ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 342 ปลุกใจ!
บทที่ 342 ปลุกใจ!
……….
บทที่ 342 ปลุกใจ!
“กลับมาแล้ว กลับมาแล้ว!”
“พี่สาวมนุษย์…”
เหล่าปลาแรกเกิดเพิ่งโผล่หัวขึ้นมาจากทะเลสาบ ก็ต้องตกใจกับฝูงนกปีศาจจระเข้ที่บดบังท้องฟ้าอยู่ไกล ๆ พวกมันตอบสนองอย่างรวดเร็วโดยว่ายน้ำลงไปในทะเลสาบลึก
ในชั่วพริบตาก็ไม่พบร่องรอยของปลาแม้แต่ตัวเดียวในทะเลสาบ
“นี่ไปยั่วโทสะฝูงนกปีศาจจระเข้มาหรือ?”
ผู้นำปลามองไปที่ฝูงนกประหลาดกลุ่มใหญ่ที่อยู่ด้านหลังหลิงเยว่ โดยไม่พูดอะไรออกมา มันก็พาเหล่านักรบปลาว่ายเข้าไป
เผ่าพันธุ์ปลาหมัวอินและเผ่าพันธุ์นกปีศาจจระเข้เป็นศัตรูกัน พวกมันจะต่อสู้กันปีละหลายครั้ง ส่วนสถานที่ต่อสู้นั้นค่อนข้างสุ่ม อาจอยู่ในดินแดนของพวกมันในทะเลสาบ หรือไม่ก็ในพื้นที่ป่า
ปีนี้ยังไม่ได้ต่อสู้กันเลย และการต่อสู้กันสักครั้งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดี พวกมันจะได้ลองดูพลังของบรรพบุรุษพอดี!
เผ่านกปีศาจจระเข้แบ่งออกเป็นสามกลุ่ม กลุ่มแรกที่แข็งแกร่งที่สุดคือนกจระเข้นักรบและปลานักรบต่อสู้กัน เสียงนกและขนนกพร้อมกับเกล็ดปลาร่วงหล่นลงสู่ทะเลสาบราวกับสายฝน
กลุ่มที่สองไม่มีทีท่าว่าจะปล่อยหลิงเยว่ไป พวกมันไล่ล่านางบนท้องฟ้า ส่วนกลุ่มที่สามพุ่งเข้าสู่ทะเลสาบราวกับฆ่าตัวตาย
เป้าหมายของพวกมันคือลูกปลา!
ปลาโตเต็มวัยบนเกาะเตรียมพร้อมรับมือกับเรื่องนี้มานานแล้ว พวกมันซุ่มซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำก่อนที่กลุ่มที่สามจะลงทะเลสาบ รอให้นกปีศาจจระเข้เข้าสู่สภาวะการต่อสู้ใต้น้ำและกลายร่างเป็นจระเข้สมบูรณ์ จากนั้นปลาโตเต็มวัยก็โอบล้อมเข้าไป
คลื่นในทะเลสาบอสูรปั่นป่วน การต่อสู้บนผิวน้ำยิ่งดุเดือด
ส่วนหลิงเยว่ได้สัมผัสความตื่นเต้นของการบินบนท้องฟ้าวินาทีหนึ่ง แล้วดำลงใต้น้ำว่ายหนีอย่างรวดเร็วในอีกวินาที ก่อนจะพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอีกครั้ง!
ใช่แล้ว ช่างน่าตื่นเต้นและน่าจดจำยิ่งนัก!
“เหตุใดพวกมันจึงไล่ล่าพวกเราไม่หยุด?” นางถาม
ข้าได้มอบผลปีศาจให้พวกมันไปหลายสิบกระสอบแล้ว!
หรือว่า… พวกมันคิดว่ายังน้อยเกินไป ต้องการมากกว่านี้จึงยกพวกมาไล่ล่าพวกเรา?
