มานาดวงใจรักฟาโรห์ - ตอนที่ 96 ภาพบาดใจ
"เราถึงไม่แปลกใจที่ท่านยังนิ่งไม่ตกใจ ที่พวกเรามามันเป็นแบบนี้นี่เอง "
"งั้นเราขอ ดูสิว่าชายคนที่กำลังกอดเมียเรานั้น มันคือใคร"
"อย่าเลยท่าน อย่าทำร้ายพวกเขาเลย"
"อย่ากังวลไป เราไม่สามารถทำร้ายดวงใจของเราได้หรอก เราแค่อยากดูให้แน่ใจว่านางอยู่กับเขาแบบที่ท่านว่าหรือเปล่า พวกเราจะไม่แตะต้องนายของเจ้าหรอกนะ เพราะนางนั้นหละที่ทำให้เราทำอะไรคนที่นางรักไม่ได้
แต่นางก็คือเมียเรา เรามีสิทธิ์รู้ว่านางกำลังทำอะไร "
"ตามใจพวกท่าน หากอยากเห็นภาพบาดใจก็คงไม่ห้ามหรอกนะ เชิญตามสบายแล้วลูกด้วยอยากพบหน้าสามีก็เข้าไปดูพร้อมๆพวกเขาสิ"
"น้องสาวเราสร้างงานอีกแล้ว นี่จะสร้างงานไปถึงไหนนะ"
"13 คนยังไม่พอหรือไร ถึงเพิ่มมาอีกคนหนึ่งนะ"
"นางคงมีเหตุผลของนาง พวกเราต้องเคารพการตัดสินใจของนางสิ "
"คงต้องแบบนั้นพวกเราพี่ๆจะรอที่นี่นะ พวกท่านอยากพิสูจน์ก็เชิญเถอะ แต่เราจะปกป้องน้องของพวกเรา เพราะพวกเราเชื่อว่านางต้องมีเหตุผลที่จะรักเขา นอกจากพวกท่านแน่นอน"
"ไม่ว่าพวกเราจะเจ็บแค่ไหน ถ้านางมีความสุขพวกเรายินดี เพราะเราไม่ชอบให้นางเสียใจ แต่ถ้าหากมีใครมาทำร้ายนางให้เสียใจละก็พวกเราจะจัดการ ถอนรากถอนโคนอย่างแน่นอน"
"นายท่านของพวกเรา คงไม่ทำเช่นนั้นหรอก เพราะท่านพบคนที่ท่านรอมานานแสนนาน การได้พบพระนางครั้งนี้ จะเปลี่ยนนายท่านของพวกเราไปตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะอนาคตที่สดใส่นั้นมาจากพระนางคนเดียว"
"ทั้งๆที่นางได้ลูกท่านเป็นเมียแล้ว แต่ยังมารักเมียเรานี่นะ พวกท่านคิดยังไงกันนะ"
"เพราะความรักมันห้ามใครไม่ได้ลูกเราคงรู้ดี แต่นางรักเขามากเลยยอมนายท่าน เหมือนที่พวกท่านยอมให้พระนางเข้าหอกับนายท่าน เมื่อไปถึงเมืองพวกเรานั้นแหละ เพื่อความสุขของคนที่เรารักแม้เราจะเจ็บแค่ไหน พวกเราก็ยินดีเป็นทุกอย่างเพื่อคนที่พวกเรารักนะครับ"
จากนั้นทุกคนก็อยู่ในความเงียบไม่มีใครตอบได้สักคน เพราะสิ่งที่พวกเขาคิดนั้น เหมือนฟาสาจะดักคอพวกเขาได้ทุกเรื่องจริงๆ ได้แต่ยอมและเดินเข้าไปในเต็นท์ที่ตอนนี้ มีดวงใจของพวกเขาอยู่ในนั้นกับชายคนอื่น ที่ไม่ใช่พวกเขาแถมกอดกันแน่นขนาดนั้น จนพวกเขาต้องเบื่อนหน้าหนีแล้วเดินออกมาอย่างเงียบ ไม่มีใครพูดอะไรสักคน ต่างนิ่งและไม่มีอารมณ์ทำอะไร นอกจากยื่นเหม่อกันทำเอาพวกพี่ๆนั้นเศร้าตามไปด้วย แต่เชื่อใจน้องสาวว่า คงมีเหตุผลที่มันเป็นแบบนี้แน่จะไม่ตัดสินที่คำพูด พวกนี้ข้างเดียวแน่นอน เพราะพวกเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับน้องสาวดี แม้จะไม่มากแต่นางเรียนมาด้วยกันกับพวกเขา ทางด้านกฏหมายนั้นพวกเราต้องฟังทุกฝ่าย และต้องควบคุมอารมณ์ให้สมดุลต้องยุติธรรม แม้สถานการณ์มันเหมือนไม่ยุติธรรมก็ตามแต่ พวกเขาต้องนิ่งไว้
