ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 179 โลกนี้ช่างโหดร้ายนัก
บทที่ 179 โลกนี้ช่างโหดร้ายนัก
บทที่ 179 โลกนี้ช่างโหดร้ายนัก
ด้วยเหตุนี้เหล่าศิษย์ที่ย่างเนื้อกว่าครึ่งเดือนจึงวางเตาย่าง แล้วหันมาศึกษาตำราการหมักสุราหลากหลายชนิด
พวกเขาเรียนรู้หลักเกี่ยวกับการทำสุราสมุนไพรวิญญาณพิเศษและสุราผลไม้วิญญาณพิเศษ
ไหหมักนานาชนิดถูกวางเรียงรายบนพื้นหญ้าด้านหน้าชั้นเรียนพิเศษ เพียงได้กลิ่นหอมโชยมาก็รู้สึกอยากจะลอยละล่องไปเสียให้ได้ ไม่รู้ว่าหากได้ลิ้มรสแล้วนั้นจะแสนวิเศษปานใด
ฮวนฮวนน้อยอุ้มไหสุราผลไม้วิญญาณพิเศษที่ตัวเองหมัก แก้มของนางแดงก่ำ มุมปากคล้ายมีของเหลวใสไหลออกมา นางลอบมองไปโดยรอบ พบว่าพี่ชายและพี่สาวต่างหมักสุรากันอย่างตั้งใจ ส่วนอาจารย์หลิงกำลังหันหลังให้ตนอยู่
เด็กน้อยแอบเปิดไหเหล้าหมักผลไม้ออก กลิ่นหอมของสุรายิ่งโชยเข้าจมูกจนเกือบจะทำให้ฮวนฮวนเมาเสียแล้ว นางส่ายศีรษะอย่างแรงเพื่อเรียกสติของตน จากนั้นจึงปีนขึ้นเก้าอี้ตัวเล็ก แล้วค่อย ๆ รินของเหลวสีแดงลงในจอกสุรา
สายตาของฮวนฮวนเป็นประกาย พลันแลบลิ้นชิมสุราหมักทันที รสชาติหวานเล็กน้อย แฝงไว้ด้วยกลิ่นผลไม้หอมกรุ่น แล้วแปรเปลี่ยนเป็นพลังปราณซึมซาบเข้าสู่ร่างกาย ทำให้เด็กน้อยรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันใด ช่างวิเศษเสียจริง!
ฮวนฮวนน้อยยกจอกสุราขึ้น แล้วทำท่าจะดื่มรวดเดียวเหมือนผู้ใหญ่ นางเงยหน้าขึ้นแล้วเอียงจอกสุรา… ทว่าสุราผลไม้สีแดงกลับไหลหกออกจากจอก ฮวนฮวนได้แต่กะพริบตามองไปยังสุราของตนที่ไหลลงสู่จอกสุราของอาจารย์หลิงแทน
“อยากชิมหรือ?” หลิงเยว่ยิ้มแล้วส่งสุราผลไม้ไปที่ปากของตะขาบมรกตตัวข้าง ๆ เมื่อดื่มสุราเข้าไป ตัวของมันพลันกลายเป็นสีแดง จากนั้นสีก็ค่อย ๆ จางลงแล้วกลับคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้ง
ตะขาบมรกตพลันกระโดดโลดเต้นกลางอากาศอย่างมีความสุข
“ท่านอาจารย์หลิง…” ฮวนฮวนน้อยใจยิ่งนัก ไม่ได้ตำหนิอาจารย์ที่ใช้แรงงานเด็กเยี่ยงทาสโดยไม่จ่ายค่าแรง นางแค่อยากดื่มสุราผลไม้ที่ตนหมักเองเท่านั้น!
ยิ่งคิดก็น้อยใจ ฮวนฮวนน้อยผู้ขี้แยตัดสินใจว่า คืนนี้จะต้องขโมยสุราหมักสักไหกลับไปดื่มให้หนำใจ แล้วจะจัดอาหารเครื่องเคียงอีกมากมายด้วย!
