ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 848 ข้าขอปฏิเสธ!
ตอนที่ 848 ข้าขอปฏิเสธ!
รถแล่นมาจอดหน้าร้านหนังสือ โจวเจ๋อลงรถ ทนายอันตามเดินหลังมาเหมือนภรรยาตัวน้อยที่ทำผิดมา
เถ้าแก่โจวแอบโมโหจริงๆ แต่เพื่อระบายความโกรธให้ภรรยาใต้บังคับบัญชาของเขานั้นก็ไม่มีปัญหา เป็นถึงลูกพี่ถ้าเรื่องแค่นี้ยังไม่ช่วยก็ยังไงๆ อยู่ ใจคนรับใช้พากันแตกสลายกันพอดี
แต่เพื่อระบายความโกรธให้ ไอดอลในจินตนาการของลูกน้องตัวเอง เขาโจวเจ๋อมีป้ายกำกับว่า ‘ฉันว่างมาก’ เขียนอยู่ทั่วใบหน้าของเขาหรืออย่างไร
อืม สำหรับคำถามนี้ ไม่ต้องตอบ
“เถ้าแก่ กลับมาแล้วหรือ” อิงอิงดูเหมือนกำลังดูหนังอยู่และเมื่อเห็นโจวเจ๋อกลับมาก็ถอดหูฟังตัวเองออก
“เถ้าแก่ให้ข้าไปเตรียมน้ำไหมเจ้าคะ” ปกติแล้ว ทุกครั้งที่เถ้าแก่ของนางกลับมาจากข้างนอกก็จะอาบน้ำเสมอ
“ยังไม่ต้อง” โจวเจ๋อโบกมือและเดินตรงไปสวนผักข้างบ้าน ตอนนี้เขามีเรื่องสำคัญยิ่งกว่าต้องทำ
ทนายอันรู้ว่าเถ้าแก่ของเขากำลังจะทำอะไรจึงรีบตามไปด้วยทันที
เมื่อเปิดประตูสวนผัก โจวเจ๋อก็เห็นหุ่นเชิดหลายสิบตัวกำลังพรวนดินและใส่ปุ๋ยในพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กๆ ถังน้ำ พลั่วและอุปกรณ์เครื่องใช้อื่นๆ โบกไปสะบัดมา วุ่นวายเต็มไปหมด ปุ๋ยขี้กระเด็นกระดอนลอยว่อน…
สาวน้อยผิวเข้มย่อตัวนั่งลงดูอยู่ข้างๆ สีหน้าหดหู่เหลือเกิน สำหรับคนที่จงรักภักดีต่อผืนดินอย่างทะนุถนอม ยิ่งมองดูกลุ่มคนที่กำลังยุ่งวุ่นวายกับแปลกผักของตัวเอง มันให้ความรู้สึกเหมือนสามีของตัวเองกำลังถูกผู้หญิงหลายคนผลัดกันรุมทึ้งจริงๆ
หยาม
หยามกันนี่นา!
แต่นางก็ไม่กล้าพูดอะไร แม้ว่าโจวเจ๋อเพิ่งจะปลดผนึกพันธนาการของนางออก แต่นางก็ไม่ได้ตีตนเป็นเจ้าของร้านหนังสือเลย
ในเมื่อแม่นางสวี่อยากจะฝึกหุ่นเชิดที่นี่ นางก็ไม่อาจไปคัดค้าน
ทันทีที่โจวเจ๋อเปิดประตูเข้ามา พลั่วบินกระแทกหัวต้อนรับทันที เถ้าแก่โจวเจ๋อตอบสนองอย่างรวดเร็วและหลบไปด้านข้าง
‘ปั๊ก!’
“ซี๊ด…”
ทนายอันด้านหลังไม่ทัน เข้าที่หัวเต็มๆ ทรุดตัวลงนั่งด้วยความเจ็บปวดทันที
หุ่นเชิดในแปลงผักหยุดพร้อมกันราวกับกำลังเล่นเกม หนึ่ง สอง สาม แข็งทื่อ!
