นิยายมีแค่เราที่เป็นเนโครแมนเซอร์ ตอนที่ 64 ล่าบอสมอนสเตอร์ที่รันเวย์ (2)
“ที่จริงผมก็สับสน พวกเราเป็นทหารแต่มันถูกแล้วเหรอที่ต้องเคลื่อนไหวอยู่ตลอดแบบนี้หลายวันที่ผ่านมาก็มีเพื่อนมากกว่าครึ่งที่ต้องมาตายให้ตายเถอะ!”
สิบเอกคิมกัดฟันด้วยความไม่พอใจอย่างสุดบรรยายซองอูส่ายหน้ามองท่าทางที่ไม่คาดคิดของสิบเอกคิม
“พอจะเข้าใจนะ แต่ชั้นว่าพวกผู้บังคับบัญชาคงจะตอบสนองได้ดีหลังจากที่ปรับตัวเข้ากับระบบได้แล้วมันคือสิ่งที่ต้องทําตอนที่รับใช้กองทัพไม่ใช่รึไง?”
สิบเอกคิมส่ายหน้าอย่างหนักแน่นกับค่าถามของซองอ
จากนั้นเขาก็เริ่มพร่าบ่นเรื่องเกี่ยวกับพลโทพัค
“ผมทนเงียบมานานเพราะความเปลี่ยนแปลงนี้แต่จู่ ๆ ก็ได้คาสั่งให้จัดการมอนสเตอร์ทั้งที่ไม่มีอาวุธดี ๆ เลยพวกมอนสเตอร์เองก็ต่างจากมนุษย์ที่เราถูกฝึกมาให้ต่อสู้ด้วยแล้วพวกเราก็ลงไปถึงดันเจี้ยน”
ซองอูฟังเงียบ ๆ
สิบเอกคิมเล่าต่อ
“พวกนั้นเก็บทองที่เราล่าได้ไปและหยุดไม่ให้เราใช้กระดานข่าว…ให้ตายสิไม่รู้ว่าทําไมต้องมาพูดให้นายฟังโทษทีนะ”
เห็นได้ชัดว่าผู้นํากองทัพนั้นใช้อํานาจควบคุมผู้เล่นที่เป็นทหารไว้อย่างรัดกุมแต่มันยากสําหรับซองอูที่จะบอกว่าแบบไหนถูกหรือผิด
“สิบเอกคิม สิ่งที่จําเป็นตอนนี้คือการเอาชีวิตรอด หมายถึงชีวิตของตัวนายเองน่ะ”
“อะไรนะ?”
“กองทัพจะไม่มีวันควบคุมสถานการณ์นี้ได้ กองทัพเลยต้องควบคุมคนที่มีชีวิตรอดอยู่แทนลืมเรื่องกองทัพไปซะเถอะ”
ที่จริงซองอก็รู้ว่าเขาเองจะปรับตัวกับโลกใบใหม่นี้ไม่ได้ด้วยวิธีคิดแบบเดิมแต่พวกผู้นําทหารนั้นทําให้ทหารตายไปมากแล้วในเวลาไม่กี่วัน
ซองอูคิดว่ากลุ่มคนอย่าง “กิลด์” ที่สร้างโดย อัยกายยองดึงโพ” ยังมีประสิทธิภาพมากกว่ากองทัพเสียอีก
สิบเอกคอมพยักหน้าด้วยความขมขึ้น เขาพูด
“ผมจะจําไว้นะซองอู ขอเก็บไปคิดดูก่อน”
จากนั้นสิบเอกคิมก็บอกข้อมูลเรื่องบอสมอนสเตอร์ในกองบินที่ 10 ให้เขาฟังเพิ่มเขาบอกว่าบอสนั้นเป็นยักษ์ที่ถือกระบอง ซองอต้องรวบรวมข้อมูลเหล่านั้นเพื่อเตรียมจู่โจมในไม่กี่วันข้างหน้า
ซองอกับปาร์ตี้มาถึงใกล้พระราชวังฮวาซองที่มีหมู่บ้านอยู่พวกเขาได้เห็นการต่อสู้อย่างดุเดือดข้างในหมู่บ้าน
“อ๊าาา! หยุดมันที่!”
“เราเสียเขาไปแล้ว ไปข้างในเร็ว!”
ทางเข้าหมู่บ้านกลายเป็นทะเลเลือดไปแล้ว
“ซองอู! ระวัง!”
“ทุกคน เตรียมต่อสู้!”