“เด็ก ๆ ควรดื่มชานมและน้ำผลไม้ก็พอแล้ว” หลิงเยว่หยิบแก้วใบใหญ่หลายใบหลากสีสัน ที่มีทั้งกลิ่นหอมของผลไม้และนม ก่อนจะจัดวางขนมหวานเลิศรสอีกหลายจาน
มีจานหนึ่งวางขนมรูปสัตว์ไว้ล่อใจ ทำให้ฮวนฮวนอดกลืนน้ำลายไม่ไหว
“ข้าจะให้สิ่งเหล่านี้แก่เจ้า แต่ต้องแลกด้วยการมอบสุราที่เจ้าหมักไว้ทั้งหมดให้ข้า”
ฮวนฮวนมองไปที่ขนมหน้าตาสวยงามพวกนั้นแล้วรู้สึกอยากกินขึ้นมา จากนั้นก็ก้มมองไหสุราที่อยู่ในอ้อมแขนของตนเองอย่างลังเล
นางวางแผนไว้แล้วว่าจะดื่มสุราที่ตัวเองหมักในคืนนี้ ทั้งยังจะกินอาหารแกล้มสุราอีกมากมาย แต่ขนมที่อยู่ตรงหน้านี้ก็ดูสวยงามและหอมกรุ่น นางก็อยากกินเช่นกัน
ในที่สุดฮวนฮวนจึงมอบสุราที่นางหมักไว้ทั้งหมดให้หลิงเยว่ไป แน่นอนว่าเด็กน้อยไม่ได้โง่ นางแอบซ่อนไหเล็ก ๆ ใบหนึ่งไว้ โดยที่พี่ชายของนางยังไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำว่ามันถูกซ่อนไว้ใต้พื้นห้องของนางเอง!
“อืม…”
ในเวลานั้น ท่านผู้หญิงเซี่ยเพิ่งจะเอาชุดกระโปรงใหม่ที่นางทำเสร็จไว้หลายตัวเข้าไปเก็บในตู้เสื้อผ้าของลูกสาว เตรียมไว้เป็นของขวัญให้ลูกสาวคนเล็กเมื่อนางกลับมา เมื่อปิดตู้เสื้อผ้าและเตรียมจะออกไป กลับรู้สึกแปลก ๆ กับพื้นแผ่นไม้ที่เหยียบอยู่
ด้วยความอยากรู้อยากเห็นท่านผู้หญิงเซี่ยจึงได้งัดแผ่นไม้ออก สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาคือกาน้ำชาที่คุ้นเคย ปากของกาน้ำชายังห่อด้วยผ้าเช็ดหน้าอีกด้วย เห็นได้ชัดว่าคนที่ขโมยกาน้ำชาอันเป็นสมบัติของสามีไปก็คือลูกสาวคนสุดท้องอันเป็นที่รักของนาง…
ทว่าเมื่อเปิดฝาออก กลิ่นสุราหมักหอมฟุ้งเต็มไปด้วยกลิ่นผลไม้อันหอมหวาน ทั้งสีสันของสุรายังเป็นสีชมพูฟ้าดูแปลกตา ชวนให้ลิ้มลองยิ่งนัก!
ดูเหมือนนี่คือสิ่งที่ฮวนฮวนพูดถึง เป็นวิชาใหม่ที่นางได้เรียนมา หึ! เด็กน้อยกล้าซ่อนสุราเอาไว้อย่างนั้นหรือ? ยึดเสียเลย!
ท่านผู้หญิงเซี่ยถือกาน้ำชาออกไปตามปกติ แต่ก่อนจะเดินไปนางยังไม่ลืมที่จะซ่อมแซมพื้นไม้ให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมด้วย
เมื่อท่านพ่อเซี่ยได้เห็นกาน้ำชาอันเป็นที่รัก ก็จ้องมองไปที่ภรรยาด้วยสายตาเหมือนคนกำลังดูขโมย ก่อนหน้านี้ถามว่าซ่อนไว้หรือไม่ นางยังเถียงกลับ แต่คราวนี้จะเถียงอย่างไรได้?
