ตอนที่ 3 ดุจฝันกลางตะวัน
ท่ามกลางบรรยากาศในวันงานฉลองครบรอบวันเกิด 15 ปี เอียนกับเพื่อนทั้งสองกำลังเพลิดเพลินกับการแสดงของชาวเมืองที่จัดขึ้นเพื่ออำนวยพรให้แก่เด็กทุกคนในดินแดนโกล์ดอริกที่มีอายุครบ 15 ปีบริบูรณ์ในปีนี้ ทุกสิ่งอย่างกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่นจนกระทั่งมีรัศมีแห่งมายาปรากฎขึ้นกลางเวหา กลุ่มควันสีดำสนิทลอยผุดขึ้นมาพร้อมกับเสียงแหบแห้งน่าขนลุกที่เอ่ยเรียกมหาบุตรแห่งบัลลังก์โกล์ดอร์ริก
“ควินติน…เอียน…ก็อดวินเซนต์”
ทุกอย่างหยุดชะงักราวกับถูกแช่แข็ง ความหนาวเย็นแผ่ไปทั่วบริเวณ มหามนตรีเพนทีร่าและบรรดาองครักษ์พิทักษ์ดินแดนต่างร่ายเวทย์เกราะมายาคุ้มกันให้เหล่าชาวเมืองอย่างแข็งขัน องค์รายาปรากฎร่างกลางอากาศสะบัดพระหัตถ์เพียงครั้งเดียวทุกอย่างก็กลับคืนสู่ความสงบ ยกเว้นเสียงนั่น…
“องค์รายา…อย่าเพิ่งทรงกริ้วไปเลย ข้าเพียงแค่ขอแสดงความยินดีกับมหาบุตรแห่งโกล์ดอริก…ก็เท่านั้น”
“ขอบใจแต่ไม่จำเป็น จงกลับไปยังที่ของเจ้าอย่างสงบเดี๋ยวนี้!” สุรเสียงขององค์รายาดังกังวานไปทั่วบริเวณอย่างน่าเกรงขาม
รัศมีแห่งมายาสั่นคลอนอย่างรุนแรงด้วยอำนาจแห่งองค์รายาแผ่ไอสังหารสร้างความกดดันออกมา แต่กลุ่มควันดำมิยอมจากไป ยังคงลอยวนอ้อยอิ่งอยู่ในรัศมีแห่งมายาอย่างท้าทาย…
“มหาบุตรแห่งโกล์ดอริก ข้าคือ…จอมอสูรแห่งดินแดนดาร์คดิโวพาร์ค ข้ามาเพื่ออวยพร…”
“หยุดนะ! เจ้าอย่าบังอาจแตะต้องมหาบุตรแห่งข้าเด็ดขาด แม้เพียงคำพูดเดียวก็ไม่ได้!” องค์รายีน่าตวาดขึ้นก่อนปรากฏร่างอยู่ข้างกายองค์รายา แต่จอมอสูรยังคงพูดต่อไปโดยไม่ใส่ใจ
“มหาบุตรแห่งโกล์ดอริก…ข้าขอให้ท่านยิ่งใหญ่ ล้ำค่าดุจดวงตะวันที่สาดแสงสีแดงฉานประดุจโลหิตจวบจนกว่าจะถึงเวลาที่บุตรแห่งข้าได้รับการขานนามตามที่ควรเป็น…เมื่อนั้นบุตรแห่งข้าจะเหยียบย่ำและดับชีพท่านด้วยทัณฑ์ทรมาน แล้วทุกสิ่งอย่างที่เป็นของท่านจะกลับคืนแก่บุตรแห่งข้าโดยชอบธรรม…ฮ่าๆๆ” จอมอสูรหัวเราะขึ้นทันทีที่กล่าวจบ
“เจ้ากล้าดีอย่างไรมาสาปส่งมหาบุตรแห่งโกล์ดอริก…ช่างบังอาจนัก ไสหัวไป!!!”
ท้องฟ้าส่งเสียงคำรามก้องกัมปนาท สายฟ้าฟาดฉีกอากาศกระชากเอากลุ่มควันสีดำหายไปกับรัศมีแห่งมายา ทิ้งไว้เพียงปลายเสียงแหบแห้งที่เบาบางของจอมอสูร
“ไม่!!! ข้าไม่ยอม~ พวกท่านเลือกข้างไม่ได้…”
องค์รายาและองค์รายีน่าตกใจกับเสียงที่ทรงอำนาจซึ่งแฝงไว้ด้วยพลังมายาที่แข็งแกร่ง ทั้งสององค์มองหน้าซึ่งกันและกัน พลางสบตากันด้วยความกังวลเพราะรู้ตัวตนของต้นเสียงนั่นเป็นอย่างดี
“พระบิดา พระมารดาเจ้าข้า เกิดเหตุอันใดขึ้น?”
