ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 360 นี่คือประเด็นเหรอ?
บทที่ 360 นี่คือประเด็นเหรอ?
……….
บทที่ 360 นี่คือประเด็นเหรอ?
“เจ้าถึงกับไม่สนใจเนื้อของข้าเชียว!?”
เสียงคำรามครั้งที่สองของเผู้อาวุโสกระทิงดังสนั่นจนปลาที่ว่ายผ่านมาต้องหนีกระเจิง ลูกปลาที่นอนอาบแดดกินเศษเนื้อบนเกาะก็ไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย ส่วนลูกปลาในทะเลสาบอสูรก็พากันพลิกท้องลอยขึ้นมาทีละตัว
ปุโรหิตน้อยตกใจรีบคว้าลูกปลามาตรวจดูอย่างละเอียด พวกมันยังไม่ตาย แค่สลบไปเพราะเสียงคำรามเท่านั้น
ไม่รู้ว่าหลิงเยว่พูดอะไรไปถึงทำให้เผู้อาวุโสกระทิงโกรธถึงเพียงนี้ เขาเหมือนได้ยินคำว่าเนื้อ หรือว่า…
ปุโรหิตน้อยครุ่นคิด ตอนนี้เผ่าพันธุ์ปีศาจที่อยู่รอบตัวหลิงเยว่ล้วนถูกนางหลอกให้สมัครใจเชือดเนื้อตัวเองส่งให้นางกิน ก่อนหน้านี้เขายังคิดว่านางจะพิจารณาเนื้อกระทิงเมื่อไหร่
ดูเหมือนว่าจะเป็นตอนนี้ ณ เวลานี้เลย…
บางทีหลิงเยว่อาจจะมีความคิดชั่วร้ายตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกันแล้ว แต่ตอนนั้นคงยังไม่กล้า
ต้องบอกว่าปุโรหิตน้อยคาดเดาได้ถูกต้องจริง ๆ
ปุโรหิตน้อยกำลังจะแอบฟังอยู่ริมกำแพง แต่กลับพบว่าอาจารย์ผู้เป็นที่รักและผู้นำที่เคารพของเขาได้มาก่อนแล้ว รายล้อมด้วยหัวหน้าเผ่าและผู้อาวุโสจากเผ่าอื่น ๆ กำแพงสุสานที่สร้างขึ้นเต็มไปด้วยปีศาจร้าย
ปุโรหิตน้อยเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วก็เข้าร่วมกับกลุ่มคนที่แนบตัวกับกำแพง
หลิงเยว่คิดว่าหากหลบให้ไกลหน่อย คงไม่ถูกจับได้ง่าย ๆ แต่ผลคือแม้นางจะอยู่ขอบเขตทะยานเซียนขั้นกลาง ก็ยังถูกจับได้อย่างง่ายดาย โดยที่ไม่ทันได้ตอบโต้ใด ๆ
“บอกมา เจ้ากล้าดูถูกเนื้อของข้าได้อย่างไร?”
เหล่าคนจากเก้าเผ่าที่แอบอยู่นอกกำแพงและหลิงเยว่ต่างทำสีหน้าบอกไม่ถูก
นี่คือประเด็นสำคัญหรือ?
“ท่านไม่ได้เข้าถึงวิชาคงกระพันมิใช่หรือ?” หลิงเยว่พึมพำเบา ๆ แต่คนที่ควรได้ยินก็ได้ยินกันหมด
“ใครบอกว่าข้าไม่เข้าใจพลังคงกระพัน?!”
ผู้อาวุโสกระทิงพ่นลมฮึดฮัดอย่างโกรธเคือง
หลิงเยว่จ้องหัวกระทิงของผู้อาวุโสกระทิงโดยไม่พูดอะไร ไม่จำเป็นต้องมีใครบอก หัวของเขาบอกนางแล้วว่า มีเพียงกระทิงที่แปลงร่างได้สมบูรณ์เท่านั้นที่จะเข้าใจพลังคงกระพัน
“ฮึ! สมแล้วที่หัวหน้าเผ่าคนก่อนบอกว่ามนุษย์ชอบตัดสินคนจากรูปลักษณ์ภายนอก ช่างไม่ผิดเลยจริง ๆ!”
ใบหน้าใหญ่ของผู้อาวุโสกระทิงเริ่มบิดเบี้ยว จากนั้นชายหนุ่มที่มีเส้นสายบนใบหน้าแข็งกร้าว โครงหน้าชัดเจน และดูหล่อเหลาก็ปรากฏขึ้น!
เปลี่ยนร่างได้สมบูรณ์!?
นางคิดว่าเขาเป็นคนแก่ แต่กลับกลายเป็น… กลายเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา!
