำพูดของจิ่วหั่วได้รับการเห็นชอบ
ตอนนี้สนมปีศาจที่สี่ได้ปลุกปั่นความโกรธของประชาชนแล้ว พวกเขาในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีส่วนร่วมในการสร้างถ้ำปีศาจหอกระดูก หากถูกจับได้ จุดจบคงจะน่าเวทนายิ่งนัก…
เผ่าปีศาจสวรรค์และเผ่าปีศาจพิภพได้อพยพไปแล้ว พวกเขาต้องรีบออกเดินทางในขณะที่กลุ่มคนเหล่านี้ยังไม่ทันได้สติ!
ส่วนถ้ำปีศาจ… หากถูกทำลาย พวกเขายังสามารถสร้างใหม่ได้!
สนมปีศาจที่สี่จะไม่หลอกลวงพวกเขา แต่เจ้าวังปีศาจต่างหากที่ต้องการบั่นทอนจิตใจของพวกเขา!
สงครามใหญ่ที่กำลังจะมาถึงจึงสิ้นสุดลง เพราะการจากไปของผู้พิทักษ์ถ้ำปีศาจ…
โม่จวินเจ๋อที่มีกลุ่มคนคอยปกป้อง ได้เผชิญหน้ากับการรับทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่ยี่สิบสองอีกครั้ง
สายฟ้าสีขาวบริสุทธิ์ทำให้ใบหน้าของผู้เฝ้าดูซีดเผือด ท้องฟ้าในที่ไกลสว่างไสวทั้งผืน หัวมังกรสีเงินสองตัวปรากฏออกมาจากเมฆฝนสีดำทะมึน ทุกคนในที่นั้นกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัวและรีบถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว
เขตแดนปีศาจที่ร้อนระอุเริ่มมีหิมะโปรยปราย พืชพรรณที่สัมผัสกับเกล็ดหิมะกลายเป็นน้ำแข็งในทันที
ผู่ตานที่มาถึงที่เกิดเหตุอย่างยากลำบาก ร่างกายสั่นเทาเพราะอุณหภูมิที่ลดลงอย่างฉับพลัน ริมฝีปากของเขากลายเป็นสีม่วง
ไม่ได้! เขาควรจะไปจากที่นี่ก่อน หากอยู่ต่อไปคงจะถูกแช่แข็งตายเป็นแน่! เพราะเขามีระดับบำเพ็ญแค่ขอบเขตปฐมวิญญาณเท่านั้น…
ผู่ตานมีสีหน้าเศร้าสร้อย เขาช่างอ่อนแอเหลือเกิน! แม้แต่การดูเหตุการณ์ก็ไม่ได้ เพราะพลังไม่เพียงพอ
อุณหภูมิที่เย็นจัดทำให้พลังวิญญาณของผู่ตานหมดลงอย่างรวดเร็ว การปลอมตัวของเขากำลังจะรักษาไว้ไม่อยู่แล้ว…
ผู่ตานมือสั่น เขากำลังจะกินอมยิ้มฟื้นปราณ แต่ถูกลมเย็นจากคนที่วิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วพัดจนล้ม ทำให้อมยิ้มตกลงบนพื้นน้ำแข็งแตกเป็นเสี่ยง ๆ
องค์หญิงน้อยได้ยินว่าท่านพ่อของนางถูกล้อมโจมตี จึงรีบเรียกบรรดาผู้ติดตามมาช่วย ปกติแล้วหากนางชนใครเข้า การที่ไม่เตะซ้ำถือว่าใจดีแล้ว แต่จู่ ๆ นางก็ได้กลิ่นคุ้นเคยแต่แปลกประหลาด นางเอียงศีรษะเล็กน้อย พอเห็นใบหน้าจริงของผู่ตานที่ไม่สามารถรักษาการปลอมตัวไว้ได้
เรื่องที่บิดาถูกล้อมโจมตีถูกโยนทิ้งไปจากความคิดในทันที แล้วหวนกลับมาหาผู่ตานอีกครั้ง
“เจ้ากล้ามาที่นี่ได้ยังไง!”
“พี่ชาย!”
“ผู่ตาน?!”
องค์หญิงน้อย ฮวนฮวน หัวหน้าตะขาบมรกตเปล่งเสียงพร้อมกัน
“เจ้า… พวกเจ้า?”