หลิงเยว่คาดการณ์ไว้ไม่ผิด พวกมันคงต้องการผลปีศาจมากกว่านี้ จึงได้ไล่ตามข้ามาไม่ลดละ! สิ่งที่นกปีศาจจระเข้โปรดปรานอันดับแรกคือผลปีศาจ ส่วนอย่างที่สองก็คือพวกเผ่าปลาหมัวอินนั่นเอง
ส่วนเผ่าปลาหมัวอิน สิ่งที่พวกมันชอบที่สุดก็คือตัวเอง อย่างที่สองจึงจะเป็นไข่นกปีศาจจระเข้!
หลิงเยว่ครุ่นคิดได้ไม่นาน นกจระเข้ตัวหนึ่งก็พุ่งโฉบลงมาจากด้านข้าง อ้าปากยาวคล้ายจระเข้ออก เรียกเจ้าดอกไม้สีดำออกมาอย่างใจเย็น
เจ้าดอกไม้สีดำรวมร่างเป็นแส้ปราบมาร ส่งเสียงขู่ฟ่อ ร่างกายของมันใหญ่โตและยาวกว่านกปีศาจจระเข้เสียอีก อีกทั้งยังอ้าปากกว้างกลืนกินนกปีศาจจระเข้เข้าไปทั้งตัว!
ณ ใจกลางทะเลสาบปีศาจ เถาไม้สีม่วงแดงขนาดมหึมาตระหง่านขึ้นไปบนท้องฟ้า แตกหน่อออกเป็นเถาวัลย์นับไม่ถ้วน ฟาดใส่พวกนกปีศาจจระเข้ แม้แต่ตัวที่แปลงร่างเป็นจระเข้อยู่ในทะเลสาบก็ยังถูกตวัดขึ้นมา
ข้าหลิงเยว่ไม่ได้สั่งให้ฆ่าพวกมันจนหมดสิ้น เพราะท้ายที่สุดแล้ว พวกมันล้วนเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศ หากตายไป รสชาติย่อมไม่อร่อยเท่าตอนมีชีวิตเป็นแน่!
“เจ้าดอกไม้ดำ ห้ามกินพวกมันนะ!”
หากกินต่อไปอีก พวกนกปีศาจจระเข้จะต้องคลุ้มคลั่ง ไม่ยอมเจรจาด้วยดีหรือแลกเปลี่ยนไข่นกเป็นแน่ พวกมันอาจจะรุมฆ่านางตั้งแต่สัมผัสได้ถึงกลิ่นของนางด้วยซ้ำ
เรื่องแบบนั้นมันยุ่งยากเกินไป!
เจ้าดอกไม้สีดำที่ได้รับโอกาสออกมาสูดอากาศ พลันหยุดเคี้ยวชั่วครู่ แล้วคายนกปีศาจจระเข้ที่อยู่ในปากออกมา จากนั้นก็เริ่มคลุ้มคลั่ง ไล่ตามนกปีศาจจระเข้พลางฟาดฟันอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการที่โหดร้ายทารุณยิ่งนัก
เผ่าปลาหมัวอินมีหลิงเยว่และเจ้าดอกไม้สีดำเข้าร่วม ทำให้สถานการณ์การรบกลายเป็นที่กระจ่างชัด เผ่านกปีศาจจระเข้ตกเป็นรองอย่างรวดเร็ว
“ทำไมเผ่าของพวกเจ้าถึงกับร่วมมือกับมนุษย์!”
หัวหน้าเผ่านกปีศาจจระเข้ที่มาทีหลังรับร่างของสหายที่ถูกปลาผู้นำตบมา สายตาเปลี่ยนเป็นดุร้ายมากกว่าเดินหลายเท่า
ปลาผู้นำไม่ตอบ ทั้งยังไม่ให้โอกาสหัวหน้าเผ่านกปีศาจจระเข้พูดประโยคที่สอง มันแปลงร่างเป็นนักรบเต็มตัวแล้วพุ่งเข้าไปทันที
ก่อนหน้านี้พวกมันต่อสู้กันอย่างสูสี แต่ครั้งนี้มันมีบรรพบุรุษมาสิงร่างแล้ว มันต้องทำให้หัวหน้าเผ่านกปีศาจจระเข้บาดเจ็บสาหัสให้ได้!
