มานาดวงใจรักฟาโรห์ - ตอนที่ 35 เริ่มใช้กฎหมายใหม่
หลังจากที่เมื่อวานได้รวบรวมงานกันไว้เป็นหมวดหมู่แล้ว พวกเราที่นอนเต็มอิ่มสักที วันนี้ก็เป็นทำงานวันที่สองและต้องปวดหัวกับฎีฎาทั้งวัน ทั้งต้องรวบรวมข้อมูลทุกอย่างเพิ่มอีกนิดหน่อยเกี่ยวกับอียิปต์ และวันนี้เราจะแยกกฎเกณฑ์ทั้งแก้ไขให้ถูกต้องตามที่พระบิดาที่มอบกฎที่ดีให้พวกเราตั้งแต่ทรงสร้างโลกนี้ไว้ กฎที่ทำให้เรารู้ว่าทรงรักทุกคนขนาดไหน ทรงใส่ใจพวกเรามากกว่าสิ่งใดในโลกนี้ แค่คิดก็ทำให้ฉันมั่นใจในรักของพระบิดา และไม่กลัวใครจะมาทำร้าย หรือทำให้ฉันหยุดรักหรือเชื่อฟังพระบิดาได้หรอก มันเกินคำว่ารักเสียอีก แต่ก็ดีใจที่สุดที่ทุกคนจะกลับมาคืนดีกับพระบิดาอีกครั้ง
"วันนี้เจ้ายังคิดจะทำงานคนเดียวอีกแล้วนะ วันที่สองแล้วมีไรอยากให้พี่ช่วยไหม"
"ไม่มีขอบคุณนะ เมฆฟิสก็ดูแลอียิปต์ต่อเถอะคะ เดียวมานาทำกันเอง เดียวจะแก้ไขกฎเกณฑ์ให้ถูกต้องอย่างที่พระบิดามอบให้จะทำให้ดีที่สุด ช่วยเป็นกำลังใจให้ก็พอแล้ว เมฆฟิสก็ไปสะสางงานของตัวเองเถอะ เยอะพอๆกันกับมานาแล้วยังคิดจะมาช่วยอีกนะ"
"ก็เพราะห่วงเจ้าไง ไม่อยากให้เจ้าทำงานหนักแบบนี้ มันไม่สมกับตัวเจ้าเลยนะ กลัวเมียจะรักงานจนลืมสามี พี่ไปทำงานของพี่ก็ได้ แต่ถ้าถึงเวลาพักพี่จะมาทานข้าวกับเจ้านะ"
"ได้คะไปก่อนนะเดียวพี่ๆรอนาน อีกอย่างห้องทำงานของพวกเราก็ห้องเดียวกัน แค่นั่งทำงานคนละโต็ะเอง ทำเหมือนอยู่ห่างกันไกลคนละเมืองเชี่ยวไม่เวอร์ไปหรือคะ ไม่อายพี่ๆกับทุกคนหรือไง คนเจ้าเล่ห์ "
"ได้ๆ งั้นขอกอดขอหอมทีและขอจูบด้วยนะ ที่รัก"
"คะแต่อย่าแกล้งมานานะ ไม่งั้นงอนแน่"
"ก็ได้ แค่นี้พี่ก็มีความสุขแค่มีเจ้าอยู่กับพี่ก็พอ พี่จะรอวันที่เราจะได้อยู่ด้วยกันแบบคนรักไม่ต้องห่างกันนานแบบนี้อีกนะ"
"เมฆฟิส พวกเราต่างก็มีหน้าที่ที่ต้องทำ ช่วยทำหน้าทีตนเองให้ดีที่สุดสิคะ เพื่อทุกคนดีกว่านะ"
"ใครจะกล้าขัดใจเมียได้ ไปทำงานก็ได้พี่จะอดทน งั้นเราไปทานข้าวเช้าพร้อมกัน เพราะเจ้าสัญญาว่าจะทำกับข้าวให้พี่ทานทุกมือไม่ใช่หรือไร ที่รัก"
"คะ เดียววันนี้ จะทำอาหารบ้านของมานาให้ทานอีกนะ"
"เจ้าทำอะไรก็ชอบทุกอย่างนั้นแหละ ไปกันเถอะเดียวทุกคนจะคอยเจ้านานเขาจะว่าพี่ได้ ที่กักตัวเจ้าไว้คนเดียว ทั้งที่อยากกักไว้จริงๆ แต่มันจะทำให้พี่โดนทำร้ายเอาได้ เพราะเจ้าคือคนที่ไม่มีใครกล้าต่อกรได้ มีคนปกป้องตลอดเวลาเยอะขนาดนี้ "
"ว่าไปนั้นมีที่ไหน ใครจะกล้าทำร้ายเมฆฟิสคะ"
"ก็พี่ๆพวกเจ้าไงที่รัก กับพระบิดาของเจ้าด้วยที่ตอนนี้พี่ได้เป็นลูกท่านแล้วด้วย"
"ไม่หรอกพี่ๆไม่ทำหรอกคะ ยิ่งพระบิดาคงไม่ทำหรอก หากไม่มีอะไรที่ร้ายแรงนะ"
" นั้นแหละที่พี่กลัว กลัวว่าๆท่านจะเอาเจ้าคืนจากพี่ พี่คงตายหากไร้เจ้าเคียงข้างกายก็ไม่มีอะไรสำคัญสำหรับพี่แล้วตอนนี้เจ้าคือชีวิตของพี่นะรู้ไหม"
"ห้ามคิดเช่นนั้น ต่อให้มานาไม่ได้อยู่ที่นี้ ก็ต้องมีชีวิตอยู่และปกป้องทุกคนที่อยู่ในการปกครอง เพราะพวกเขาเป็นเหมือนคนในครอบครัวของพวกเราสัญญาได้ไหมคะ"
