ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 383 ช่างน่าขันสิ้นดี!
บทที่ 383 ช่างน่าขันสิ้นดี!
……….
บทที่ 383 ช่างน่าขันสิ้นดี!
โจรผู้บ้าคลั่งเร่งความเร็วในการขโมยหินปีศาจ ในเวลาเพียงห้าวันมันกวาดล้างไปแล้วกว่าสิบแปดเมือง และสิบแปดเมืองนี้ยังเป็นเมืองระดับสองของเขตแดนปีศาจอีกด้วย!
นั่นเป็นเมืองที่มีเผ่าปีศาจหรือเผ่าปีศาจอสูรระดับสูงคอยปกป้องอยู่เชียวนะ!
“มันเป็นใครกัน? อย่าให้ข้าจับได้เชียว!”
“การสูญเสียหินปีศาจเป็นเรื่องเล็ก แต่การเสียหน้าเป็นเรื่องใหญ่!”
“บัดซบ! ข้าไม่เชื่อว่าพวกเราสิบกว่าคนรวมตัวกันแล้วจะจับโจรนั่นไม่ได้!”
เจ้าเมืองทั้งสิบแปดมารวมตัวกันด้วยความโกรธแค้น
“ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำลายขวัญกำลังใจ แต่โจรผู้นั้นสามารถขโมยคลังสมบัติจนหมดเกลี้ยงได้ต่อหน้าต่อตาพวกเรา และยัง…” เจ้าเมืองที่กำลังพูดมองไปที่แหวนเก็บของของทุกคนที่อยู่ในที่นี้ ทรัพย์สินของพวกเขาก็ถูกขโมยไปด้วย
“ในเมื่อมันสามารถทำได้เช่นนี้ แสดงว่าฝีมือของมันต้องเหนือกว่าระดับราชาขั้นต้น ไม่แน่ว่าแม้จะมีคนมากก็จะจับมันได้…”
“ไม่ หากมันมีฝีมือถึงเพียงนั้น เหตุใดจึงยังทำเรื่องต่ำช้าเช่นนี้เล่า?”
สิ่งสำคัญคือการมาโดยไร้ร่องรอยและจากไปอย่างไร้เงา หากพวกเขาต้องการชีวิต หัวของพวกเขาคงแยกจากร่างไปนานแล้วมิใช่หรือ?
“จะเป็นไปได้หรือไม่ว่าเป็นฝีมือของเผ่าทิงมี่อีกแล้ว?”
นอกจากเผ่าทิงมี่ พวกเขาคิดไม่ออกเลยว่าใครจะทำเรื่องเช่นนี้ได้
อีกทั้งเผ่าทิงมี่ยังสามารถขโมยเมล็ดพันธุ์ปีศาจจากสนมปีศาจที่สี่ได้สำเร็จ แม้ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะไม่ค่อยดีนัก แต่เผ่าทิงมี่ที่แฝงตัวอยู่ทุกมุมของเขตแดนปีศาจ อาจจะเลือกขโมยหินปีศาจเพื่อแก้แค้นและท้าทายพวกเขาก็ได้!
เหล่าเจ้าเมืองคิดว่านี่ต้องเป็นความจริงแน่นอน!
ต้องเป็นฝีมือของเผ่าทิงมี่แน่ ๆ!
ดังนั้นทั่วทั้งเขตแดนปีศาจจึงมีคำสั่งไล่ล่าเผ่าทิงมี่ ทำให้เจ้าวังมุมปากกระตุกไม่หยุด แต่ถ้าคนอื่นจะคิดเช่นนั้นก็คงสมเหตุสมผล
หากไม่ใช่เพราะมังกรปีศาจเคยมาเยือนเมืองปีศาจ เขาคงไม่มีวันนึกถึงสนมปีศาจที่สี่เป็นแน่ และความเร็วในการขโมยของนางดูเหมือนจะไม่ใช่แค่คนเดียว!