“จะบ้าตาย กลับถึงบ้านยังต้องมาระวังโดนแอบลอบโจมตีอีก” ทนายอันตะโกนด้วยความไม่พอใจมาก จากนั้นยื่นขึ้นและลูบหน้าผากป้อยๆ โชคดีที่ ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แค่ฟกช้ำ
“กลับแล้วเหรอครับ” สวี่ชิงหล่างทักทายและขยับนิ้วไปพร้อมๆ กัน
เกิงเฉินยังถูกมัดติดกับดอกแก้วมังกรเหมือนเดิม บนหน้าอกยังมีรูแผลเลือดไหลซิบอีกต่างหาก สวี่ชิงหล่างน่าจะเพิ่งใส่อะไรบางอย่างเข้าไป เพื่อรักษาสภาพอ่อนแอของเขาไว้
เขาไม่ได้มีท่าทีโกรธอะไร ก็จริง เขาเข้าใจได้ ผู้ดีมีธรรมก็ดีตรงจุดนี้ มักจะมองในจุดยืนของคนอื่นแล้วคำนึงถึงผู้อื่นอยู่เสมอ
นี่มันทำให้เถ้าแก่โจวเกิดความรู้สึกผิดต่อการกระทำของตัวเองที่กักขังเขาเอาไว้ไม่น้อย!
คนดีขนาดนี้ ข้าราชการซื่อสัตย์ขนาดนี้ ตัวเองทำอย่างนี้กับเขาได้อย่างไร!
“หิวหรือยัง” สวี่ชิงหล่างถาม
“หิวแล้ว”
“งั้นผมไป…” ขณะที่พูด สวี่ชิงหล่างก็ยิ้มแย้ม ช่วงเวลานี้เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
จะเห็นได้ว่าวันนี้เหล่าสวี่อารมณ์ดี เขาชอบวิชาหุ่นเชิดนี้มาก เขามีความสุขมากจริงๆ ที่มีเกิงเฉินสอนอยู่ข้างๆ
“ได้” ไอรีนโนเวล@นักอ่าน เนื่องจากจบเล่ม 1 อาจมีต่อหรือไม่มีก็ไม่ทราบได้
สวี่ชิงหล่างมองโจวเจ๋อสลับกับมองเกิงเฉิน ไม่ได้พูดอะไรแค่พยักหน้าและออกไปด้านล่าง
สาวน้อยผิวเข้มรีบย้ายม้านั่งมาวางข้างหน้าโจวเจ๋อทันที
“เถ้าแก่ เชิญนั่ง”
ความเอาใจใส่นี้เปรียบเสมือนลูกสะใภ้พบปะพ่อตา
โจวเจ๋อกวาดมองและพบว่าเดดพูลห้อยต่องแต่งลงมาจากเพดานพร้อมกับมีเถาวัลย์พันอยู่รอบตัวของเขา
“ก่อนหน้านี้ดูดซับสารอาหารของแม่ธรณี ตอนนี้ดูดซับแก่นแท้ของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เหรอ”
“ไม่ใช่ๆ แช่อยู่ในดินเป็นเวลานานแล้ว ปล่อยให้เขาออกมารับอากาศบ้าง” สาวน้อยผิวเข้มอธิบาย
“เอาเถอะ พวกคุณหนุ่มสาวชอบเล่นท่ายากกันอยู่แล้ว”
โจวเจ๋อนั่งลงบนม้านั่งแล้วเงยหน้าขึ้นมองดอกแก้วมังกร เพียงแต่ม้านั่งมันเตี้ยเกินและดอกแก้วมังกรก็สูงจนเกินไป นั่งแล้วเงยหน้ามองเกิงเฉินจนรู้สึกปวดเมื่อที่คอมาก
สาวน้อยผิวเข้มรีบเอื้อมมือไปทำท่าทางใส่ชายหนุ่มที่ห้อยหัวอยู่เหนือตัวเองด้านหลังพร้อมกับต่อว่าในใจ
เจ้าหมอนี่ไม่มีไหวพริบเอาเสียเลย!