ท่านผู้หญิงเซี่ยเหลือบตามองสามีของนาง ก่อนจะรินสุราใส่จอกให้ตนเอง แล้วแกว่งจอกเล็กน้อยพร้อมกับดมกลิ่นหอม ๆ ด้วยความพึงพอใจ นางจิบไปเพียงนิดก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นผลไม้และกลิ่นสุราที่เข้มข้น ทั้งยังมีกลิ่นจากธรรมชาติเจืออยู่ด้วย เมื่อดื่มหมดในคราวเดียวพลังปราณพลันเต็มเปี่ยมไปทั่วร่าง กลิ่นหอมยังคงติดอยู่ที่ปากชวนให้นึกถึง
แค่จอกเดียวยังไม่หนำใจ ท่านผู้หญิงเซี่ยจึงรินให้ตัวเองอีกจอก โดยไม่สนใจสามีที่อ้าปากค้างมองนางอยู่ฝั่งตรงข้ามแม้แต่น้อย
อีกด้านหนึ่ง ฮวนฮวนกำลังตั้งตารอเวลาเลิกเรียนที่จะได้กินเนื้อย่างพร้อมดื่มสุราอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อได้ยินเสียงหลิงเยว่ประกาศเลิกเรียน นางจึงร้องเสียงดังด้วยความยินดี แล้วรีบวิ่งออกไปโดยไม่สนใจแม้กระทั่งพี่ชายของตนเอง
เซี่ยซิ่นรุ่ยรู้สึกว่าวันนี้น้องสาวนั้นมีท่าทีแปลกไป
หลิงเยว่ก็รู้สึกได้เช่นกันว่าฮวนฮวนนั้นแปลกเกินไป นางจึงบอกกับเซี่ยซิ่นรุ่นว่า “เมื่อกลับไปแล้ว เจ้าดูฮวนฮวนให้ดี ข้ารู้สึกได้ว่านางยังมีสุราอยู่ในมือ”
สุราผลไม้วิญญาณพิเศษ เด็กน้อยอย่างฮวนฮวนที่อยู่ในวัยฝึกควบคุมลมปราณสามารถดื่มได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สิ่งที่น่ากลัวคือเด็ก ๆ มักจะไม่สามารถควบคุมตนเองและอาจจะเผลอดื่มมากเกินไป หากไม่มีการช่วยเหลือในการกระจายพลังวิญญาณให้ทันท่วงที เกรงว่าจะระเบิดตายได้
ตอนแรกหลิงเยว่ไม่ยอมให้ฮวนฮวนเข้าเรียนการหมักสุรา แต่ไม่อาจต้านทานเด็กหญิงผู้น่ารักที่ขอร้องอ้อนวอนนางได้ และด้วยพี่ชายแท้ ๆ ของนางคอยวิ่งวอนขอให้อีก นางจึงยอมตกลงสอนการหมักสุราผลไม้ให้ฮวนฮวน
เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว หลิงเยว่ก็ยังไม่สบายใจ นางจึงตัดสินใจเดินทางไปที่จวนตระกูลเซี่ย
หลิงเยว่และเซี่ยซิ่นรุ่ยเดินตามรถสัตว์ของตระกูลเซี่ยอย่างลับ ๆ
“อาจารย์หลิง ฮวนฮวนไม่เคยโกหก ข้าแอบดูถุงเก็บของของนางแล้ว ไม่มีสุราจริง ๆ”
ทว่าในถุงเก็บของนั้นกลับมีอาหารมากมาย ช่างน่าอิจฉาเสียจริง อาจารย์หลิงลำเอียงเกินไปแล้ว!