ผู้อาวุโสกระทิงสะบัดผมสั้นอย่างภาคภูมิใจ แล้วเดินวนรอบหลิงเยว่อย่างหยิ่งผยอง โชว์ใบหน้าหล่อเหลาและกล้ามเนื้อของตนเอง
ดวงตาของหลิงเยว่เปลี่ยนจากเหม่อลอยไร้ชีวิตชีวาเป็นประกายวาววับ โดยเฉพาะเมื่อมองกล้ามเนื้อที่แขนทั้งสองข้างของผู้อาวุโสกระทิง เกือบจะน้ำลายไหลออกมาเพื่อแสดงความอยากได้อยากมีแล้ว!
“ท่านผู้อาวุโส ท่านช่างหล่อเหลาเหลือเกิน ในเผ่าคงมีสาวงามมาตามจีบไม่น้อยเลยกระมัง?”
“ดูกล้ามเนื้อนี่สิ หากปรากฏตัวในหมู่มนุษย์ นักบำเพ็ญเพียรสาวที่เข้าแถวรอจีบท่านจะต้องยาวตั้งแต่โลกมนุษย์ไปจนถึงเขตแดนปีศาจแน่…”
สายตาของหลิงเยว่จับจ้องไปที่กล้ามเนื้อต้นแขนของผู้อาวุโสกระทิง ปากก็พร่ำชมไม่หยุด
ผู้ที่แอบฟังอยู่ตรงมุมกำแพงถึงกับกลั้นไม่ไหว ส่วนผู้ถูกกล่าวขานถึงนั้นก็ลืมตัวไปเสียแล้ว ถึงขั้นรับมีดจากหลิงเยว่ แล้วทำท่าจะลงมือกับกล้ามเนื้อต้นแขนของตนเอง
ทว่า… ดูเหมือนมีดจะทื่อเกินไปสำหรับเผ่าพันธุ์กระทิงที่แปลงกายเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ หัวหน้าเผ่ากระทิงลงมือกรีดไปสองครั้งก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายจึงได้สติกลับคืนมา!
“อย่าหวังว่าจะหลอกเอาเนื้อของข้าไปได้!”
ว่าแล้วก็บีบมีดในมือจนแหลกเป็นผุยผง ผู้อาวุโสเผ่ากระทิงมองหลิงเยว่อย่างเย็นชา ก่อนจะหันหลังเดินจากไป!
ยิ่งอยู่ต่อ เขากลัวว่าตัวเองจะยอมเฉือนเนื้อตัวเองให้กับมนุษย์ปากหวานตรงหน้าจริง ๆ
“อย่าเพิ่งไปสิ ข้ามีของดีอย่างหนึ่งมาแลกกับท่านด้วยนะ ไม่สนใจหรือ?”
หลิงเยว่รีบวิ่งตาม ไม่ยอมปล่อยให้เนื้อที่ใกล้จะได้มาแล้วหลุดมือไป นางหยิบก้อนเนื้อขนาดเท่าเล็บออกมาอย่างเจ็บปวด ทันทีที่ก้อนเนื้อปรากฏขึ้น หัวหน้าเผ่ากระทิงก็ปรายตามองอย่างรังเกียจ ก้อนเล็กแค่นี้ เอาไปแคะฟันเหรอ นางยังกล้าเรียกว่าของดีอีก?
“นี่มันเนื้อสิงโตเก้าหางบรรพกาลนะ ท่านอย่าดูถูกว่ามันเล็กน้อย ข้าใช้สมุนไพรชั้นสูงถึงสี่สิบเอ็ดชนิด รวมกับสุดยอดสมุนไพรอีกสิบเอ็ดชนิดปรุงแต่งรสชาติมัน…”
หลิงเยว่ยื่นจานใบเล็กให้ท่านผู้อาวุโสเผ่ากระทิง พลังอันแปลกประหลาดที่อัดแน่นไปด้วยไอปีศาจและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของสมุนไพรโชยเข้าจมูก พลันกระจายไปทั่วร่างปลุกความอยากอาหารในทุกอณูให้ส่งเสียงเรียกร้องอยากลิ้มลอง!
ท่านผู้อาวุโสเผ่ากระทิงพยายามอดกลั้นพลางต่อรอง “ถ้าเจ้าหาแบบนี้มาได้เต็มจาน ข้าจะแลกกับเจ้า!”
“เต็มจานเลยรึ!”
เนื้อนี่มันราคาตั้งห้าแสนล้านต่อชั่งเชียวนะ!
เดิมทีหลิงเยว่ตั้งใจจะเก็บเนื้อชิ้นนี้ไว้ให้โม่จวินเจ๋อ ตอนแรกมีตั้งหนึ่งชั่ง แต่รสชาติมันเย้ายวนใจเกินไป นางอดใจไม่ไหวเลยหั่นกินไป สุดท้ายก็เหลือแค่ชิ้นเล็ก ๆ เท่านี้ ถ้าให้โม่จวินเจ๋อไปก็กระไรอยู่ เอาออกมาทำการค้าแบบนี้แหละดีแล้ว
“ติดไว้ก่อนได้หรือไม่ รอหัวหน้าเผ่าพวกท่านมาก่อน อยากกินเต็มกะละมังข้าก็หามาให้ได้!” หลิงเยว่เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ท่านผู้อาวุโสเผ่ากระทิงมองตามสายตาไปยังทิศทางที่นางมอง ก็พบกับสถานที่กักขังสิงโตขนเงิน
“ว่าแต่ เนื้อในจานเจ้าเอามาจากที่ใดรึ?” ท่านผู้อาวุโสเผ่ากระทิงหยิบชิ้นเนื้อขึ้นมาสัมผัส เนื้อนุ่มนิ่มราวกับว่าออกแรงบีบเพียงนิดก็แหลกคามือได้
“อย่าบอกนะว่า เอาเนื้อธรรมดา ๆ มาหลอกข้า?”
