ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 255 สว่างจ้าดั่งแสงตะวัน!
ตอนที่ 255 สว่างจ้าดั่งแสงตะวัน!
เรื่องราวกลายเป็นความเก้อเขินอยู่บ้าง ตอนนี้โจวเจ๋อยอมปล่อยคนแล้ว แต่เขาไม่รู้จริงๆ ว่าต้องเปิดมันอย่างไรผลกระทบโดยตรงของการเปิดสมุดหยินหยางมั่วซั่วก็คือตัวเองจะโดนจับเข้าไปด้วย โจวเจ๋อเคยสัมผัสประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นนี้ด้วยตัวเองมาแล้วครั้งหนึ่ง จะไม่ยอมให้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สองแน่นอน
พนักงานต้อนรับหญิงเอามือกุมหน้าผากอยู่ข้างๆ เธอปวดหัวจริงๆ นอกจากนี้ ด้วยความสามารถในการมองคนของเธอ เธอมองคนออกและสามารถรับรู้ได้ว่า โจวเจ๋อไม่ได้เล่นลูกไม้อะไร ไม่มีวิธีก็คือไม่มีวิธี พูดเป็นร้อยครั้งพันครั้งก็ยังไม่มีทางอื่น
“เอาอย่างนี้ คุณโจว คุณรับปากฉัน วันหลังถ้าหากคุณมีวิธีแล้วก็ปล่อยพวกเขาออกมา คุณกลับไปก่อนเถอะค่ะ”พนักงานต้อนรับหญิงคิดจะปล่อยคนแล้ว ในความเป็นจริงนักพรตเฒ่าได้รับอิสระนานแล้ว ในเรื่องของการจัดการกับคน ปีศาจจิ้งจอกรู้ดีที่สุด
เธอ ‘จับตัว’ นักพรตเฒ่า แต่ไม่ได้จับเพราะความพิศวาส ผู้ชายทั่วไปก็ยากที่จะโกรธ เพราะตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรต่างทำได้อย่างไม่มีช่องโหว่
“ถ้าอย่างนั้นหากเทพเซียนคนอื่นมาหาผม ผมก็ต้องเก็บต่อไปใช่ไหม” เถ้าแก่โจวยังรู้สึกเสียดาย ‘สัตว์โลกน่ารัก’ของตัวเองอยู่เล็กน้อย
“ฉันจะบอกคนในป่าเก่าแก่ ให้พวกเขาอยู่อย่างสงบค่ะ” ขณะที่พูด ปีศาจจิ้งจอกเดินมาตรงหน้าสมุดหยินหยางเธอไม่กล้าไปแตะเจ้าสิ่งนี้ และได้แต่มองโดยเว้นระยะห่างช่วงหนึ่ง มองรูปภาพของงูเล็กกับพังพอนเหลือง ดูเหมือนกำลังทำอารมณ์อยากปลอบใจพวกมันเสียหน่อย แต่พอทำอารมณ์แล้ว เธอกลับหัวเราะพรืดออกมาเสียงดัง และหัวเราะจนหยุดไม่อยู่ โก่งตัวเอามือกุมหน้าท้องที่แบนราบของตัวเอง หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง โจวเจ๋อจึงมองเห็นถุงน่องสีดำที่ส่วนลึกในกระโปรงสั้นโผล่วับๆ แวมๆ
“ฮ่าๆๆ…น่าขำจริงๆ บำเพ็ญเพียรสองร้อยปี สุดท้ายพวกเจ้ากลับไปน่ารักเหมือนเดิมอีกแล้ว”
งูเล็กกับพังพอนเหลืองที่อยู่บนหน้าปกเริ่มโกรธ เปลี่ยนสีหน้าต่างๆ นานา แต่วิธีการแสดงออกเป็นรูปการ์ตูนประเภทนี้ทำให้พวกเขาไม่ว่าจะโกรธแบบไหน สุดท้ายกลับน่ารักน่าเอ็นดูมาก
“พวกเจ้าอยู่ในนั้นอย่างสบายใจสักพักหนึ่ง ถือเสียว่าเปลี่ยนสถานที่ปิดด่านฝึกตน ไม่ว่ายังไงเมื่อก่อนพวกเจ้าก็ปิดด่านฝึกตนเป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวล คุณโจวรับปากข้าแล้วว่าจะไม่รังแกพวกเจ้า รอให้คุณโจวเก่งกว่านี้ แล้วค่อยปล่อยพวกเจ้าออกมา” พนักงานต้อนรับหญิงพูดจบแล้วจึงเช็ดน้ำตา เธอน้ำตาไหลอย่างมีความสุขจริงๆ