ทนายอันที่อยู่ข้างๆ สังเกตเห็นท่าทางเล็กๆ น้อยๆ นี้จึงหัวเราะเบาๆ ความรู้สึกนี้ช่างคล้ายกับลูกๆ รีบไปแสดงความกตัญญูต่อพ่อก่อนที่จะเสียชีวิตเพื่อแย่งชิงพินัยกรรม
ดอกแก้วมังกรเริ่มลดระดับ กิ่งก้านของมันงองุ้มคล้ายกับกำลังคุกเข่าต่อหน้าโจวเจ๋อจนเกิงเฉินถูกวางไว้ตรงหน้าโจวเจ๋อ
“เมื่อครู่พวกเจ้าออกไปงั้นหรือ” เกิงเฉินถามทนายอัน
เขาก็ยังค่อนข้างคุ้นเคยกับทนายอันอยู่ดี บอกตามตรงว่าเขาเองก็แอบกลัวโจวเจ๋ออยู่จริงๆ
ฉากที่เขาก้าวไปข้างหน้าอย่างแกร่งกล้าคว้าเอาต้นกำเนิดหาวจื้อในร่างของตัวเองออกมาและกลืนมันไปต่อหน้าต่อตาเขา มันช่างติดตาเหลือเกิน
“อืม ออกไปเดินเล่นเดี๋ยวเดียว” ทนายอันไม่คิดจะบอกเรื่องที่ไปจัดการหน่วยบังคับใช้กฎหมาย
“ข้านึกว่าพวกเจ้าไปสร้างปัญหาให้หน่วยบังคับใช้กฎหมายเข้าน่ะ”
โจวเจ๋อได้ยินดังนั้นก็ใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ
โอ้ะ
ดูเหมือนว่าคุณจะรู้ว่าทนายอันไล่เป้าหมายอย่างแข็งขันแค่ไหน เทียบได้กับคนที่ชอบดักรอดาราที่สนามบินเลยนี่นา
“เหอะๆ” ทนายอันขำแห้ง คนที่อยากคุยเป็นเถ้าแก่ของเขาต่างหาก เขาขี้เกียจพล่ามอะไรมากมาย
“เกิงเฉิน” เถ้าแก่โจวทักทายอย่างสนิทสนิม
ทันใดนั้นเกิงเฉินรู้สึกเหมือนถูกสัตว์ร้ายจ้องมอง ร่างทารกน้อยๆของเขาสั่นสะท้าน
ภาพจำอคติในตอนแรกนั้นร้ายแรงเกินทน อันที่จริงไม่ใช่ว่าเขาทนไม่ไหว แต่โลกใบนี้ แม้แต่สิ่งมีชีวิตสมัยโบราณเหล่านั้นได้พูดถึงเซี่ยจื้ออสูรวิเศษว่าตอนที่เผชิญหน้ากับอิ๋งโกวร่างแยกของมันตกใจกลัวจนกลายเป็นนกกระทา โดยเฉพาะหลังจากโดนตะโกนเรียกว่า ‘เจ้ารุ่งเรือง’
“เจ้าพูดมาสิ…เรื่องอะไร” เกิงเฉินนึกว่าพวกเขายังมีเรื่องจะตามตัวเองอีก
“เมื่อกี้ผมเดินและคิดอยู่ข้างนอกนานพอสมควร จากนั้นผมถึงได้พบว่า ผมก็ยังรู้สึกว่าไม่สามารถเอาชนะอุปสรรคแห่งมโนธรรมของตัวเองได้นิดหน่อย”
“…” เกิงเฉิน
ทันทีที่อสูรร้ายโผล่มามันจะอารัมภบทกับคุณก่อน…
ความรู้สึกนี้คล้ายกับคนธรรมดาตอนที่เผชิญหน้ากับโจรลักพาตัวแสนชั่วร้าย มันจะพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ผ่านมาในใจกับคุณ
“แล้วเจ้าอยากจะทำอะไร”
“คนอย่างผมน่ะ ใจดีมีเมตตากรุณามาโดยตลอด”
“อืมๆๆๆ” ทนายอันพยักหน้ารัวๆ เหมือนไก่จิกข้าว
“ผมชื่นชมคนดีและคนซื่อสัตย์เสมอมา เพราะว่าตัวผมเองทำไม่ลง และก็รู้ว่าการทำเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ยากจริงๆ ยากเอามากๆ”
“อืมๆๆๆ” ไก่จิกข้าวรัวๆ
“ดังนั้นผมก็เลยกะว่าจะปล่อยคุณไป”
เกิงเฉินหรี่ตาลง
“แต่มีเงื่อนไขเบื้องต้น คุณต้องรับปากผมว่าจะไม่เปิดเผยสิ่งที่คุณเห็นและได้ยินจากที่นี่ให้คนอื่นรู้”