ถึงปากจะพูดอย่างเคลือบแคลงสงสัย ท่านผู้อาวุโสเผ่ากระทิงกลับปล่อยชิ้นเนื้อเข้าปากอย่างลืมตัว จากนั้นก็เคี้ยวอย่างช้า ๆ เนื้อชิ้นเล็กนุ่มนิ่มน่าสัมผัส แต่พอกัดลงไปกลับรู้สึกหนึบหนับ เคี้ยวเพลิน รสเค็มนิด ๆ ของเนื้อผสานเข้ากับรสหวานอ่อน ๆ ของสมุนไพร ทั้งสองรสชาติผสมผสานกันอย่างลงตัว…
“ท่าน… มีเลือดไหลออกจากจมูก…” โดยไม่รู้ตัว หลิงเยว่ถือถาดเปล่ารองโลหิตที่หยดลงมา นี่เป็นโลหิตของปีศาจที่แปลงกายสมบูรณ์แล้ว อย่าได้เสียเปล่าเชียว!
ทว่าผู้อาวุโสกระทิงมิได้ใส่ใจหลิงเยว่ เขากลับเงยหน้าคำรามลั่น ก่อนจะแปลงร่างเป็นกระทิงต่อหน้าทุกสายตา แล้วหายวับไป กลายเป็นลำแสงพุ่งทะยานสู่ขอบฟ้า
“ท่านยังมิได้ให้เนื้อข้า!”
หลิงเยว่ยื่นมือออกไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
“เอ่อ…” เหล่าผู้คนแนบข้างกำแพงได้แต่นิ่งงัน
“ผู้อาวุโสของเจ้า ดูเหมือนจะไปทะลวงขั้นพลังแล้วกระมัง?”
หัวหน้าเผ่าปลาเอ่ยถามกระทิงน้อยที่อยู่ข้างกาย
หัวหน้าเผ่าปลาหมัวอินจ้องมองผู้อาวุโสกระทิงที่หายไปด้วยความอิจฉา ดวงตาฉายแววเด็ดเดี่ยว ก่อนจะก้าวเท้าขวางหลิงเยว่ ผู้ซึ่งกำลังจะนำโลหิตกระทิงไปปรุงชาแปลงกาย
เมื่อได้ฟังความคิดของหัวหน้าเผ่าปลา หลิงเยว่อ้าปากค้าง ถาดในมือเกือบหลุดมือแตกเป็นเสี่ยง ๆ
“นี่คือหินวิญญาณเพลิงที่พวกข้าแลกเปลี่ยนมา น่าจะเป็นหินวิญญาณที่พวกมนุษย์ต้องการ”
ไม่เพียงแต่ต้องมอบเนื้อทั้งหมดให้กับนาง แล้วยังต้องมอบหินวิญญาณเพลิงเพิ่มให้อีกด้วย เรื่องดีเช่นนี้ หลิงเยว่ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะนางก็จำเป็นต้องเรียนรู้วิชาการรักษาทุกวันอยู่แล้ว
เพียงแต่…
“การทำเช่นนี้ย่อมมีโอกาสเสียชีวิตได้ทุกเมื่อ ท่านจะลองไตร่ตรองดูอีกครั้งหรือไม่?”
การถูกเฉือนเนื้อทั้งเป็น ยกเว้นส่วนศีรษะนั้น ความเจ็บปวดย่อมทำให้ตายได้เช่นกัน
“ข้าไตร่ตรองดีแล้ว แม้เผ่าจะไม่มีข้าก็คงไม่เกิดเรื่องอันใด”
เมื่อเผชิญหน้ากับแววตาเด็ดเดี่ยวของหัวหน้าเผ่าปลา หลิงเยว่ไม่กล้ารับปากอย่างง่ายดาย จึงเลือกที่จะกลับไปทดลองกับปลาธรรมดาก่อน
หากสุดท้ายแล้ว พวกมันสามารถมีชีวิตอยู่รอด และเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี นางจึงจะตัดสินใจลงมือกับหัวหน้าเผ่า
หากหัวหน้าเผ่าปลาหมัวอินต้องมาตายด้วยน้ำมือของนาง ไม่อยากคิดเลยว่าเผ่าปลาหมัวอินที่เหลือจะเป็นเช่นไร และตัวหลิงเยว่เองก็คงรู้สึกผิดจนตายเช่นกัน
……….
อ่านน้อยลง