ปาร์ตี้ซองอูคว้าอาวุธขึ้นมา และหน่วยของสิบเอกคิมก็กระจายกําลังไปซ้ายและขวาพวกเขามีการจัดขบวนรบในแบบของตัวเองคนที่อยู่ด้านหน้าจะถือโล่ห์และดาบมือเดียวส่วนสี่คนตรงกลางจะถือหอกส่วนสี่คนที่อยู่ด้านข้างและมีธนูและหน้าไม้แต่ศัตรนั้นไม่ใช่เป้าหมายที่ง่ายเลย
“พวกมันเป็นมนุษย์หมี! เราสู้มันไม่ได้ เราถอยทุกครั้งที่เจอกับมัน”
มนุษย์หมีสามตัวกําลังโจมตีที่ทางเข้าพิพิธภัณฑ์ มีเหยื่อที่ตายไปแล้วราวห้าคนและมนุษย์หมีตัวหนึ่งก็กําลังนั่งเคี้ยวร่างไร้วิญญาณของมนุษย์อยู่
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกมนุษย์หมีดักซุ่มเมื่อครู่ก่อนเพราะพวกสายต่อสู้รวมถึงคยองซูถอยไปในอาคารแล้ว
“โอเค พวกนายอยู่นี่”
ซองอนั้นต่างจากคนอื่น เขาไม่คิดว่ามนุษย์หมีเป็นศัตรูที่ต่อสู้ได้ยากเขาคิดว่ามันไม่ใช่วิกฤติด้วยซ้ำแต่มันคือโอกาสทองของเขา
“ถ้ามีมนุษย์หมีสีตัวพลังในการล่าบอสของเราจะเพิ่มขึ้นอีกมากเลย มอนสเตอร์ตัวยักษ์พวกนั้น…”
นิ้วะ! ฉ่วะ! ฉ่วะ! ฉ่วะ!
ซองอยิงหน้าไม่ไปแบบสุ่มและใช้เฟลเบลดที่ทางเข้าพิพิธภัณฑ์ตรงที่มีพวกมนุษย์หมีอยู่
โฮกกกก!
พวกมนุษย์หมีตะโกนร้องด้วยความกลัว แต่ไม่นานพวกมันก็หายไปในควันดําของเฟลเบลด และเมื่อควันกระจายหายไปในเวลาต่อมาทุกคนก็ได้เจอกับมนุษย์หมีที่เต็มไปด้วยเลือด
โครงกระดูกสวมชุดเกราะกระดูกกาลังฉีกกระชากร่างมนุษย์หมีเป็นชิ้น ๆ
“โอ้พระเจ้า ไม่อยากจะเชื่อเลย!”
สิบเอกคิมมองดูการต่อสู้ของซองอู เขาเคยเห็นมันมาก่อน แต่ครั้งนี้มันทําให้เขารู้สึกผิดกับเพื่อนทหารที่ตายไป
เขานึกถึงใบหน้าสหายร่วมรบและทหารรุ่นน้องที่ถูกฆ่าในการต่อสู้ครั้งก่อนเพราะหัวหน้าที่ไร้ความสามารถอย่างเขา
“ถึงเราจะสู้ไม่ได้แบบซองอ…ตอนนั้นเราก็ไม่ควรจะสู้แบบนั้น”
สิบเอกคิมกลับมาคิด ครั้งแรกเมื่อเห็นฝูงกอบลิน เขาเป็นคนหยิบดาบขึ้นมาเป็นคนแรกแต่เมื่อผู้บังคับบัญชาเอาอาวุธของผู้เล่นไป เขากลับกลายเป็นคนที่สั่งให้ทหารใช้พลั่วมาต่อสู้กับมอนสเตอร์
แต่ผู้บังคับบัญชาที่ริบอาวุธและทองไปนั้นก็สั่งให้พวกเขาจู่โจมและยึดคลังอาวุธกลับมาสิบเอกคิมทําตามค่าสั่งโดยไม่คิดหน้าคิดหลังและพูดให้คนของเขาทําตามค่าสั่งด้วยในฐานะหัวหน้าหน่วย
ปัญหาคือตรงไหนกัน? ทําไมถึงต้องมีคนมาตายอย่างไร้เหตุผลแบบนั้น?
“ถูกแล้วเหรอที่เราทําตามคําสั่งตอนนั้น? เราทําอย่างอื่นได้อีกไหม?”
