มานาดวงใจรักฟาโรห์ - ตอนที่ 115 ทะเลทรายแห่งความตาย
"ที่เลือกไปทางนี่เพราะมันเป็นทางล้ด ที่ใช้เวลาเดินทางไม่กี่วันก็ถึงวังนะ"
"เข้าใจว่าทุกคนต้องตกใจ พวกเราก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะคนที่กำหนดทางคือมานา ถ้าบอกว่าจะไปคือต้องไปเท่านั้นไม่เคยกลัวอะไรเลยคนนี้ "
"ก็ในเมื่อเลือกแล้วก็ต้องไปเท่านั้น ทุกคนก็เตรียมตัวรับกับพายุหรือดูแลคนรักตัวเองดีๆ จะได้ไม่พลัดหลงกันกลางทางนะ"
"เรื่องนั้นเจ้าไม่รู้ว่าพี่สาวเจ้าห้ามพายุได้ ก็เลยกังวลเรื่องหลงกัน แต่พวกเราไม่หลงแน่ ถ้ามีน้องสาวของเราอยู่ด้วย เพราะนางมีพลังอำนาจมากกว่าที่เจ้าคิดหรือรู้เสียอีกนะ ที่พวกเจ้าเห็นนั้นยังไม่ถึงครึ่งที่นางทำได้นะ"
"พวกท่านก็ว่าไป น้องสาวก็แค่คนธรรมดาเองไปกันเถอะ มานากับเมฆฟิสและพวกหนุ่มๆจะนำหน้าไปก่อนนะ
นอกนั้นตามมาติดๆนะ จะไปเปิดทางให้ทุกคนเดินทางได้สะดวกนะ"
"เห็นไหมว่าพวกเราพูดเรื่องจริง มองรอบๆตัวสิปกติเป็นแบบนี้ไหมเวลาเดินทางในทะเลทรายนะ"
"ไม่ ต้องมีลมทะเลทรายทำให้เราต้องเดินช้าๆ และต้องระวังเรื่องทิศทางที่มันจะเปลี่ยนไปตามทิศทางลมเสมอ"
"นั้นคือสิ่งที่ดีแล้ว แต่ถ้ามีน้องสาวเราทุกอย่างจะนิ่งและฟังที่นางบอก พวกเราถึงเดินทางไปแต่ละหมู่บ้านได้เร็วและไม่กังวลเรื่องทิศทาง มีแค่ตอนที่มาที่นี่ที่นางมาก่อน ทำเอาพวกเราพบลมและพายุทะเลทรายตลอดทาง ที่ไม่มีนางอยู่ด้วยนะ"
"ท่านพี่นี้เก่งเกินชายจริงๆ"
"เขาเรียกว่าแก่นแก้วมากกว่า เอ้อเจ้าไม่เข้าใจสินะ เอาเป็นว่านางเป็นสตรีที่น่าเกรงขามและซนนะ"
"พอๆขืนนินทานางอีก พวกเราจะโดนแน่ เอาเป็นว่าสบายใจได้ ถ้านางนำขบวนนะ"
"พวกเรารีบตามไปดีกว่า ทุกคนถยอยตามไปแล้ว "
"คิดว่าที่น้องเราเลือกทางเดินนี้ คงเพราะพวกเราจะเด่นไปหากผ่านหมู่บ้าน เพราะพวกเรามีมากเกินกว่าคนทั่วไปจะเดินทางในทะเลทราย และคงไม่อยากเสียเวลาแวะพักตามคำขอของคนในหมู่บ้านนั้นๆนะ สู้เดินทางไปตรงๆเลย และพักเอากลางทางดีกว่า สบายใจกว่าด้วยนะ "
"มันก็ถูกของท่านพวกเราไปนะ ฝากท่านพ่อดูแลเมืองด้วยเดียวข้ากลับมาจะรับช่วงดูต่อจากท่าน"
"พ่ะย่ะค่ะ"