นางต้องมีสมุนอีกแน่นอน!
“มังกรแห่งความตกต่ำตัวที่สองงั้นเหรอ? ช่างเหลวไหลสิ้นดี!”
เจ้าวังโกรธจนเส้นเลือดปูดโปน สายตาเหลือบมองไปยังฮวนฮวนที่กำลังกินดื่มอย่างเอร็ดอร่อยในสวน พลางโบกมือเรียกผู้ใต้บังคับบัญชามากระซิบสั่งการ จากนั้นทั่วทั้งวังก็ถูกวางม่านพลังป้องกันนับสิบชั้น อีกทั้งยังมีองครักษ์มากมายมาประจำการด้วย
ในสวนยังถูกล้อมรอบด้วยกำลังพลหลายชั้น สายตานับร้อยคู่จ้องมองมาที่ฮวนฮวน หัวหน้าตะขาบมรกต องค์หญิงน้อยและเหล่าปลาหมัวอิน
องค์หญิงน้อยรู้สึกทันทีว่า เนื้อย่างและชานมในมือกลับไม่น่ากินอีกต่อไป ใครเล่าจะกินลงเมื่อถูกจ้องมองเช่นนี้?
“ท่านพ่อ ท่านถูกอสรพิษเก้าเศียรทำร้ายจนสมองเลอะเลือนแล้วหรือ?”
เจ้าวังแค่นเสียงอย่างเย็นชา “ข้าต้องออกไปธุระ เพื่อป้องกันไม่ให้มังกรปีศาจมาขอยืมข้าวอีก พวกเจ้าจงอยู่นิ่ง ๆ ซะ!”
“จงเฝ้าดูพวกเขาให้ดี!” เขาหันไปพูดกับเหล่าองครักษ์
หัวหน้าตะขาบมรกต “…”
หากมังกรปีศาจยังมาอีก ต่อให้ยัดคนเต็มทุกซอกทุกมุมของตำหนัก ก็ไม่อาจหยุดยั้งนางได้!
เขาย่อมรู้ดีถึงเหตุผลนี้ แต่หากมังกรปีศาจนั้นบาดเจ็บสาหัส แม้แต่เขาไม่อาจเอาชนะมันได้หรือ?
ทว่าองครักษ์นั้นยังมีประโยชน์อยู่บ้าง!
เจ้าวังเลือกที่จะลืมว่าครั้งหนึ่งมังกรปีศาจได้จับตัวฮวนฮวนไปต่อหน้าต่อตา เพราะตอนนั้นเขาไม่ได้ระวังตัวก็เท่านั้น!
ตอนนี้เขาต้องไปสืบหาความจริงจากมังกรปีศาจเสียที!
เจ้าวังวิเคราะห์เส้นทางการเคลื่อนไหวของมังกรปีศาจ โดยคาดเดาเป้าหมายถัดไปของนาง แล้วเตรียมตัวดักรอ ทว่าเขารอคอยอยู่นานถึงสามวันก็ยังไม่พบเป้าหมาย กลับได้รับข่าวว่าเมืองทางเหนือสุดถูกปล้น
เมื่อเขารีบไปถึงที่นั่น เมืองที่เขาเฝ้าอยู่ก่อนหน้าก็ถูกปล้นเช่นกัน
เจ้าวัง “???”
เจ้าพวกมังกรปีศาจกำลังเล่นตลกกับเขาอยู่หรือ?
ดีนัก! ไอ้มังกรปีศาจชั่วช้า รอข้าก่อนเถอะ!
แต่ความจริงแล้ว โม่จวินเจ๋อไม่มีเวลามาหยอกเล่นเช่นนี้หรอก จึงเหลือเพียงชิงหลงเท่านั้นที่ก่อเรื่อง
ชิงหลงกลับพบว่าการขโมยของนั้นสนุกเหลือเกิน นางหยุดไม่ได้เลย!