เสียงเรียกของเอียนปลุกองค์รายาและองค์รายีน่าออกจากภวังค์มาปรากฏร่างขึ้นตรงหน้าบุตรชายทันที เอียนมองหน้าทั้งสององค์
“เกิดเหตุอันใดเจ้าข้า ทำไมพระมารดามีสีพระพักตร์เยี่ยงนี้ ได้โปรดบอกลูกเถิด เสียงนั่น…คือผู้ใดกัน?”
องค์รายีน่าคว้าตัวมหาบุตรมาโอบกอด ไร้คำเอื้อนเอ่ยออกจากปากของพระนาง มีเพียงหยาดน้ำใสๆ ไหลรินจากดวงตาทั้งสองอย่างสุดกลั้น
“เราจักทำเช่นไรดีท่านพี่…จอมอสูรสาปส่งลูกของเราแล้ว…ฮือ”
“เจ้าสงบใจลงเถิด…เรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว เราต้องหาทางแก้ไขมิใช่หรือ เจ้าคือองค์รายีน่าแห่งโกล์ดอริกเป็นพระมารดาของเอียน จะฟูมฟายไร้สติแบบนี้ ไม่ควรเป็นอย่างยิ่ง” ตำหนิจากองค์รายาทำให้นางได้สติ
“อภัยให้ข้าด้วยเถิด…ท่านพี่ ข้าเป็นห่วงบุตรแห่งตนจนหลงลืมตัวตนของข้าไปจนสิ้น” องค์รายีน่ากล่าวพลางเช็ดน้ำตา
“พระบิดา…นี่มันเรื่องอันใดพระเจ้าข้า ลูกไม่เข้าใจ เสียงนั่น…คือผู้ใดกัน” เอียนถามขึ้นอย่างร้อนรน
“มันก็คือ…”
“หุบปากนะ!” เสียงตวาดดังก้องกังวานขึ้นสร้างความตกใจแก่ทุกชีวิต
“ผู้ใดกันช่างบังอาจนัก…กล้าใช้เสียงเช่นนี้กับพระบิดาแห่งข้า” เอียนเหลียวมองไปทั่วบริเวณแต่ไม่มีวี่แววของเจ้าของเสียงเลย
ห่างออกไปเหนือบริเวณ สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ลำตัวยาวปกคลุมด้วยเกล็ดหนาสีทองผุดผ่อง ล่องลอยอยู่กลางอากาศ ดวงตาสีทองเปล่งประกายเจิดจ้าด้วยความกริ้วโกรธ เขี้ยวขาววาววับขยับคำรามขู่เสียงกรรโชก
“รายาแห่งโกล์ดอริก…ข้าขอเตือน…หุบปากของเจ้าไปซะ!!!”
“เจ้าเป็นใคร…กล้าดีอย่างไรมาข่มขู่พระบิดาแห่งข้า” เอียนกระชากเสียงถามขึ้นอย่างเดือดดาล
“สงบลงเถิดมหาบุตรแห่งโกล์ดอริก…เจ้าจะได้รู้แจ้งในวันข้างหน้า เช่นนั้นในวันนี้…พวกเจ้าจงลืมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นซะ”
สิ้นเสียงกังวานก้อง แสงจ้าบาดตาสว่างวาบขึ้นราวกับดวงอาทิตย์ผุดขึ้นตรงหน้า ทุกชีวิตที่อยู่ในบริเวณนั้นทยอยล้มลงนอนราบไปกับพื้น ไม่เว้นแม้แต่องค์รายา ผู้ครองดินแดนโกล์ดอริก
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ผู้คนเริ่มทยอยได้สติ ทุกคนดูงุนงงกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่มีใครรู้ว่าทำไมถึงพากันนอนหลับไปทั้งแบบนั้น เสียงพูดคุยดังขึ้นทุกทิศ บรรดาองครักษ์พิทักษ์เมืองออกสำรวจทั่วบริเวณทำการค้นหาผู้ที่อาจได้รับบาดเจ็บ
เมื่อทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ มหามนตรีเพนทีร่าจึงเดินเข้ามารายงานต่อองค์รายาและองค์รายีน่า ทั้งสององค์รับทราบและโล่งพระทัยที่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
“เจ้ามีคำอธิบายให้ข้าหรือไม่ เพื่อนรัก…” องค์รายาเอ่ยถามมหามนตรีเพนทีร่า
“อภัยให้ข้าด้วยเถิดเจ้าข้า…มิมีผู้ใดล่วงรู้ถึงสาเหตุที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นเลยสักคนเจ้าข้า” มหามนตรีตอบ
“เจ้าว่า…เฒ่ามายา จะรู้เรื่องนี้หรือไม่?”