"ท่านเป็นพ่อเราแล้ว ก็ทำตัวตามสบายเถอะ ไม่ต้องมากพิธี จริงไหมเมียจ๋า "
"เอ้อ เพคะ "
"เจ้าก็ด้วย เลิกเรียกเราว่าเจ้าชายด้วย เราเป็นสามีเจ้าแล้วนะ"
"เอ้อ ก็ได้คะ"
"ดีมาก น่ารักที่สุด"
"เอ้องั้นพ่อฝากเจ้า ดูแลน้องกับหลานพ่อในท้องด้วยนะ ส่วนทางนี้พ่อจะดูแลจนกว่าพวกเจ้าจะกลับมานะ"
"ครับท่านพ่อ จะดูแลทั้งสองคนด้วยชีวิตเลยครับ"
จากนั้นพวกเราก็มุ่งหน้าไปยังทะเลตายที่คร่าสิ่งมีชีวิตทุกๆอย่าง ที่หลงเข้ามาทางทะเลทรายแห่งนี้ให้หลงทางและแห้งตายในที่สุด แต่ครั้งนี้ทะเลแห่งนี้จะมีแค่พวกเราที่สามารถผ่านไปได้ ช่างเป็นอะไรที่ต้องบอกเล่า
ให้คนรุ่นหลังฟังว่าพวกเขาคือคนกลุ่มแรก และกลุ่มเดียวที่ผ่านทะเลทรายแห่งนี้แล้วไม่ตายหรือหลงทาง ตลอดทางที่เดินผ่านทะเลแห่งนี้พวกเขาก็พบศากศพและสิ่งของมีค่าต่างๆ ตลอดทางและเป็นอย่างที่พวกเขาว่า คือไม่มีพายุไม่หลงทางทุกอย่างราบเรียบเหมือนเดินทางในทะเลทรายปกติทั้งๆที่ๆพวกเขา กำลังเดินผ่านไม่ใช่ทะเลทรายธรรมดาและใช้เวลาไม่นานก็เดินทางมาถึงยังเมืองหลวงของอียิปต์ พอพ้นทางทะเลทรายมรณะมาสู่ทะเลปกติ พวกเขาก็ยังคิดว่ามันไม่ต่างกันเลย แต่พอพวกเขาหันกลับไปดูทางที่พวกเขาผ่านมาอีกครั้งหนึ่ง ทำเอาพวกเขาอึงพูดไม่ออกกันเลย เพราะว่าตอนนี้มันกลายเป็นทะเลทรายมรณะไปแล้วเพียงแต่พายุนั้นไม่เข้ามาใกล้พวกเขาเท่านั้น ทำให้ทุกคนยิ่งทึ่งในพลังของมานากันไปอีก แต่เจ้าตัวก็ไม่คิดว่ามันจะน่าตกใจอะไร เพราะทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพราะพระบิดากับพี่ๆเหล่าทูตสวรรค์เป็นคนทำให้ทั้งนั้น ส่วนตัวเองก็แค่ทำหน้าที่ของตัวเองปกติเท่านั้น
" ใกล้จะถึงวังแล้วคะ ต้องขอโทษที่พามาทางที่อันตรายนะ หวังว่าทุกคงสบายดีนะ ตลอดทางก็ได้พักกันไม่เต็มที เพราะรีบเดินทางเพื่อให้พ้นทะเลทรายมรณะนี้ เพราะไม่อยากเห็นพวกเขาทรมานจนตาย มันทำให้เศร้านะ ที่ช่วยพวกเขาไม่ได้ ที่พวกเขาต้องมาตายในที่ๆไม่ใช่บ้านเมืองพวกเขานะ เลยคิดว่าพักแค่พอมีแรงแล้วเดินทางต่อแล้วค่อยมาพักนานๆตอนที่พ้นเขตทะเลนั้นดีกว่านะ ซึ่งตอนนี้ก็พ้นแล้ว รู้สึกสบายใจมาหน่อยหนึ่งนะ"