แล้วเจ้าวังผู้นั้นก็น่าสนใจมากทีเดียว!
เจ้าวังก็คิดว่ามังกรปีศาจน่าสนใจมากเช่นกัน ถึงขั้นที่นึกถึงนางก็กัดฟันกรอด อยากจะสับร่างนางเป็นชิ้น ๆ!
เขาต้องจับมังกรปีศาจตัวนี้ให้ได้!
หลังจากนั้นเขตแดนปีศาจจึงมีข่าวลือว่า หากเจ้าวังแห่งเมืองปีศาจไปที่ใด ที่นั่นก็จะถูกปล้นสะดม
“เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเจ้าวังแห่งเมืองปีศาจ ข้าว่าเขาต้องกำลังไล่ตามโจรผู้นั้นแน่ เพียงแต่ทุกครั้งกลับช้าไปก้าวหนึ่งเท่านั้น”
“ท่านพูดมีเหตุผล แต่หากล่าช้าไปทุกครั้ง นั่นไม่ได้หมายความว่าเจ้าวังแห่งเมืองปีศาจมีพลังอ่อนกว่าโจรผู้นั้นหรอกหรือ? แม้เผชิญหน้ากันก็คงสู้ไม่ได้…”
“ใช่แล้ว ข้าว่าเจ้าวังกำลังทำให้ตัวเองอับอายแท้ ๆ…”
…
เจ้าวังผู้ถูกกล่าวหาว่าทำให้ตัวเองอับอายมีสีหน้าแปรปรวน อยากจะตบคนที่พูดเช่นนี้ให้ตายคามือเสียจริง!
ใครว่าเขาสู้ไม่ได้!
ดังนั้น การไล่ล่าจึงดำเนินต่อไปอีกครั้ง
สถานการณ์นี้ทำให้ผู้คนในเขตแดนปีศาจนึกถึงมังกรปีศาจตัวที่สอง ที่ไล่ล่าเผ่าทิงมี่อยู่สองปี
ใช่! แล้วมังกรปีศาจสองตัวกับหัวหน้าเผ่าทิงมี่ล่ะ?
มังกรปีศาจสองตัวกำลังเล่นสนุกกับเจ้าวังแห่งเมืองปีศาจ ส่วนหัวหน้าเผ่าทิงมี่กำลังถูกโม่จวินเจ๋อบังคับให้กินชาสืบทอด
ส่วนหลิงเยว่ก็เก็บตัวบำเพ็ญอีกแล้ว
หลังจากที่พบว่า ร่างแท้ของนางสามารถเปลี่ยนพลังปีศาจเป็นพลังวิญญาณได้ นางเลยไม่ต้องประหยัดพลังวิญญาณอีกต่อไป หลิงเยว่สามารถลดเวลาในการสร้างชาสืบทอดจากหนึ่งเดือนเหลือแค่ครึ่งเดือน
ขณะที่นางกำลังจะใช้วิธีสร้างชาสืบทอดมังกรทองห้าเล็บ จู่ ๆ ก็ถูกระบบห้ามไว้ก่อน
[เจ้าลองคิดให้ดีก่อน เพราะเลือดแท้มังกรทองห้าเล็บในร้านค้านี้มีเพียงหนึ่งหยดเท่านั้น]
หลิงเยว่หยุดมือที่กำลังเรียกเพลิงพิสดาร แล้วมองดูเลือดแท้ที่ระบบกล่าวถึง ปรากฏว่าไม่มีเลือดแท้มังกรทองห้าเล็บขายในร้านค้าแล้วจริง ๆ!
ถ้าเกิดล้มเหลวขึ้นมา โม่จวินเจ๋ออาจจะติดอยู่ในร่างมังกรปีศาจตลอดไป!
เกือบไปแล้ว!
“ตอนนี้เขาเป็นมังกรปีศาจ ใช้สมุนไพรปีศาจกลั่นด้วยไม่ถูกหรือ?”