โจวเจ๋อหมุนตัวบอกลา พนักงานต้อนรับหญิงยื่นนามบัตรให้โจวเจ๋อหนึ่งใบ เธอจงใจทิ้งรอยจูบไว้บนนั้นด้วย นักพรตเฒ่าเดินตามโจวเจ๋อไปติดๆ ถ้าหากเป็นคลับทั่วไปนักพรตเฒ่าจะรีบใช้บริการอย่างไม่รีรอ แต่เขารู้ดีว่าตอนนี้อยู่ในรังของปีศาจจิ้งจอก เขามีตับเป็นสิบก็ไม่พอให้พวกเธอเล่น
ไป๋อิงอิงเก็บเงินที่อยู่บนพื้นขึ้นมา แล้วเดินฉับๆ ตามเถ้าแก่ของตัวเองไป พร้อมกับถือกระเป๋าใบใหญ่ของเธอ แถมยังกำหมัดของตัวเองวาดใส่ปีศาจจิ้งจอกก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดอีกด้วย
หลังจากโจวเจ๋อและคนอื่นๆ กลับไป พนักงานต้อนรับหญิงจึงเก็บรอยยิ้ม นั่งลงบนโซฟา พนักงานผู้หญิงหุ่นดีคนหนึ่งยื่นไวน์แดงให้เธอหนึ่งแก้ว
“แม่คะ เมื่อกี้เด็กสาวคนนั้นอารมณ์ร้ายจริงๆ ก่อนที่พวกน้องสาวของพวกเราจะเปิดสติปัญญา ก็ไม่เคยกำเริบเสิบสานขนาดนี้ใช่ไหม”
‘ซ่า!’ พนักงานต้อนรับหญิงสาดไวน์แดงในมือของเธอใส่ใบหน้าของอีกฝ่ายโดยตรง เหลือบตามองเธอหนึ่งทีแล้วพูดว่า “เธอยังกล้าเรียกอีกฝ่ายว่าเด็กสาวอีกเหรอ อายุของอีกฝ่ายกับอายุแม่ของเธอก็พอๆ กัน เธอคิดว่าเธอเป็นใครถึงพูดแบบนี้”
“ค่ะ ลูกผิดไปแล้ว” พนักงานผู้หญิงคุกเข่ายอมรับผิดทันที
“เหอะ อีกฝ่ายยั้งมือเอาไว้ ไม่อย่างนั้นถ้าบุกเข้ามาฆ่าจริงๆ เธอคิดว่าพวกเธอจะขวางได้เหรอ”
“ค่ะ”
“ฉันเคยพูดแล้ว ฉันพาพวกเธอออกมา เพราะอยากให้พวกเธอบำเพ็ญเพียรมากขึ้น ถ้าหากพวกเธอถลำตัวลงไปนี่ก็คือโชคชะตาของพวกเธอ หนีไม่พ้นคือก็หนีไม่พ้น โลกใหญ่มาก ใหญ่มากจริงๆ ผู้ชาย เหอะๆ อย่ามัวแต่จ้องมองผู้ชายสองสามคนนั้น ไม่ได้เรื่องจริงๆ”
“ขอบคุณแม่ที่สั่งสอนค่ะ”
พนักงานที่อยู่โดยรอบ ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชายต่างโน้มตัวให้พนักงานต้อนรับหญิงพร้อมกัน
“โอเค ฉันเหนื่อยแล้ว เปิดน้ำให้ฉันหน่อย ฉันอยากแช่น้ำ” พนักงานต้อนรับหญิงบิดขี้เกียจ ขณะเดียวกันเธอได้กระดิกนิ้วอย่างดูหมิ่นอีกครั้ง
“คนแก่ในป่าพวกนั้น บอกฉันว่าเป็นยมทูตตัวเล็กๆ เขามีสมุดหยินหยางอยู่ในมือ เป็นยมทูตตัวเล็กๆ งั้นเหรอ! ทำเอาฉันเกือบจะตกลงไปเหมือนกัน”
พนักงานต้อนรับหญิงรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะสไตล์การทำงานของเธอยากที่จะทำให้คนอื่นจับช่องโหว่ได้ ถ้าหากก่อนหน้านี้เธอเล่นลูกไม้กับนักพรตเฒ่า อย่างเช่น หยดน้ำตาเทียนหรือดูดพลังหยางฉีกเส้นเอ็นของเขาเรื่อยๆ ตัวเธอจะได้มานั่งสบายอยู่ตรงนี้หรือไม่ ยากที่จะพูดได้จริงๆ และข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ผู้ชายที่ชื่อโจวเจ๋อคนนั้น มีความมั่นใจสูงมากตั้งแต่ต้นจนจบ ความมั่นใจแบบนี้ ไม่ได้แสร้งทำออกมา เขามีไพ่ตายจริงๆ จึงสามารถมองข้ามไพ่ตายของเธอได้