ไม่นานซองอูก็ต่อสู้จบเขาได้รับมนุษย์หมีมาซึ่งเป็นรางวัลอย่างงามของเขามันทุกตัวถูกคืนชีพขึ้นมาและยืนขึ้นอีกครั้ง
“ยซองอ คนคนนี้ไม่เหมือนเรา เขาเอาตัวรอดได้ดีกว่าคนอื่น
มนุษย์หมีตัวใหญ่สูงสามเมตรสีตัวที่สวมชุดเกราะกระดูกยืนอยู่ด้านหลังซองออย่างแข็งแรง
[รายการผสาน]
3) ผู้ครองผืนป่า (ชั้น 1)
-ประเภท : ผสานเผ่าพันธุ์
เงื่อนไข : หมี 4 ตัวขึ้นไปและสัตว์อื่น ๆ
-เอฟเฟค : ลดพลังป้องกันศัตรู (-10%), เพิ่มพลังป้องกันพันธมิตร (+10%)
ซองอูมองสิบเอกคิม
“สิบเอกคิม บอกบอสของนายด้วยว่าเราพร้อมแล้ว”
สิบเอกคิมที่ได้ยินซองอพูดแบบนั้นตระหนักได้แล้วว่าเขาคิดผิด ซองอนั้นรอที่จะจู่โจมบอสไม่ไหวแล้วเขาไม่ได้คิดหนักเรื่องการล่าบอสเลย
“ชั้นว่าเราเริ่มยึดรันเวย์กลับมาได้แล้ว”
ตามที่คยองซูบอก ระหว่างที่เขากําลังกลับมาหลังจากกวาดล้างหมู่บ้านกอบลินที่อยู่ใกล้ ๆ มนุษย์หมีสามตัวก็บุกเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว
“ชั้นผิดเอง ชั้นน่าจะระวังมากกว่านี้ แต่ชั้นไม่รู้เลยว่าพวกมันจะกระโดดมาจากดาดฟ้า…”
เพราะฝูงกอบลินที่ปรากฏตัว ห้าคนที่คยองซูสั่งให้ยืนยามจึงถูกฆ่าตาย
“ไม่ใช่ความผิดนายหรอกคยองซู มันยากที่จะตอบโต้อยู่แล้ว นายทําดีมากแล้วล่ะ”
“อา…”
ซองอูจับไหล่ปลอบ คยองซูก้มหน้า
ในตอนนี้คนอื่นกําลังหนีเข้าโซนปลอดภัย คยองซูนั้นเป็นคนคุ้มกันทางเข้าอาคารจนทุกคนหนีไปได้อย่างปลอดภัย
โชคดีที่ซองอกลับมาทันในเวลานั้น
“นายถึงกับฆ่ามนุษย์หมีตัวที่จะบุกเข้ามาในเวลาสุดท้ายเชียวนะ…”
ซ่องอพูด
มนุษย์หมีตัวสุดท้ายที่บาดเจ็บหนักอยู่แล้ววิ่งพรวดไปที่ทางเข้าพิพิธภัณฑ์ในจดที่คยองซูยืนอยู่พอดี
คยองซูใช้หอกแทงดวงตาทะลุไปถึงสมองของมัน เขาโชคดีมาก แต่มันก็เป็นเขาที่ฆ่ามนุษย์หมีตัวนั้น
“ชั้นคิดถูกแล้วล่ะที่ให้นายท่างานนี้ คยองซู พรุ่งนี้ชั้นจะไปตอนเช้าพยายามต่อไปนะ”
ซองอปลอบเขาและยืนขึ้น ในตอนนั้นจ่าทั้งเดินลงมาจากชั้นสองพอดี
“เกิดอะไรขึ้น? ชั้นหลับอยู่เลยไม่รู้เรื่องน่ะ”
ซองออยากจะถามว่าจ่าทั้งยังเป็นทหารอยู่หรือไม่ เขาไม่รู้เลยว่ามีคนตายเมื่อครู่ก่อนเพราะมอนสเตอร์บุกเข้ามา
“พวกเราถูกลอบโจมตี”
“ได้ยินว่าพวกมันเป็นมนุษย์หมีเหรอ? ชั้นเคยฆ่ามันมาตัวนึ่ง ตอนมันแตะก็รู้เลยว่ามันแข็งแกร่งแค่ไหน นายเคยฆ่ามอนสเตอร์แบบนั้นมาก่อนไหม?”
จ่าดังถามซ่องอ
เขาหัวเราะและผายมือหยาบ ๆ เขาพยายามจะอวด
“ชั้นจะแตะมันเมื่อไหร่ก็ได้”
โครงกระดูกมนุษย์หมีสีตัวยืนอยู่หลังซองอู จากนั้นมันก็หายตัวไป ซองอย้ายพวกมันไปในมิติย่อย
“ว้าว! สกิลอะไรนะ! นายทําได้ยังไง? โลกนี้มันบ้าไปแล้วไม่ใช่เหรอ? ชั้นถึงชอบอะไรที่มันเข้าใจง่าย ๆ มากกว่าไง”
จากที่สิบเอกคิมบอกจ่าทั้งนั้นเลือก “นักหมัด” 3 ดาว แนวทางการต่อสู้หลักของเขาคือการต่อยมากกว่าใช้อาวุธ
แต่จ่าดังก็ไม่ได้บอกเรื่องการ์ดอาชีพเชื่อมโยง เขาพยายามจะไม่เปิดเผยพลังที่แท้จริง
ในตอนนั้นเอง สิบเอกคิมที่อยู่อีกฝั่งของชั้นหนึ่งก็เดินมาหาจ่าทั้ง
“จ่าง ซองอูบอกผมว่าจะเดินทางไปล่าบอสในอีกไม่นาน จ่ารีบเตรียมตัวจะ…”
“หา? แกทํางานเป็นปากของมันตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ว่าไงนะ?”
MANGA DISCUSSION