มานาดวงใจรักฟาโรห์ - ตอนที่ 169 ถึงบ้านเราแล้ว
"ไม่ตลกนะสิ พวกเราไม่ใช่พ่อของเด็กสักหน่อย เป็นพี่เลี่ยงตากหาก"
"พอเลยทั้งสองคนแกล้งกันพอหรือยัง ทำให้พวกเขายิ่งคิดมากกันไปอีก"
"เฮ้องั้นขอหยุดแกล้งแค่นี้ก่อน ว่าแต่มากันครบทุกคนยังคะ จะได้พาไปกินข้าวจะสั่งอาหารให้บอกคนขับรถด้วยว่า ช่วยเช็ครถ และกินข้าวได้เลย เดี่ยวทางเราออกให้เอง ใครอยากซื้อของฝากก็ซื้อได้เลย ไม่ต้องห่วงพวกเราจะจ่ายให้หมดทุกอย่าง "
"กูรีเอล นายไปบอกพวกเขานะ นายคุยกับพวกเขารู้เรื่องกว่าคนอื่น ให้เงินพวกเขาไปด้วยในส่วนที่เป็นของฝากที่พวกเขาอยากซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านนะ บอกว่าเจ้าหญิงให้เป็นค่าเหนื่อย ที่ได้นอกจากเงินที่แจ้งไว้ก่อนล่วงหน้า ให้เขาดูเช็ครถดีๆ พวกเราจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องรถ"
"ได้ครับ ช่วยสั่งอาหารให้ผมด้วยนะครับ เจ้าหญิงน้อยของผม"
"คะ ให้มันได้อย่างนี้สิเอากันเข้าไป ดีนะที่พวกเขาไม่รู้เรื่องที่เราพูด"
"อาจมีบางคนรู้แต่คงไม่สำคัญ เราจะไปกินร้านไหนดีที่รองรับพวกเราได้ครบทุกคน เพราะตอนนี้พวกเขาตื่นเต้น และไม่อยากห่างจากมานากันเลยเห็นไหม พอมานาลงมาพวกเขาโล่งใจ ไม่ตื่นเต้นกลับมาเป็นตัวเองแล้ว เห็นไหมที่นี่รู้หรือยังว่ามานาคือ คนที่ทำให้พวกเขามีความสุขนะ"
คะเราเดินไป อีกนิดหนึ่งไมไกล เป็นร้านข้าวแกงมีที่นั่งเยอะ ไม่ต้องรอนานด้วย ไม่มีใครล้อมหน้าล้อมหลังด้วย ไปถึงจะสั่งแบบเดี่ยวกันให้ลองทาน ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารไว้ใจ มานาได้เลย "
"ไม่ไว้ใจก็ต้องไว้ใจแล้วหละ เพราะพวกเราไม่รู้จักอาหารที่นี่กันเลย ทุกคนคือมือใหม่ที่มาที่ไทย เลยทำให้พวกเขาตื่นเต้นกัน"
"คะรู้ถึงอยากให้พวกเขามานั่งกินข้าวด้วยกัน ถึงจะเป็นกลุ่มใหญ่ที่มีแต่คนหน้าตาดีๆทั้งนั้น แต่ไม่ต้องห่วงมานาจัดการได้ เดินตามมาร่วมตัวกันไว้ มานาจะแนะนำทุกอย่างให้รู้จักทุกคนจะได้จำได้ และสั่งกินได้ถูกนะ"
"คะ /ครับ "