“แม่คะ เตรียมน้ำเสร็จแล้วค่ะ”
“โอเค”
พนักงานต้อนรับหญิงเดินเข้ามาในห้องวีไอพีส่วนตัวที่เก็บไว้ให้ตัวเอง ในนั้นตกแต่งด้วยข้าวของโบราณ มีความหรูหรามากกว่าห้องวีไอพีห้องอื่นเป็นไหนๆ และกว้างเป็นอย่างมาก
ตรงกลางมีสระน้ำขนาดใหญ่ มีกลีบดอกกุหลาบขนาบสองข้าง มีม่านมุกเป็นชั้นๆ เหมือนห้องของหญิงสาวในสมัยโบราณ
เธอถอดเสื้อผ้าเดินเข้าไปในสระน้ำ ไม่ต้องการคนปรนนิบัติ เธอเดินลงไปอย่างช้าๆ หางสีขาวบริสุทธิ์และนุ่มฟูลอยออกมา เธอขัดถูอย่างละเอียด ผู้หญิงรักใบหน้าของตัวเอง จิ้งจอกก็รักหางของตัวเองเช่นกัน
ท่ามกลางหมอกควันมัวสลัว เธอที่ตึงเครียดมาทั้งวัน เริ่มมีอารมณ์ผ่อนคลายในที่สุด
เวลานี้เสียงขลุ่ยดังเป็นระยะอยู่บริเวณนี้ เสียงไพเราะเพราะพริ้งเหมือนมีคนเอามือข้างหนึ่งมาจั๊กจี้หัวใจของคุณ
หากสวี่ชิงหล่างอยู่ที่นี่ในตอนนี้ น่าจะแยกออกว่าเสียงขลุ่ยนี้เป็นเสียงที่เขาได้ยินในคืนวันนั้น หลังจากเสียงขลุ่ยดัง ผีดิบที่เดิมทีถูกโจวเจ๋อฆ่าตายกลับลุกขึ้นมาอีกครั้ง แล้วกัดเขา
พนักงานต้อนรับหญิงตอนแรกคิดว่ามีคนเปลี่ยนเพลงในห้องโถงใหญ่ แต่ไม่ช้าเธอก็พบว่ามีอะไรผิดปกติ สัมผัสที่หกของจิ้งจอกแม่นยำอย่างไม่ต้องสงสัย
ชั่วพริบตาเดียว คลื่นน้ำกระเพื่อมรอบด้าน พนักงานต้อนรับหญิงเดินขึ้นบันไดห่อตัวด้วยผ้าผืนหนึ่ง เสียงขลุ่ยเหมือนกำลังเล่นซ่อนแอบกับเธอ เดี๋ยวไกลเดี๋ยวใกล้ ยากที่จะคาดเดาได้
“สหายคนไหนมาเยือนถึงถิ่นของข้า ออกมาเถอะ ให้ข้าน้อยได้แสดงมิตรไมตรีกับท่านในฐานะเจ้าบ้าน”
เสียงขลุ่ยหยุดลง เงาร่างสีดำปรากฏอยู่ข้างประตูห้อง เงาร่างหลังค่อมเล็กน้อย มองเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน แต่ขลุ่ยหยกที่อยู่ในมือของเขา กลับสะดุดตามากถึงแม้จะอยู่ในที่มืด
“หึๆ..อยากปรนนิบัติข้า…ผู้หญิงแรดอย่างเจ้า คู่ควรเหรอ” พนักงานต้อนรับหญิงสีหน้าเย็นชา เธอโกรธแล้ว ถึงแม้จะทำธุรกิจแบบนี้ แต่ฐานะและตำแหน่งของเธอ ไม่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์พวกนี้นานแล้ว คนที่อยู่ตรงหน้าเวลานี้ ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเลยจริงๆ!
“ปีศาจบำเพ็ญเพียร ไม่อยู่ในป่าอย่างสงบ ชอบวิ่งออกมาเพ่นพ่าน ศีลธรรมเสื่อมถอยใจคนไม่เหมือนในอดีตแล้วจริงๆ” ขณะที่พูดขลุ่ยหยกพลันลอยขึ้น แล้วพุ่งไปหาพนักงานต้อนรับหญิงคนนั้นโดยตรง
พนักงานต้อนรับหญิงแบสองมืออก ปัดขลุ่ยหยกออกไป แต่วินาทีต่อมา ใบหน้าของพนักงานต้อนรับหญิงนิ่งไป สองมือของเธอกลายเป็นสีดำคล้ำ
“พิษผีดิบ!”
“ตาแหลม!”