“ข้าให้คนไปตามเฒ่ามายามาเข้าเฝ้าพระองค์แล้วเจ้าข้า แต่ว่า…ตอนนี้ชาวเมืองอื้ออึงเรื่องนี้จนเกิดความสับสนไปทั่ว…ขอองค์รายามีรับสั่ง พวกข้าและองครักษ์ควรทำอย่างไรต่อไปเจ้าข้า”
“ต้องจัดการเรื่องวุ่นวายให้สงบลงก่อน…ข้าจำได้ว่าวันก่อนบุปผาจำศีลออกดอกแล้วใช่หรือไม่ พฤกษานี้มีฤทธิ์ทำให้หลับได้ถึงสามชั่วโมงเพียงแค่ได้กลิ่น…เอาเหตุนี้ล่ะ”
“เช่นนั้นข้าจะประกาศว่าสายลมเปลี่ยนทิศพัดพาละอองเกสรของบุปผาจำศีลเข้ามาในบริเวณที่จัดงานนะเจ้าข้า”
“อืม…เวลานี้ทำตามที่เจ้าว่า…สมควรแล้ว”
มหามนตรีเพนทีร่าอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ชาวเมืองรับรู้โดยทั่วกัน ชาวเมืองคลายความสงสัยลง งานฉลองดำเนินต่อไปตามรับสั่งขององค์รายา
เอียนนั่งนิ่งเงียบจนเพื่อนทั้งสองรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ เอเจจึงชวนเขาออกไปเดินเล่น ทั้งสามหนุ่มเดินไปยังบริเวณริมธาร เอียนนั่งลงใต้พฤกษาแห่งบรรพกาลอย่างเงียบๆ สองหนุ่มที่เหลือมองหน้ากันเล็กน้อยแล้วนั่งลงข้างกัน
“เอียน เจ้าเป็นอะไรไป” เจเจเอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง
“นั่นสิ มีเรื่องอะไรในใจใช่ไหม?” เอเจเอ่ยขึ้นบ้าง
…..
“เอียน ~ ”
“มหาบุตรเจ้าข้า ~ ”
…..
“โอ๊ย~ เจ้าเป็นอะไรไป…เอียน มีสิ่งใดก็กล่าวออกมาเถิด” เอเจรอจนหมดความอดทน เริ่มโวยวายออกมา
“ข้าไม่เข้าใจ…ทำไมทุกคนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” เอียนพูดขึ้นเสียงดังอย่างไม่สบอารมณ์
“หมายถึงที่ผู้คนหลับใหลไปพร้อมกันน่ะรึ” เจเจเอ่ยถามเสียงนิ่ง
“ใช่…พวกเจ้าไม่สงสัยกันเลยหรือไง”
“พ่อข้าอธิบายไปแล้วไงว่าเป็นเพราะกลิ่นดอกบุปผาจำศีลน่ะ…ไม่เอาน่าเอียน สงสัยอะไรไม่เข้าเรื่อง” เอเจพูดขึ้นพลางถอนหายใจ
“พวกเจ้าเชื่อด้วยรึ…”
“เจ้าคิดว่าพ่อข้าโกหกหรือไงล่ะ” เอเจเสียงแข็งขึ้น
“ไม่ใช่แบบนั้น…ข้าแค่ไม่คิดว่ามันเป็นเพราะบุปผาจำศีล”
“เช่นนั้น…เจ้าคิดว่าสาเหตุเรื่องนี้เกิดจากอะไรกันล่ะ” เจเจหันมาถามเอียน
“ข้าก็ไม่รู้…แต่ข้ารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป…แต่ไม่ต้องห่วง ข้าต้องหาทางสืบให้รู้จนได้”
“เฮ้อ~” สองหนุ่มถอนหายใจพร้อมกันทันที
เอียนไม่สนใจเพื่อนที่ล้อเลียน เขาครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นแต่จนใจที่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกพลางหันมาทางเพื่อนทั้งสองที่หลับสนิทข้างกัน เอียนถอนหายใจด้วยความระอาที่เพื่อนไม่เข้าใจ เขาทอดสายตามองไปยังลำธารพลันนึกถึงความทรงจำในวัยเด็ก หญิงสาวผู้นั้นเป็นใครกัน…เป็นความจริงหรือแค่ฝันไปกันแน่…???
Chapters
Comments
- ตอนที่ 9 วายชนม์ชาติภุมภีร์ ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 8 ภัยร้ายไม่ผ่านพ้น ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 7 รู้จักกันพลันร่วมใจ ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 6 สั่งสอนก่อนสร้างสรรค์ ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 5 จุดกำเนิดชาติมังกร ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 4 ฉับพลันการณ์บังเกิด ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 3 ดุจฝันกลางตะวัน ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 2 กังขาไร้สิ้นสุด ธันวาคม 2, 2021
- ตอนที่ 1 พิภพมารดา ธันวาคม 2, 2021
MANGA DISCUSSION