หัวหน้าตะขาบมรกตอุ้มผู่ตานที่กำลังจะถูกแช่แข็งขึ้นมา แล้วหยิบผ้าคลุมมาคลุมให้เขา “มนุษย์ช่างอ่อนแอเหลือเกิน เจ้ายังสู้ฮวนฮวนไม่ได้เลย”
“พวกเจ้ารู้จักกันหรือ?” องค์หญิงน้อยมองดูฮวนฮวน และหัวหน้าตะขาบมรกต จนดวงตาเกือบจะถลนออกมาแล้ว
“พี่สาว เขาคือพี่ชายของข้า เขาดีกับฮวนฮวนมากเลย!”
ฮวนฮวนกลัวว่าองค์หญิงน้อยจะเกิดความคิดชั่วร้าย จึงรีบไปกอดขาของผู่ตานทันที
องค์หญิงน้อย ‘ข้าดูหิวกระหายถึงเพียงนั้นเชียวหรือ?’
แม้ว่า… คนตรงหน้านี้จะตรงรสนิยมของนางจริง ๆ ทั้งรูปลักษณ์และนิสัยที่บ้าบิ่น…
องค์หญิงน้อยเพิ่งนึกขึ้นได้ถึงจุดประสงค์ที่มาที่นี่ นางจึงโบกมือ “ไปเถอะ!”
ขณะที่พวกเขากำลังจะเข้าใกล้พื้นที่ของทัณฑ์สวรรค์มากขึ้น มังกรสายฟ้าสีเงินก็ปรากฏให้เห็นเต็มตา และพุ่งลงมาด้วยความเร็วที่ตามนุษย์มองไม่ทัน
หัวหน้าตะขาบมรกตมือหนึ่งอุ้มผู่ตาน อีกมือหนึ่งอุ้มฮวนฮวน แล้ววิ่งหนีเอาชีวิตรอดอย่างบ้าคลั่ง
น้ำแข็งแผ่ขยายเร็วเหลือเกิน บางคนหลบหนีไม่ทัน พริบตาเดียวก็ถูกน้ำแข็งห่อหุ้ม สายฟ้าแผ่กระจายไปยังร่างของผู้คน พืชพรรณ และปีศาจที่ถูกน้ำแข็งห่อหุ้ม…
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นไม่ขาดสาย ทำให้หัวหน้าตะขาบมรกตขนลุกซู่
เขาไม่น่ามาเลย!
เกือบครึ่งของเขตแดนปีศาจกลายเป็นน้ำแข็ง แต่สถานการณ์ในเขตปีศาจอสูรระดับสูงยิ่งอันตรายกว่าที่โม่จวินเจ๋ออยู่เสียอีก
ทั่วทั้งบริเวณกลายเป็นดินแดนน้ำแข็ง พวกกระทิงที่มีผิวหนังหนายังต้องใช้ความพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อไม่ให้ถูกพลังที่หลงเหลืออยู่ทำร้าย
“ให้ตาย! ทัณฑ์สวรรค์นี้รุนแรงเหลือเกิน!”
“ท่านผู้นำเผ่าและคนอื่น ๆ ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่?”
“ข้ารู้สึกว่าตัวเองกำลังจะแย่แล้ว…”
พวกเขาที่อยู่รอบนอกยังทุกข์ทรมานถึงเพียงนี้ แล้วอดีตผู้นำเผ่าและคนอื่น ๆ ที่อยู่ท่ามกลางทัณฑ์สวรรค์เล่า…
“ระ… ระบบ ทำไมข้า… ต้อง… รับ… ทัณฑ์สวรรค์…แก่นปราณน้ำแข็ง…ด้วย?” หลิงเยว่อาเจียนเป็นเลือดรดต้นกล้าสีทองที่เป็นอีกหนึ่งชีวิตของนาง พลางถามระบบไปด้วย
[นี่คือราคาที่ต้องจ่าย]
หลังจากนี้นางต้องฝ่าทัณฑ์สวรรค์เพิ่มอีกสองขั้นใช่หรือไม่?
[เจ้าควรดีใจ เพราะเจ้าแค่ต้องผ่านทัณฑ์สวรรค์เพียงสองขั้น ส่วนโม่จวินเจ๋อไม่เพียงต้องฝ่าห้าขั้นของเจ้า แต่ยังต้องฝ่าทัณฑ์สวรรค์ของมังกรปีศาจและตัวเขาเอง รวมเป็นเก้าขั้นเชียวนะ!]
น้ำเสียงของระบบเต็มไปด้วยความสะใจ
“อะไรนะ!?”