จากนั้นพวกเราก็พักทาน อาหารกลางวันอย่างสนุกสนานตอนแรกพวกชาวบ้านก็ตกใจ แต่พอบอกไปว่าพวกเขามาเที่ยวเป็นเพื่อนหนูเองพอดีหนูไปทำงานกับพวกเขา และพอรู้ว่าท้องก็เลยอยากมาคลอดที่บ้าน พวกเขาเป็นหมอเลยอยากมาลองใช้ ชีวิตที่นี่เพิ่งเคยมาครั้งแรก เลยทำอะไรแปลกๆไปก็อย่ามุงดูพวกเขาเลยพวกเขาจะกลัวพวกเราเอานะทำให้ทุกคนเข้าใจ และไม่สงสัย แต่ก็ยังแอบมอง เพราะความหล่อความสวย นี่ขนาดยังไม่ถึงบ้านแค่ครึ่งทางยังขนาดนี้ถึงบ้านจะขนาดไหนนะ เฮ้อ จากนั้นก็แนะนำอาหารไทยให้ทุกคนรู้จัก และสั่งกินได้ตามที่อยากลองชิม เพราะได้บอกรสชาติแล้ว คงง่ายต่อการที่พวกเขาจะสั่งกินทุกคนดูสนุกสนานกับการเดินทางทั้งๆที่พวกเขาไม่เคยมา ทำให้ฉันพลอยมีความสุขไปด้วย จากนั้นพวกเราก็เดินเล่นตามร้านของฝาก เพื่อเลือกของฝากกลับบ้านไปให้ทุกคน ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้เห็นพวกเรา ต่างชื่นชมในความดูดีไม่ว่าทำอะไร พวกเขาก็ยังดูดีตลอดเวลาชาวต่างชาติ รู้ว่าพวกเราเป็นใครแต่ก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะพวกเขาคงได้ยินข่าวกันมาแล้ว ดีที่พวกเขาไม่เปิดเผยว่าเราเป็นใครเพราะไม่อย่างนั้นคงได้ปวดหัวแน่น่อน หลังจากที่ได้ของฝากกันแล้วพวกเราก็มุ่งหน้าต่อไปยังบ้านเกิดฉัน ซึ่งคาดการว่าไม่เกินบ่ายสามก็น่าจะถึง เพราะพวกเขาไม่ให้ขับรถเร็ว เดี่ยวฉันเป็นอะไรขึ้นมาไม่คุ้มกัน พวกเขาได้หัวขาดกันพอดี ทำให้มีเวลาชมทิวทัดรอบๆตลอดทางที่ไม่ได้พบเจอมานานแสนนาน ทำให้หายเหนื่อยจากนั้นไม่นานก็ถึงยังจุดหมายตามที่คิดไว้ แต่ไม่มีใครรู้ข่าวว่าจะมาเพราะฉันยังไม่พร้อมที่จะอธิบายอะไรตอนนี้ นอกจากอยากเจอยายกับแม่ ขอกอดทั้งสองคนให้หายคิดถึงเท่านั้น แต่ฉันรู้ดีว่าทุกคนคงมารอซึ่งก็เป็นไปตามคาดมากันหมดทุกคนเลย
"ถึงบ้านมานาแล้วดีใจจังเลย ที่ถึงอย่างปลอดภัย"
"พวกเราก็เช่นกัน อย่าร้องสิเจ้าหญิงพวกเราเข้าใจ เช็ดนำ้ตาก่อนลงไป เดี่ยวยายกับแม่จะเป็นห่วงเอานะ"
ขอโทษคะพี่มิคาเอลมันไหลมาเอง มานาจะพยายามไม่คิดก็แล้วกัน"
"ทุกคนคงมาถึงพร้อมๆกันใช่ไหม มานาจะได้แนะนำที่เดียว แล้วพวกเราจะได้ไปพักที่บ้านที่ทุกคนเตรียมไว้ก่อนแล้ว"
"งั้นยิ้มสิแล้วพวกเราจะเปิดให้ลง ทุกคนรอรอยยิ้มของมานา อย่าทำให้พวกเขารู้สึกแย่สิพวกเขายอมสละทุกอย่าง เพื่อมาดูแลนะ"
"คะขอบคุณพี่ราฟาเอลที่เตื่อนมานา ไม่ให้อ่อนแอ่ต่อหน้าพวกเขา"
"ก็มันเป็นหน้าที่พวกเรานี่นะ เดี่ยวพวกเราลงไปก่อน ไปบอกพวกเขาให้เตรียมตัวไปบ้านมานา แล้วมานากับเจ้าชายค่อยลงไปเมื่อพวกเราบอกให้ลงโอเคนะ พวกเราอยากให้มานายิ้มให้มากกว่านี้ พวกเราจะไปจัดการทุกอย่างก่อน"