หัวหน้าเผ่านกปีศาจจระเข้ที่ถูกบังคับให้ต่อสู้ เพิ่งจะปะทะกับปลาผู้นำก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ พลังของมันไม่เพียงเปลี่ยนไป แม้แต่วิธีการต่อสู้ก็ทำให้มันรู้สึกไม่คุ้นเคย!
สิ่งนี้ทำให้หัวหน้าเผ่านกปีศาจจระเข้ต้องระวังตัว ตัวที่อยู่ตรงหน้านี้ได้รับผลประโยชน์อะไรจากมนุษย์หรือไม่ พลังการต่อสู้จึงเปลี่ยนแปลงมากมายถึงเพียงนี้?
กลางทะเลสาบ พวกเผ่านกปีศาจจระเข้ถูกเถาวัลย์ และปลาหมัวอินควบคุมเอาไว้
ส่วนการต่อสู้เหนือทะเลสาบยังคงดำเนินต่อไป แต่หลิงเยว่เชื่อมั่นว่า อีกไม่นานเหล่าปลานักรบจะจัดการพวกมันได้อย่างราบคาบ เมื่อถึงเวลานั้น พวกมันคงได้สติและยอมเจรจากับนางอย่างสงบเสียที
ในทะเลสาบมีทั้งปลาและจระเข้ที่นอนหงายท้องตายอยู่มากมาย หลิงเยว่แม้จะรู้สึกผิด แต่การสูญเสียในสงครามเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ นางทำได้เพียงแข็งใจเก็บรวบรวมร่างของพวกมัน
นางจะไม่ยอมให้พวกมันต้องตายอย่างไร้ค่า!
ดอกไม้สีดำที่เผลอได้ยินความคิดของหลิงเยว่ก็หรี่ตาลงอย่างเหยียดหยัน ก่อนจะกลับเข้าไปในตันเถียนของนาง
นางหมายความว่าอย่างไร?
แม้จะถูกเยาะเย้ยถากถาง แต่หลิงเยว่ยังคงรวบรวมวัตถุดิบต่อไป โดยมีเถาวัลย์ที่ยื่นกิ่งก้านออกไปช่วยปกป้องลูกปลาตัวน้อยที่กำลังช่วยกันขนย้ายซากศพเป็นฝูง ๆ
“พี่สาวมนุษย์ พวกเรากำลังจะมีของอร่อย ๆ กินอีกแล้วใช่ไหม!”
“แน่นอนสิ พี่สาวมนุษย์เก่งขนาดนี้ น่าเสียดายที่นางมีเพียงคนเดียว ทำของอร่อยไม่พอแบ่งกัน…”
“ใช่ ถ้ามีมนุษย์มาช่วยอีกสักคนก็คงจะดี”
หลิงเยว่มองดูเหล่าลูกปลาด้วยแววตาประหลาดใจ พวกเจ้าตัวน้อยช่างกล้าพูดนัก ไม่อย่างนั้นก็ดูสิว่าเผ่าพันธุ์ที่กำลังขนย้ายอยู่นั้นเป็นเผ่าพันธุ์ใด นั่นคือบรรพบุรุษของพวกเจ้าเชียวนะ!
พวกเจ้ายังกล้าพูดคุยถึงเรื่องกินบรรพบุรุษของตัวเองอีกหรือ?