[มังกรทองห้าเล็บไม่ใช่เผ่าปีศาจ]
เมื่อระบบอธิบายเช่นนี้ หลิงเยว่ถึงได้เข้าใจ เพียงแต่ให้โม่จวินเจ๋อที่มีพลังปีศาจดื่มชาสืบทอดของเทพมังกรระดับต่ำ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสายเลือดและรูปลักษณ์ภายนอกหรือไม่?
หากเปลี่ยนแปลงจริง นั่นหมายความว่าจะสูญเสียสถานะสนมปีศาจที่สี่ไปมิใช่หรือ?
อีกทั้งหลิงเยว่ยังกลัวว่าโม่จวินเจ๋อที่เป็นมนุษย์ปกติดี ๆ จะถูกนางดัดแปลงให้กลายเป็นอมนุษย์ นั่นคงจะเป็นบาปกรรมของนางแล้ว!
ขนาดนางยังต้องทำใจอยู่นาน กว่าจะยอมรับสถานะอมนุษย์ของตัวเองได้
หลิงเยว่คิดอย่างไรก็ถามไปอย่างนั้น
ผลคือระบบได้แต่เงียบ จนหลิงเยว่คิดว่าอีกฝ่ายจะไม่ตอบ ระบบกลับเอ่ยปากขึ้น
[ไม่]
“ต้องใช้เวลานานขนาดนั้นถึงจะตอบได้หรือไง?”
หลิงเยว่รู้สึกแปลก ๆ แต่บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าแปลกตรงไหน
ระบบไม่ตอบโต้ แต่กลับเงียบหายไปอีกครั้ง จนกระทั่งหลิงเยว่ซื้อหยดเลือดสืบทอดของเผ่าตะขาบสี่ปีกมรกต ระบบจึงเอ่ยปากอีกครั้ง
[เลือดระดับสัตว์เทพขึ้นไป จำหน่ายเพียงหนึ่งหยดเท่านั้น โปรดใช้อย่างระมัดระวัง]
“!!!”
เป็นไปตามคาด หลิงเยว่เปิดหน้าสัตว์เทพ แล้วเลือดระดับสัตว์เทพที่เดิมไม่ได้ระบุจำนวน ตอนนี้กลับถูกทำเครื่องหมายเป็น 1 แล้ว
เลือดสืบทอดของเผ่าหัวหน้าตะขาบมรกตก็หมดไปแล้ว!
ก่อนหน้านี้นางไม่มีค่าพลังวิญญาณพอจะซื้อ แต่ตอนนี้รวยแล้วกลับถูกจำกัด ระบบนี่คงเป็นโรคจิตอะไรสักอย่าง!
ระบบนี้ไม่ได้เป็นโรคอะไรหรอก เพียงแต่เลือดระดับสัตว์เทพขึ้นไปนั้นหาได้ยากยิ่ง
“ดังนั้น แม้เผ่าปีศาจอสูรจะเทียบชั้นระดับสัตว์เทพ แต่อยากซื้อกี่หยดก็ได้ เพราะมันไม่มีค่าอย่างนั้นเหรอ?”
[เป็นเพราะพวกมันมีจำนวนมากต่างหาก]
“ถ้าสัตว์วิญญาณระดับสัตว์เทพมีลูกเพียงตัวเดียว งั้นเผ่าปีศาจอสูรระดับสูงคงเป็นพวกที่คลอดทีเดียวหลายสิบหรือหลายร้อยตัวสินะ?”
[ย่อมเป็นเช่นนั้น]
“…”
ถูกต้อง ดูเหมือนว่าสิ่งมีชีวิตในระดับเดียวกันอย่างเช่น มังกรอิงหลง มังกรชิงหลง กิเลนไฟ และอีกาสุริยันล้วนแต่สืบทอดสายเลือดเดียวทั้งสิ้น
……….