"พวกท่าน อย่าได้เสียใจไปเลย น้องสาวพวกเราต้องมีเหตุผลแน่นอน เราคิดเช่นนั้น"
"พวกเราไม่ได้คิดอะไรหรอก แค่รู้สึกว่านางดูมีความสุข เวลาอยู่ในอ้อมกอดเขาคนนั้น"
"มากกว่าพวกเราเสียอีก ก็เท่านั้น "
"ใช่ เพราะนางยิ้มเวลาอยู่ในอ้อมกอดเขา ไม่เหมือนตอนที่พวกเรากอดนางเลย"
"นางดูมีความสุขพวกเราชักอิจฉาชายคนนี้สะแล้วสิ เขาทำยังไงถึงทำให้นางรักมากกว่าพวกเรา แถมเหมือนนางจะเชื่อใจเขามากๆเมฆฟิสนายแพ้ เมนาฟิสราบคาบเลยนะ "
"เพราะนางยิ้มอ่อนโยนกว่า ตอนที่อยู่ในอ้อมกอดนายเสียอีกนะ"
"เพราะเราหรือ เราดีไม่พอสินะ"
"อย่าเพิ่งคิดมากไปขนาดนั้น จิตตกกันหมดเลยให้ตายสิ น้องฉันทำให้พวกเขา จิตตกได้ขนาดนี้เลยหรือ คงรักน้องเรามากกันสินะ"
"ใช่ รักจนไม่รู้ว่าจะรักใครได้มากขนาดนี้ จนยอมเจ็บเองหากมันทำให้นางมีความสุขนะ"
"เราว่า พวกท่านมาเหนื่อยๆ มานั่งรอพวกเขาดีกว่า มาทานอะไรรองท้องกันก่อน"
"อย่าเลยพวกเราทานอะไรไม่ลงหรอก เจ้าเองยังทานได้เหรอ เชื่อเลยเจ้ารักผู้ชายคนนั้นตรงไหนกันแน่ ไม่เห็นเหมือนพวกเราที่กินไม่ได้ นอนไม่หลับเมื่อไม่ได้เห็นรอยยิ้มนาง "
"เอ้อ ข้ามีเหตุจำเป็นที่ต้องกินแม้ในใจจะเจ็บ แค่ไหนพวกท่านรู้สึกอย่างไร ข้าเองก็ไม่ต่างกัน"
"เอาเป็นว่ามากินเอาแรงกันก่อนดีกว่า ดูเหมือนคนๆนี้จะทำของชอบพวกท่าน ไว้รอแล้วด้วย แสดงว่าน้องสาวเราเอง ก็รักและห่วงพวกท่านแน่นอน"
"เอ้อใช่ครับ ทรงบอกให้หม่อมฉัน เตรียมของชอบพวกท่านไว้ รอเพื่อพวกท่านจะหิวนะ "
"หากเป็นเช่นนั้น พวกเราคงต้องกินสินะ"
"ของลูกก็มีนะ นายท่านจำได้นะว่าเราชอบอะไร เลยให้พ่อทำไว้ให้แทนคำขอโทษที่ เขามีชายาที่จะแต่งงานด้วยแล้วนะพ่อขอโทษ ที่ห้ามเขาไม่ให้รักพระนางได้นะลูก"
"ไม่หรอก พวกเราคิดว่าไม่มีใครห้ามเขาไม่ให้รักนางได้หรอกนะ พวกเรายังห้ามไม่ได้เลย "
"เพราะนางต่างจากสตรีใดๆในโลกนี้ ไม่มีใครที่จะเป็นตัวเองได้แบบนางเลย พวกเรารักที่นางเข้าใจพวกเรา และทำให้พวกเรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนสมัยเด็กๆได้ นางแค่ยิ้มให้พวกเราก็พร้อมยอมทำตามที่นางต้องการแล้วหละ"