เหล่าลูกปลามิได้เข้าใจแววตาของหลิงเยว่ พวกมันคุ้นเคยกับการตายของบรรพบุรุษอยู่แล้ว ไม่ว่าจะร้องไห้หรือโวยวายอย่างไร พวกมันก็ไม่อาจรอดชีวิตไปได้ อย่าว่าแต่พูดความในใจออกมาเลย
“พี่สาวมนุษย์ เจ้าไม่มีญาติพี่น้องบ้างหรือ?”
“ถ้ามีก็ให้พวกเขามาทำให้พวกข้ากินหน่อยสิ นับตั้งแต่ได้กินขนมอะไรนั่น พวกข้าก็กินหญ้าหมัวอินไม่ลงอีกเลย ทั้งที่แต่ก่อนชอบนักหนา”
หลิงเยว่ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วอยู่ข้างหู นางเพียงแต่เลือกที่จะตอบคำถามเป็นบางข้อ แล้วก็หันไปมองไกล ๆ
เกิดอะไรขึ้นกับโม่จวินเจ๋อหรือเไม่ ผู้นำเผ่าพันธุ์ปลาหมัวอินกับมหาปุโรหิตก็กลับมาได้เจ็ดวันแล้ว เหตุใดเขายังไม่กลับมาอีก?
หลิงเยว่ใช้โลหิตตามหาโม่จวินเจ๋ออยู่นานก็ไม่ได้รับการตอบสนอง จนกระทั่งวัตถุดิบทั้งหมดถูกขนขึ้นฝั่ง โลหิตที่อยู่บนตัวโม่จวินเจ๋อจึงได้ส่งเสียงตอบรับกลับมา
เมื่อคำนวณจากเวลาแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในป่า?
โม่จวินเจ๋อนั้นมิได้อยู่ในป่า แต่กำลังถูกล่าสังหารโดยเผ่าปีศาจรูปร่างประหลาดพิสดาร!
ในตอนแรก เขาใช้แหวนปลอมตัวแปลงกายเป็นเผ่านกปีศาจจระเข้ บินเข้าไปในป่าได้อย่างราบรื่น แต่เหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้นเพราะมิคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ บังเอิญบินเข้าไปในดินแดนของเผาวัวช้างปีศาจ แล้วยังเผลอเหยียบศีรษะของลูกวัวช้างเข้าอย่างจัง
เรื่องนี้มิอาจปล่อยไปได้ พวกวัวช้างปีศาจคิดว่าโม่จวินเจ๋อจะมาขโมยเด็กน้อย จึงส่งเสียงคำรามกึกก้อง ฝูงยักษ์ใหญ่ที่มีศีรษะเป็นช้างแต่ร่างกายเป็นวัวก็ปรากฏกายออกมา
เหล่ายักษ์ใหญ่ยังพาพวกยุงกับผึ้งมาด้วย พวกมันร่วมแรงร่วมใจกันแบกวัวช้างปีศาจ ไล่ตามเขามาอย่างรวดเร็ว
ครั้งแรกที่ได้พบเห็นการรวมกลุ่มเช่นนี้ โม่จวินเจ๋อถึงกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงรีบขยับปีกบินหนีสุดชีวิต
แม้จะแบกภูเขาอยู่บนหลัง แต่ความเร็วนั้นมิได้ช้าลงเลยแม้แต่น้อย งวงที่ยาวอยู่แล้วยิ่งยืดออกไปอีก มันพยายามม้วนพันร่างของโม่จวินเจ๋อ โชคยังดีที่โม่จวินเจ๋อว่องไว หลบหลีกได้อย่างคล่องแคล่ว จึงรอดพ้นจากการถูกพันจนสิ้นชีพไปได้อย่างหวุดหวิด
โม่จวินเจ๋อพยายามหลายครั้งที่จะปลดปล่อยร่างจากการแปลงกาย แต่น่าเสียดายที่ทุกครั้งล้วนล้มเหลว จึงทำได้เพียงลากร่างที่อ่อนล้าและมีร่องรอยบาดแผล บินหนีเอาชีวิตรอดต่อไป