เงาดำหายเข้าไปท่ามกลางความมืด เสียงขลุ่ยดังขึ้นอีก แต่ครั้งนี้เป็นเสียงขลุ่ยแห่งความตาย เหมือนดักซุ่มโจมตี! นอกจากนี้ขอบเขตของเสียงเริ่มขยายกว้างขึ้น ปกคลุมไปทั่วคลับแห่งนี้
เพียงชั่วเวลาเดียว ลูกค้าผู้ชายที่กำลังรับบริการอยู่พบว่า หมอนวดสาวสวยหุ่นดีลีลาเด็ดที่อยู่ข้างกายตัวเองกลับมีหางขนปุกปุยโผล่ออกมา บางคนที่เมาหรือยังไม่ได้สติจึงพูดแซวว่า พวกคุณบริการดีจริงๆ มีบริการ ‘ใส่หาง’ ด้วย ทว่าตอนที่พวกเขาเห็นใบหน้าของหมอนวดกลายเป็นใบหน้าของสุนัขจิ้งจอก ก็ร้องโวยวายด้วยความตกใจทันที
เพียงชั่วเวลาหนึ่งทั่วทั้งสโมสรเกิดความโกลาหล เสียงกรีดร้องโวยวายของผู้คน เสียงร้องไห้ดังระงมไม่หยุด พวกสุนัขจิ้งจอกที่เผยตัวตนที่แท้จริงออกมาเริ่มงุนงง จากนั้นเริ่มมีเลือดไหลออกมาทางหู ตา จมูก ปาก พนักงานต้อนรับทั้งผู้ชายและหญิงคุกเข่าล้มลงไปกับพื้นบีบคอตัวเองด้วยความทรมาน พวกหมอนวดหญิงก็เช่นกัน
ลูกค้าผู้ชายรีบวิ่งหนีออกมา ระหว่างทางเห็นศพของสุนัขจิ้งจอกหลายตัวตามทางเดิน ทั้งคลับเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นสาบเหมือนเข้ามาอยู่ในรังสุนัขจิ้งจอก
“ไอ้หลานชาย แกกล้าฆ่าลูกหลานของฉัน!”
ภายในห้องวีไอพี พนักงานต้อนรับหญิงไม่สนใจมือทั้งสองข้างที่กลายเป็นสีดำ เธอกระโจนเข้าหาเงาดำทันที
“มารชั่วผิดศีล ต้องกำจัดให้สิ้นซาก!” เสียงตวาดดังท่ามกลางความมืดมิด จากนั้นเงาดำได้กระโจนไปทางพนักงานต้อนรับหญิงโดยตรง ทั้งสองคนเจอกันกลางอากาศ กรงเล็บของพนักงานต้อนรับหญิงทิ่มทะลุหน้าอกของอีกฝ่าย แต่ในเวลาต่อมา เธอกลับพบว่าสิ่งที่ตัวเองทิ่มทะลุเป็นแค่หนังคนเท่านั้น หนังคนเป็นหนังของคนแก่ แต่ที่เห็นก่อนหน้านั้นกลับมีชีวิตชีวาเหมือนคนจริงๆ! และทันใดนั้นหนังคนก็เริ่มหดตัว เป็นเหมือนกรดกำมะถันซึมเข้าไปในแขนของพนักงานต้อนรับหญิงทันควัน
“โอ๊ยๆๆๆ!!!!!!!” พนักงานต้อนรับหญิงร้องเสียงน่าเวทนา ทั้งตัวเธอตกลงไปในน้ำทันที ขลุ่ยหยกตกลงมาจากฟ้ากระแทกลงไปโดยตรง!
‘ปึ้ง!’ คาดว่าน่าจะกระแทกจนพื้นแตกร้าว น้ำที่อยู่ในสระเริ่มแทรกซึมลงไปด้านล่าง
เงาดำเดินออกมาอีกครั้ง เขาเดินไปถึงสระน้ำที่ระดับน้ำลดต่ำลงจนเกือบจะเห็นก้นสระ แล้วจึงเห็นขลุ่ยหยกของตัวเองเสียบอยู่ตรงนั้น เพียงแต่สิ่งที่โดนทับอยู่ด้านล่างไม่ใช่สุนัขจิ้งจอกทั้งตัว แต่เป็นหางยาวสีขาวอันหนึ่งของสุนัขจิ้งจอก
“โถๆๆ…จิ้งจอกตัดหาง…สุดท้ายก็ปล่อยให้แก…หนีไปจนได้” เงาดำดึงขลุ่ยหยกออกมา เขายื่นมือลูบตัวขลุ่ยหยกเบาๆ แล้วพูดอย่างทอดถอนใจ “ออกจากเมืองทงเฉิงไปแค่สิบปี…ทำไมที่นี่ถึงกลายเป็น…สังคมที่เลวทรามป่าเถื่อนไปได้”
…………………………………………………………………………