เมื่อฮวนฮวนกลับมาถึงจวน ก็วิ่งตรงเข้าห้องไปทันที นางหยิบมีดสั้นออกมางัดพื้นไม้อย่างชำนาญ
นางพยายามอย่างหนัก กัดฟันออกแรงงัด ก่อนจะเกิดเสียงดังโครม! มีดสั้นในมือพลันหลุดไป เด็กน้อยล้มคะมำก้นจ้ำเบ้าไปกับพื้น
หลิงเยว่และเซี่ยซิ่นรุ่ยที่แอบดูอยู่ข้างนอกกลั้นเสียงหัวเราะไว้อย่างสุดความสามารถ
ฮวนฮวนรีบลุกขึ้นจากพื้น พลางปัดก้นที่กระแทกพื้น ทั้งรู้สึกเจ็บและไม่พอใจอย่างมาก ฮวนฮวนมองพื้นไม้ด้วยความสับสน นางไม่ได้ซ่อนไว้ตรงนี้หรือ?
ทั้งสองคนที่อยู่ข้างนอกจึงมองเด็กน้อยงัดพื้นไม้ในห้องทีละแผ่น
“พวกเจ้ากำลังดูอะไร?”
เสียงแผ่วเบาดังขึ้นจากด้านหลังของหลิงเยว่และเซี่ยซิ่นรุ่ย ชายหญิงทั้งสองเหลียวหลังกลับมาอย่างพร้อมเพรียง แล้วพบกับหญิงงามผู้หนึ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด พวงแก้มของนางแดงระเรื่อ
“ท่านแม่… ท่านดื่มสุราอย่างนั้นหรือ?”
“ฮูหยินเซี่ย” หลิงเยว่ยิ้ม นางก้าวถอยหลังแล้วคำนับ “ข้าชื่อหลิงเยว่ ขออภัยที่มาเยี่ยมถึงจวนโดยไม่ได้ขออนุญาตเสียก่อน”
ท่านผู้หญิงเซี่ยรีบรั้งไหล่หลิงเยว่เอาไว้ แล้วมองนางตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า นางอุทานอย่างซาบซึ้ง “วัยเพียงสิบแปดปีเองหรือ? หนุ่มสาวสมัยนี้ช่างเก่งกาจจริง!”
“ฮูหยินเซี่ยชมเกินไปแล้ว”
“ท่านแม่! ท่านเอาผลไม้ที่ข้าเก็บไว้ไปซ่อนที่ใด…”
ฮวนฮวนน้อยที่ได้ยินเสียงจากนอกหน้าต่าง นางโกรธมากแล้วรีบวิ่งออกจากห้อง เพื่อจะไปถามมารดาของตนเอง ทว่าพูดยังไม่ทันจบ เด็กน้อยก็สบตาเข้ากับหลิงเยว่ที่ส่งยิ้มหวานมาให้ นางถึงกับผงะถอยหลังไปทันที
“อาจารย์หลิง ท่านมาได้อย่างไร!” ฮวนฮวนน้อยไหวพริบดีจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง
“น้องสาว เมื่อครู่เจ้าพูดว่าผลไม้เก็บไว้ที่ใดรึ? หรือว่าจะเป็นสุราผลไม้?”
เด็กน้อยรีบส่ายหัวปฏิเสธ นางรู้ดีว่าหากรับสารภาพ ท่านอาจารย์หลิงคงไม่พานางไปเรียนวิชาหมักสุราอีกแล้วเป็นแน่
“ฮวนฮวน การโกหกไม่ใช่นิสัยของเด็กดี” ท่านผู้หญิงเซี่ยก้มลงจิ้มแก้มอ้วน ๆ ของลูกสาว “แต่ว่าโทษของเจ้า แม่จัดการให้หมดแล้ว เจ้าสบายใจได้”
ฮวนฮวนน้อยผู้เยาว์วัย เพิ่งเคยสัมผัสความโหดร้ายของโลกเป็นครั้งแรก