"ได้ๆ พี่จะทำตามที่เจ้าบอกพอใจหรือยัง พี่ไม่อยากคิดเรื่องที่จะไม่มีเจ้าอยู่กับพี่ที่นี่"
" แค่พูดไว้ก่อนนะ ไม่มีใครรู้อนาคตนี้ แค่อยากให้สามีอยู่ให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมียคนนี้ก็ยังรักและเชื่อใจสามีเสมอ ทั้งจะรอวันที่เราจะอยู่พร้อมหน้ากันอีกครั้งเท่านั้นอย่างอนสิคะ"
"ก็ได้ เจ้านี้นะช่างเจรจาจนทำให้พี่ใจอ่อนอยู่เรื่อยเลย แบบนี้พี่เสียการปกครองหมด รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั้น ที่ราชาอย่างพี่กลัวเมียแบบนี้นะ"
"ไม่หรอกคะ พวกเขาจะอิจฉาสิไม่ว่า ที่ท่านเข้าใจความรักที่แท้จริงแล้ว"
"ไม่เถียงเจ้าหรอกเจ้าพูดถูกทุกอย่าง พี่ขอยอมแพ้ หิวแล้วด้วย เดียวจะกินเจ้าแทนอาหารดีไหม"
แล้วเราทั้งสองก็เดินคุยกันจนถึงห้องครัว และช่วยกันทำอาหารกินกัน ซึ่งพี่ๆก็มารอที่ห้องครัวกันก่อนแล้วเป็นประจำเพราะพวกเขาจะเป็นลูกมือที่ช่วยเตรียมของ และจะเลือกเมนูที่ตัวเองชอบ เพื่อเตรียมไว้ให้น้องสาวอย่างเราทำให้กินเป็นประจำ ทุกครั้งที่มีการทำงานด้วยกันเป็นบรรยากาศที่ไม่เคยมีใครคิดว่า จะเห็นบรรยากาศแบบนี้ มันทำให้ทุกคนในวังพลอยมีความสุขไปด้วยกับบรรยากาศที่เห็น และหวังให้เป็นแบบนี้ตลอดไป ในความคิดของพวกเขามันเป็นสิ่งที่งดงามหาชมได้ยากที่กษัติย์ พร้อมทั้งเชื่อพระวงศ์จะทำแบบนี้ มันอบอุ่นเป็นกันเองจนไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้ แค่ได้เห็นรอยยิ้ และการหยอกเย้าของเจ้าชีวิตของพวกเขาที่ไม่คิดว่าจะเห็นแบบนี้ ทำให้พวกเขาก็ยิ้มทั้งนำ้ตา พอทานเสร็จก็พากันเดินไปห้องประชุมกันกันเป็นคู่ๆ ฉันต้องตรวจฎีกาและแก้ไขให้ถูกต้องตามที่พระบิดาบอกส่วนเมฆฟิสก็ทำงานของเขาไป พอกลางวันเราก็ทำกับข้าวทานกันร่วมกับพี่ๆทุกคน แล้วก็กลับมาทำงานกันเหมือนเดิม วันนี้พวกเราก็แปลภาษาและแก้ไขเขียนกฎใหม่ตามที่พระบิดาบอกให้เราทำสำเร็จ และเราทำได้เร็วเกินคาด คาดว่าคงจะเสร็จในวันนี้ และหากเสร็จเร็วก็จะได้บอกกล่าวให้ประชาชนรับรู้ และนำกฎใหม่ไปใช้ในชีวิตประจำวัน และส่งกฎพวกนี้ไปให้บ้านเมืองที่อยู่ในการปกครองของเขาด้วย ช่วงนี้อาจจะวุ้นวายกับงานจนไม่มีเวลาให้เขาเท่าที่ควร หวังว่าเขาคงจะเข้าใจฉัน เพราะพวกเราทำเพื่อทุกคน การทำงานของพวกเราก็สำเร็จด้วยดีเพราะได้ความร่วมมือจากทุกคน ทำให้ได้ไปสำรวจรอบๆเมืองเร็วขึ้นกว่าที่คิดกันไว้
"วันนี้ต้องขอบคุณทุกคนที่คอยช่วยกันจนสำเร็จ เป็นงานแรกของการมาอยู่ที่นี้ หวังว่าทุกคนคงชอบกฎใหม่ที่พวกเราทำมานะ คิดว่าไงหลังจากที่ได้อ่านกันแล้วมีอะไรอยากใหเแก้ไขบอกได้ ยินดีรับฟังคะ"
"ไม่มีเลยราชินีทรงพระปรีชาสามารถรอบด้านจริงๆ พวกเรานี้คาดไม่ถึงว่าจะทรงทำได้ขนาดนี้ไม่มีทีติจริงๆ หากส่งกฎพวกนี้ออกไปบรรดาเมืองขึ้นกับบรรดาเจ้าชายต่างเมือง คงได้พากันมาที่นี่แน่นอนทรงเก่งเกินตัวมากพะย่ะค่ะ"
"พี่ไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด ถ้าพวกเขาเพื่อแย่งเจ้าไปจากพี่นะ"
"ทรงรู้ดีว่าไม่มีใครแย่งมานาไปจากเมฆฟิสได้หรอกคะ อย่างอนสิ"