“ข้า…”
เกิงเฉินยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูด ทนายอันก็ชิงพูดก่อน “ครั้งนี้ที่เจ้าขึ้นมาก็เพื่อจัดการแก้ไขเรื่องหาวจื้อ พวกเราสามารถเสนอความช่วยเหลือได้ ความจริงเจ้าไม่มีอะไรจะเสีย แถมพวกเรายังช่วยเจ้ากำจัดต้นกำเนิดหาวจื้อไปตั้งสองส่วน แม้ว่าจะมันอาจจะกระทบเรื่องของการตามหาผู้แปรพักตร์คนอื่น แต่เจ้าก็น่าจะหาทางอื่นได้ถูกไหม”
“ทำไม” เกิงเฉินไม่เข้าใจ
“เพราะว่าข้ากลับตัวกลับใจ ข้าถูกยมโลกไล่ออก ข้าได้ไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งถึงความผิดพลาดในอดีตของตัวเอง ข้าคิดจะเริ่มต้นใหม่ เป็นคนดีและอุทิศตนเพื่อการพัฒนานรกอย่างมั่นคงและกลมเกลียวกันต่อไป”
เกิงเฉินส่ายหัว เขาไม่เชื่อ
“ตอนนี้มีแค่สองทาง ทางแรกคือคุณจะถูกเราขังอยู่ที่นี่ต่อไปโดยไม่มีกำหนด และอีกทางหนึ่งคือให้คุณหนีไปตั้งแต่ตอนนี้ แต่เราจะให้คุณสาบานว่าจะไม่แพร่งพรายเรื่องของพวกเราที่นี่ออกไป”
ทนายอันพูดเสริม “สาบานด้วยนามของภรรยาและลูกที่เสียไปของเจ้า เจ้าทำผิดต่อพวกเขาครั้งหนึ่งแล้ว อย่าทำผิดอีกเป็นครั้งที่สอง”
โจวเจ๋อเข็ดฟัน เขารู้สึกว่าทนายอันโหดร้ายไปแล้ว โหดร้ายเกินไป!
ทำเอาตัวเองที่อยู่ฝ่ายเดียวกับเขารู้สึกเหมือนตราหน้าว่าเป็นผู้ร้าย แต่วิธีพูดของทนายอันน่าเชื่อถือที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย จริงๆ แล้วมันเป็นการกลั่นแกล้ง คุณเป็นสุภาพบุรุษ คุณเป็นคนดี
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่…” เกิงเฉิงไม่ใช่คนโง่อย่างเห็นได้ชัด
ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้มันเหลือเชื่อเกินไป
“ขืนคุณอยู่ที่นี่ต่ออีกแม้นาทีเดียว ต้นกำเนิดหาวจื้อในหมู่ผู้แปรพักตร์ที่กระจัดกระจายอยู่ข้างนอกก็จะเสี่ยงเพิ่มอีกหนึ่งนาที และอันตรายสำหรับคนธรรมดาเพิ่มมากขึ้นไปอีก” โจวเจ๋อพูด
“ได้ ข้ารับปากพวกเจ้า ข้าสาบานตามที่พวกเจ้าร้องขอได้ ข้าจะทำเหมือนไม่เคยเจอพวกเจ้าและไม่เคยติดต่อกับพวกเจ้า และไม่เอาเรื่องเกี่ยวกับพวกเจ้าไปบอกใคร แต่พวกเจ้าก็ต้องรับปากเงื่อนไขของข้าข้อหนึ่งด้วย”
“ว่ามา” โจวเจ๋อผายมือ
สายตาของเกิงเฉินจ้องไปที่ทนายอัน ทนายอันตัวสั่นหงึกๆ และสัมผัสได้ถึงเจตนาไม่พึงประสงค์เข้ามา
“ข้าต้องการเขา ครั้งนี้จะต้องไปกับข้าและจะต้องอยู่ข้างกายข้าและจัดการไปพร้อมกับข้าจนกว่าต้นกำเนิดของหาวจื้อจะถูกกำจัดไปจนหมด!”
“ข้าขอปฏิเสธ!” ทนายอัน
“ผมเห็นด้วย” โจวเจ๋อ
“…” ทนายอัน
……………………………………………………………….
ข้อความถึงนักอ่าน
จบเล่ม 1