หลิงเยว่ลุกพรวดขึ้นนั่งด้วยความตกใจ
“เก้าขั้น… นั่นไม่ใช่ต้องฝ่าทั้งหมดสามสิบหกครั้งหรอกหรือ!?”
เนื่องจากหลิงเยว่ต้องการพลังวิญญาณมากกว่าผู้มีแก่นปราณน้อย ดังนั้นโม่จวินเจ๋อจึงไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องรับทัณฑ์สวรรค์ของขอบเขตปฐมวิญญาณไปสู่ขอบเขตฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขั้นปลาย รวมเป็นสี่ขอบเขต แต่ละครั้งต้องฝ่าเก้าขั้น รวมแล้วสามสิบหกด่านเลยหรือ?
อีกทั้งเขายังไม่มีใครช่วยแบ่งเบาภาระ ลองคิดดูสิว่าตอนนี้สถานการณ์ช่างอันตรายเพียงใด!
“ขอโอสถฟื้นปราณระดับเทพอีกสองเม็ด” หลิงเยว่ฝืนทนความเจ็บปวดยกมือขึ้น เตรียมใช้วิชารักษาขั้นสูง แม้สมองจะถูกสับเป็นน้ำแข็ง แต่นางยังพอนึกถึงบทสนทนากับระบบก่อนหน้านี้ได้
ก่อนหน้านี้พลังวิญญาณถูกขโมยไป ระบบบอกว่าเป็นลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์อะไรสักอย่าง คงเป็นของโม่จวินเจ๋อนั่นเอง ตอนนั้นเด็กหนุ่มเคยให้หยดน้ำใสเล็ก ๆ แก่นาง ทำให้นางสามารถเร่งการเจริญเติบโตให้ดอกบัวเพลิงเพื่อต่อกรกับเพลิงพิสดารได้สำเร็จ ลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์นั้นคงอาศัยหยดน้ำเล็ก ๆ นั้นขโมยพลังวิญญาณของนางไป
ตอนนี้พวกเขาคงต้องการพลังวิญญาณมากแน่ ๆ!
นี่คือสิ่งเดียวที่หลิงเยว่สามารถทำเพื่อโม่จวินเจ๋อได้ในตอนนี้ เมื่อนางผ่านการทดสอบเสร็จ นางจะรีบไปช่วยโม่จวินเจ๋อทันที
ลูกแก้วศักดิ์สิทธิ์ในร่างของโม่จวินเจ๋อรับรู้ถึงพลังวิญญาณอันบริสุทธิ์และทรงพลังจากร่างของหลิงเยว่อีกครั้ง มันที่เหี่ยวเฉาไปแล้วก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาดูดซับพลังวิญญาณอย่างบ้าคลั่ง
แสงใสที่หม่นหมองบนผิวของมันสว่างขึ้นเรื่อย ๆ มันห่อหุ้มร่างของโม่จวินเจ๋อ เยียวยาบาดแผลของเขาอย่างรวดเร็ว
โม่จวินเจ๋อที่หมดสติไปแล้วขยับเปลือกตา หัวใจของเขาเริ่มเต้นอีกครั้ง อุณหภูมิร่างกายกำลังสูงขึ้น…
โม่จวินเจ๋อที่ถูกลูกแก้ววิญญาณดึงกลับมาจากขอบเหวแห่งความตายหายใจหนักหน่วง แม้ว่าทุกลมหายใจจะเจ็บปวดราวกับหัวใจจะขาด แต่เขาก็รู้สึกถึงการมีชีวิตอยู่แล้ว
เหลืออีกสิบสามหรือสิบสองทัณฑ์สวรรค์เท่านั้น เขาสามารถผ่านไปได้แน่นอน…
ด้วยการสนับสนุนพลังวิญญาณจากหลิงเยว่ ลูกแก้ววิญญาณพาโม่จวินเจ๋อบินไปยังทิศทางของถ้ำปีศาจที่สี่อีกครั้ง
“เมล็ดพันธุ์ปีศาจจะพาพวกเราไปยังถ้ำปีศาจที่สี่ใช่หรือไม่?”
“แน่นอน! พวกเจ้ารีบตามมาให้ทันเร็ว!”
ฝูงชนมากมายไล่ตามขึ้นไป คราวนี้มิใช่การไล่ล่าเพื่อสังหาร หากแต่ต้องการเห็นถ้ำปีศาจกับตาตนเองต่างหาก!
……….